ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาชูปิกชู"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 16: | บรรทัด 16: | ||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
มาชู ปิกชู (Machu Picchu) เป็นซากเมืองโบราณของอารยธรรมอินคา อดีตนั้นเมืองแห่งนี้เข้าถึงได้ยาก มีความเร้นลับและมหัศจรรย์ เพราะตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันเป็นภูเขาส่วนหนึ่งในแนวเทือกเขาแอนดีสที่สูงใหญ่ที่สุดในโลก มาชู ปิกชู สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 เคยเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคที่อาณาจักรอินคาอยู่ในยุคเฟื่องฟู แต่เมื่ออาณาจักรอินคาต้องล่มสลายด้วยการขยายอำนาจของสเปน มาชู ปิกชู ก็ถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเมืองสาบสูญไปในช่วงศตวรรษที่ 16 และได้กลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากการค้นพบโดย Hiram Bingham ในปี ค.ศ. 1911 |
|||
มาชูปิกชู คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1450<ref name=":0">{{Cite book|url=https://books.google.com/?id=bBHrWwtr_pYC&pg=PR7&dq=history+of+machu+picchu#v=onepage&q=history%20of%20machu%20picchu&f=false|title=Machu Picchu: Unveiling the Mystery of the Incas|last=Burger|first=Richard L.|last2=Salazar|first2=Lucy C.|date=2004|publisher=Yale University Press|isbn=0300097638|language=en}}</ref> โดย[[จักรพรรดิปาชากูตี]]ของชาวอินคา<ref>{{cite web|url=http://whc.unesco.org/en/list/274|title=Historic Sanctuary of Machu Picchu|publisher=UNESCO World Heritage Centre|accessdate=2012-05-06}}</ref> มาชูปิกชู ถูกปล่อยทิ้งไว้นับร้อยปี เพราะชาวสเปนได้เข้ามาล่าอาณานิคม และฆ่าชาวเปรูและชาวอินคา เมืองอินคาเลยถูกปล่อยร้างไว้<ref name=":0" /> แต่[[ไฮแรม บิงแฮม]]ค้นพบเมืองร้างแห่งนี้เมื่อปีคศ. 1911 แล้วแพร่ข่าวไปทั่วโลก |
|||
===การบูชายันมนุษย์และความลึกลับ=== |
===การบูชายันมนุษย์และความลึกลับ=== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:29, 18 กรกฎาคม 2563
แหล่งอนุรักษ์ประวัติศาสตร์มาชูปิกชู * | |
---|---|
![]() | |
![]() มาชูปิกชู | |
ประเทศ | ![]() |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | (i), (iii), (vii), (ix) |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2526 (คณะกรรมการสมัยที่ 7) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
มาชูปิกชู (สเปน: Machu Picchu), มาจูปิกจู (เกชัว: Machu Pikchu) หรือนิยมเรียกอีกชื่อว่า เมืองสาบสูญแห่งอินคา เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู ที่ความสูงประมาณ 2,430 เมตร[1][2] อารยธรรมแห่งนี้ได้ถูกลืมโดยคนภายนอกจนกระทั่งมีการค้นพบอีกครั้งโดยนักโบราณคดีที่ชื่อ ไฮแรม บิงแฮมเมื่อ พ.ศ. 2468 มาชูปิกชูเป็นหลักฐานที่สำคัญของจักรวรรดิอินคา ในปี พ.ศ. 2526 องค์กรยูเนสโกได้กำหนดมาชูปิกชูให้เป็นมรดกโลก โดยทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนนิยมไปศึกษาประวัติศาสตร์
7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 มาชูปิกชูได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ[3]
ประวัติ
มาชู ปิกชู (Machu Picchu) เป็นซากเมืองโบราณของอารยธรรมอินคา อดีตนั้นเมืองแห่งนี้เข้าถึงได้ยาก มีความเร้นลับและมหัศจรรย์ เพราะตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันเป็นภูเขาส่วนหนึ่งในแนวเทือกเขาแอนดีสที่สูงใหญ่ที่สุดในโลก มาชู ปิกชู สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 เคยเป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคที่อาณาจักรอินคาอยู่ในยุคเฟื่องฟู แต่เมื่ออาณาจักรอินคาต้องล่มสลายด้วยการขยายอำนาจของสเปน มาชู ปิกชู ก็ถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเมืองสาบสูญไปในช่วงศตวรรษที่ 16 และได้กลับกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากการค้นพบโดย Hiram Bingham ในปี ค.ศ. 1911
การบูชายันมนุษย์และความลึกลับ
มีแหล่งข้อมูลน้อยนักที่กล่าวถึงการบูชายันมนุษย์ที่มาชูปิกชู แม้ว่าผู้ถูกบูชายันจะไม่เคยถูกฝังอย่างเป็นพิธีแต่กระดูกของพวกเขาก็ได้ถูกย่อยสล่ายไปกับธาตุ[4]: 115 อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานว่าผู้ติดตามต้องถูกบูชายันเพื่อติดตามขุนนางผู้ล่วงลับไปยั้งชีวิตหลังความตาย[4]: 107, 119 การบูชายันสัตว์ ของเหลวและดินที่แท่นบูชาคอนดอล์จะพบเห็นได้บ่อยกว่ามาก ประเพณีนี้ได้รับการยอมรับจากสมาชิกของศาสนายุคใหม่แอนเดียน[5]: 263
