เจมส์ เค. สไตเนอร์
นายแพทย์ เจมส์ เคนเนธ สไตเนอร์ (พ.บ.) | |
---|---|
สไตเนอร์เมื่อปี 2020 | |
เกิด | 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1934 ลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ |
เสียชีวิต | 22 มกราคม ค.ศ. 2024 | (89 ปี)
การศึกษา | วิทยาลัยแพทยศาสตา์เออร์ไวน์ |
อาชีพ | ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ |
มีชื่อเสียงจาก | ผู้คิดค้น Advanced Trauma Life Support (ATLS) |
คู่สมรส | Charlene Styner (1966–1976) Lily Styner (1998–เสียชีวิต) |
บุตร | 4 |
เกียรติยศ | The Annual James K. Styner Award for Meritorious Service from The American Board of Surgeons |
เจมส์ เคนเนธ สไตเนอร์ (อังกฤษ: James Kenneth Styner, FACS, 22 กรกฎาคม 1934 – 22 มกราคม 2024) เป็นศัลยแพทย์กระดูกและข้อชาวอเมริกันในรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบ Advanced trauma life support (ATLS) หลังประสบอุบัติเหตุทางการบินในรัฐเนแบรสกา
เขาเสียชีวิตในวันที่ 22 มกราคม 2024 สิริอายุ 89 ปี[1]
อุบัติเหตุการบิน
[แก้]เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1976 หลังเข้าร่วมงานสมรสแห่งหนึ่ง สไตเนอร์ขับเครื่องบินส่วนตัวบีชคราฟท์บารอนขนาดหกที่นั่งจากลอสแอนเจลิสเพื่อกลับบ้านในลินเคิล์น รัฐเนแบรสกา[2] บนเครื่องบินมีผู้โดยสารอื่นได้แก่ ภรรยา ชาร์ลีน สไตเนอร์ (Charlene Styner) และบุตรอีกสี่คน เขาขับเครื่องบินลงจอดที่นิวเม็กซิโกเพื่อเติมน้ำมัน จากนั้นจึงบินต่อผ่านรัฐเท็กซัส, โอกลาโฮมา และแคนซัส ขณะเข้าสู่น่านฟ้าของรัฐเนแบรสกา เขาขับเครื่องบินมาเจอกับเมฆชั้นบาง ๆ เขาพยายามขับเครื่องบินให้อยู่ใต้กว่าระดับเมฆแต่เริ่มเสียทิศทางและตกลงสู่พื้นชนเข้ากับต้นไม้ด้วยความเร็ว 168 ไมล์ต่อชั่วโมง
ภรรยาของเขาหลุดออกจากเครื่องบินและเสียชีวิตทันที บุตรที่เหลือสามคน คิมแบร์ลี (Kimberly), เคนเนธ (Kenneth) และ แรนดอล (Randal) หมดสติจากศีรษะกระแทก ส่วนคริสตอเฟอร์ (Christopher) ต้นแขนขวาหักและมีบาดแผลที่มือขวา ตัวเจมส์เองบาดเจ็บจากกระดูกซี่โครงหัก บาดแผลที่ศีรษะและใบหน้า และกระดูกไซโกมาติกหัก เจมส์กับคริสตอเฟอร์ซึ่งเป็นเพียงสองคนที่ไม่ได้หมดสติประเมินคนที่เหลือและพากันออกมาจนเจอกับรถที่พาไปส่งโรงพยาบาลที่ห่างไปสองไมล์ทางใต้จากจุดที่เครื่องบินตกในแฮเบริน หลังผ่านไปเกือบแปดชั่วโมงในสภาพอากาศหนาวเย็น
เมื่อไปถึงโรงพยาบาลซึ่งในเวลานั้นปิดทำการอยู่ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสักพักในการเรียกรวมบุคลากรจนเปิดบริการได้ ในเวลานั้น สไตเนอร์พบว่าบุคลากรของโรงพยาบาลได้รับการฝึกฝนในการบริหารจัดการกรณีบาดเจ็บรุนแรงมาน้อยมาก และเขากังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการที่ไม่มีใครสนใจจะปกป้องกระดูกสันหลังส่วนคอของลูกเขาเลย ต่อมาเขาจึงทำการติดต่อผู้ช่วยซึ่งเรียกเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยไปส่งที่โรงพยาบาลกลางลิงเคิล์น
Advanced Trauma Life Support
[แก้]ความกังวลที่สไตเนอร์มีต่อการขาดซึ่งระบบที่เป็นระเบียบสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่มาด้วยการบาดเจ็บรุนแรงเช่นในตอนนั้นยังคงอยู่กับเขาเรื่อยมา เขาเคยกล่าวว่า "การที่ผมสามารถให้การรักษาในสาขาที่มีทรัพยากรอย่างจำกัดได้ดีกว่าที่ผมกับลูก ๆ ของผมได้รับการรักษาในหน่วยบริการ[ทางการแพทย์]ระดับปฐมภูมิ แปลว่าต้องมีบางอย่างที่ผิดพลาดเกี่ยวกับระบบ และระบบที่ว่านี้จำเป็นต้องถูกเปลี่ยน" ในปี 1978 เขาร่วมกับคณะที่มูลนิธิแพทยศาสตร์ศึกษาลิงเคิล์น (Lincoln Medical Education Foundation) พัฒนาคอร์สเรียน Advanced trauma life support ต้นแบบขึ้นเป็นครั้งแรกในออเบิร์น รัฐเนแบรสกา[3]
ในปี 1980 คณะกรรมการการบาดเจ็บ (Committee on Trauma) ของวิทยาลัยศัลยแพทย์อเมริกันนำเอาระบบ ATLS มาใช้สำหรับระดับประเทศและนานาชาติ สไตเนอร์เองยังได้รับการรับรองให้เป็นผู้ฝึกสอน ATLS ใหม่ในปี 2007 และทำการสอนผู้ฝึกสอนรุ่นต่อไปในเมืองน็อตติงแฮม ประเทศอังกฤษ[4] และในประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 22 มีนาคม 2013 วิทยาลัยศัลยแพทย์ฯ เปลี่ยนชื่อรางวัล Award for Meritorious Service in ATLS ประจำปี เป็นรางวัล James K. Styner Award for Meritorious Service ตามชื่อของเขา[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ITLS mourns the loss of James K. Styner, MD, FACS". ITLS. 2024-01-28. สืบค้นเมื่อ 2024-03-08.
- ↑ The Birth of Advanced Trauma Life Support by James K. Styner, MD, Journal of Trauma Nursing, Vol. 13 No.2, April - June 2006
- ↑ Styner, Randy (2012). The Light of the Moon - Life, Death and the Birth of Advanced Trauma Life Support. Kindle Books: Kindle Books. p. 267.
- ↑ Nottingham Evening Post July 5, 2007
- ↑ Croce, Martin; Livingston, David; Luchette, Frederick; Mackersie, Robert (Sep 13, 2013). American Association for the Surgery of Trauma 75th Anniversary 1938-2013. The American Association for the Surgery of Trauma. p. 164. ISBN 978-0989892803. สืบค้นเมื่อ 2 September 2020.