หญ้าเจ้าชู้
หญ้าเจ้าชู้ | |
---|---|
![]() | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ ![]() | |
อาณาจักร: | พืช Plantae |
เคลด: | พืชมีท่อลำเลียง Tracheophyta |
เคลด: | พืชดอก Angiosperms |
เคลด: | พืชใบเลี้ยงเดี่ยว Monocots |
เคลด: | Commelinids Commelinids |
อันดับ: | อันดับหญ้า |
วงศ์: | หญ้า |
วงศ์ย่อย: | Panicoideae Panicoideae |
สกุล: | Chrysopogon (Retz.) Trin. |
สปีชีส์: | Chrysopogon aciculatus |
ชื่อทวินาม | |
Chrysopogon aciculatus (Retz.) Trin. | |
ชื่อพ้อง | |
Andropogon aciculatus |
หญ้าเจ้าชู้ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Chrysopogon aciculatus) เป็นไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งในวงศ์หญ้า มีหัวและเหง้าแผ่กระจายตามหน้าดิน ดอกเป็นช่อ รูปกลมเรียวคล้ายเมล็ดข้าว มีหนามแหลม สามารถปักติดเสื้อผ้าและผิวหนัง แกะออกจากเสื้อผ้ายากมาก จึงถูกเรียกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้[1]
ชื่อเรียกอื่น
[แก้]หญ้าเจ้าชู้มีชื่อเรียกที่ต่างกันในแต่ละท้องถิ่น[1] ดังนี้
- ภาคเหนือ – หญ้ากร่อน หญ้ากระเตรย หญ้าก่อน
- ภาคใต้ – หญ้าขี้ครอก หญ้าขี้เตรย
- ภาคกลาง – หญ้านกคุ่ม
- จังหวัดตราด – หญ้าน้ำลึก
- ภาคอีสาน – หญ้าหน่อง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
[แก้]
หญ้าเจ้าชู้เป็นไม้ล้มลุกจำพวกหญ้า อายุหลายปี ลำต้นทอดนอนไปตามพื้นดินได้ไกล ตามลำต้นมีกาบใบแก่หุ้มอยู่ ลำต้นตั้งตรง สูง 15–25 เซนติเมตร ไม่ค่อยแตกแขนง ใบมักจะมีมากที่โคนต้น กาบใบยาว 1–3 เซนติเมตร กาบอันสุดท้ายยาวถึง 6 เซนติเมตร หุ้มรอบลำต้น มีลายตามยาว บางทีมีสีม่วง มีขนยาวนุ่มประปรายที่รอยต่อระหว่างกาบใบและตัวใบ ตามขอบใบตรงด้านในมีขนหนาแน่น ตัวใบ กว้าง 3–5 มิลลิเมตร ยาว 2–8 เซนติเมตร ใบบนสุดลดรูปลงเหลือขนาดเล็กมาก ขอบใบสากคาย ขอบจัก แหลมห่าง ๆ บริเวณโคนใบเป็นตุ่ม ๆ และมีขน เนื้อใบบาง เป็นมัน
หญ้าเจ้าชู้ออกดอกที่ยอดเป็นช่อกระจาย ยาว 3–6 เซนติเมตร แข็ง ตั้งตรง สีม่วงแกมแดง ช่อดอกย่อยติดกันเป็นกระจุกที่ปลายแขนงช่อ กระจุกละ 3 ช่อ แต่มีเพียงดอกเดียวเท่านั้นที่เป็นดอกสมบูรณ์เพศ และไม่มีก้านดอก โคนดอกมีเซลล์แข็ง ๆ ส่วนอีกสองดอกเป็นดอกเพศผู้ มีก้านดอก ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร มีขน ช่อดอกย่อยที่ ไม่มีก้าน ยาว 3–4 มิลลิเมตร กาบช่อดอกย่อยอันล่างรูปใบหอก หลังแบน มีเส้น 2 เส้น ปลายแยกเป็น 2 ยอดแหลม ตามขอบใกล้ปลายมีขนสาก กาบช่อดอกย่อยอันบน ยาว 2.5–3.5 มิลลิเมตร ลักษณะคล้ายท้องเรือ กาบล่างของดอก (sterile lemma) ยาว 2.5–3 มิลลิเมตร รูปใบหอก ปลายแหลม บางใส ขอบมีขน ส่วนกาบล่างอีกอันหนึ่ง (fertile lemma) ยาว 2.5–3 มิลลิเมตร บางใส แคบ ปลายมีหนามแหลม ยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร กาบบนของดอก บางใส ปลายแหลม ยาว 1.6 มิลลิเมตร อับเรณูยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร สีส้ม ปลายเกสรเพศเมียมี 2 อัน เห็นเด่นซัดยื่นออกมาจากกลางช่อดอกย่อย ยาว 1–1.5 มิลลิเมตร มีขนยาวละเอียดเป็นมัน เป็นพู่คล้ายขนนก[2]
สรรพคุณทางสมุนไพร
[แก้]ส่วนต่าง ๆ ของหญ้าเจ้าชู้มีสรรพคุณทางสมุนไพรดังต่อไปนี้[2]
- ราก : แก้ท้องเสีย
- ต้น : เป็นยาขับปัสสาวะและถอนพิษบางชนิด
- เถ้า : แก้ปวดข้อ
- เมล็ด : ใช้ขับพยาธิตัวกลม
สมัยก่อน เวลาสตรีมีอาการไข้ทับระดู หรือเกิดอาการไข้ขณะมีประจำเดือน จะอันตรายมาก อาจถึงชีวิตได้ ซึ่งหมอยาแผนไทยในยุคสมัยนั้นมีวิธีรักษาหรือแก้อาการไข้ทับระดูของสตรีได้ โดยให้เอาหญ้าเจ้าชู้แบบสดทั้งต้นรวมราก หรือแบบแห้งมัดเป็นกำประมาณ 1 กำมือใหญ่ ๆ แล้วผูกเป็น 3 เปลาะ ใส่น้ำให้ท่วมยาต้มให้เดือด ดื่มครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ จะช่วยให้อาการไข้ทับระดูหายได้
นอกจากจะช่วยแก้ไข้ทับระดูแล้ว หญ้าเจ้าชู้แบบสดกะจำนวนตามต้องการ ต้มกับน้ำจนเดือดแล้วดื่มแบบจิบต่างน้ำชาทั้งวัน ยังช่วยเป็นยาล้างไต ทำให้ไตดี ช่วยป้องกันการเป็นนิ่ว และ ขับนิ่วได้อีกด้วย สามารถต้มดื่มได้เรื่อย ๆ ไม่มีอันตรายอะไร[3]
การกระจายพันธุ์
[แก้]หญ้าเจ้าชู้กระจายพันธุ์ด้วยเมล็ด ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปได้ โดยมี ลม น้ำ คน และสัตว์เป็นเครื่องช่วยทำให้กระจายไปได้ไกล ๆ และรวดเร็วเช่น เมล็ดวัชพืช อาจจะติดไปกับเสื้อผ้าซึ้งช่วยในการแพร่พันธุ์ไปได้ในระยะไกล ๆ[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 สมุนไพรแก้ไข้ทับระดู, สืบค้นเดือนกันยายน 2558
- ↑ 2.0 2.1 สรรพคุณของ หญ้าเจ้าชู้ เก็บถาวร 2017-05-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน วิชาเกษตร ปลูกผัก ทำไร่ ไถนา, สืบค้นเดือนกันยายน 2558
- ↑ http://yachaochu.blogspot.com/
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-09-30.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]
