เวชศาสตร์ป้องกัน
เวชศาสตร์ป้องกัน (อังกฤษ: preventive medicine) หรือมาตรการป้องกันโรค (อังกฤษ: prophylaxis) ประกอบด้วยมาตรการที่ใช้สำหรับป้องกันโรค ซึ่งตรงข้ามกับการรักษาโรค[1] สุขภาพมีสถานะทางกายภาพและจิตใจเช่นเดียวกับโรคและความพิการซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม ความโน้มเอียงรับโรคทางกรรมพันธุ์ เชื้อก่อโรคและทางเลือกวิถีชีวิต สุขภาพ โรคและความพิการเป็นกระบวนการพลวัตซึ่งเริ่มตั้งแต่ก่อนปัจเจกบุคคลรู้สึกตัว การป้องกันโรคอาศัยการกระทำล่วงหน้าที่สามารถจำแนกได้เป็นการป้องกันปฐมภูมิ ทุยติภูมิและตติยภูมิ[1][2][3]
มีประชากรหลายล้านคนเสียชีวิตจากสาเหตุที่ป้องกันได้ทุกปี การศึกษาในปี 2547 พบว่า การเสียชีวิตประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในสหรัฐในปี 2543 เกิดจากพฤติกรรมและการสัมผัสที่ป้องกันได้[4] สาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ได้แก่ โรคหัวใจแลแหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง การบาดเจ็บที่ไม่เจตนา เบาหวานและโรคติดเชื้อบางอย่าง การศึกษาเดียวกันประมาณการว่ามีประชากร 400,000 คนเสียชีวิตในสหรัฐทุกปีเนื่องจากอาหารเลวและวิถีชีวิตแบบนั่งนอนมาก ตามประมาณการขององค์การอนามัยโลก มีผู้เสียชีวิตประมาณ 55 ล้านคนทั่วโลกในปี 2554 ซึ่งสองในสามของกลุ่มนี้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อ รวมทั้งมะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรัง และโรคปอดเรื้อรัง[5] จำนวนนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2543 ซึ่งผู้เสียชีวิตร้อยละ 60 มีสาเหตุจากโรคเหล่านี้ เวชศาสตร์ป้องกันมีความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากทั่วโลกมีความชุกของโรคเรื้อรังและการเสียชีวิตจากโรคเหล่านี้มากขึ้น
มีวิธีป้องกันโรคหลายวิธี แนะนำให้ผู้ใหญ่และเด็กไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ แม้รู้สึกว่าตนสุขภาพดี เพื่อตรวจคัดโรค ระบุปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรค อภิปรายข้อแนะนำสำหรับวิถีชีวิตที่สุขภาพดีและสมดุล การฉีดวัคซีนล่าสุด และรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ให้บริการสุขภาพ[6] การตรวจคัดโรคที่พบบ่อยบางโรคเช่น การตรวจหาความดันโลหิตสูง ภาวะน้ำตาลสูงในเลือด (ปัจจัยเสี่ยงต่อเบาหวาน) ภาวะคอเลสเตอรอลสูงในเลือด โรคซึมเศร้า เอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดที่พบบ่อย เช่น โรคหนองในเทียม ซิฟิลิสและโรคหนองใน การถ่ายภาพรังสีเต้านม (เพื่อตรวจคัดโรคมะเร็งเต้านม) การตรวจคัดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง การทดสอบแพปเพื่อทดสอบมะเร็งปากมดลูก และการตรวจคัดโรคกระดูกพรุน สามารถทำการทดสอบทางพันธุกรรมเพื่อตรวจคัดการกลายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคทางกรรมพันธุ์หรือความโน้มเอียงรับโรคบางโรค เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ทว่า ปัจเจกบุคคลทุกคนไม่สามารถจ่ายค่ามาตรการเหล่านี้ได้ และประสิทธิผลราคาของเวชศาสตร์ป้องกันยังเป็นหัวข้อถกเถียงกันอยู่
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Hugh R. Leavell and E. Gurney Clark as "the science and art of preventing disease, prolonging life, and promoting physical and mental health and efficiency. Leavell, H. R., & Clark, E. G. (1979). Preventive Medicine for the Doctor in his Community (3rd ed.). Huntington, NY: Robert E. Krieger Publishing Company.
- ↑ http://primalprevention.org
- ↑ Primal Health Research Database, on http://www.birthworks.org/primalhealth เก็บถาวร 2008-08-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ Mokdad A. H., Marks J. S., Stroup D. F., Gerberding J. L. (2004). "Actual Causes of Death in the United States, 2000". Journal of the American Medical Association. 291 (10): 1238–1245. doi:10.1001/jama.291.10.1238.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ The Top 10 Causes of Death. (n.d.). Retrieved March 16, 2014, from World Health Organization website: http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs310/en/index2.html
- ↑ Vorvick, L. (2013). Preventive health care. In D. Zieve, D. R. Eltz, S. Slon, & N. Wang (Eds.), The A.D.A.M. Medical Encyclopedia. Retrieved from http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/encyclopedia.html