ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คนอสซอส"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ใช้ปีคศ|width = 260px}}
{{ใช้ปีคศ|width = 260px}}
[[ไฟล์:KnossosSemune.jpg|thumb|260px|ส่วนหนึ่งของพระราชวังที่คนอสซอสที่สร้างขึ้นให้เห็นภาพจากการขุดค้นของนักโบราณคดี]]
[[ไฟล์:KnossosSemune.jpg|thumb|260px|ส่วนหนึ่งของพระราชวังที่คนอสซอสที่สร้างขึ้นให้เห็นภาพจากการขุดค้นของนักโบราณคดี]]
'''คนอสซอส''' ({{lang-en|Knossos}}, {{IPA-en|ˈknɒsɒs|pron}}; {{lang-el|Κνωσός}}, {{IPA|[knoˈsos]}}) หรือที่เรียกว่า "[[ลายวงกต]]" หรือ "พระราชวังคนอสซอส" คือ[[แหล่งโบราณคดี]]ที่ใหญ่ที่สุดของ[[ยุคสัมฤทธิ์]]บน[[เกาะครีต]]ที่อาจจะใช้เป็นสถานที่สำหรับบริหารราชการและทำพระราชพิธีของ[[อารยธรรม]]และ[[วัฒนธรรม]][[อารยธรรมไมนวน|ไมนวน]] พระราชวังเป็นกลุ่มห้องอันซับซ้อนที่ประกอบด้วยห้องทำงาน ที่อยู่อาศัย และที่เก็บของไม่ไกลจากจตุรัสกลางพระราชวัง บนผนังของพระราชวังเป็นภาพรายละเอียดของชีวิตชาวครีตในปลายยุคสัมริด ในปัจจุบันคนอสซอสเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพราะตั้งอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่[[ฮีราคลีออน]] คนอสซอสได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นอันมากโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษเซอร์[[Arthur Evans|อาร์เทอร์ อีแวนส์]]
'''คนอสซอส''' ({{lang-en|Knossos}}, {{IPA-en|ˈknɒsɒs|pron}}; {{lang-el|Κνωσός}}, {{IPA|[knoˈsos]}}) หรือที่เรียกว่า "[[ลายวงกต]]" หรือ "พระราชวังคนอสซอส" คือ[[แหล่งโบราณคดี]]ที่ใหญ่ที่สุดของ[[ยุคสัมฤทธิ์]]บน[[เกาะครีต]]ที่อาจจะใช้เป็นสถานที่สำหรับบริหารราชการและทำพระราชพิธีของ[[อารยธรรม]]และ[[วัฒนธรรม]][[อารยธรรมไมนวน|ไมนวน]] พระราชวังเป็นกลุ่มห้องอันซับซ้อนที่ประกอบด้วยห้องทำงาน ที่อยู่อาศัย และที่เก็บของไม่ไกลจากจตุรัสกลางพระราชวัง บนผนังของพระราชวังเป็นภาพรายละเอียดของชีวิตชาวครีตในปลายยุคสัมริด ในปัจจุบันคนอสซอสเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพราะตั้งอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่[[ฮีราคลีออน]] คนอสซอสได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นอันมากโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษเซอร์[[Arthur Evans|อาร์เทอร์ อีแวนส์ อิอิคิคิ]]


