ข้ามไปเนื้อหา

ปฏิบัติการเพิช

พิกัด: 49°05′N 0°39′W / 49.083°N 0.650°W / 49.083; -0.650
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปฏิบัติการเพิช
ส่วนหนึ่งของ ยุทธการที่ก็อง

รถถังเซนทอร์ 4 ของกลุ่มสนับสนุนยานเกราะราชนาวิกโยธิน ใกล้กับ Tilly-sur-Seulles
วันที่7–14 มิถุนายน ค.ศ. 1944
สถานที่
นอร์ม็องดี, ฝรั่งเศส
49°05′N 0°39′W / 49.083°N 0.650°W / 49.083; -0.650
ผล เยอรมันชนะ
คู่สงคราม
 สหราชอาณาจักร  Germany
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
สหราชอาณาจักร Bernard Montgomery
สหราชอาณาจักร Miles C. Dempsey
สหราชอาณาจักร Gerard Bucknall
เยอรมนี Leo Geyr von Schweppenburg
เยอรมนี Sepp Dietrich
กำลัง
1 armoured division
2 infantry divisions
2 armoured brigades
3 panzer divisions
1 infantry division
1 heavy tank battalion
Villers-Bocage, a commune in the Calvados department of the Normandy region of Northern France.

ปฏิบัติการเพิช เป็นการรุกของอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 - 14 มิถุนายน ค.ศ. 1944 ในช่วงแรกของยุทธการที่นอร์ม็องดี ปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อโอบล้อมและเข้ายึดเมืองก็องที่ถูกครอบครองโดยเยอรมัน ซึ่งเป็นเป้าหมายในดีเดย์สำหรับกองพลทหารราบที่ 3 ของอังกฤษในช่วงแรกของปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด ปฏิบัติการเพิชได้เริ่มต้นขึ้นทันทีหลังจากการยกพลขึ้นบกชายหาดของอังกฤษด้วยการรุกไปยังทางตะวันออกเฉียงใต้ของก็องโดยกองทัพน้อยที่ 30 สามวันหลังจากการบุกครอง เมืองยังคงอยู่ในเงื้อมมือของเยอรมันและปฏิบัติการครั้งนี้ได้ถูกแก้ไข ปฏิบัติการครั้งนี้ได้ขยายไปยังรวมถึงกองน้อยที่ 1 เพื่อโอบล้อมโจมตีก็อง

วันต่อมา กองทัพน้อยที่ 30 ในทางด้านตะวันตกได้ผลักดันไปยังทางใต้ไปยัง Tilly-sur-Seulles ซึ่งถูกยึดครองโดยกองพลพันเซอร์ เลือร์ (Panzer Lehr Division) และหมู่บ้านถูกยึดครองและกลับเข้ามายึดครองหลายครั้ง กองทัพน้อยที่ 1 ได้เริ่มต้นทางด้านตะวันออกในอีกสองวันต่อจากหัวสะพาน Orne ซึ่งได้รับการรักษาปกป้องในปฏิบัติการทอนกาในดีเดย์ กองทัพน้อยที่ 1 เกิดความล่าช้าโดยการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองพลพันเซอร์ที่ 21 ซึ่งได้ก่อให้เกิดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไปจำนวนมาก และไร้วี่แววของการพังทะลายของแนวรบเยอรมัน การรุกทางด้านตะวันออกของก็องจึงถูกระงับลงในวันที่ 13 มิถุนายน

ทางด้านตะวันตกที่ห่างไกลออกไปในพื้นที่ของกองทัพสหรัฐที่หนึ่ง อเมริกันได้เข้าโจมตีได้ทำให้เกิดช่องว่างในแนวป้องกันของเยอรมัน ส่วนหนึ่งของกองพลยานเกราะที่ 7 ของอังกฤษได้หันเบนไปจาก Tilly-sur-Seulles เพื่อเข้ารุกผ่านช่องว่างในขบวนปีกและบีบบังคับให้กองพลพันเซอร์ เลือร์ล่าถอย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโอบล้อม เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ภายหลังสองวันของการรบรวมถึงยุทธการที่วีแลร์-บอกาฌ กองพลยานเกราะที่ 7 ได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังไปยัง Caumont แผนได้ถูกนำกลับมาใหม่เพื่อการรุก เมื่อกองพลยานเกราะที่ 7 ได้รับการเสริมกำลัง แต่แผนนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีพายุเกิดขึ้นในช่องแคบอังกฤษทำให้เกิดความล่าช้าในการยกพลขึ้นบกเพื่อขนสัมภาระและการเสริมกำลัง

การรบครั้งนี้ได้ถูกนำมาโต้เถียงกันเพราะนักประวัติศาสตร์หลายคนและนักเขียนต่างได้ข้อสรุปว่ามันเป็นความล้มเหลวโดยกองพลอังกฤษและผู้บัญชาการกองทัพน้อยที่พลาดโอกาสที่จะเข้ายึดเมืองก็อง แทนที่เยอรมันจะประสบความสำเร็จในการป้องกัน เพื่อการต้านทานการรุก เยอรมันได้ทุ่มเทอาวุธสำรองที่มีอานุภาพมากที่สุดของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขามีพลังในการสู้รบจากการรุกตอบโต้กลับและริบดับความคิดที่จะเข้ารุกต่อของฝ่ายสัมพันธมิตร