ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มกราคม"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
ตรุษจีน คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า " ฉิวอิก" หรือบางคนเรียกวันถือหมายถึงวันแรกของปี (ก่อนฉิวอีก2วันจะเปนวันจ่ายคือการเตรียมซื้อหาอาหารสิ่งของที่ใช้ในการไหว้เจ้าและเทพต่างๆ ..บางคนเคร่งครัดขนาดเอาจานชามที่สำหรับให้เทพเจ้ามาล้างทำความสะอาดกันและเปนวันทีทุกคนต้องทำความสะอาดบ้านเรือนร้านค้าของตนเพราะตลอดปีจะยุ่งกับการทำธุรกิจจนไม่มีเวลาทำความสะอาดกัน ละถือกันว่าจะต้องใช้ไม้กวาดกวาดเข้าบ้านเท่านั้นห้ามปัดออกไปนอกบ้านเพราะเท่ากับปัดโชคลาภออกจากบ้านหรือร้านค้าตัวเองและวันก่อนวันตรุษจีน1วันคือ"วันไหว้" เทพเจ้าที่นิยมไหว้กันคือพระแม่กวนอิม และพระยูไลซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าปางบุคคลิกลักษณะแบบคนจีนนั่นเอง และสิ่งที่ต้องไหว้ต่อมาคือบรรพบุรุษของตัวเองเปนคนที่เสียชีวิตไปแล้วไว้ว่าจะเปนปู่ย่าตายาย ,พี่ป้าน้าอา,ลูกหลานเหลน ที่ล่วงลับไปแล้ว วิธีไหว้นั่นการไหว้เทพเจ้าจะไหว้ตั้งแต่เช้าตรู่ ถึง10โมงครึ่ง,ส่วนไหว้บรรพบุรุษจะไหว้11โมงเช้าไปถึงบ่าย1(พอไหว้เสร็จจะมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองทีลูกหลานพับให้เปนคล้ายเงินทองสวยงาม จะเผาให้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ นิยมเผากันในถังใหญ่หรือกะละมังใหญ่และสูงเพื่อกันลมตีกระดาษที่กำลังลุกไหม้นี้ จากนั่นก็จะเอาอาหารไหว้ซึ่งมีเปิดไก่,หมูนึ่ง,ปลา มาสับหันกินกันในหมู่ญาติพี่น้อง เพราะใน1ปีจะมีวันนี้ที่เปนวันรวมญาติทุกคนจะกลับมาเพื่อไหว้บรรพบุรุษของตัวเอง>วันต่อมาคือฉิวอิกจะนับตั้ง5ทุ่มหรือ23.00น.ของคืนวันไหว้( 5ทุ่มคือยามแรกของวันตรุษจีนทีเรียกว่า"จื่อซี่"คือย่างเข้าวันตรุษจีน ช่วงเวลนี้นิยมตื่นลุกขึ้นมาไหว้เทพแห่งโชคลาภคือ "เทพไฉซิงเอี้ย"จะต้องจัดไหว้กันนอกบ้านเท่านั่นคือหน้าบ้านและหันไปตามทิศที่เทพจะเสด็จลงทิศไหนถึงจะได้รับโชคลาภ (รู้ทิศจากการซินแซต่างๆจะบอกตามข่าวต่างๆแต่ถ้าไม่รู้ก็ให้ไหว้ช่วงยามแรกคือ5ทุ่มถึงตี1ของเช้าตรู่ที่จะก้าวสู่วันตรุษจีนคือฉิวอิกนั่นเอง) วันตรุษจีนหรือ"ฉิวอิก"ถือเปนวันเที่ยวที่ทุกคนที่ทำงานมาตลอดปีจะได้พักผ่อนพาลูกหลานไปเที่ยวยังที่ต่างๆและนิยมพาไปไหว้พระตามที่ต่างๆตามต่างจังหวัดใกล้ๆและเปนวันที่เด็กๆชอบมากเพราะเปนวันที่จะได้รับ" แตะเอีย" หรือเรียกว่า"อั่งเปา"คือซองแดงที่ข้างในใส่เงินไว้ถือตามหลักที่จะต้องเปนเลขคู่เช่น200,400,800,2000,4000,8000 