ข้ามไปเนื้อหา

พระแม่มารีคาลเตลฟรังโค (จอร์โจเน)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระแม่มารีคาลเตลฟรังโค
ศิลปินจอร์โจเน
ปีราว ค.ศ. 1503
ประเภทจิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ
สถานที่มหาวิหาร, คาลเตลฟรังโค (เวเนโต)

พระแม่มารีคาลเตลฟรังโค หรือ พระแม่มารีระหว่างนักบุญฟรานซิสและนักบุญนิเคเซียส (อังกฤษ: Castelfranco Madonna หรือ Madonna and Child Between St. Francis and St. Nicasius) เป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่เขียนโดยจอร์โจเน[1] จิตรกรสมัยเรอเนซองส์คนสำคัญชาวอิตาลี ที่ปัจจุบันยังคงอยู่ในมหาวิหารที่คาลเตลฟรังโคในเวเนโตในประเทศอิตาลี

บทนำ

[แก้]

ภาพ “พระแม่มารีคาลเตลฟรังโค” เป็นภาพที่เขียนในลักษณะที่เรียกว่า “พระแม่มารีและพระบุตรกับนักบุญ” ที่เป็นภาพของพระแม่มารีบนบัลลังก์กับพระบุตรกับนักบุญฟรานซิสแห่งอาซิซิทางด้านขวาและนักบุญนิเคเซียสทางด้านซ้าย นักบุญคนหลังแต่งตัวด้วยเสื้อเกราะเต็มยศซึ่งบางครั้งกล่าวกันว่าเป็นนักบุญผู้ต่อสู้นักบุญจอร์จหรือนักบุญลิเบอราลิสผู้เป็นนักบุญผู้พิทักษ์ของคาลเตลฟรังโค

การวางรูปแบบตามธรรมเนียมของภาพลักษณะนี้ทำให้เบาขึ้นด้วยการใช้บัลลังก์และภูมิทัศน์ซึ่งใช้เนื้อที่ของภาพมากพอสมควร สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือความขาดสถาปัตยกรรมที่เป็นนัยยะถึงศาสนา

เทคนิการเขียนภาพเป็นตัวอย่างการเขียนที่จอร์โจ วาซารีเรียกว่า “pittura sanza disegno” หรือเขียนโดยไม่ได้ร่างซึ่งเป็นวิธีเขียนวิธีใหม่ที่เกิดขึ้นในการเขียนภาพตระกูลเวนิส และใช้ในการเขียนภาพ “พายุทิเชียนลูกศิษย์ของจอร์โจเนต่อมากลายเป็นบุคคลสำคัญที่เป็นผู้นำในการเขียนด้วยวิธีนี้

ประวัติของภาพเขียน

[แก้]

ทหารรับจ้างทูซิโอ คอสตานโซเป็นผู้จ้างให้เขียนภาพนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับบุตรชายมัตเตโอผู้เสียชีวิตด้วยไข้ขณะที่ทำหน้าที่ราชการให้แก่สาธารณรัฐเวนิสในเซเรนิสสิมาระหว่างปี ค.ศ. 1503/4 หรือ ค.ศ. 1500 อีกสิ่งหนึ่งที่ทูซิโอจ้างคือที่บรรจุศพสำหรับตนเองและลูกชายภายในชาเปลที่แขวนภาพเขียนที่ตั้งอยู่สองข้างของภาพเขียน แต่ต่อมาถูกรื้อทิ้งเพื่อสร้างมหาวิหารคาลเตลฟรังโคในปี ค.ศ. 1724 สิ่งก่อสร้างใหม่ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันนี้มีชาเปลที่ใช้เป็นที่ตั้งของภาพเขียน โดยมีร่างของมัตเตโอฝังอยู่ข้างล่าง ตราอาร์มของคอสตานโซที่เป็นซี่โครงสามคู่จะเห็นได้ที่ฐานของบัลลังก์ของพระแม่มารีและบนที่ฝังศพ นักวิชาการบางท่านสันนิษฐานว่าใบหน้าของนักบุญนิเคเซียสคือภาพเหมือนของมัตเตโอ

งานชิ้นนี้ได้รับความเสียหายมากจากการซ่อมแซมที่ทำอย่างไม่ถูกต้องในระยะหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา และเมื่อวันที่10 ธันวาคม ค.ศ. 1972 ภาพเขียนก็ถูกขโมยแต่ได้คืนต่อมา ในปีค.ศ. 2002-ค.ศ. 2003 ภาพเขียนก็ได้รับการซ่อมแซมอย่างถูกต้องโดยสถาบันทดลองแห่งเวนิส

อ้างอิง

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]