ข้ามไปเนื้อหา

เบียร์ช้าง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ขวดเบียร์ช้าง

เบียร์ช้าง เป็นเครื่องดื่มประเภทเบียร์ที่ผลิตและจัดจำหน่ายโดยกลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในเครือกลุ่มทีซีซี ของเจริญ สิริวัฒนภักดี ก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินตามนโยบายการค้าเสรี ของอุตสาหกรรมเบียร์ในประเทศไทย โดยการผลิตเบียร์ไทยระดับสากลที่โดดเด่นจากวัตถุดิบ เช่น มอลต์, ข้าวไทย และฮอปส์ โดยต่อยอดมาจากการผลิตเบียร์คาร์ลสเบิร์ก ของบริษัท คาร์ลสเบอร์ก บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เจริญร่วมทุนกับกลุ่มคาร์ลสเบิร์ก จากประเทศเดนมาร์ก ที่มีความชำนาญการผลิตเบียร์ เบียร์ช้างเริ่มวางจำหน่ายในตลาดเป็นครั้งแรกโดยบริษัท เบียร์ไทย (1991) จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2538 โดยใช้เบียร์ที่ผลิตจากโรงงานที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันโรงงานนี้ถูกโอนไปให้บริษัท เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ (1991) จำกัด ดูแลต่อ

การผลิต

[แก้]

ปัจจุบันเบียร์ช้างผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกทั้งหมด 3 โรง ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด ดังนี้[1][2]

  1. โรงงานเบียร์ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการโดย บริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด (ชื่อเดิม: บริษัท คาร์ลสเบอร์ก บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด) มีพื้นที่ 72 ไร่ โดยใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2535[3] จากนั้นสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (พระยศในขณะนั้น) เสด็จมาทรงเปิดโรงงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2536 โดยเริ่มผลิตเบียร์คาร์ลสเบิร์กก่อน วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม และเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กในขณะนั้น เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรโรงงานเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม[4] เดิมนั้นโรงงานแห่งนี้ผลิตเบียร์ช้างด้วยกำลังการผลิตปีละ 100 ล้านลิตร เพื่อวางจำหน่ายในจังหวัดภาคตะวันออก ภาคกลางตอนบน และภาคใต้ ก่อนที่ต่อมาจะขยายเป็นปีละ 120 ล้านลิตรสำหรับส่งออกไปวางจำหน่ายในต่างประเทศ
  2. โรงงานเบียร์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมดำเนินการโดย บริษัท เบียร์ไทย (1991) จำกัด (มหาชน) ก่อนที่ภายหลังจะโอนไปให้ บริษัท เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ (1991) จำกัด ดำเนินงานต่อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2546 มีพื้นที่ 330 ไร่ โดยใช้เงินลงทุน 2,500 ล้านบาท เป็นโรงงานแห่งแรกที่ผลิตเบียร์ช้าง โดยเริ่มผลิตเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2537 วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2538 และเจ้าชายเฟรเดอริกเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงงานเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2540[5] มีกำลังการผลิตปีละ 530 ล้านลิตร โดยเบียร์ช้างที่ผลิตจากโรงงานนี้เดิมวางจำหน่ายในจังหวัดภาคตะวันออก ภาคกลางตอนบน และภาคใต้ ปัจจุบันผลิตเพื่อส่งออกไปวางจำหน่ายในต่างประเทศเช่นเดียวกับโรงงานในอำเภอวังน้อย
  3. โรงงานเบียร์ อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ดำเนินการโดย บริษัท เบียร์ไทย (1991) จำกัด (มหาชน) มีพื้นที่ 1,600 ไร่ โดยใช้เงินลงทุน 9,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 เริ่มผลิตเบียร์ช้างเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2544 วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน[6] และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จมาทรงเปิดโรงงานเมื่อปี พ.ศ. 2545 เดิมนั้นโรงงานแห่งนี้ผลิตเบียร์ช้างด้วยกำลังการผลิตปีละ 440 ล้านลิตร เพื่อวางจำหน่ายในจังหวัดภาคเหนือตอนบนและภาคอีสาน ก่อนลงทุนเพิ่มอีก 7,250 ล้านบาทเมื่อช่วงกลางปี พ.ศ. 2548 รวมเป็น 16,250 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตเป็นปีละ 900 ล้านลิตรสำหรับวางจำหน่ายภายในประเทศทั่วประเทศ[7]

