กลูโคส 6-ฟอสเฟต
ชื่อ | |
---|---|
IUPAC name
D-Glucopyranose 6-phosphate
| |
เลขทะเบียน | |
3D model (JSmol)
|
|
ChEBI | |
เคมสไปเดอร์ | |
MeSH | Glucose-6-phosphate |
ผับเคม CID
|
|
UNII | |
| |
| |
คุณสมบัติ | |
C6H13O9P | |
มวลโมเลกุล | 260.136 |
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
|
กลูโคส 6-ฟอสเฟต (Glucose 6-phosphate; G6P) บางครั้งเรียกว่า รอบินเซินเอสเทอร์ (Robison ester) เป็นน้ำตาลกลูโคสที่ถูกฟอสฟอรีเลต (phosphorylation) ที่หมู่ไฮดรอกซีบนคาร์บอน 6 โดย G6P นั้นเป็นไดแอนไอออน (dianion) ที่พบได้มากในเซลล์ เนื่องด้วยกลูโคสส่วนใหญ่ที่เข้าสู่เซลล์จะถูกฟอสฟอรีเลตในลักษณะเดียวกันนี้
ด้วยตำแหน่งสำคัญในเคมีระดับเซลล์นั้นทำให้ G6P มีจุดจบที่ต่างกันไปภายในเซลล์ G6P เป็นส่วนสำคัญในวิถีเมแทบอลิซึมอยู่สองส่วน คือ ไกลโคไลซิส และวิถีเพนโทสฟอสเฟต
นอกจากนี้ G6P ยังสามารถถูกเปลี่ยนเป็นไกลโคเจน หรือแป้งเพื่อการเก็บสะสมได้ การเก็บสะสมนี้จะถูกกักเก็บในตับและกล้ามเนื้อในรูปของไกลโคเจนในสัตว์หลายเซลล์ส่วนใหญ่ และในรูปของแป้งในเซลล์ หรือไกลโคเจนกรานูลในสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
การผลิต
[แก้]จากกลูโคส
[แก้]ภายในเซลล์ G6P จะผลิตโดยกระบวนการฟอสฟอรีเลชั่น (phosphorylation) ของกลูโคสบนคาร์บอนที่หก กระบวนการนี้มีเอนไซม์ hexokinase (ในเซลล์ส่วนใหญ่) หรือ glucokinase (ในบางเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์ตับ) ประกอบ ในปฏิกิริยานี้มีการใช้พลังงานเทียบเท่ากับ 1 ATP
D-Glucose | Hexokinase | α-D-Glucose 6-phosphate | |
ATP | ADP | ||
Glucose 6-phosphatase |
สารประกอบ C00031 บนฐานข้อมูล KEGG Pathway Database เอนไซม์ 2.7.1.1 บนฐานข้อมูล KEGG Pathway สารประกอบ C00668 บนฐานข้อมูล KEGG Pathway Database ปฏิกิริยา R01786 บนฐานข้อมูล KEGG Pathway
จากไกลโคเจน
[แก้]G6P นั้นสามารถผลิตจากกระบวนการ glycogenolysis จาก glucose 1-phosphate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกจากการสลายพอลีเมอร์ของไกลโคเจน
วิถีเพนโทสฟอสเฟต
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เก็บในรูปไกลโคเจน
[แก้]หากระดับน้ำตาลในเลือดนั้นสูง ร่างกายจะจัดเก็บกลูโคสส่วนเกิน หลังกลูโคสถูกแปลงเป็น G6P แล้ว โมเลกุลของ G6P จะถูกเปลี่ยนเป็น glucose 1-phosphate ด้วยเอนไซม์ phosphoglucomutase ที่ซึ่งจากนั้นจะรวมเข้ากับ uridine triphosphate (UTP) เกิดเป็น UDP-glucose ขับเคลื่อนด้วยกระบวนการไฮโดรไลซิสของ UTP ซึ่งจะปล่อยฟอสเฟตออกมา จากนั้น UDP-glucose ซึ่งถูกกระตุ้นแล้วจะสามารถเพิ่มเข้าไปยังโมเลกุลไกลโคเจนที่กำลังเติบโตด้วยเอนไซม์ glycogen synthase ทั้งกระบวนการใช้พลังงาน 1 ATP สำหรับการเก็บกลูโคส 1 โมเลกุล และแทบไม่ใช้พลังงานในการนำมันออกมาจากที่เก็บ
เมื่อร่างกายต้องการกลูโคส glycogen phosphorylase โดยมีเอนไซม์ orthophosphate ช่วย จะตัดโมเลกุลหนึ่งออกจากสายไกลโคเจน โมเลกุลนั้นจะอยู่ในรูปของ glucose 1-phosphate ที่ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็น G6P ด้วย phosphoglucomutase ต่อมาหมู่ฟอสฟอริล (phosphoryl group) บน G6P จะถูกดึงออกด้วย glucose 6-phosphatase เกิดเป็นกลูโคสอิสระที่ซึ่งจะสามารถส่งออกนอกเซลล์เข้าไปในกระแสเลือดได้ต่อไป
ดีฟอสฟอรีเลชั่นและการปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด
[แก้]เอนไซม์ glucose 6-phosphatase ในร่างแหเอนโดพลาสมิก จะกำจัดหมู่ฟอสเฟตออกจาก G6P ที่เกิดขึ้นในกระบวนการ glycogenolysis หรือ gluconeogenesis เกิดเป็นกลูโคสอิสระ กลูโคสอิสระนี้จะถูกส่งออกไปจากร่างแหเอนโดพลาสมิกผ่านทาง GLUT2 ไปยังเซลล์อื่นที่ต้องการใช้
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- Berg, Jeremy M.; Tymoczko, Stryer (2002). Biochemistry (5th ed.). New York: W.H. Freeman and Company. ISBN 0-7167-3051-0.