ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปากแหว่งเพดานโหว่"
บรรทัด 47: | บรรทัด 47: | ||
== เพดานโหว่ == |
== เพดานโหว่ == |
||
'''เพดานโหว่''' เป็นภาวะที่แผ่นกระดูกของ[[กะโหลกศีรษะ]] |
'''เพดานโหว่''' เป็นภาวะที่แผ่นกระดูกของ[[กะโหลกศีรษะ]]ที่ประกอบเป็น[[เพดานแข็ง]] 2 แผ่นไม่เชื่อมกัน อาจมีช่องโหว่ของ[[เพดานอ่อน]]ได้ด้วยเช่นกัน ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปากแหว่งร่วมด้วย เพดานโหว่เกิดราว 1 ในทารกแรกเกิดมีชีพ 700 คนทั่วโลก<ref>{{cite web |url=http://www.wrongdiagnosis.com/c/cleft_palate/stats-country.htm |title=Statistics by country for cleft palate |accessdate=2007-04-24 |work=WrongDiagnosis.com }}</ref> |
||
เพดานโหว่แบ่งออกเป็นชนิดสมบูรณ์ (คือมีรอยแยกทั้งเพดานแข็งและเพดานอ่อน บางครั้งอาจมีที่ขากรรไกรด้วย) หรือชนิดไม่สมบูรณ์ (คือมีช่องอยู่ที่เพดานปาก มักเป็นที่เพดานอ่อน) ผู้ป่วยเพดานโหว่มักมี[[ลิ้นไก่]]แฉก เพดานโหว่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของการเชื่อมของ[[ส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง]] (lateral palatine processes), [[ผนังกลางจมูก]] (nasal septum), และ/หรือ[[ส่วนยื่นเพดานปากกลาง]] (median palatine processes) เพื่อเป็น[[เพดานปากทุติยภูมิ]] |
เพดานโหว่แบ่งออกเป็นชนิดสมบูรณ์ (คือมีรอยแยกทั้งเพดานแข็งและเพดานอ่อน บางครั้งอาจมีที่ขากรรไกรด้วย) หรือชนิดไม่สมบูรณ์ (คือมีช่องอยู่ที่เพดานปาก มักเป็นที่เพดานอ่อน) ผู้ป่วยเพดานโหว่มักมี[[ลิ้นไก่]]แฉก เพดานโหว่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของการเชื่อมของ[[ส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง]] (lateral palatine processes) , [[ผนังกลางจมูก]] (nasal septum) , และ/หรือ[[ส่วนยื่นเพดานปากกลาง]] (median palatine processes) เพื่อเป็น[[เพดานปากทุติยภูมิ]] (secondary palate) |
||
ช่องที่เพดานปากที่เกิดจากเพดานโหว่ทำให้ช่องปากเชื่อมโดยตรงกับ[[โพรงจมูก]] |
|||
The hole in the roof of the mouth caused by a cleft connects the mouth directly to the [[nasal cavity]]. |
|||
ภาพต่อจากนี้แสดงเพดานปาก โดยด้านบนของภาพคือจมูก ริมฝีปากแสดงด้วยสีชมพู โดยภาพดังกล่าวจะไม่แสดงฟันเพื่อให้เห็นโครงสร้างเพดานโหว่ชัดเจน |
|||
Note: the next images show the roof of the mouth. The top shows the nose, the lips are colored pink. For clarity the images depict a toothless infant. |
|||
<center> |
<center> |
||
<gallery> |
<gallery> |
||
ไฟล์:Cleftpalate3.png|Incomplete cleft palate |
ไฟล์:Cleftpalate3.png|เพดานโหว่ไม่สมบูรณ์ (Incomplete cleft palate) |
||
ไฟล์:Cleftpalate1.png|Unilateral complete lip and palate |
ไฟล์:Cleftpalate1.png|ปากแหว่งเพดานโหว่ข้างเดียวสมบูรณ์ (Unilateral complete lip and palate) |
||
ไฟล์:Cleftpalate2.png|Bilateral complete lip and palate |
ไฟล์:Cleftpalate2.png|ปากแหว่งเพดานโหว่สองข้างสมบูรณ์ (Bilateral complete lip and palate) |
||
</gallery> |
</gallery> |
||
</center> |
</center> |
||
