ไฟนอลแฟนตาซี X-2
![]() | บทความเกี่ยวกับการ์ตูนหน้านี้ต้องการเก็บกวาด อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
|
Final Fantasy X-2 | |
---|---|
![]() North American box art, depicting the main playable characters; Rikku, Yuna, and Paine. | |
ผู้พัฒนา | Square |
ผู้จัดจำหน่าย |
|
กำกับ | โมโตมุ โทริยามะ ![]() |
อำนวยการผลิต | โยชิโนริ คิตาเซะ ![]() |
ออกแบบ | Yoshinori Kitase Motomu Toriyama |
ศิลปิน | Tetsuya Nomura Shintaro Takai |
เขียนบท | Kazushige Nojima Daisuke Watanabe |
แต่งเพลง | Noriko Matsueda Takahito Eguchi |
ชุด | Final Fantasy |
เครื่องเล่น | PlayStation 2 |
วางจำหน่าย |
|
แนว | Console role-playing game |
รูปแบบ | Single-player |
ไฟนอลแฟนตาซี X-2 (Final Fantasy X-2) (ญี่ปุ่น: ファイナルファンタジーX-2; โรมาจิ: Fainaru Fantajī Ten-Tsū) เป็นเกมประเภท Console role-playing ที่พัฒนาและจัดจำหน่ายโดย Square (ปัจจุบันคือ สแควร์เอนิกซ์) สำหรับเครื่อง PlayStation 2 ของโซนี่ วางจำหน่ายเมื่อ พ.ศ. 2546 เป็นภาคต่อของ ไฟนอลแฟนตาซี X ซึ่งเป็นเกมที่ขายดีที่สุดใน พ.ศ. 2544 เนื้อเรื่องของเกมเป็นเรื่องราวของ Yuna จาก ไฟนอลแฟนตาซี X ที่หาหนทางแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในโลก Spira ก่อนที่จะนำไปสู่สงคราม
นอกจาก ไฟนอลแฟนตาซี X-2 จะเป็นเกมภาคต่อเกมแรกในซีรีส์ ไฟนอลแฟนตาซี และเป็นสื่อภาคต่อชิ้นที่ 2 ใน franchise ต่อจาก anime Final Fantasy: Legend of the Crystals แล้ว ในเกมยังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่มีอยู่แล้วในซีรีส์ และเป็นเกมแรกในซีรีส์ที่มีตัวละครที่ควบคุมได้เพียง 3 ตัว ซึ่งเป็นตัวละครหญิงทั้งหมด และยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่เกือบทั้งหมดในเกมได้ตั้งแต่ช่วงแรก นอกจากนี้ ยังมีระบบ Character class ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบการเล่นดั้งเดิมของซีรีส์ และเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมในซีรีส์ที่มีตอนจบมากกว่าหนึ่งแบบ
ไฟนอลแฟนตาซี X-2 ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวก และประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย โดยหลังจากวางจำหน่ายในญี่ปุ่นได้ 9 เดือน ก็สามารถทำยอดขายในอเมริกาเหนือได้ 1 ล้านแผ่น และมียอดขายทั่วโลกราว 4 ล้านแผ่น นอกจากนี้ยังได้รับการลงคะแนนเสียงจากผู้อ่านนิตยสาร Famitsu ให้เป็นสุดยอดเกมตลอดกาลอันดับที่ 32 ขณะที่เกมฉบับภาษาอังกฤษได้รับรางวัล "Outstanding Achievement in Character Performance" จาก Academy of Interactive Arts & Sciences เมื่อ พ.ศ. 2547 และได้รับระดับคะแนน 86% จากเว็บไซต์ Game Rankings และ 85% จากเว็บไซต์ Metacritic
โครงเรื่อง[แก้]
ทิศทาง[แก้]
2 ปีถัดจากเนื้อเรื่องใน ไฟนอลแฟนตาซี X โลกสปิราไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก พื้นที่ส่วนใหญ่จากภาคก่อนหน้ายังคงอยู่ (ยกเว้น Omega Ruins และ Baaj Temple) และมีสถานที่ใหม่เพิ่มเข้ามาอีกเล็กน้อย สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ หมู่บ้านคิลิกาที่สร้างขึ้นใหม่ และหมอกบนยอดภูเขา Gagazet ได้หายไป เผยให้เห็นซากปรักหักพังที่ถูกลืมเลือนไป นอกจากนี้ พระราชวังแห่งเซนต์เบเวลล์สามารถเข้าได้ตลอดทั้งเกมจากที่ภาคก่อนหน้าสามารถเข้าได้เมื่อถึงเนื้อเรื่องบังคับเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีซิน อีกแล้ว แต่ Fiends ยังคงมีอยู่มากมายดังเช่นเมื่อก่อน