ลูกน้องทีช่วยงานกันมาตลอดปีก็จะได้แตะเอียนี้เช่นกันส่วนใหญ่ก็จะได้ 1เท่าของเงินเดือน ในวันฉิวอิกหรือวันตรุษจีนนี้มีขอห้ามทีนิยมทำกันมานานคือกห้มจับของมีคมเช่นกรรไกรหรือมีดหรือเข็ม เพราะจะหมายถึงการตัดโชคลาภที่ตัวเองขอพรจากเทพเจ้าต่างๆที่เพิ่งไหว้ไป,บางคนถือมากขนาดห้ามสระผม ห้ามพูดจาไม่ดีต่อกันห้ามพูดหยาบคายด่าท่อกัน ให้ทำแต่สิ่งดีๆต่อกันเพื่อจะได้ดีตลอดทั้งปี (ในคนจีนทีหัวโบราณหน่อยวันตรุษจีนจะนำส้ม4ลูกอาจห่อด้วยผ้ามัดไว้หรือปัจจุบันจะใส่ตะกร้าน่ารักไปกราบไหว้ผู้ใหญ่เพื่อขอพรและได้แตะเอียกลับมา พร้อมกับผู้ใหญ่ก็จะให้ส้ม4ลูกที่เปนของผู้ใหญ่คนนั่นกลับมาให้เราเพื่อให้เราใช้ไปกราบไหว้คนอื่นๆต่อไป (การแตะเอียคนที่ทำงานมีเงินเดือนมีรายได้จะเปนผู้ให้แก่ผู้น้อย เด็กจะไม่ให้ผู้ที่โตกว่า) ของที่นิยมใช้ไหว้เทพเจ้าคือส้มหรือพ้องชื่อในภาษาจีนว่า"ไต่กิก"ซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ การไหว้สิ่งต่างๆทีความหมายมากมายคงกล่าวกันไม่หมด แต่สิ่งที่นิยมไหว้คือส้ม,กล้วย,องุ่น,ส้มโอ,เมล่อน,แตนตาลูป,สัปรด(ในไต้หวันว่าสัปรดเปนมงคลจึงนิยมไหว้กัน)สิ่งที่ไม่นิยมไหว้คือผลไม้ทีชื่อไม่ดีไม่เปนมงคลนั่นเอง{{หัวบทความเดือน}} |
|||
{{หัวบทความเดือน}} |
|||
{{ปฏิทินมกราคม}} |
{{ปฏิทินมกราคม}} |
||
'''มกราคม''' เป็น[[เดือน]]แรกของ[[ปี]] ตาม[[ปฏิทินเกรกอเรียน]] และเป็นหนึ่งในเดือน 7 เดือนที่มี 31 [[วัน]] |
'''มกราคม''' เป็น[[เดือน]]แรกของ[[ปี]] ตาม[[ปฏิทินเกรกอเรียน]] และเป็นหนึ่งในเดือน 7 เดือนที่มี 31 [[วัน]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 07:54, 21 มกราคม 2561
ตรุษจีน คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า " ฉิวอิก" หรือบางคนเรียกวันถือหมายถึงวันแรกของปี (ก่อนฉิวอีก2วันจะเปนวันจ่ายคือการเตรียมซื้อหาอาหารสิ่งของที่ใช้ในการไหว้เจ้าและเทพต่างๆ ..บางคนเคร่งครัดขนาดเอาจานชามที่สำหรับให้เทพเจ้ามาล้างทำความสะอาดกันและเปนวันทีทุกคนต้องทำความสะอาดบ้านเรือนร้านค้าของตนเพราะตลอดปีจะยุ่งกับการทำธุรกิจจนไม่มีเวลาทำความสะอาดกัน ละถือกันว่าจะต้องใช้ไม้กวาดกวาดเข้าบ้านเท่านั้นห้ามปัดออกไปนอกบ้านเพราะเท่ากับปัดโชคลาภออกจากบ้านหรือร้านค้าตัวเองและวันก่อนวันตรุษจีน1วันคือ"วันไหว้" เทพเจ้าที่นิยมไหว้กันคือพระแม่กวนอิม และพระยูไลซึ่งก็คือพระพุทธเจ้าปางบุคคลิกลักษณะแบบคนจีนนั่นเอง