ที่ตั้ง
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/dd/Machu_Picchu_Locn.png/250px-Machu_Picchu_Locn.png)
มาชูปิกชูตั้งอยู่ห่างจากเมืองกุสโกตกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตรบนยอดของทิวเขามาชูปิกชู ที่ระดับ 2,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล สถานที่แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางที่มีความสำคัญยิ่งทางโบราณคดีของอเมริกาใต้ และเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวเกือบทุกคนที่มาเยือนประเทศเปรู
จากยอดเขา ณ หน้าผามาชูปิกชู เป็นหน้าผาที่มีลักษณะดิ่งชันสูงถึง 600 เมตรจากฐานที่เป็นแม่น้ำคือ แม่น้ำอารูบัมบา ที่ตั้งของตัวเมืองนับเป็นความลับทางการทหารก็เนื่องจากการเป็นหน้าผาสูงชันที่มีอันตรายที่เป็นปราการป้องกันธรรมชาติอันยอดเยี่ยมนั่นเอง
ในปี พ.ศ. 2560 มีผู้คนประมาณ 1,411,279 คน ไปท่องเที่ยวที่มาชูปิกชู[6] และยูเนสโกได้ส่งข้อความสารแสดงถึงความเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่ไปเป็นจำนวนมาก แต่ทางผู้มีอำนาจของทางเปรูบอกว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ถึงอย่างไรการคัดค้านนั้นทำให้มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ที่ไปเที่ยวชมและจำกัดจำนวนผู้เช้าชม และได้มีการเสนอให้ติดตั้งรถกระเช้า[7] แต่ข้อเสนอนี้ถูกปฏิเสธอยู่ตลอดและดูไม่มีทางจะเป็นไปได้ทุกที[8]
ทัศนียภาพ
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/dc/95_-_Machu_Picchu_-_Juin_2009.jpg/800px-95_-_Machu_Picchu_-_Juin_2009.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a8/99_-_Machu_Picchu_-_Juin_2009.jpg/800px-99_-_Machu_Picchu_-_Juin_2009.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/d1/Machu_Picchu%2C_Per%C3%BA%2C_2015-07-30%2C_DD_61-64_PAN.jpg/800px-Machu_Picchu%2C_Per%C3%BA%2C_2015-07-30%2C_DD_61-64_PAN.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e0/Machu_Picchu_Up-close_Panorama.jpg/800px-Machu_Picchu_Up-close_Panorama.jpg)
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/ff/Peru_-_Machu_Picchu_038_-_lush%2C_rugged_valley_%287367125008%29.jpg/800px-Peru_-_Machu_Picchu_038_-_lush%2C_rugged_valley_%287367125008%29.jpg)
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ "UNESCO advisory body evaluation" (PDF).
- ↑ UNESCO World Heritage Centre.
- ↑ "Home | Creating Global Memory". New7Wonders of the World (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2017-10-25.
- ↑ 4.0 4.1 Gaither, Catherine; Jonathan Kent; Victor Sanchez; Teresa Tham (June 2008). "Mortuary Practices and Human Sacrifice in the Middle Chao Valley of Peru: Their Interpretation in the Context of Andean Mortuary Patterning". Latin American Antiquity. 19 (2): 107, 115, 119.
- ↑ Hill, Michael (2010). "Myth, Globalization, and Mestizaje in New Age Andean Religion: The Intic Churincuna (Children of the Sun) of Urubamba, Peru". Ethnohistory. 57 (2): 263, 273–275. doi:10.1215/00141801-2009-063.
- ↑ "Cusco: Llegada de visitantes al Santuario Histórico de Machu Picchu". MINCETUR. December 2017. สืบค้นเมื่อ 22 March 2018.
- ↑ "Bridge stirs the waters in Machu Picchu". BBC News Online. 2007-02-01. สืบค้นเมื่อ 2016-06-07.
- ↑ Global Sacred Lands: Machu Picchu Sacredland.org, Sacred Land Film Project.
บรรณานุกรม
- Bingham, Hiram. 1979 [1930]. Machu Picchu a Citadel of the Incas. Hacker Art Books, New York.
- Burger, Richard and Lucy Salazar (eds.). 2004. Machu Picchu: Unveiling the Mystery of the Incas. Yale University Press, New Haven.
- Frost, Peter. 1995. Machu Picchu Historical Sanctuary. Nueves Imágines, Lima.
- Reinhard, Johan. 2002. Machu Picchu: The Sacred Center. Lima: Instituto Machu Picchu (2nd ed.).
- Wright, Kenneth and Alfredo Valencia. 2000. Machu Picchu: A Civil Engineering Marvel. ASCE Press, Reston.
- 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 12 ก.ค. 50 - 18:48 นิติภูมิ นวรัตน์ นสพ. ไทยรัฐ