ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ (โรลังยัคมินส์)"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล ลบหมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดฟลานเดอร์ตะวันออก; เพิ่มหมวดหมู่:บุคคลจากเกนต์ด้วย[[วิกิพี... |
||
บรรทัด 59: | บรรทัด 59: | ||
[[หมวดหมู่:นักการทูตชาวไทย]] |
[[หมวดหมู่:นักการทูตชาวไทย]] |
||
[[หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)]] |
[[หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)]] |
||
[[หมวดหมู่:บุคคลจาก |
[[หมวดหมู่:บุคคลจากเกนต์]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:15, 1 พฤศจิกายน 2558
บทความนี้อาจขยายความได้โดยการแปลบทความที่ตรงกันในภาษาอังกฤษ คลิกที่ [ขยาย] เพื่อศึกษาแนวทางการแปล
|
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
เจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ | |
---|---|
เจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจในชุดข้าราชการไทย | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 31 มกราคม ค.ศ. 1835 เกนต์ |
เสียชีวิต | 9 มกราคม ค.ศ. 1902 บรัสเซลส์ | (66 ปี)
เชื้อชาติ | เบลเยียม |
อาชีพ | Attorney at law, Expert on international law, Minister of the Interior, Advisor to Rama V |
เป็นที่รู้จักจาก | Founder of Institut de Droit International |
เจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ (31 มกราคม พ.ศ. 2378 – 9 มกราคม พ.ศ. 2445) หรือชื่อจริงว่า กุสตาฟว์ อ็องรี อ็องฌ์ อีปอลิต รอแล็ง-ฌักแม็ง (Gustave Henri Ange Hippolyte Rolin-Jacquemyns) หรือนิยมเรียกว่า โรลังยัคมินส์[ก] เป็นนักการทูตและนักการเมืองชาวเบลเยี่ยม ได้เข้ารับราชการในราชอาณาจักรสยามสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจ้าอยู่หัว และนับเป็นผู้มีคุณูปการต่อการพัฒนาระบบศาลยุติธรรมของสยาม[1]
ประวัติ
โรลังยัคมินส์ 31 มกราคม พ.ศ. 2378 จบการศึกษาสาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเกนต์
เขาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ประเทศเบลเยี่ยม หลังจากนั้นได้เดินทางเข้ามารับราชการในประเทศสยาม ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435[2] ในฐานะที่ปรึกษาราชการแผ่นดินทั่วไป 28 พฤศจิกายน ศกนั้น จึงได้รับแต่งตั้งเป็นอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มประจำกระทรวงการต่างประเทศ[3] เนื่องจากขณะนั้นประเทศไทย กำลังมีข้อพิพาทกับฝรั่งเศสในเรื่องดินแดนเมืองขึ้น จึงว่าจ้างโรลังยัคมินส์เข้ามาช่วยราชการแก้ปัญหาสำคัญ ที่รัฐบาลไทยจะต้องปรับปรุงแก้ไข 3 ประการ คือ
- ปรับปรุงการศาลยุติธรรมให้เป็นที่เชื่อถือของต่างประเทศ เพราะขณะนั้นอังกฤษและฝรั่งเศส เริ่มเข้ามาตั้งศาลกงสุลในประเทศไทย และไม่ยอมรับรองการอยู่ใต้กฎหมายไทย เพราะถือว่ากฎหมายไทยยังไม่มีระเบียบแบบแผนรัดกุมที่ดีพอ
- ปรับปรุงการปกครองบ้านเมืองให้ทัดเทียมกับอารยประเทศ มีการร่างรัฐธรรมนูญ แบ่งแยกกระทรวง ทบวง กรม มีการจัดตั้งสภารัฐมนตรี ขึ้นเป็นครั้งแรก ในช่วงเวลานั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งให้เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) นักเรียนไทย คนแรกที่กลับจากอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ภาษาอังกฤษดี มีตำแหน่งเป็นราชเลขาธิการในพระองค์ แปลเอกสารภาษาอังกฤษ เพื่อจะใช้เป็นหลักในการปรับปรุงการปกครองบ้านเมือง โดยมีกรมพระยาเทววงศ์วโรปการเสนาบดีกระทรวงการต่างประเทศเป็น ผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ตามแนวที่พระยาภาสกรวงศ์เป็นผู้แปลและได้ร่างเสร็จเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2432 เรียกรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นนี้ว่า “พระราชประเพณี” ได้มีการจัดตั้งสภารัฐมนตรี และได้ประกาศตั้งเสนาบดี 12 กระทรวงใหม่ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435
- ปรับปรุงปัญหาด้านการต่างประเทศ หลังจากที่ประเทศไทยได้เซ็นสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส ตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 4 ประเทศยุโรปก็ได้ส่งกงสุลใหญ่เข้ามาดูแลด้านการค้า การปกครองคนของตนอย่างเป็นเอกเทศไม่ยอมให้คนในบังคับ ของตนมาขึ้นศาลไทย ซึ่งในขณะนั้นประเทศไทยยังไม่มีกงสุลใหญ่หรือทูตไทยไปประจำในประเทศต่าง ๆ เหล่านั้น ทำให้เกิดปัญหา ความขัดแย้ง ความไม่พอใจระหว่างรัฐบาลไทยกับกงสุลของประเทศต่าง ๆ เหล่านั้นบ่อย ๆ เกิดข้อพิพาทบาดหมางกัน พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงต้องส่งทูตพิเศษออกไปติดต่อกับรัฐบาลในทวีปยุโรปเสมอ ๆ จึงจำเป็นต้องจ้างโรลังยัคมินส์ เข้ามาเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดินทั่วไปขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นงานหนักในฐานะที่เป็นอัครราชทูตไทย ผู้มีอำนาจเต็มประจำ กระทรวงการต่างประเทศ บทบาทที่สำคัญอย่างหนึ่งของท่าน คือการที่ช่วยรัฐบาลไทยเจรจาและทำความเข้าใจกับรัฐบาลฝรั่งเศส ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) ซึ่งประเทศไทยถูกฝรั่งเศสยึดดินแดน ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบต่างชาติน้อยที่สุด และช่วยรักษาเอกราชของประเทศไทยไว้ได้อย่างปลอดภัย ด้วยการดำเนินรัฐประศาสโนบายในทางที่ควรจนรอดพ้นจากการสูญเสีย ประเทศมาได้