รวมกำลังการผลิตจากทั้ง 3 โรงงานได้ปีละ 1,550 ล้านลิตร โดยโรงงานเหล่านี้ยังผลิตเครื่องดื่มตราช้างประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำดื่ม โซดา และน้ำแร่ธรรมชาติอีกด้วย[2]

การตลาด

[แก้]

การจัดจำหน่าย

[แก้]

เดิมนั้นเบียร์ในประเทศไทยมีเพียงรายเดียวคือเบียร์สิงห์ ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ดังนั้น เมื่อเจริญเริ่มผลิตเบียร์ช้างในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นระยะเวลาห่างกันถึง 59 ปี จึงใช้วิธีรวมการตลาดสุรากลั่นหรือเหล้าที่ตนถนัดอยู่แต่เดิมเข้าไปทำการตลาดเบียร์พร้อมกัน เป็นการจำหน่ายในรูปแบบ "ขายเหล้าพ่วงเบียร์" โดยหากร้านค้าต้องการซื้อสุราไปจำหน่ายในร้าน จะได้รับเบียร์ช้างไปจำหน่ายด้วยในจำนวน 3-6 ขวดทุก 100 บาท ซึ่งถูกกว่าเบียร์สิงห์ กลยุทธ์นี้ทำให้ร้านค้าหลายแห่งต้องหยุดซื้อเบียร์สิงห์ เนื่องจากมีพื้นที่ในการจัดเก็บและเงินทุนที่จำกัด และผู้บริโภคยังตัดสินใจซื้อเบียร์ช้างเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 จากปัจจัยด้านราคาข้างต้น ทำให้ยอดขายเบียร์สิงห์ลดลงอย่างมาก และส่งผลให้ตระกูลภิรมย์ภักดีเกือบต้องขายบุญรอดบริวเวอรี่ให้กับบริษัทจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม บุญรอดบริวเวอรี่ก็ตัดสินใจสร้างเบียร์ชนิดใหม่เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือก สำหรับรองรับกลุ่มผู้บริโภคในตลาดระดับกลาง คือ เบียร์ลีโอ ซึ่งมีราคาแพงกว่าเบียร์ช้างแต่ถูกกว่าเบียร์สิงห์ และมีรสชาติคล้ายกับไฮเนเก้น ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นโดยไม่ตัดกันเองกับยอดขายของเบียร์สิงห์ และกลับมาทำยอดขายได้ดีกว่าเบียร์ช้างในปัจจุบัน[8]

การโฆษณา

[แก้]

เดิมนั้นเบียร์ช้างทำโฆษณาในรูปแบบ "หันหน้าเข้าหากัน" ตามโลโก้ของเบียร์ช้างที่เป็นรูปช้าง 2 ตัวหันเข้าหากันโดยมีน้ำพุคั่น และ "อีกดีกรีของเบียร์ไทย" โดยมีพรีเซนเตอร์คู่แรกเป็น 2 พิธีกรที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น คือ ปัญญา นิรันดร์กุล ประธานบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ และ วิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ พิธีกรรายการสี่ทุ่มสแควร์ในขณะนั้น[9] และเพลงประกอบนั้นใช้ทำนองเพลงพม่าเขว ที่คุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลง นำทำนองไปใส่เนื้อร้องเป็นเพลง "ช้าง" เพื่อนำไปประกอบในหลักสูตรการเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เบียร์ช้างนำทำนองเพลงดังกล่าวมาแค่บางส่วนและปรับเป็นแนวดนตรีร็อก

ต่อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เบียร์ช้างได้ใช้กลยุทธ์การตลาดดนตรี (Music Marketing) โดยนำวงคาราบาวมาทำเพลงประกอบโฆษณาในแนวดนตรีชะชะช่า ซึ่งมีหลายฉบับที่จะเปลี่ยนเนื้อเพลงให้เข้ากับแต่ละบริบท เช่น บรรยายสรรพคุณของเบียร์ช้าง เชิดชูความโดดเด่นของประเทศไทย ระบุความสามารถของคนไทย หรือการประชาสัมพันธ์ฟุตบอลโลก 2002 และ 2006 แต่เกือบทุกเพลงมีท่อนจำอยู่ที่ท่อนสุดท้าย คือ "กินแล้วภาคภูมิใจ เบียร์คนไทยทำเอง"[10] โดยโฆษณาในชุดแรก ๆ ที่วงคาราบาวเข้ามาทำเพลงประกอบนั้น ยังมีการนำช้างพลายทองใบมาร่วมแสดงด้วย[11]

