อ.ศิริชัยนาวา 11

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อ.ศิริชัยนาวา 11 เป็นเรือประมงสัญชาติไทย ซึ่งได้รับรายงานว่าถูกโจรสลัดโซมาเลียปล้นยึดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 จนกระทั่งลูกเรือสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน[1]

การยึดเรือ[แก้]

วันที่ 2 พฤศจิกายน หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดกองทัพเรือ ได้รับแจ้งจากบริษัท ศิริชัยการประมง จำกัด ว่าเรือ อ.ศิริชัยนาวา 11 ได้ถูกโจรสลัดยึดเรือ ขณะเดินทางจากเบยาลีไปยังเอเดน ห่างจากชายฝั่งประเทศเยเมนประมาณ 15 ไมล์ โดยมีโจรสลัดคาดว่าเป็นชาวโซมาเลีย 10 คน ในจำนวนนี้ 8 คนใช้เรือไฟเบอร์เข้าโจมตีทางท้ายเรือ และยิงปืนขู่ จากนั้นจึงขึ้นเรือและบังคับให้ลูกเรือไปอยู่รวมกันและให้เรือกลับเข้าฝั่ง ส่วนอีก 2 คนแล่นเรือเร็วหายไป[2] โดยขณะที่เกิดการยึดเรือขึ้นนั้น มีลูกเรือคนหนึ่งออกอุบายว่าจะไปตรวจดูปริมาณน้ำมันก่อนจะกระโดดน้ำหนี ลูกเรือคนดังกล่าวต่อมาได้รับความช่วยเหลือจากยามฝั่งเยเมน[1] ขณะเกิดเหตุ เรือดังกล่าวอยู่ห่างจากหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดกองทัพเรือ 650 กิโลเมตร[2]

เรือตรวจการณ์ทหารเรือเยเมนได้ยิงอาวุธไปยังเรือประมงที่ระยะห่างประมาณ 1,500-1,800 หลา จำนวน 2 ชุด โดยมีการยิงตอบโต้มาจากเรือประมงเป็นระยะ หลังจากยิงปะทะกันประมาณ 10 นาที ลูกเรือได้เล่าเหตุการณ์ว่า เรือถูกยิงจากเรือไม่ทราบสัญชาติจนไฟลุกไหม้และจมลงในเวลาต่อมา[1]

การช่วยเหลือ[แก้]

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ สั่งการให้เรือหลวงปัตตานีติดตามสกัดกั้น โดยแล่นไปยังบริเวณที่คาดว่าน่าจะพบเรือในทิศทางดักหน้า ในวันที่ 3 พฤศจิกายน เวลา 7.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เรือหลวงปัตตานีมาถึงพื้นที่ดักหน้าตามแผน และส่งเฮลิคอปเตอร์ค้นหา แต่ก็ไม่พบ อ. ศิริชัยนาวา 11 หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดจึงปรับแผนไปค้นหาใกล้กับชายฝั่ง แต่พยายามไม่รุกล้ำอาณาเขตน่านน้ำโซมาเลีย[2]

หลังจากหมู่เรือได้ประเมินสถานการณ์แล้ว จึงได้ปรับแผนอีกครั้ง โดยสั่งการให้เรือหลวงปัตตานีแล่นกลับไปยังบริเวณที่เรือ อ.ศิริชัยนาวา 11 ถูกยึด ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน แล้ว ก็ได้พบคราบน้ำมันและเศษวัสดุบนผิวน้ำ หลังจากค้นหาต่อไปเป็นอาณาบริเวณ 9 ไมล์ ก็พบผู้รอดชีวิตลอยคออยู่นทะเลรวม 23 คน เป็นลูกเรือชาวไทย 7 คน ลูกเรือชาวกัมพูชา 15 คน และตำรวจเยเมน 1 นาย[2]

เรือหลวงปัตตานีได้นำผู้ประสบภัยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปส่งยังเรือหลวงสิมิลัน ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง 3 คน จึงได้นำตัวผู้ประสบภัยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเมืองซาลาลาห์ โดยทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะให้เวลาพักรักษาตัว 1-2 สัปดาห์ ซึ่งในปัจจุบัน ลูกเรือทั้งหมดปลอดภัยแล้ว[1]

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ลูกเรือชาวไทยจำนวน 7 คนได้เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เมื่อเวลา 10.45 น. ด้วยเที่ยวบิน WY 813 ของสายการบินโอมานแอร์ ลูกเรือประกอบด้วย สมศรี ลาทอง, สมชาย ผมสมหวัง, ปริญญา มุสิกา, วุฒิพงษ์ ภู่เงิน, ทวิชัย โสรเนตร, ไพรสนท์ ทองสุข และอิสระ จันโนมแซง[1]

ข้อมูลเรือ[แก้]

อ.ศิริชัยนาวา 11 มีใบอนุญาตทำการประมงในน่านน้ำเยเมน โดยมีบริษัท ศิริชัยมารีนฟิชเชอรี่ จำกัด บริษัทร่วมทุนกับเยเมน ขนาดระวางเรือ 303.95 ตันกรอส จำนวนลูกเรือ 29 คน แบ่งเป็นสัญชาติไทย 9 คน สัญชาติกัมพูชา 15 คน และสัญชาติเยเมน 5 คน นายเรือชื่อนันทวัฒน์ แสงพระจันทร์ ช่างเครื่องชื่อบุญเลี่ยม เอ็นดู ซึ่งสามารถหนีออกมาได้เป็นคนแรกโดยการออกอุบาย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท และยังมีลูกเรือสูญหายอีก 5 คน ประกอบด้วยนายเรือและลูกเรือชาวเยเมนอีก 4 คน คาดว่าทั้งหมดน่าจะเสียชีวิตแล้ว[1]

อ้างอิง[แก้]