คุณความดีและความสามารถหลายด้านของโรลังยัคมินส์ที่มีต่อประเทศไทย วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรให้โรลังยัคมินส์เป็นเจ้าพระยาอภัยราชา สยามานุกูลกิจ สกลนิติธรรมศาสตราจารย์ มหิบาลมหาสวาภักดิ์ ปรมัคราชมนตรี อภัยพิริยปรากรมพาหุ เป็นที่ปรึกษาราชการทั่วไป ถือศักดินา 10000[4] นับเป็นครั้งแรกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตั้งฝรั่งเป็นเจ้าพระยาเทียบชั้นเสนาบดี
ส่วนในด้านการศึกษาของเจ้าฟ้าชายผู้เป็นรัชทายาท และพระราชโอรสทุกพระองค์ เจ้าพระยาอภัยราชาได้เสนอความคิดว่าควรจะศึกษาวิชาใดในต่างประเทศ และควรจะเรียนในประเทศใด เพื่อนำความรู้มาพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองและเป็นการเชื่อมโยงสร้างสัมพันธไมตรีอันดีกับประเทศต่าง ๆ ด้วย และยังถวายคำแนะนำ ให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเยือนประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2441 ภายหลังที่มีกรณีพิพาท กับฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2436 เพื่อบรรเทาความตึงเครียดในทางการเมือง และเพื่อให้ประเทศอื่น ๆ รู้จักประเทศไทยและหันมาสนับสนุน ประเทศไทยในทางการเมือง เพื่อเป็นการถ่วงดุลกับอิทธิพลของฝรั่งเศสในขณะนั้น
ในการเสด็จเยือนยุโรปเป็นครั้งแรก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตลอดเวลาที่ไม่ได้ประทับอยู่ในประเทศ เป็นเวลานาน 9 เดือน และได้แต่งตั้งองค์ที่ปรึกษาราชการ แผ่นดินขึ้น 5 นาย เพื่อถวายคำปรึกษาราชการแผ่นดินให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในจำนวนบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งมี เจ้าพระยาอภัยราชา ได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยให้อยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาราชการแผ่นดินทั่วไปด้วย
เจ้าพระยาอภัยราชามีส่วนช่วยสร้างและนำความเจริญก้าวหน้าให้ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทำหน้าที่ติดต่อกับเสนาบดีกระทรวงต่าง ๆ ช่วยเร่งรัดงานให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว มีระเบียบเรียบร้อยยิ่งขึ้น ภายหลังเจ้าพระยาอภัยราชาได้เดินทางกลับไปยังประเทศเบลเยี่ยม และถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 9 มกราคม ปีฉลู พ.ศ. 2445 อายุได้ 66 ปี
เครื่องราชอิศริยาภรณ์
เชิงอรรถ
- หมายเหตุ
ก ในอักษรไทยแต่ก่อนมีเขียนหลายอย่าง เช่น
- กรมพระยาดำรงราชานุภาพว่า "โรลังยัคมินส" (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (2503). นิทานโบราณคดี (PDF) (10 ed.). พระนคร: เขษมบรรณกิจ. p. 134.)
- พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ว่า "รอลินแยกกระมินซ์" (กัลยา จุลนวล (2550). เจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ (คุสตาฟ โรลังยัคมินส์) ที่ปรึกษาทั่วไป ในสมัยรัชกาลที่ ๕. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. p. 45.)
- ราชกิจจานุเบกษาว่า "คุสตาฟโรลินยัคมินส์"[5]
- อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา. แจ้งความเนติบัณฑิตยสภา เรื่อง สร้างรูปจำหลักกรมหลวงราชบุรีฯ กับเจ้าพระยาอภัยราชา(โรแลง ยัคแมงส์), เล่ม ๔๓, ตอน ๐ ง, ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๙, หน้า ๑๐๓๗-๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา. มองสิเออโรลินยัคคะมังเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท, เล่ม ๙, ตอน ๒๙, ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๓๕, หน้า ๒๓๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา. ประกาศตำแหน่งยศบรรดาศักดิ์ มิสเตอร์ยัคคะมินส์, เล่ม ๙, ตอน ๓๖, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๕, หน้า ๓๐๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา. พระราชทานสัญญาบัตร, เล่ม ๑๓, ตอน ๓๔, ๒๒ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๕, หน้า ๔๑๘
- ↑ 5.0 5.1 ราชกิจจานุเบกษา. พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๓, ตอน ๓๔, ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๙, หน้า ๔๑๘
แหล่งข้อมูลอื่น
- วิกิซอร์ซมีงานที่เกี่ยวข้องกับ เจ้าพระยาอภัยราชา (โรลังยัคมินส์) โดย กรมพระยาดำรงราชานุภาพ