ผลจากการมีช่องเชื่อมระหว่างช่องปากและโพรงจมูกคือ '''เพดานอ่อนและคอหอยบกพร่อง''' (velopharyngeal insufficiency, velopharyngeal inadequacy; VPI) ช่องดังกล่าวทำให้อากาศรั่วไปยังโพรงจมูกทำให้เมื่อพูดจะเกิดเสียงก้องขึ้นจมูก และเกิด [[nasal emission]] (อากาศจากปากผ่านช่องเพดานปากระหว่างการออกเสียงพยัญชนะที่ต้องอาศัยความดันในปาก) <ref name="Sloan">{{cite journal |author=Sloan GM |title=Posterior pharyngeal flap and sphincter pharyngoplasty: the state of the art |journal=Cleft Palate Craniofac. J. |volume=37 |issue=2 |pages=112–22 |year=2000 |pmid=10749049 |doi=10.1597/1545-1569 (2000) 037<0112:PPFASP>2.3.CO;2}}</ref> ผลตามมาจากอาการดังกล่าวทำให้ออกเสียงไม่ชัด เช่น เสียงเพี้ยน และต้องออกเสียงแบบอื่นชดเชย เช่น ใช้[[เสียงกัก เส้นเสียง]]หรือ[[เสียงเสียดแทรก]]หลังโพรงจมูก<ref>Hill, J.S. (2001). Velopharyngeal insufficiency: An update on diagnostic and surgical techniques. Current Opinion in Otolaryngology and Head and Neck Surgery, 9, 365-368.</ref> ทางเลือกในการรักษาคือ[[การบำบัดวจีเภท]] (speech therapy) , การใช้[[กายอุปกรณ์|อุปกรณ์เทียม]], การเสริมผนังหลังคอหอย, การเพิ่มความยาวเพดานปาก และการผ่าตัด<ref name="Sloan" /> |
|||
'''เพดานโหว่ใต้ชั้นเยื่อเมือก''' (Submucous cleft palate; SMCP) อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีลักษณะเพดานโหว่ซ่อนอยู่ในส่วนเพดานอ่อน ร่วมกับมีอาการสามอย่างได้แก่ลิ้นไก่ 2 แฉก, มีรอยบากที่เพดานแข็งและโซนา เพลลูซิดา (zona pellucida) |
|||
'''Submucous cleft palate''' (SMCP) can also occur, which is an occult cleft of the soft palate with a classic clinical triad of bifid uvula, notching of the hard palate, and zona pellucida. |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:02, 5 เมษายน 2552
ปากแหว่งเพดานโหว่ (Cleft lip and palate) | |
---|---|
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | Q35-Q37 |
ICD-9 | 749 |
DiseasesDB | 29604 29414 |
eMedicine | ped/2679 |
ปากแหว่ง (อังกฤษ: cleft lip; ละติน: cheiloschisis) และเพดานโหว่ (อังกฤษ: cleft palate; ละติน: palatoschisis) หรือมักเรียกรวมกันว่าปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดของการเจริญของใบหน้าระหว่างการตั้งครรภ์ การรักษาผู้ป่วยที่พิการปากแหว่งเพดานโหว่ทำโดยการผ่าตัดทันทีหลังคลอด อัตราผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่เกิดราว 1 ในทารกแรกเกิด 600-800 คน
ปากแหว่ง
ถ้ารอยแยกนั้นไม่ถึงส่วนเพดานปาก จะเรียกความผิดปกตินี้ว่า ปากแหว่ง หากเกิดที่ด้านบนของริมฝีปากในลักษณะช่องว่างเล็กๆ หรือเว้าเล็กน้อยเรียกว่า ปากแหว่งไม่สมบูรณ์ หรือปากแหว่งบางส่วน (partial or incomplete cleft) แต่หากรอยแยกนี้ต่อเนื่องไปถึงจมูกเรียกว่า ปากแหว่งสมบูรณ์ (complete cleft) ปากแหว่งอาจเกิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ปากแหว่งมีสาเหตุจากการเชื่อมของขากรรไกรบนและส่วนยื่นจมูกด้านใกล้กลาง (medial nasal processes) เพื่อเป็นเพดานปากปฐมภูมิ (primary palate) ไม่สมบูรณ์
-
ปากแหว่งข้างเดียวไม่สมบูรณ์ (Unilateral incomplete)
-
ปากแหว่งข้างเดียวสมบูรณ์ (Unilateral complete)
-
ปากแหว่งสองข้างสมบูรณ์ (Bilateral complete)
ปากแหว่งรูปแบบหนึ่งเรียกว่า microform cleft ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่า มีลักษณะเป็นรอยเล็กๆ บนริมฝีปากหรือมีลักษณะคล้ายแผลเป็นจากริมฝีปากไปยังจมูก ในบางรายกล้ามเนื้อหูรูดปากใต้แผลเป็นนั้นอาจผิดปกติซึ่งต้องได้รับการผ่าตัด ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประเมินความรุนแรงจากแพทย์ด้านใบหน้าและปากทันที
