เทลอาวีฟ
Tel Aviv תֵּל־אָבִיב-יָפוֹ تل أبيب | |
---|---|
สมญา: The White City, The City That Never Sleeps, Miami Beach of the Mediterranean | |
พิกัดภูมิศาสตร์: 32°4′N 34°47′E / 32.067°N 34.783°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 32°4′N 34°47′E / 32.067°N 34.783°E | |
Country | ![]() |
District | Tel Aviv |
Metropolitan Area | Gush Dan |
Founded | April 11, 1909 |
การปกครอง | |
• ประเภท | Mayor-council |
• หน่วยงาน | Tel Aviv municipality |
• Mayor | Ron Huldai (Labor) |
พื้นที่ | |
• City | 51.4 ตร.กม. (19.8 ตร.ไมล์) |
• เขตเมือง | 176 ตร.กม. (68 ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 1,516 ตร.กม. (585 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 5 เมตร (16 ฟุต) |
ประชากร (2010)[1] | |
• City | 405,000 |
• อันดับ | 2nd in Israel |
• ความหนาแน่น | 7,867.7 คน/ตร.กม. (20,377 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | 12th in Israel |
• เขตเมือง | 1,284,400 |
• ความหนาแน่นเขตเมือง | 7,297.7 คน/ตร.กม. (18,901 คน/ตร.ไมล์) |
• รวมปริมณฑล | 3,850,000 |
• ความหนาแน่นรวมปริมณฑล | 2,193.7 คน/ตร.กม. (5,682 คน/ตร.ไมล์) |
เดมะนิม | Tel Avivian |
Ethnicity | |
• Jews | 91% |
• Muslims | 3% |
• Christians | 1% |
• Unclassified | 5% |
เขตเวลา | IST (UTC+2) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | IDT (UTC+3) |
Postal code | 61999 |
Area code | +972 (Israel) 3 (City) |
เว็บไซต์ | tel-aviv.gov.il |
เทลอาวีฟ-ยาโฟ ( ฮีบรู: תֵּל־אָבִיב-יָפוֹ; อังกฤษ: Tel Aviv-Yafo; อาหรับ: تل أبيب, Tall ʼAbīb) หรือมักเรียก เทลอาวีฟ (อังกฤษ: Tel Aviv) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศอิสราเอล มีประชากรราว 405,000 คน[1] เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยพื้นที่ 51.8 ตร.กม. (20.0 ตร.ไมล์)
เทลอาวีฟก่อตั้งในปี ค.ศ. 1909 บนเขตพื้นที่รอบนอกของเมืองท่าโบราณจัฟฟา (ฮีบรู: יָפוֹ , Yafo; อาหรับ: يافا, Yaffa) ความเจริญของเทลอาวีฟได้ก้าวไปไกลกว่าเมืองจัฟฟาที่ในตอนนั้นเป็นของอาหรับอยู่ จนเทลอาวีฟและจัฟฟาถูกรวมเป็นเมืองเดียวกันในปี ค.ศ. 1950 สองปีหลังจากการก่อตั้งรัฐอิสราเอล นครสีขาวแห่งเทลอาวีฟได้รับการขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2003 ถือเป็นการรวมกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก[2][3][4]
เทลอาวีฟเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญและเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในอิสราเอล เป็นที่ตั้งของตลาดหุ้นเทลอาวีฟและสำนักงานและศูนย์กลางการพัฒนาและวิจัยหลายแห่ง[5] การที่เมืองมีชายหาด บาร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านค้าราคาแพง ภูมิอากาศที่ดีและชีวิตคนเมือง ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ[6][7] และยังได้ฉายาว่า "เมืองที่ไม่เคยหลับ"[8][9]
และยังเป็นเมืองหลวงการเงินของประเทศ และเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะการแสดงและศูนย์กลางการค้า[10] เขตเมืองของเทลอาวีฟยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของตะวันออกกลางด้านเศรษฐกิจ[11] และเป็นเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในโลกในอันดับที่ 17[12]
คนดัง[แก้]
- แดน เชชท์มัน - เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำ พ.ศ. 2554 สำหรับ "การค้นพบควอซีคริสตัล"
- กิลอัด สุขเคอร์แมน - นักภาษาศาสตร์
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 "לוח 3.- אוכלוסייה( 1), ביישובים שמנו מעל 2,000 תושבים( 2) ושאר אוכלוסייה כפרית POPULATION(1) OF LOCALITIES NUMBERING ABOVE 2,000 RESIDENTS(2) AND OTHER RURAL POPULATION" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2010-01-25.
- ↑ "The White City of Tel Aviv" (PDF). UNESCO. สืบค้นเมื่อ 2008-03-29.
- ↑ Strimpel, Zoe (2008-02-16). "Hip and happening in Tel Aviv". The Times. สืบค้นเมื่อ 2008-02-16.
- ↑ "Economist City Guide-Tel Aviv". The Economist. สืบค้นเมื่อ 2008-01-21.
- ↑ "New Economy: Silicon Wadi". Wired. 1998-04-16. สืบค้นเมื่อ 2008-02-02.
- ↑ "An ugly scrap at Heathrow for the 'best-looking kid on the block'". Independent on Sunday. 2008-03-30. สืบค้นเมื่อ 2008-03-30.
- ↑ "The world's top 10 party towns". Sydney Morning Herald. 2009-11-19. สืบค้นเมื่อ 2009-11-19.
- ↑ Rabinovitch, Ari (2009-01-14). "Out of rocket range, Tel Aviv bustles as war rages". Reuters. สืบค้นเมื่อ 2009-04-22.
- ↑ One Tel of a great holiday (January 31, 2010), News of the World, Retrieved 2010–01–31
- ↑ Kipnis, B.A. (2001-10-08). "Tel Aviv, Israel - A World City in Evolution: Urban Development at a Deadend of the Global Economy". Globalization and World Cities Study Group and Network at Loughborough University. สืบค้นเมื่อ 2007-07-17. Cities in Transition. Ljubljana: Department of Geography, University of Ljubljana, pp. 183-194.
- ↑ "The 150 Richest Cities in the World by GDP in 2005". สืบค้นเมื่อ 2009-01-13.
- ↑ "Cost of living — The world's most expensive cities". City Mayors.