และสิ่งที่ต้องไหว้ต่อมาคือบรรพบุรุษของตัวเองเปนคนที่เสียชีวิตไปแล้วไว้ว่าจะเปนปู่ย่าตายาย ,พี่ป้าน้าอา,ลูกหลานเหลน ที่ล่วงลับไปแล้ว วิธีไหว้นั่นการไหว้เทพเจ้าจะไหว้ตั้งแต่เช้าตรู่ ถึง10โมงครึ่ง,ส่วนไหว้บรรพบุรุษจะไหว้11โมงเช้าไปถึงบ่าย1(พอไหว้เสร็จจะมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองทีลูกหลานพับให้เปนคล้ายเงินทองสวยงาม จะเผาให้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ นิยมเผากันในถังใหญ่หรือกะละมังใหญ่และสูงเพื่อกันลมตีกระดาษที่กำลังลุกไหม้นี้ จากนั่นก็จะเอาอาหารไหว้ซึ่งมีเปิดไก่,หมูนึ่ง,ปลา มาสับหันกินกันในหมู่ญาติพี่น้อง เพราะใน1ปีจะมีวันนี้ที่เปนวันรวมญาติทุกคนจะกลับมาเพื่อไหว้บรรพบุรุษของตัวเอง>วันต่อมาคือฉิวอิกจะนับตั้ง5ทุ่มหรือ23.00น.ของคืนวันไหว้( 5ทุ่มคือยามแรกของวันตรุษจีนทีเรียกว่า"จื่อซี่"คือย่างเข้าวันตรุษจีน ช่วงเวลนี้นิยมตื่นลุกขึ้นมาไหว้เทพแห่งโชคลาภคือ "เทพไฉซิงเอี้ย"จะต้องจัดไหว้กันนอกบ้านเท่านั่นคือหน้าบ้านและหันไปตามทิศที่เทพจะเสด็จลงทิศไหนถึงจะได้รับโชคลาภ (รู้ทิศจากการซินแซต่างๆจะบอกตามข่าวต่างๆแต่ถ้าไม่รู้ก็ให้ไหว้ช่วงยามแรกคือ5ทุ่มถึงตี1ของเช้าตรู่ที่จะก้าวสู่วันตรุษจีนคือฉิวอิกนั่นเอง) วันตรุษจีนหรือ"ฉิวอิก"ถือเปนวันเที่ยวที่ทุกคนที่ทำงานมาตลอดปีจะได้พักผ่อนพาลูกหลานไปเที่ยวยังที่ต่างๆและนิยมพาไปไหว้พระตามที่ต่างๆตามต่างจังหวัดใกล้ๆและเปนวันที่เด็กๆชอบมากเพราะเปนวันที่จะได้รับ" แตะเอีย" หรือเรียกว่า"อั่งเปา"คือซองแดงที่ข้างในใส่เงินไว้ถือตามหลักที่จะต้องเปนเลขคู่เช่น200,400,800,2000,4000,8000 ลูกน้องทีช่วยงานกันมาตลอดปีก็จะได้แตะเอียนี้เช่นกันส่วนใหญ่ก็จะได้ 1เท่าของเงินเดือน ในวันฉิวอิกหรือวันตรุษจีนนี้มีขอห้ามทีนิยมทำกันมานานคือกห้มจับของมีคมเช่นกรรไกรหรือมีดหรือเข็ม เพราะจะหมายถึงการตัดโชคลาภที่ตัวเองขอพรจากเทพเจ้าต่างๆที่เพิ่งไหว้ไป,บางคนถือมากขนาดห้ามสระผม ห้ามพูดจาไม่ดีต่อกันห้ามพูดหยาบคายด่าท่อกัน ให้ทำแต่สิ่งดีๆต่อกันเพื่อจะได้ดีตลอดทั้งปี (ในคนจีนทีหัวโบราณหน่อยวันตรุษจีนจะนำส้ม4ลูกอาจห่อด้วยผ้ามัดไว้หรือปัจจุบันจะใส่ตะกร้าน่ารักไปกราบไหว้ผู้ใหญ่เพื่อขอพรและได้แตะเอียกลับมา พร้อมกับผู้ใหญ่ก็จะให้ส้ม4ลูกที่เปนของผู้ใหญ่คนนั่นกลับมาให้เราเพื่อให้เราใช้ไปกราบไหว้คนอื่นๆต่อไป (การแตะเอียคนที่ทำงานมีเงินเดือนมีรายได้จะเปนผู้ให้แก่ผู้น้อย