เมืองคนอสซอสมีความสำคัญจนตลอดสมัยคลาสสิกและสมัยโรมัน แต่ชาวเมืองย้ายไปอยู่ในเมืองคันดักส์ซึ่งเป็นเมืองใหม่ (ฮีราคลีออนในปัจจุบัน) ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 คนอสซอสก็มีชื่อใหม่ว่า "มาครีเทคอส" (Makryteikhos หรือ "กำแพงยาว") แต่บิชอปแห่งกอร์ทินยังคงเรียกตนเองว่าบิชอปแห่งคนอสซอสมาจนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19<ref>{{cite book |title=The Making of the Cretan Landscape |publisher=Manchester University Press |year=1996 |isbn=0-7190-3646-1 |pages=g. 94, 104 |author=Oliver Rackham and Jennifer Moody}}</ref> ในปัจจุบันคำว่า "คนอสซอส" ใช้เฉพาะในการเรียกแหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่ที่ปริมณฑลของเมืองฮีราคลีออนเท่านั้น
เมืองคนอสซอสมีความสำคัญจนตลอดสมัยคลาสสิกและสมัยโรมัน แต่ชาวเมืองย้ายไปอยู่ในเมืองคันดักส์ซึ่งเป็นเมืองใหม่ (ฮีราคลีออนในปัจจุบัน) ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 คนอสซอสก็มีชื่อใหม่ว่า "มาครีเทคอส" (Makryteikhos หรือ "กำแพงยาว") แต่บิชอปแห่งกอร์ทินยังคงเรียกตนเองว่าบิชอปแห่งคนอสซอสมาจนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19<ref>{{cite book |title=The Making of the Cretan Landscape |publisher=Manchester University Press |year=1996 |isbn=0-7190-3646-1 |pages=g. 94, 104 |author=Oliver Rackham and Jennifer Moody}}</ref> ในปัจจุบันคำว่า "คนอสซอส" ใช้เฉพาะในการเรียกแหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่ที่ปริมณฑลของเมืองฮีราคลีออนเท่านั้น

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:34, 28 มิถุนายน 2560

ส่วนหนึ่งของพระราชวังที่คนอสซอสที่สร้างขึ้นให้เห็นภาพจากการขุดค้นของนักโบราณคดี

คนอสซอส (อังกฤษ: Knossos, ออกเสียง: /ˈknɒsɒs/; กรีก: Κνωσός, [knoˈsos]) หรือที่เรียกว่า "ลายวงกต" หรือ "พระราชวังคนอสซอส" คือแหล่งโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดของยุคสัมฤทธิ์บนเกาะครีตที่อาจจะใช้เป็นสถานที่สำหรับบริหารราชการและทำพระราชพิธีของอารยธรรมและวัฒนธรรมไมนวน พระราชวังเป็นกลุ่มห้องอันซับซ้อนที่ประกอบด้วยห้องทำงาน ที่อยู่อาศัย และที่เก็บของไม่ไกลจากจตุรัสกลางพระราชวัง บนผนังของพระราชวังเป็นภาพรายละเอียดของชีวิตชาวครีตในปลายยุคสัมริด ในปัจจุบันคนอสซอสเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพราะตั้งอยู่ใกล้กับเมืองใหญ่ฮีราคลีออน คนอสซอสได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นอันมากโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษเซอร์อาร์เทอร์ อีแวนส์ อิอิคิคิ

เมืองคนอสซอสมีความสำคัญจนตลอดสมัยคลาสสิกและสมัยโรมัน แต่ชาวเมืองย้ายไปอยู่ในเมืองคันดักส์ซึ่งเป็นเมืองใหม่ (ฮีราคลีออนในปัจจุบัน) ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 เมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 คนอสซอสก็มีชื่อใหม่ว่า "มาครีเทคอส" (Makryteikhos หรือ "กำแพงยาว") แต่บิชอปแห่งกอร์ทินยังคงเรียกตนเองว่าบิชอปแห่งคนอสซอสมาจนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19[1] ในปัจจุบันคำว่า "คนอสซอส" ใช้เฉพาะในการเรียกแหล่งโบราณคดีที่ตั้งอยู่ที่ปริมณฑลของเมืองฮีราคลีออนเท่านั้น

อ้างอิง

  1. Oliver Rackham and Jennifer Moody (1996). The Making of the Cretan Landscape. Manchester University Press. pp. g. 94, 104. ISBN 0-7190-3646-1.

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ คนอสซอส