หลังจากกลุ่มบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับรูปลักษณ์และแบ่งกลุ่มชนิดของเบียร์ช้างตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้ปรับการทำการตลาดเบียร์ช้างใหม่ โดยเน้นที่กลุ่มคนรุ่นใหม่จนถึงวัยทำงาน ผ่านการจัดทำโฆษณาที่มีพรีเซนเตอร์ 3 คาแรกเตอร์ตามชนิดของเบียร์ช้าง แต่ใช้แคมเปญเดียวกันคือ "คนไทยหัวใจเดียวกัน" พร้อมทั้งจัดกิจกรรมการตลาดดนตรีในชื่อ "ช้าง ไลฟ์ มิวสิก"[12] โดยใช้เพลงชื่อเดียวกับแคมเปญซึ่งแต่งโดยเสกสรรค์ ศุขพิมาย (เสก โลโซ) และขับร้องโดยศิลปินร็อก 4 ราย คือ วงไมโคร, เสก โลโซ, บิ๊กแอส และ บอดี้สแลม เป็นเพลงหลักของกิจกรรมดังกล่าว[13]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 เบียร์ช้างได้เผยแพร่โฆษณาอีก 1 ชุด ในชื่อชุด "เรียลเฟรนด์ชิป" (Real Friendship) โดยนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ช่วยเหลือลูกช้างที่เคยตกหล่มในป่าใหญ่ จนได้รับเกียรติบัตรจากโครงการช้างช่วยช้าง เพื่อสื่อถึงการเติมเต็มทุกเรื่องราวในทางบวกด้วยมิตรภาพของเพื่อน โดยใช้วลีสรุปว่า "เติมให้เต็ม คำว่า...เพื่อน"[14] ซึ่งภายหลังนั้น ไทยเบฟเวอเรจได้ใช้วลีนี้สำหรับการทำการตลาดเครื่องดื่มตราช้างประเภทไม่มีแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะน้ำแร่ธรรมชาติตราช้างในปัจจุบัน

สินค้า

[แก้]

ปัจจุบัน

[แก้]

ปัจจุบันมีการวางจำหน่ายเบียร์ช้างทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้