นอกจากความเปลี่ยนแปลงภายนอกแล้ว อุดมการณ์ของชาวสปิราก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเช่นกัน หลังจากที่ซินถูกปราบลงแล้ว ก็เข้าสู่ยุคที่เรียกว่า "Eternal Calm" นักบวชในลัทธิเยวอนได้ตัดสินใจเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับลัทธิ[1] ให้ชาวสปิราได้ตัดสินใจเลือกวิถีการดำเนินชีวิตในโลกที่ไม่มีลัทธิและซิน ชาวสปิราได้รับชาวอัลเบดและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต ขณะที่คนส่วนใหญ่เริ่มแสวงหาความบันเทิงต่างๆ อย่างเช่นการแสดงดนตรี และกีฬาบลิทซ์บอล อีกส่วนหนึ่งก็เป็นนักล่าสมบัติโบราณ ตั้งแต่ค้นหาเหรียญและเครื่องจักรที่ถูกฝังมาเป็นเวลานานอยู่ใต้ผืนทรายบนเกาะบิคาเนล ไปจนถึงสเฟียร์ในถ้ำหรือซากปรักหักพังที่ถูกลืมเลือน ผู้ที่ออกแสวงหาสเฟียร์นี้เรียกว่า "นักล่าสเฟียร์ (Sphere hunter)" ซึ่งรวมตัวกันเป็นกลุ่มหลายกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะไม่มีซินและ Maesters of Yevon อีกแล้ว แต่สปิราก็ยังคงมีความขัดแย้งอยู่ คนหนุ่มสาวได้ละทิ้งลัทธิเยวอนและหันไปสนใจในเครื่องจักร (ในเกมเรียกว่า "machina") เพื่อหวังจะพัฒนาสปิรา ขณะที่คนรุ่นเก่าจำนวนมากมองว่าความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ในระหว่างนี้ในสปิราได้เกิดอุดมคติและวิถีปฏิบัติใหม่ๆ รวมทั้งกลุ่มทางการเมืองใหม่ๆขึ้นมา โดยสองกลุ่มที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคือ Youth League มีผู้นำคือ Mevyn Nooj และ New Yevon Party นำโดยอดีตนักบวชที่มีชื่อว่า "เทรมา" ซึ่งต่อมาได้หายสาบสูญไป และได้ Praetor Baralai ขึ้นเป็นผู้นำต่อมา สมาชิกของ Youth League ประกอบด้วยคนหนุ่มสาวเป็นหลัก มุ่งหวังที่จะทำให้ชาวสปิราละทิ้งวิถีเก่าๆได้โดยสมบูรณ์ ขณะที่สมาชิกของ New Yevon Party มีทั้งคนหนุ่มสาวและคนรุ่นเก่าที่คิดเห็นว่าความเปลี่ยนแปลงต่างๆควรเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีคติพจน์ประจำพรรคว่า "One thing at a time."
ตัวละครหลัก[แก้]
- ยูน่า (Yuna)
- ริคคุ (Rikku)
- เพนน์ (Paine)
- ทีดัส (Tidus)
- เลนน์ (Lenne)
- ชูอิน (Shuyin)
- นูจ (Nooj)
- บาราไล (Baralai)
- กิ๊พพัล (Gippal)
- เลอบลังค์ (Leblanc)
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Studio BentStuff, บ.ก. (2004). Final Fantasy X-2: International+Last Mission Ultimania (ภาษาญี่ปุ่น). DigiCube/Square Enix. p. 583. ISBN 4-7575-1163-9.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น เก็บถาวร 2005-04-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในทวีปอเมริกาเหนือ เก็บถาวร 2007-09-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการในทวีปยุโรป เก็บถาวร 2009-01-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน