ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าปเสนทิโกศล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5: บรรทัด 5:
ต้นพระชนมชีพ พระเจ้าปเสนทิทรงศึกษา ณ [[ตักศิลา]] ต่อมา ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่ง[[โกศล]] (ปัจจุบัน คือ [[อวัธ]]){{sfn|Sastri|1988|p=17}} พระมเหสีพระองค์แรก คือ เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งจาก[[มคธ]] พระมเหสีพระองค์ที่สองมีพระนามว่า วาสวขัตติยา เป็นพระธิดาของ[[พระเจ้ามหานามะ]]แห่ง[[ราชวงศ์ศากยะ]] กับหญิงรับใช้นามว่า [[นาคมุนทา]] พระเจ้าปเสนทิกับพระนางวาสวขัตติยามีพระโอรสพระองค์หนึ่งพระนามว่า [[วิฑูฑภะ]] และมีพระธิดาพระองค์หนึ่งพระนามว่า [[วชิรกุมารี]] พระธิดาพระองค์นี้เสกสมรสกับ[[พระเจ้าอชาตศัตรู]]{{sfn|Sastri|1988|p=17}} พระเจ้าปเสนทิยังมีพระมเหสีพระองค์ที่สาม พระนามว่า มัลลิกา เป็นบุตรีของคนทำมาลัย
ต้นพระชนมชีพ พระเจ้าปเสนทิทรงศึกษา ณ [[ตักศิลา]] ต่อมา ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่ง[[โกศล]] (ปัจจุบัน คือ [[อวัธ]]){{sfn|Sastri|1988|p=17}} พระมเหสีพระองค์แรก คือ เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งจาก[[มคธ]] พระมเหสีพระองค์ที่สองมีพระนามว่า วาสวขัตติยา เป็นพระธิดาของ[[พระเจ้ามหานามะ]]แห่ง[[ราชวงศ์ศากยะ]] กับหญิงรับใช้นามว่า [[นาคมุนทา]] พระเจ้าปเสนทิกับพระนางวาสวขัตติยามีพระโอรสพระองค์หนึ่งพระนามว่า [[วิฑูฑภะ]] และมีพระธิดาพระองค์หนึ่งพระนามว่า [[วชิรกุมารี]] พระธิดาพระองค์นี้เสกสมรสกับ[[พระเจ้าอชาตศัตรู]]{{sfn|Sastri|1988|p=17}} พระเจ้าปเสนทิยังมีพระมเหสีพระองค์ที่สาม พระนามว่า มัลลิกา เป็นบุตรีของคนทำมาลัย


ครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าปเสนทิเสด็จไปจากพระนคร มหาอำมาตย์ของพระองค์ นามว่า [[ทีฆการายนะ]] ตั้งเจ้าชายวิฑูฑภะขึ้นเสวยราชย์แทน พระเจ้าปเสนทิจึงเสด็จไปยังมคธเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอชาตศัตรู แต่พระเจ้าปเสนทิสิ้นพระชนม์ที่นอกประตูเมือง[[ราชคฤห์]]เสียก่อนจะได้พบพระเจ้าอชาตศัตรู<ref>Raychaudhuri H. (1972). ''Political History of Ancient India'', Calcutta: University of Calcutta, pp.176-8,186</ref> เจ้าชายวิฑูฑภะจึงได้เป็นพระมหากษัตริย์ต่อจากพระองค์โดยชอบ{{sfn|Sen|1999|p=107}} แต่ ''[[ปุราณะ]]'' ว่า ผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ คือ กษุทรกะ มิใช่วิฑูฑภะ<ref>Misra, V. S. (2007). ''Ancient Indian Dynasties'', Mumbai: Bharatiya Vidya Bhavan, {{ISBN|81-7276-413-8}}, pp.287-8</ref>
ครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าปเสนทิเสด็จไปจากพระนคร มหาอำมาตย์ของพระองค์ นามว่า [[ทีฆการายนะ]] ตั้งเจ้าชายวิฑูฑภะขึ้นเสวยราชย์แทน พระเจ้าปเสนทิจึงเสด็จไปยังมคธเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอชาตศัตรู แต่พระเจ้าปเสนทิสิ้นพระชนม์ที่นอกประตูเมือง[[ราชคฤห์]]เสียก่อนจะได้พบพระเจ้าอชาตศัตรู<ref>Raychaudhuri H. (1972). ''Political History of Ancient India'', Calcutta: University of Calcutta, pp.176-8,186</ref> เจ้าชายวิฑูฑภะจึงได้เป็นพระมหากษัตริย์ต่อจากพระองค์{{sfn|Sen|1999|p=107}} แต่ ''[[ปุราณะ]]'' ว่า ผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ คือ กษุทรกะ มิใช่วิฑูฑภะ<ref>Misra, V. S. (2007). ''Ancient Indian Dynasties'', Mumbai: Bharatiya Vidya Bhavan, {{ISBN|81-7276-413-8}}, pp.287-8</ref>