  • ช้าง คลาสสิก (Chang Classic) เป็นเบียร์ช้างรูปแบบดั้งเดิมที่ผลิตมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 มีส่วนผสมของมอลต์, ข้าว และฮอปส์ คุณภาพดี, น้ำบริสุทธิ์จากแหล่งน้ำธรรมชาติ และหมักด้วยยีสต์ที่คัดสรรเฉพาะ[15] เดิมมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 8% บรรจุในบรรจุภัณฑ์สีทอง และวางขายในชื่อ เบียร์ช้าง โดยตรง ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 เบียร์ช้างได้ปรับโลโก้และบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ช้าง คลาสสิก พร้อมทั้งลดปริมาณแอลกอฮอล์เหลือ 6.4% ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในขณะนั้น[16] ก่อนจะลดเหลือ 6% และ 5.8% ในเวลาต่อมา และต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ในโอกาสครบรอบ 20 ปี เบียร์ช้างได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่อีกครั้งจากสีทองเป็นสีเขียวมรกต[17] ที่เคยใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ของเบียร์ช้าง ไลท์ และลดปริมาณแอลกอฮอล์อีกครั้งเป็น 5.5%[18] ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 ได้ยุบรวมเบียร์ทุกประเภทเหลือช้าง คลาสสิก เพียงประเภทเดียว[19] ก่อนที่จะลดปริมาณแอลกอฮอล์อีกครั้งเหลือ 5.2% และ 5% ตามลำดับ จนกระทั่งเหลือ 4.8% ซึ่งเป็นปริมาณแอลกอฮอล์มาตรฐานของเบียร์ช้างทุกประเภทในปัจจุบัน[20] ปัจจุบัน ช้าง คลาสสิก วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รูปแบบ 4 ขนาด คือ รูปแบบกระป๋อง ขนาด 320 มิลลิลิตร และ 490 มิลลิลิตร และ รูปแบบขวด ขนาด 320 มิลลิลิตร และ 620 มิลลิลิตร
  • ช้าง โคลด์ บรูว์ (Chang Cold Brew) เป็นเบียร์ช้างประเภทเบียร์พรีเมียม เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2561 และวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2562 ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของเบียร์ช้าง[21] มีส่วนผสมของมอลต์ 100% และฮอปส์คุณภาพดี, น้ำบริสุทธ์จากแหล่งธรรมชาติ และหมักด้วยยีสด์ที่คัดสรรเฉพาะ[15] ใช้กระบวนการกรองเบียร์ที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง[22] มีการทำการตลาดเบียร์ช้างประเภทนี้ในชื่อ ช้าง โคลด์ บรูว์ คูล คลับ (Chang Cold Brew Cool Club) ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2564 ปัจจุบัน ช้าง โคลด์ บรูว์ วางจำหน่ายทั้งหมด 2 รูปแบบ 3 ขนาด คือ รูปแบบกระป๋อง ขนาด 490 มิลลิลิตร และ รูปแบบขวด ขนาด 320 มิลลิลิตร และ 620 มิลลิลิตร
  • ช้าง เอสเปรสโซ (Chang Espresso) เป็นเบียร์ช้างประเภทเบียร์ทางเลือก ผลิตเป็นเบียร์ลาเกอร์ผสมกาแฟสกัด (Coffee Infused Beer) ตัวแรกในประเทศไทย เริ่มผลิตและวางจำหน่ายเมื่อปลายปี พ.ศ. 2563 มีปริมาณคาเฟอีนจากเมล็ดกาแฟ 5 มิลลิกรัมต่อปริมาตร แต่ยังคงกลิ่นและรสชาติของกาแฟและเบียร์ดั้งเดิม[23] ปัจจุบันวางจำหน่ายเพียงรูปแบบเดียวและขนาดเดียว คือ รูปแบบกระป๋อง ขนาด 490 มิลลิลิตร
  • ช้าง อันพาสเจอไรซ์ (Chang Unpasteurized) เป็นเบียร์ช้างประเภทเบียร์สด เริ่มผลิตและวางจำหน่ายเมื่อปลายปี พ.ศ. 2565 มีส่วนผสมของวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตที่มีนวัตกรรมขั้นสูงกระบวนการไนโตรจิเนชัน และขนส่งถึงร้านค้าภายใต้การควบคุมอุณหภูมิที่ระดับ -4 องศาเซลเซียส พร้อมออกแบบตู้จัดเก็บความเย็นให้จุดจำหน่าย โดยเริ่มแรกผลิตในรูปแบบเดียว คือ รูปแบบขวด ขนาด 1.5 ลิตร จากโรงงานเบียร์ของเบียร์ไทย (1991) ที่จังหวัดกำแพงเพชร และเริ่มจำหน่ายในภัตตาคาร ผับ บาร์ โรงแรม และร้านค้าระดับสามดาวขึ้นไป รวมมากกว่า 200 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของเบียร์ช้างก่อน[24] ก่อนที่จะขยายมาจำหน่ายในภัตตาคารและโรงแรมของไทยเบฟเวอเรจหรือกลุ่มทีซีซีในกรุงเทพมหานครในเวลาต่อมา และเมื่อปลายปี พ.ศ. 2567 ได้ผลิตเพิ่มในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ขวดอะลูมิเนียมฝาเกลียวที่สามารถนำกลับมาแปรใช้ใหม่ได้ ขนาด 500 มิลลิลิตร และจัดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม[25]

อดีต

[แก้]

ในอดีต เบียร์ช้างเคยวางจำหน่ายเบียร์ประเภทอื่นอีก 3 ประเภท ดังนี้

  • ช้าง ดราฟท์ (Chang Draught) เป็นเบียร์ช้างประเภทเบียร์สด มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 5% บรรจุในบรรจุภัณฑ์สีทอง เคยหยุดวางจำหน่ายไประยะหนึ่ง ก่อนกลับมาผลิตเมื่อต้นปี พ.ศ. 2547 วางจำหน่ายในภัตตาคาร ผับ บาร์ และสถานบันเทิง รวม 4,000 แห่งทั่วประเทศ[26] ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 ได้เริ่มผลิตแบบบรรจุภัณฑ์ขวด 2 ขนาดข้างต้น และเริ่มวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อและร้านค้าทั่วไป ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน เพื่อขยายไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ซื้อกลับไปดื่มที่บ้าน[27] ปัจจุบันถูกนำกลับมาผลิตเป็นช้าง อันพาสเจอไรซ์
  • ช้าง ไลท์ (Chang Light) เป็นเบียร์ช้างประเภทเบียร์เบา (Light beer) มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 4.2% บรรจุในบรรจุภัณฑ์สีเขียว เริ่มบรรจุขวดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 และเริ่มวางจำหน่ายตามร้านค้าตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม เช่นเดียวกับสิงห์ไลท์ ของบริษัทคู่แข่งซึ่งเริ่มวางจำหน่ายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน[28]
  • ช้าง เอ็กซ์พอร์ต (Chang Export) เป็นเบียร์ช้างประเภทเบียร์ราคาประหยัด (Economy beer) มีส่วนผสมของมอลต์ 100% มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 5% บรรจุในบรรจุภัณฑ์สีทองที่มีความพรีเมียมกว่าช้าง คลาสสิก เริ่มวางจำหน่ายเมื่อปลายปี พ.ศ. 2554[29] ปัจจุบันถูกนำกลับมาพัฒนาเป็นช้าง โคลด์ บรูว์

