บ้านแห่งชาวโซเวียต (คาลีนินกราด)
บ้านแห่งชาวโซเวียต (อังกฤษ: House of Soviets) เป็นอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จในใจกลางนครคาลีนินกราด แคว้นคาลินินกราด รัสเซีย คนในพื้นที่นิยมเรียกอาคารนี้ว่า "หุ่นยนที่ถูกฝัง" เนื่องจากลักษณะปรากฏที่คล้ายคลึงกับหัวของหุ่นยนต์ยักษ์ที่ฝังในดินสูงถึงไหล่ อาคารตั้งเป้าหมายจะสร้างขึ้นเป็นอาคารที่ทำการกลางของแคว้น และสร้างขึ้นบนจุดที่เคยเป็นปราสาทเคอนิชส์แบร์คซึ่งมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ตรงจุดที่เคยเป็นคูน้ำตะวันออกของปราสาท
แม้บางส่วนจะมองว่าอาคารนี้เป็นตัวอย่างชิ้นที่เลวร้ายที่สุดของสถาปัตยกรรมโซเวียตยุคหลังสงครามโลก บ้างมองว่าอาคารนี้เป็นผลงานชิ้นสำคัญของสถาปัตยกรรมบรูทัลลิสต์ โดยเฉพาะก่อนที่อาคารจะถูกทาสีใหม่ในปี 2005[1]
ประวัติศาสตร์[แก้]
ปราสาทเคอนิชส์แบร์คถูกทำลายเสียหายอย่างหนักในระหว่างการทิ้งระเบิดเคอนิชส์แบร์คในสงครามโลกครั้งที่สอง หลังนครถูกเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต และเจ้าหน้าที่รัฐของโซเวียตตัดสินใจไม่อนุรักษ์ซากของปราสาทที่เหลืออยู่ เนื่องจากมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิฟาสซิสต์[1] ส่วนที่เหลือของปราสาทถูกระเบิดทำลายในช่วง ค.ศ. 1967 ถึง 1969[2] วิสัยทัศน์ในการพัฒนานครขึ้นมาใหม่ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากมาจากงานของ Lúcio Costa และ Oscar Niemeyer โดยเฉพาะจากงานการพัฒนานครบราซีเลียในประเทศบราซิล[2] มีการจัดการประกวดแข่งขันการออกแบบทางสภาปัตยกรรมสองครั้งในปี 1964 และ 1974[2] งานออกแบบที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผลงานของยูเลียน ลโววิช ชวาร์ตซไบรม์ (Yulian Lvovich Shvartsbreim) ซึ่งได้รับความเคารพอย่างสูงในโซเวียต[2] และสตูดิโอของเขา TsNIIEP
การก่อสร้างเริ่มต้นในปี 1970 โดยอาคารนี้ตั้งใจจะใช้งานเป็นอาคารศูนย์กลางการปกครองของแคว้นคาลินินกราด อาคารคอนกรีตนี้สร้างขึ้นทับซากปรักหักพังเดิมของปราสาท ประกอบกับดินที่สร้างมีลักษณะยวบ ทำให้เกิดปัญหาเชิงโครงสร้าง[2] ฐานของอาคารได้รับการพิสูจน์ว่าไม่เพียงพอที่จะรองรับอาคารสูง 28 ชั้น การก่อสร้างดำเนินไปถึงที่ชั้น 21 เท่านั้น[3] ด้วยความสนใจจากพรรคคอมมิวนิสต์และเงินทุนที่หมด อาคารถูกพักการก่อสร้างไปในปี 1985[4] อาคารถูกทิ้งร้างและถูกพ่นกราฟิตี ซากภายในของอาคารที่ไม่แข็งแรงถล่มลงมาเป็นบางส่วน[5][6]
ในปี 2005 เนื่องในวาระฉลอง 60 ปีของคาลีนินกราด และ 750 ปีของเคอนิกซ์แบร์ค ประกอบกับการเดินทางเยือนโดยวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซีย ภายนอกอาคารได้ถูกทาสีใหม่ด้วยสีฟ้าอ่อน และมีการติดตั้งกระจก แม้การทาสีใหม่จะช่วยให้อาคารดูดีขึ้นบ้าง แต่บางส่วนวิจารณ์ว่าทำให้อาคารเป็นเปลือกพอเทมคิน[7] ภายในอาคารยังคงไม่มีการก่อสร้างต่อ และใช้งานไม่ได้
มีการประกาศว่าอาคารจะถูกทุบทำลายในปลายปี 2020 โดยคาดการณ์จะเริ่มทำการทุบในต้นปี 2021 และอาจมีการนำซากจากอาคารที่ทุบแล้วมาทำเป็นของที่ระลึกจำหน่าย[8] ท้ายที่สุด การทุบทำลายอาคารได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2023
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 Alexander Kwiatkowski (2002-09-16). "Kaliningrad rediscovers its history". BBC News. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 Oleg Vasyutin; Alexander Popadin (2013-11-13). "Korolevskaya gora (King"s Mountain) in Kaliningrad: Projects and concepts for its development". issuu.com. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- ↑ "Dom Sovietov Kaliningrad". architectuul.com. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ARTGUIDE /// NATIONAL CENTRE FOR CONTEMPORARY ARTS /// KALININGRAD BRANCH". art-guide.ncca-kaliningrad.ru. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-09. สืบค้นเมื่อ 2023-10-02.
- ↑ "House of Soviets in Kaliningrad to be demolished" (video, 4 mins 26 secs) (ภาษาอังกฤษ). Deutsche Welle. 2021-07-22. สืบค้นเมื่อ 2022-01-17.
- ↑ Irina Sedunova (2022-01-10). "The Soviet palace that people love to hate" (video, 10 mins, 20 secs). BBC. สืบค้นเมื่อ 2022-01-17.
- ↑ Tim Verlaan (2013-05-16). "The Rebuilding of a 'Hornet's Nest' in Kaliningrad". Failed Architecture. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-06. สืบค้นเมื่อ 2014-07-02.
- ↑ "Russian city to demolish derided 'Robot' building". Associated Press. 12 November 2020. สืบค้นเมื่อ 2022-01-17.