บิชต์
บิชต์ (อาหรับ: بِشْت ; พหูพจน์: بِشُوت, บิชูต์ และ بْشُوت, อิบชูต์) ในภาษาถิ่นอาหรับบางภาษาเรียกว่า มิชละห์ (อาหรับ: مِشْلَح) หรือ อะบาอ์ (อาหรับ: عَبَاء) เป็นเสื้อคลุมแบบดั้งเดิมของผู้ชายที่ได้รับความนิยมในโลกอาหรับ สวมใส่โดยทั่วไปมาเป็นเวลาหลายพันปี[1]
ในภาพวาดของชาวคริสต์และชาวฮีบรูโบราณ ชาวลิแวนต์สวมใส่บิชต์ในสมัยที่พระเยซูทรงพระชนม์ชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์
บิชต์เป็นเสื้อคลุมตัวนอกอย่างหลวม ๆ ที่สวมทับชุดเษาบ์ (อาหรับ: ثَوْب)
สัญลักษณ์ของความเป็นอาหรับ[แก้]
บิชต์มักจะสวมใส่เพื่อเป็นเกียรติในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน หรือเทศกาล เช่น วันอีด หรือสำหรับการละหมาดวันศุกร์ หรือการละหมาดญะนาซะห์ มักจะสวมใส่โดยเจ้าหน้าที่หรือนักบวช[2] รวมถึงหัวหน้าเผ่า กษัตริย์ และอิหม่าม โดยสวมทับเษาบ์, กานซุ (สวาฮีลี: kanzu) หรือทูนิก (อังกฤษ: tunic) เป็นเครื่องนุ่งห่มแสดงสถานะที่เกี่ยวข้องกับเชื้อพระวงศ์ ตำแหน่งทางศาสนา ความมั่งคั่ง และในโอกาสพิธีต่าง ๆ เช่นเดียวกับชุดทักซิโดสีดำ[3] ของตะวันตก[2][4][5]
นิรุกติศาสตร์[แก้]
รากศัพท์สามตัวอักษรของบิชต์ ถูกใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มภาษาเซมิติก รวมทั้งภาษาอาหรับ และทฤษฎีหนึ่งระบุว่าบิชต์ มาจากภาษาแอกแคดคำว่า bishtu ซึ่งแปลว่า "ความสูงส่ง" หรือ "ศักดิ์ศรี"[6] อีกชื่อเรียกของชุดคือ อะบาอ์ (อาหรับ: عَبَاء, อักษรโรมัน: abā) มาจากรากศัพท์สามตัวอักษรในภาษาอาหรับ ʿAyn-Bāʾ-Wāw ซึ่งเกี่ยวข้องกับ "การเติมเต็ม"
บันทึกทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการกล่าวถึงบิชต์หรือเสื้อคลุมอาหรับอาจเป็นข้อความในหนังสือประวัติศาสตร์ของเฮอรอโดทัส นักประวัติศาสตร์ชาวกรีกในศตวรรษที่ห้าก่อนคริสต์ศักราช โดยในการอธิบายเครื่องแต่งกายของทหารอาหรับ:
“ทหารอาหรับสวมเสื้อคลุมยาวซึ่งผูกด้วยเข็มขัด มีธนูยาวคล้องอยู่ที่แขนขวาโดยกลับหัวลง”
นักวิจัยกล่าวว่าต้นกำเนิดทางภาษาของคำว่าบิชต์ ย้อนกลับไปที่ภาษาแอกแคด ซึ่งเป็นภาษาของผู้คนในดินแดนบาบิโลน โดยเป็นภาษาอาหรับถิ่นของชาวเซไมต์พื้นเมือง โดยมีความหมายในแง่ความมีเกียรติ ความโอ่อ่า ซึ่งบริบททางประวัติศาสตร์ยืนยันความหมายนี้ เจ้านาย ผู้ปกครอง ขุนนางและผู้อาวุโส ใช้สวมใส่ทุกยุคสมัยจนถือเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีและความสูงส่งในสังคม
การผลิต[แก้]
บิชต์ทำมาจากขนอูฐและขนแพะ โดยนำวัสดุมาปั่นเป็นเส้นใย จากนั้นจึงนำมาทอเป็นบิชต์ ผ้าสำหรับฤดูร้อนจะมีเส้นด้ายที่อ่อนนุ่ม ส่วนสำหรับฤดูหนาวจะมีขนที่หยาบกว่า โดยปกติจะเป็นสีดำ สีน้ำตาล สีเบจ สีครีม หรือสีเทา[2]
ในวัฒนธรรมประชานิยม[แก้]
ในช่วงท้ายของพิธีมอบรางวัลหลังการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ เชค ตะมีม บิน ฮะมัด อัษษานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ทรงสวมบิชต์ให้ลิโอเนล เมสซิ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ก่อนการมอบถ้วยชนะเลิศ[7]
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ *"Traditional & modern: The Saudi man's bisht". 7 พฤศจิกายน 2012.
- Hannah (27 เมษายน 2011). "Saudi Arabian Bisht".
- "الثقافة الشعبية". folkculturebh.org.
- "البشت في الخليج العربي". www.abuhaleeqa.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2019. สืบค้นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2016.
- ناصر حسين العبّودي (1987). الأزياء الشعبية الرجالية في دولة الإمارات وسلطنة عمان. مركز التراث الشعبي لدول الخليج العربية،. pp. 121, 127, 129.
- Najlā Ismāʻīl al-ʻIzzī al-Wahhābī (2003). أزياء قطرية. جمعية الفن الإسلامي،. p. 12. ISBN 978-0-9544445-2-5.
- S. D. Goitein (1983). A Mediterranean Society: Daily life. University of California Press. pp. 464–. ISBN 978-0-520-04869-0.
- Abū al-Maḥāsin Yūsuf Ibn Taghrībirdī (1976). History of Egypt, 1382-1469 A.D.: 1382-1399 A.D (reprint ed.). New York: AMS Press. p. 108. ISBN 0-404-58813-1.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 Al-Mukhtar, Rima (7 พฤศจิกายน 2012). "Traditional & modern: The Saudi man's bisht". Arab News (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Kate dusts off her Alexander McQueen tuxedo for stunning appearance". Evening Standard (ภาษาอังกฤษ). 13 ตุลาคม 2020. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2020.
- ↑ "Traditional & modern: The Saudi man's bisht". Arab News (ภาษาอังกฤษ). 7 พฤศจิกายน 2012. สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2020.
- ↑ "A symbol of Arab identity". Gulf News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 ตุลาคม 2020.
- ↑ Ali Fahmi khashim. الأكدية العربية [Akkadian Arabic Dictionary]. p. 140. ISBN 977-291-642-8.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Lionel Messi made to wear traditional Arab bisht for World Cup trophy lift". The Daily Telegraph. 18 December 2022. สืบค้นเมื่อ 18 December 2022.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- Bisht ที่ alrashidmall.com