โดยทุกประเภทจำหน่ายในรูปแบบขวด ขนาด 330 มิลลิลิตร และ 640 มิลลิลิตร อย่างไรก็ตาม ไทยเบฟเวอเรจได้ยุติการผลิตเบียร์ช้างทั้ง 3 ประเภทนี้ และยุบรวมเข้ากับช้าง คลาสสิก เมื่อปี พ.ศ. 2559[19] ก่อนที่จะมีการผลิตเบียร์ช้างรูปแบบอื่น ๆ ที่คล้ายกับเบียร์ช้างบางประเภทที่เลิกผลิตไป

รางวัล

[แก้]

วัฒนธรรมประชานิยม

[แก้]

สิ่งสืบเนื่อง

[แก้]

ระเบียงภาพ

[แก้]
ช้างคลาสสิค
ช้างคลาสสิค 
เบียร์ช้าง
เบียร์ช้าง 
เบียร์ช้างในภูเก็ต
เบียร์ช้างในภูเก็ต 
ป้ายเบียร์ช้างที่ถนนคนเดินในป่าตอง ภูเก็ต
ป้ายเบียร์ช้างที่ถนนคนเดินในป่าตอง ภูเก็ต 

อ้างอิง

[แก้]
  1. "อาณาจักรน้ำเมา "ไทยเบฟ" ไล่ซื้อกิจการ-อัดงบลงทุน เสริมแกร่งตลาดเอเชีย". ฐานเศรษฐกิจ. 13 ตุลาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2025.
  2. 1 2 ""ไทยเบฟฯ"คลอดเบียร์พรีเมียม ชูแนวรบครบพอร์ตฯบี้สิงห์-ปลายปีส่งอาชาโกอินเตอร์". ผู้จัดการออนไลน์. 28 พฤษภาคม 2007. สืบค้นเมื่อ 19 พฤษภาคม 2025.
  3. ปรัตถพงศ์, ไชยยันต์ (สิงหาคม 1993). "คาร์ลสเบอร์กเขย่าบัลลังก์สิงห์". หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2025.
  4. พันธัญกิจ, ธันวา; สุวรรณอาภา, ธนากร; พรหมอยู่, ศิริวัฒน์; บัวทอง, ชนายุ; แสงลำ, อภิวัฒน์ (2022). "ข้อมูลของสถานประกอบการ". การเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาเครื่องจักรในอุตสาหกรรม กรณีศึกษา ณ บริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด. คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Report). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. p. 36. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2025.
  5. บริษัท เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ (1991) จํากัด (PDF) (Report). กรมสรรพสามิต. p. 2. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2025.
  6. "ThaiBev จัด Mind Mapping Workshop รุ่น 1,485". บล็อกเกอร์. 6 สิงหาคม 2008. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2025.
  7. ""เจริญ" ทุ่ม 7 พันล.เพิ่มผลิตผุดโรงเบียร์ที่ 4 ปีหน้า". ผู้จัดการออนไลน์. 22 พฤศจิกายน 2005. สืบค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2025.
  8. "กรณีศึกษา เบียร์ลีโอ เกิดเพราะ เบียร์สิงห์ แพ้เบียร์ช้าง". BrandCase. 10 กันยายน 2022. สืบค้นเมื่อ 29 พฤษภาคม 2025.
  9. "ช้าง ต้องเต้นระบำ". Positioning Magazine. 24 ธันวาคม 2009. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2025.
  10. "รู้หรือไม่ เบียร์ช้าง เคยใช้กลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ผ่าน "จิงเกิ้ล 3 ช่า" ของ "แอ๊ด คาราบาว"". BrandAge. 9 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2025.
  11. "สกู๊ปพิเศษ : ไทยเบฟส่งมอบ'บ้านช้างพลายทองใบ' สืบสานพิธีกรรมโบราณโดยหมอช้างรุ่นสุดท้ายของโลก". แนวหน้า. 23 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2025. ...ในฐานะที่พลายทองใบร่วมสร้างชื่อเสียงในภาพยนตร์โฆษณาเปิดตัวเบียร์ช้าง
  12. "ช้างทุ่ม100ล.โค่นสิงห์ อัดมิวสิค-สื่อครบเครื่อง". ผู้จัดการออนไลน์. 12 พฤศจิกายน 2009. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2025.
  13. "อำพล ไมโคร เสก โลโซ Big Ass และ bodyslam นั่งแท่น Music Event Presenters". สนุก.คอม. 17 พฤศจิกายน 2009. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2025.
