โจนัส ซอล์ก
โจนัส ซอล์ก | |
---|---|
โจนัส ซอล์ก ที่ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน (พฤษภาคม ค.ศ. 1959) | |
เกิด | Jonas Salk 28 ตุลาคม ค.ศ. 1914 นครนิวยอร์ก, สหรัฐ |
เสียชีวิต | 23 มิถุนายน ค.ศ. 1995 La Jolla, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐ. | (80 ปี)
สุสาน | El Camino Memorial Park ซานดิเอโก, รัฐแคลิฟอร์เนีย |
สัญชาติ | อเมริกัน |
ศิษย์เก่า | City College of New York มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก มหาวิทยาลัยมิชิแกน |
มีชื่อเสียงจาก | ผู้ค้นพบวัคซีนโรคโปลิโอ |
คู่สมรส | Donna Lindsay (สมรส 1939; หย่า 1968) Françoise Gilot (สมรส 1970) |
รางวัล | Lasker Award (1956) |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | การวิจัยทางการแพทย์, วิทยาไวรัส และวิทยาการระบาด |
สถาบันที่ทำงาน | มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก Salk Institute มหาวิทยาลัยมิชิแกน |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก | โทมัส ฟรานซิส จูเนียร์ |
ลายมือชื่อ | |
โจนัส เอ็ดเวิร์ด ซอล์ก (อังกฤษ: Jonas Edward Salk; 28 ตุลาคม ค.ศ. 1914 – 23 มิถุนายน ค.ศ. 1995) เป็นนักวิจัยการแพทย์และนักวิทยาไวรัสชาวอเมริกัน เขาค้นพบและพัฒนาวัคซีนโรคโปลิโอสำเร็จครั้งแรก เขาเกิดในนครนิวยอร์ก เข้าศึกษาที่โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ต่อมาเลือกทำวิจัยการแพทย์แทนเป็นแพทย์เวชปฏิบัติ ซอล์กได้ปริญญาการแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยนี้ แล้วใน ค.ศ. 1939 เขาเป็นแพทย์นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเมานต์ไซนาย[1] เขายังทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน[2]
ก่อน ค.ศ. 1955 เมื่อมีการริเริ่มวัคซีนซอล์ก โรคโปลิโอถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่น่ากลัวที่สุดอย่างหนึ่งในโลก ในสหรัฐหลังสงคราม การระบาดประจำปีมีความเสียหายเพิ่มขึ้น การระบาดในสหรัฐเมื่อ ค.ศ. 1952 ถือเป็นการระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ มีรายงานผู้ป่วยเกือบ 58,000 คน มีผู้เสียชีวิต 3,145 คน และอีก 21,269 คนมีอาการอัมพาตเล็กน้อยถึงพิการในปีนั้น[3] โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผลคือ นักวิทยาศาสตร์แข่งขันลนลานเพื่อหาวิธีป้องกันหรือรักษาโรค ใน ค.ศ. 1938 ประธานาธิบดีสหรัฐ แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ ผู้ป่วยโรคโปลิโอที่ขึ้นชื่อที่สุดของโลก ก่อตั้งมูลนิธิสำหรับอัมพาตทารกแห่งชาติ องค์การซึ่งจะให้ทุนสนับสนุนการพัฒนาวัคซีน
ใน ค.ศ. 1947 ซอล์กรับการแต่งตั้งโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก ใน ค.ศ. 1948 เขาดำเนินโครงการที่มูลินิธิสำหรับอัมพาตทารกแห่งชาติสนับสนุนทุนเพื่อตัดสินจำนวนชนิดต่าง ๆ ของไวรัสโปลิโอ ซอล์กสบโอกาสขยายโครงการนี้ไปถึงการพัฒนาวัคซีนต้านโปลิโอ และร่วมกับคณะวิจัยที่เชี่ยวชาญที่เขารวบรวม อุทิศตนให้กับงานนี้เป็นเวลาอีกเจ็ดปี มีการทดลองสนามเพื่อทดสอบวัคซีนซอล์ก มีเด็กนักเรียนกว่า 1,800,000 คนเข้าร่วมการทดลอง[4] เมื่อข่าวความสำเร็จของวัคซีนเผยแพร่ต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 1955 ซอล์กได้รับยกย่องเป็น "คนงานปาฏิหาริย์" และวันนั้นเกือบเป็นวันหยุดประจำชาติ ทั่วโลก มีการเริ่มเร่งรัดให้วัคซีนทันที โดยประเทศอย่างแคนาดา สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ เยอรมนีตะวันตก เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และเบลเยียมกำลังวางแผนเริ่มโครงการให้ภูมิคุ้มกันโปลิโอโดยให้วัคซีนของซอล์ก
ซอล์กรณรงค์สนับสนุนการให้วัคซีนโดยบังคับ โดยอ้างว่าสาธารณสุขควรถือเป็น "การผูกมัดทางศีลธรรม"[5] ความสนใจเดียวของเขาคือ เพื่อพัฒนาวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้โดยไม่สนใจประโยชน์ส่วนตน เมื่อถูกถามว่าผู้ใดเป็นเจ้าของสิทธิบัตรวัคซีน ซอล์กตอบว่า "ไม่มีสิทธิบัตร คุณสามารถจดสิทธิบัตรดวงอาทิตย์ได้หรือ"[6] ใน ค.ศ. 1960 เขาก่อตั้งสถาบันเพื่อการศึกษาชีววิทยาซอล์กในลาฮอยยา (La Jolla) รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์การวิจัยการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เขายังดำเนินการวิจัยและจัดพิมพ์หนังสือต่อไป บั้นปลายของซอล์กใช้ไปกับการค้นหาวัคซีนต้านเอชไอวี เอกสารส่วนบุคคลของเขาถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนดีเอโก[7][8]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "About Jonas Salk - Salk Institute for Biological Studies". Salk Institute for Biological Studies (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2016-02-22.
- ↑ "A Science Odyssey: People and Discoveries: Salk produces polio vaccine". www.pbs.org. สืบค้นเมื่อ 2016-03-03.
- ↑ Zamula E (1991). "A New Challenge for Former Polio Patients." FDA Consumer 25 (5): 21–5. FDA.gov, Cited in Poliomyelitis [Retrieved November 14, 2009].
- ↑ Rose DR (2004). "Fact Sheet—Polio Vaccine Field Trial of 1954." March of Dimes Archives. 2004 02 11.
- ↑ Jacobs, Charlotte DeCroes. "Vaccinations have always been controversial in America: Column", USA Today, August 4, 2015
- ↑ Johnson, George (November 25, 1990). "Once Again, A Man With A Mission". The New York Times. สืบค้นเมื่อ August 5, 2011.
- ↑ "UC San Diego Library Receives Personal Papers of Jonas Salk", Newswise, March 20, 2014
- ↑ San Diego Union Tribune, 20 March 2014: "UCSD to house Salk's papers" เก็บถาวร 2016-05-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, accessed 3 July 2015.