เด็กจะไม่ให้ผู้ที่โตกว่า) ของที่นิยมใช้ไหว้เทพเจ้าคือส้มหรือพ้องชื่อในภาษาจีนว่า"ไต่กิก"ซึ่งหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ การไหว้สิ่งต่างๆทีความหมายมากมายคงกล่าวกันไม่หมด แต่สิ่งที่นิยมไหว้คือส้ม,กล้วย,องุ่น,ส้มโอ,เมล่อน,แตนตาลูป,สัปรด(ในไต้หวันว่าสัปรดเปนมงคลจึงนิยมไหว้กัน)สิ่งที่ไม่นิยมไหว้คือผลไม้ทีชื่อไม่ดีไม่เปนมงคลนั่นเอง
มกราคม · | กุมภาพันธ์ · | มีนาคม · | เมษายน · | พฤษภาคม · | มิถุนายน · | กรกฎาคม · | สิงหาคม · | กันยายน · | ตุลาคม · | พฤศจิกายน · | ธันวาคม |
<< | มกราคม | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |||
พ.ศ. 2567 |
มกราคม เป็นเดือนแรกของปี ตามปฏิทินเกรกอเรียน และเป็นหนึ่งในเดือน 7 เดือนที่มี 31 วัน
ตามหลักโหราศาสตร์ เดือนมกราคมเริ่มต้นขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีมกร และสิ้นสุดเมื่อยกเข้าสู่ราศีกุมภ์ แต่ในทางดาราศาสตร์ ต้นเดือนมกราคมดวงอาทิตย์อยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนู และไปอยู่ในกลุ่มดาวแพะทะเลในปลายเดือน
เดือนมกราคมในภาษาอังกฤษ January มาจากเทพเจ้าโรมันนามว่า ยานุส (Janus) ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งประตูทางผ่าน การเริ่มต้น และการสิ้นสุด ปฏิทินโรมันดั้งเดิมที่เริ่มต้นปีในเดือนมีนาคมมีเดือนเพียง 10 เดือน (304 วัน) โดยไม่มีเดือนในช่วงฤดูหนาว ต่อมาได้มีการเพิ่มเดือน 2 เดือน คือ เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ทำให้ 1 ปีมี 12 เดือน ประเทศไทยเริ่มใช้ชื่อเดือนมกราคมในปี พ.ศ. 2432 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เป็นผู้เสนอให้ใช้ราศีกำหนดชื่อเดือน
วันสำคัญ
- 1 มกราคม - วันขึ้นปีใหม่
- 1 มกราคม - วันประกาศอิสรภาพในเฮติ
- วันเสาร์ที่ 2 - วันเด็กแห่งชาติ
- วันจันทร์ที่ 3 - วันมาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์
- 13 มกราคม - วันการบินแห่งชาติ
- 14 มกราคม - วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้แห่งชาติ
- 16 มกราคม - วันครู
- 17 มกราคม - วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
- 18 มกราคม - วันกองทัพไทย
- 26 มกราคม - วันสาธารณรัฐในอินเดีย
- 26 มกราคม - วันชาติในออสเตรเลีย
- ตรุษจีน - ตรงกับวันแรกในเดือนแรกของปฏิทินจีน ซึ่งตรงกับวันเดือนดับครั้งแรกหลังจากเหมายัน อาจตรงกับเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)