-
เด็กชายอายุ 3 เดือนปากแหว่งข้างเดียวไม่สมบูรณ์ ก่อนได้รับการผ่าตัด
-
เด็กชายคนเดียวกัน 1 เดือนหลังจากผ่าตัด
-
เด็กชายคนเดียวกันอายุ 1 ปี 5 เดือน สังเกตว่าแผลเป็นจะดูจางลงตามอายุ
-
เด็กหญิงอายุ 6 เดือนปากแหว่งข้างเดียวสมบูรณ์ ก่อนได้รับการผ่าตัด
-
เด็กหญิงคนเดียวกัน 1 เดือนหลังจากผ่าตัด
-
เด็กหญิงคนเดียวกัน อายุ 5 ปี 4 เดือน สังเกตว่าแผลเป็นจะดูจางลงตามอายุ
เพดานโหว่
เพดานโหว่ เป็นภาวะที่แผ่นกระดูกของกะโหลกศีรษะที่ประกอบเป็นเพดานแข็ง 2 แผ่นไม่เชื่อมกัน อาจมีช่องโหว่ของเพดานอ่อนได้ด้วยเช่นกัน ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปากแหว่งร่วมด้วย เพดานโหว่เกิดราว 1 ในทารกแรกเกิดมีชีพ 700 คนทั่วโลก[1]
เพดานโหว่แบ่งออกเป็นชนิดสมบูรณ์ (คือมีรอยแยกทั้งเพดานแข็งและเพดานอ่อน บางครั้งอาจมีที่ขากรรไกรด้วย) หรือชนิดไม่สมบูรณ์ (คือมีช่องอยู่ที่เพดานปาก มักเป็นที่เพดานอ่อน) ผู้ป่วยเพดานโหว่มักมีลิ้นไก่แฉก เพดานโหว่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของการเชื่อมของส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง (lateral palatine processes) , ผนังกลางจมูก (nasal septum) , และ/หรือส่วนยื่นเพดานปากกลาง (median palatine processes) เพื่อเป็นเพดานปากทุติยภูมิ (secondary palate)
ช่องที่เพดานปากที่เกิดจากเพดานโหว่ทำให้ช่องปากเชื่อมโดยตรงกับโพรงจมูก
ภาพต่อจากนี้แสดงเพดานปาก โดยด้านบนของภาพคือจมูก ริมฝีปากแสดงด้วยสีชมพู โดยภาพดังกล่าวจะไม่แสดงฟันเพื่อให้เห็นโครงสร้างเพดานโหว่ชัดเจน
-
เพดานโหว่ไม่สมบูรณ์ (Incomplete cleft palate)
-
ปากแหว่งเพดานโหว่ข้างเดียวสมบูรณ์ (Unilateral complete lip and palate)
-
ปากแหว่งเพดานโหว่สองข้างสมบูรณ์ (Bilateral complete lip and palate)
ผลจากการมีช่องเชื่อมระหว่างช่องปากและโพรงจมูกคือ เพดานอ่อนและคอหอยบกพร่อง (velopharyngeal insufficiency, velopharyngeal inadequacy; VPI) ช่องดังกล่าวทำให้อากาศรั่วไปยังโพรงจมูกทำให้เมื่อพูดจะเกิดเสียงก้องขึ้นจมูก และเกิด nasal emission (อากาศจากปากผ่านช่องเพดานปากระหว่างการออกเสียงพยัญชนะที่ต้องอาศัยความดันในปาก) [2] ผลตามมาจากอาการดังกล่าวทำให้ออกเสียงไม่ชัด เช่น เสียงเพี้ยน และต้องออกเสียงแบบอื่นชดเชย เช่น ใช้เสียงกัก เส้นเสียงหรือเสียงเสียดแทรกหลังโพรงจมูก[3] ทางเลือกในการรักษาคือการบำบัดวจีเภท (speech therapy) , การใช้อุปกรณ์เทียม, การเสริมผนังหลังคอหอย, การเพิ่มความยาวเพดานปาก และการผ่าตัด[2]
เพดานโหว่ใต้ชั้นเยื่อเมือก (Submucous cleft palate; SMCP) อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีลักษณะเพดานโหว่ซ่อนอยู่ในส่วนเพดานอ่อน ร่วมกับมีอาการสามอย่างได้แก่ลิ้นไก่ 2 แฉก, มีรอยบากที่เพดานแข็งและโซนา เพลลูซิดา (zona pellucida)
อ้างอิง
- ↑ "Statistics by country for cleft palate". WrongDiagnosis.com. สืบค้นเมื่อ 2007-04-24.
- ↑ 2.0 2.1 Sloan GM (2000). "Posterior pharyngeal flap and sphincter pharyngoplasty: the state of the art". Cleft Palate Craniofac. J. 37 (2): 112–22. doi:10.1597/1545-1569 (2000) 037<0112:PPFASP>2.3.CO;2. PMID 10749049.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่า|doi=
(help) - ↑ Hill, J.S. (2001). Velopharyngeal insufficiency: An update on diagnostic and surgical techniques. Current Opinion in Otolaryngology and Head and Neck Surgery, 9, 365-368.