  14. Nathida, Tukko (7 เมษายน 2014). ""ช้าง" ส่งหนังโฆษณาชุดใหม่ Real Friendship เติมให้เต็ม คำว่า "เพื่อน"". MarketingOOPS!. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2025.
  15. 1 2 ""เบียร์ช้าง" เบียร์สัญชาติไทยที่ครองใจคนทั่วโลก". สยามมีเดีย. 21 เมษายน 2021. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2025.
  16. ""ช้าง"ปรับใหญ่หลังยอดร่วง ทุ่ม300ล.รีแบรนด์รอบ15ปี". ผู้จัดการออนไลน์. 30 กันยายน 2009. สืบค้นเมื่อ 21 สิงหาคม 2025.
  17. ""ช้าง" จัดฉลองครบรอบ 20 ปี ก้าวสู่ "ช้าง ยุคใหม่" ประกาศเปิดตัว "ช้าง" ขวดเขียวโฉมใหม่ พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจในอาเซียนที่มีความมั่นคง และยั่งยืนในปี 2020" (Press release). MARKETINGOOPS!. 24 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  18. "5 หมัดเด็ด "เบียร์ช้าง" หลังออกขวดเขียว ขึ้นแท่นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจ". MARKETINGOOPS!. 12 ตุลาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  19. 1 2 "All new "Chang" พลิกประวัติศาสตร์เบียร์ไทย กับ 1 ปีแห่งความสำเร็จของช้าง". ฟอบส์ ประเทศไทย. 6 ตุลาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  20. "เบียร์ช้างปรับสูตรหั่นดีกรี รับ 2 เด้ง จ่ายภาษีลดลง". หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ. 14 มีนาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  21. "ช้าง...ฉลองครบรอบ 25 ปี แห่งคุณภาพ เปิดตัวเบียร์ใหม่ล่าสุด "ช้าง 25 ปี โคลด์ บริว ลาเกอร์"". BrandAge Online. 8 พฤศจิกายน 2019. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  22. "ตอกย้ำความสำเร็จ "มร.เลสเตอร์" ประกาศ "ช้าง โคลด์ บรูว์" เบียร์ไทยระดับพรีเมียม ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ" (Press release). MARKETINGOOPS!. 25 พฤศจิกายน 2020. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  23. ""ช้าง เอสเปรสโซ่ ลาเกอร์"เบียร์ผสมกาแฟสกัด เจ้าแรกและเจ้าเดียวของไทย ชูธงตลาดเบียร์ทางเลือก". คมชัดลึก. 9 เมษายน 2021. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  24. "เปิด 3 ที่มา ไทยเบฟฯ ปั้นน้องใหม่ "ช้างอันพาสเจอร์ไรซ์" สีสันใหม่ตลาดเบียร์สองแสนล้าน". Brand Buffet. 1 ธันวาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  25. ""ช้าง อันพาสเจอร์ไรซ์ ขวดอลูมินั่ม" เร่งเครื่อง บุกเซเว่นอีเลฟเว่นรุกเบียร์พรีเมียม 4 หมื่นล". ผู้จัดการออนไลน์. 13 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  26. "สมรภูมิเบียร์สดปะทุศึกช้างหวนคืนร่วมไทเกอร์ชนสิงห์". ผู้จัดการออนไลน์. 19 กรกฎาคม 2004. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  27. "ช้างดราฟท์ลงขวดอาละวาดเบียร์สด สบช่องรับสงกรานต์จับนักดื่มที่บ้าน". ผู้จัดการออนไลน์. 11 เมษายน 2006. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  28. ""ช้าง-สิงห์"ยืนแลกหมัดเปิดศึกตลาดไลท์เบียร์". ผู้จัดการออนไลน์. 22 กุมภาพันธ์ 2006. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.
  29. "Next Step ไทยเบฟฯ เปลี่ยน "ช้าง" ไทยให้อินเตอร์". Positioning Magazine. 13 มกราคม 2012. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2025.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]