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:59, 5 มิถุนายน 2561

ปเสนทิ (ปะ-เส-นะ-ทิ; บาลี: Pasenadi) หรือ ประเสนชิต (ปฺระ-เส-นะ-ชิด; สันสกฤต: Prasenajit) เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโกศลจากราชวงศ์อิกษวากุ เสวยราชย์อยู่ ณ เมืองสาวัตถี สืบต่อจากพระบิดา คือ พระเจ้าสัญชัยมหาโกศล[1] ถือเป็นอุบาสกที่สำคัญพระองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้า และทรงสร้างวิหารอารามไว้หลายแห่ง

พระชนมชีพ

ต้นพระชนมชีพ พระเจ้าปเสนทิทรงศึกษา ณ ตักศิลา ต่อมา ได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโกศล (ปัจจุบัน คือ อวัธ)[2] พระมเหสีพระองค์แรก คือ เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งจากมคธ พระมเหสีพระองค์ที่สองมีพระนามว่า วาสวขัตติยา เป็นพระธิดาของพระเจ้ามหานามะแห่งราชวงศ์ศากยะ กับหญิงรับใช้นามว่า นาคมุนทา พระเจ้าปเสนทิกับพระนางวาสวขัตติยามีพระโอรสพระองค์หนึ่งพระนามว่า วิฑูฑภะ และมีพระธิดาพระองค์หนึ่งพระนามว่า วชิรกุมารี พระธิดาพระองค์นี้เสกสมรสกับพระเจ้าอชาตศัตรู[2] พระเจ้าปเสนทิยังมีพระมเหสีพระองค์ที่สาม พระนามว่า มัลลิกา เป็นบุตรีของคนทำมาลัย

ครั้งหนึ่ง เมื่อพระเจ้าปเสนทิเสด็จไปจากพระนคร มหาอำมาตย์ของพระองค์ นามว่า ทีฆการายนะ ตั้งเจ้าชายวิฑูฑภะขึ้นเสวยราชย์แทน พระเจ้าปเสนทิจึงเสด็จไปยังมคธเพื่อขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอชาตศัตรู แต่พระเจ้าปเสนทิสิ้นพระชนม์ที่นอกประตูเมืองราชคฤห์เสียก่อนจะได้พบพระเจ้าอชาตศัตรู[3] เจ้าชายวิฑูฑภะจึงได้เป็นพระมหากษัตริย์ต่อจากพระองค์[4] แต่ ปุราณะ ว่า ผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ คือ กษุทรกะ มิใช่วิฑูฑภะ[5]

อ้างอิง

  1. Raychaudhuri H. (1972). Political History of Ancient India, Calcutta: University of Calcutta, pp.90,176
  2. 2.0 2.1 Sastri 1988, p. 17.
  3. Raychaudhuri H. (1972). Political History of Ancient India, Calcutta: University of Calcutta, pp.176-8,186
  4. Sen 1999, p. 107.
  5. Misra, V. S. (2007). Ancient Indian Dynasties, Mumbai: Bharatiya Vidya Bhavan, ISBN 81-7276-413-8, pp.287-8

บรรณานุกรม