เครือข่ายท้องถิ่น

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ข่ายสายท้องถิ่น (อังกฤษ: local loop, ข่ายสายสมาชิก ก็เรียก) ในระบบของโทรศัพท์พื้นฐาน[1] หมายถึง สายเคเบิลทองแดงตั้งแต่ 1 คู่สาย ขึ้นไปที่ใช้เชื่อมโยงจากชุมสายโทรศัพท์ไปที่บ้านผู้ใช้บริการ ที่ต้องเรียกเป็นวงหรือ loop เพราะต้องใช้สายทองแดงสองเส้นให้สัญญาณไฟฟ้าวิ่งไปและวิ่งกลับ เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมมีขอบเขตกว้างกว่าการสื่อสารด้วยเสียงเท่านั้น คำว่า local loop ยังถูกนำไปใช้ในความหมายใกล้เคียงกัน นั่นคือหมายถึงการเชื่อมโยงทางกายภาพหรือเป็นวงจรที่เชื่อมต่อจากขอบของผู้ให้บริการสายเคเบิลหรือจากจุดแบ่งเขตของสถ​​านที่ของเครือข่ายผู้ให้บริการไปยังที่ตั้งของสมาชิก

ที่ขอบของการเข้าถึงเครือข่ายของผู้ให้บริการในเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะแบบดั้งเดิมท้องถิ่น ข่ายสายท้องถิ่นต่อเข้ากับวงจรสวิทช์ที่ตั้งอยู่ในชุมสายเคเบิลท้องถิ่นหรือชุมสายโทรศัพท์

ที่ปลายด้านลูกค้า ข่ายสายท้องถิ่นมักเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้ากระชากแรงดันสูงหรืออุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า จากจุดนั้นอุปกรณ์ที่เรียกว่า อุปกรณ์ภายในพื้นที่ลูกค้า (Customer-premises equipment, CPE) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสมาชิก จะถูกนำมาติดตั้ง

โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]

ด้วยความเข้าใจเดิม ข่ายสายท้องถิ่นคือวงจรไฟฟ้าที่ขนส่งสัญญาณไฟฟ้าโดยตัวนำคู่สายเดียวจากชุมสายโทรศัพท์ท้องถิ่นไปยังในสถานที่ของลูกค้า การใช้ตัวนำลวดเส้นเดียวและใช้ return path เป็นสายดินเคยถูกนำมาใช้จนกระทั่งมีการนำรถรางไฟฟ้ามาใช้หลังปี 1900 ทำให้ระบบดังกล่าวถูกยกเลิกไป

ในอดีตส่วนแรกที่ออกจากชุมสายมักจะเป็นเคเบิลขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยลวดขนาดเล็กจำนวนมากแขวนเหนือศีรษะพันกับฉนวนลูกถ้วยบนไม้กางเขนแขวนบนเสา "โทรเลข" ดังนั้นบริการจึงมักจะให้กับลูกค้าที่อยู่อาศัยเป็นกลุ่มเพื่อลดจำนวนของลูปในท้องถิ่นที่จำเป็นต้องใช้ โดยปกติเคเบิลเหล่านี้ในปัจจุบันจะเป็นเคเบิลใต้ดินที่ประกอบด้วยคู่สายตีเกรียวของแต่ละ local loop จำนวนมาก จึงทำให้มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 1200 คู่สายขึนไปจนถึง 2700 คู่สาย ทำให้ไม่สามารถแขวนบนเสาได้อีกต่อไป เคเบิลเหล่านี้จะถูกเรียกว่า primary cable, เป็น plant แบบหนึ่ง, จะถูกฝังไว้ในท่อร้อยสายใต้ดินออกจากชุมสายท้องถิ่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน outside plant

primary cable มักจะประกอบด้วย local loop หลายๆคู่ที่มีขนาดเส้นผ่าสูนย์กลางของสายทองแดงแต่ละเส้นเท่ากับ 0.5 mm ที่มีความต้านทานประมาณ 80 โอห์มต่อกิโลเมตร ด้วยข้อกำหนดของบริษัทโทรศัพท์ทั่วไป local loop ที่ใช้สำหรับการสื่อสารด้วยเสียง จะต้องมีความต้านทานไม่เกิน 1200 โอห์ม ดังนั้นด้วยสายขนาด 0.5 mm จะทำให้ได้สาย local loop ได้ถึง 4.5 กม (เพราะใช้ 2 เส้นไป-กลับ) แต่ในความเป็นจริง สาย primary cable จะถูกบรรจบที่ตู้สลับสายแล้วออกมาเป็นสายทองแดงที่เรียกว่า secondary cable ขนาด 0.4 mm ที่ 134 โอห์มต่อกม.จนถึงบ้านลูกค้า ระยะทางจริงของความยาว local loop จึงประมาณ 5 กม.

ประสิทธิภาพการใช้งาน local loop ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น เช่นอายุของสายทองแดงที่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม, รอยต่อ, คลื่นรบกวน, กระแสไฟฟ้ารั่ว, น้ำซึมเข้าทำให้คุณสมบัติของลวดทองแดงเปลี่ยนไปเป็นต้น ประสิทธิภาพการใช้งานยังมีผลอย่างมากในการใช้งาน DSL ซึ่งต้องการสายทองแดงที่มีคุณภาพสูง ระยะทางของ local loop ที่ DSL จะทำงานได้ดีที่ 2.5 Mbps อยู่ที่ต่ำกว่า 3 กม[2]

การใช้งานที่ทันสมัย​​อาจรวมถึงการให้บริการด้วยลูปแบบดิจิทัลในบางส่วนของระบบหรือใช้ใยแก้วนำแสงในการส่งข้อมูลในบางช่วง. local loop อาจเชื่อมต่อกับวงจรสวิทช์ที่เป็นเจ้าของโดยผู้ดำเนินการชุมสายท้องถิ่นกับบ้านในจุดของการแสดงตน (point of presence, POP) ซึ่ง จะให้บริการด้านเสียงและ/หรือข้อมูลและ/หรือการใช้งานการสื่อสารข้อมูลในรูปแบบต่อไปนี้:

  • เสียงแอนะล็อกและสัญญาณที่ใช้ในโทรศัพท์พื้นฐานแบบดั้งเดิม
  • บริการดิจิทัลแบบบูรณาการเครือข่าย (Integrated Services Digital Network, หรือ ISDN)
  • สายพันธุ์ของ Digital Subscriber Line (DSL)

คำว่า "local loop" บางครั้งก็ใช้สำหรับการเชื่อมต่อ "ไมล์สุดท้าย" ให้กับลูกค้าโดยไม่คำนึงถึงเทคโนโลยีหรือวัตถุประสงค์ของการใช้ ความสัมพันธ์ของ local loop ในความหมายนี้รวมถึง:

  • สายไฟฟ้า
  • การเชื่อมต่อสายเคเบิลที่ใช้กับโทรทัศน์, อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์
  • สัญญาณไร้สายหรือวงท้องถิ่น (Wireless local loop, WLL): LMDS, WiMAX, GPRS, HSDPA, DECT
  • การเชื่อมต่อดาวเทียมสำหรับสัญญาณที่แผ่รังสี
  • ออปติคอลไฟเบอร์หรือบริการ Optics เช่น FiOS

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. [1] เก็บถาวร 2013-11-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, วิทยาการโทรศัพท์พื้นฐานและโครงข่าย วัชรพงษ์ ติ้งจันทร์ และ เสฎฐวุฒิ สุขุมาลวงค์ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
  2. [2][ลิงก์เสีย], เทคโนโลยี DSL, KMITL