ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกหว้า"
ล replaceViaLink: คอมมอนส์ |
ล r2.7.2+) (Robot: Modifying id:Kuau Raja to id:Kuau raja |
||
บรรทัด 52: | บรรทัด 52: | ||
[[fr:Argus géant]] |
[[fr:Argus géant]] |
||
[[hu:Argus-páva]] |
[[hu:Argus-páva]] |
||
[[id:Kuau |
[[id:Kuau raja]] |
||
[[it:Argusianus argus]] |
[[it:Argusianus argus]] |
||
[[ja:セイラン]] |
[[ja:セイラン]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:16, 14 ธันวาคม 2555
นกหว้า | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Galliformes |
วงศ์: | Phasianidae |
สกุล: | Argusianus |
สปีชีส์: | A. argus |
ชื่อทวินาม | |
Argusianus argus Linnaeus, 1766 |
นกหว้า (อังกฤษ: Great Argus) เป็นไก่ฟ้าขนาดใหญ่ขนสีน้ำตาล หัวและคอเป็นสีฟ้า พบในป่าของเกาะบอร์เนียว, เกาะสุมาตรา และ คาบสมุทรมลายูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชื่อวิทยาศาสตร์ของนกหว้าตั้งโดยคาโรลัส ลินเนียสซึ่งโยงถึงจุดคล้ายตาบนปีกจำนวนมาก โดยตั้งตามชื่ออาร์กัส ยักษ์ร้อยตาในตำนานเทพเจ้ากรีก
เพราะการสูญเสียที่อยู่และถูกล่าเป็นอาหาร ไก่ฟ้าหางลายขวางจึงจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกคุกคามความเสี่ยงต่ำ (NT) ในบัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และจัดอยู่ในบัญชีที่ 2 ของ CITES
ลักษณะ
เป็นนกที่มีขนาดใหญ่ ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเด่นชัด สีขนตามตัวส่วนใหญ่ออกเป็นสีน้ำตาล ไม่มีเดือยที่ขา ตัวผู้มีขนาดตัวยาว 170-200 ซม. ขนาดของตัวเมียยาว 74-76 ซม. มีส่วนของหัวและลำคอเป็นหนังเกลี้ยงสีฟ้าคราม แต่มีแถบขนแคบๆ สีดำ พาดตามยาวจากเหนือจะงอยปากไปตลอดแนวสันคด แถบขนบนหัวของนกหว้าตัวผู้ จะมีลักษณะเป็นแผงขนหนาสีดำเข้มกว่าของตัวเมีย และตรงส่วนท้ายของกระหม่อม แผงขนจะยาวกว่าส่วนอื่น มีลักษณะเป็นขนหงอนตั้งเป็นสันขวานขึ้นมา ไม่เป็นพู่หงอนอย่างไก่ฟ้าและนกยูง แต่นกหว้าตัวเมียจะมีแถบขนบริเวณท้ายทอยลงมาเป็นเส้นขนยาวไม่เป็นระเบียบ สีขนไม่ดำเข้ม และเป็นแผงขนหนาอย่างตัวผู้ นอกจากนี้นกหว้าตัวผู้ยังมีขนปีกบินและขนหางใหญ่ยาวเป็นลักษณะเฉพาะเด่นสะดุดตา ขนปีกบินชุดในมีปลายเส้นขนแผ่กว้างเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยม แถบเส้นขนด้านในมีลวดลายเป็นดอกดวงขนาดใหญ่ ขอบนอกเป็นสีน้ำตาลดำเข้ม ข้างในเป็นสีเหลือบออกเหลืองแกมน้ำตาลเรียงเป็นแถวจากโคนถึงปลายทุกอัน ดอกลายนี้ปกติจะมองไม่เห็น แต่จะเห็นได้เวลาที่นกหว้าแพนปีกออกเต็มที่ สำหรับขนหางเฉพาะขนหางคู่กลางจะมีขนาดใหญ่และยาวกว่าขนหางถัดออกไปมาก ถึงประมาณ 4 เท่าลำตัว และมีลวดลายเป็นแต้มจุดประเล็ก ขอบสีน้ำตาลเข้มตรงกลางสีขาว กระจายอยู่ทั่วไป[1] ร้องดัง “ว้าว ว้าว”
การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย
พบในป่าของเกาะบอร์เนียว, เกาะสุมาตรา และ คาบสมุทรมลายูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยพบทางภาคใต้ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ลงไปตลอดแหลมมลายู เป็นนกประจำถิ่นซึ่งค่อนข้างหายาก ชอบอาศัยอยู่ตามป่าทึบและป่าลึก ในระดับเชิงเขาจนกระทั่งถึงระดับความสูง 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล
พฤติกรรม
นกหว้าเป็นนกขี้อาย ปกติชอบอยู่โดดเดี่ยวนอกจากในฤดูผสมพันธุ์ หากินช่วงเช้าและก่อนค่ำ กินเมล็ดพืช ผลไม้ที่หล่นตามพื้นดิน แมลงและตัวหนอน เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ นกหว้าตัวผู้จะทำลานไว้สำหรับรำแพนขนปีกอวดตัวเมีย เรียกว่า “ ลานนกหว้า” ที่ลานนั้นมันจะรักษาความสะอาดอย่างดี เก็บกิ่งไม้ใบไม้ออกหมดตลอดเวลา หลังจากนั้นตัวผู้ก็จะร้องเรียกตัวเมีย เมื่อพบตัวเมีย ตัวผู้จะรำแพนขนปีกเพื่อดึงดูดใจตัวเมียก่อนผสมพันธุ์ เมื่อพ้นฤดูผสมพันธุ์แล้ว ตัวเมียจะแยกออกไปทำรังออกไข่ ตัวเมียจะสร้างรังหยาบๆ ด้วยกิ่งไม้เล็กบนพื้นดินใต้พุ่มไม้ทึบ ปูพื้นรังด้วยใบไม้ วางไข่เพียง 2 ฟองเท่านั้นโดยห่างกัน 2 วัน ไข่มีสีครีมหรือขาว ระยะฟักไข่ 26 วัน ลูกนกแรกเกิดสามารถลืมตาได้ มีขนอุยปกคลุมทั่วตัวและสามารถเดินตามแม่ไปหาอาหารได้ทันที
อ้างอิง
- BirdLife International (2004). Argusianus argus. 2006 IUCN Red List of Threatened Species. IUCN 2006. Retrieved on 11 May 2006. Database entry includes a brief justification of why this species is near threatened
แหล่งข้อมูลอื่น
- ARKive - images and movies of the Great Argus (Argusianus argus)
- BirdLife Species Factsheet
- IUCN Red List
- Red Data Book