พระธรรมเสนานี (ชุณห์ กิตฺติวณฺโณ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระธรรมเสนานี

(ชุณห์ กิตฺติวณฺโณ)
ส่วนบุคคล
เกิด9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 (9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2468 (99 ปี) ปี)
นิกายมหานิกาย
การศึกษาน.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดวังตะกู นครปฐม
อุปสมบท11 กรกฎาคม พ.ศ. 2488
พรรษา78
ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม, เจ้าอาวาสวัดวังตะกู, อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสหศึกษาบาลี องค์พระปฐมเจดีย์

พระธรรมเสนานี (ชุณห์ กิตฺติวณฺโณ) (9 กุมภาพันธ์ 2468) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดวังตะกู อาจารย์ใหญ่โรงเรียนสหศึกษาบาลี องค์พระปฐมเจดีย์ มีนามเดิม ชื่อ ชุณห์ ภูศรี เกิดเมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2468 เกิดที่บ้านวังตะกู หมู่ที่ 8 ต.วังตะกู อ.เมือง จ.นคร ปฐม เคยรับราชการเป็นครูสอนที่โรงเรียนประชาบาลบ้านบ่อด่าน วัดทัพยายท้าว กระทั่งเมื่ออายุครบเกณฑ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพุธที่ 11 ก.ค. 2488 ณ วัดทัพหลวง โดยมีพระราชธรรมาภรณ์ วัดดอนยายหอม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวิหารการโกวิท วัดทัพหลวง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการไข่ วัดม่วงตารศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา กิตฺติวณฺโณ มีความหมายว่า ผู้มีชื่อเสียงดีงาม หลังอุปสมบท มุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ จากสำนักเรียนวัดปากน้ำภาษีเจริญ สร้างคุณูปการต่อชาวเมืองนครปฐมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานด้านการศึกษา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2494 ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการคุมสอบธรรมสนามหลวง เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดวังตะกู เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวงนักธรรมชั้นตรี ปัจจุบัน ยังเป็นกรรม การอบรมบาลีก่อนสอบสนามหลวงที่วัดไร่ขิง และที่สำคัญงานศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลี ในสำนักเรียนมีนักเรียนสอบบาลีได้ทุกปี โดยเฉพาะประโยค ป.ธ.9 นอกจากนี้ ยังมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านภาษาจีน พูดและเขียนได้ อ่านและเขียนอักษรขอมก็ได้ งานเผยแผ่ ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัดนครปฐม เป็นวิทยากรอบรมและบรรยายธรรมแก่ข้าราชการตำรวจสถานีภูธรจังหวัดนครปฐม เป็นวิทยากรอบรมและบรรยายธรรมแก่นักโทษในเรือนจำกลางประจำจังหวัดนครปฐม ส่งเสริมกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่านได้อบรมศีลธรรมแก่ประชาชนในวันธรรมสวนะเป็นประจำ รวมทั้งนำข้าราชการคณะครู นักเรียน ตลอดถึงพุทธศาสนิกชน เวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นประจำทุกปี งานสาธารณูปการ ท่านได้สร้างกำแพงรอบวัด ห้องสุขา ห้องสมุด ห้องอบรมพระวิปัสสนาจารย์จังหวัดนครปฐม โรงครัวของวัด ซ่อมอุโบสถหลังเก่าทำเป็นวิหาร งานสาธารณสงเคราะห์ บริจาคเงินส่วนตัวเข้ามูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ร่วมสร้างหอประชุมของอำเภอเมืองนครปฐม ตั้งทุนมูลนิธิโรงพยาบาลกำแพงแสน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ทอดผ้าป่าสามัคคี หาเงินเข้าชมรมเรารักแม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีวัดอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน 30 กว่าวัด อีกทั้งเป็นประธานจัดให้มีการอบรมเรื่องโภชนาการแก่ประชาชนตำบลวังตะกู ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลวังตะกู ส่วนงานในตำแหน่งหน้าที่ จัดประชุมพระสังฆาธิการทุกระดับในเขตปกครอง ตามมติมหาเถรสมาคมทุกปี คอยหมั่นตรวจเยี่ยมวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ปกครอง จัดปฏิบัติธรรมแนวมหาสติปัฏฐาน จัดสัมมนาเพิ่มความรู้ความสามารถแก่พระสังฆาธิการทุกระดับในปกครองทุกปี กวดขันเรื่องระเบียบวินัยแก่พระสังฆาธิการทุกระดับในเขตปกครองให้อยู่กันด้วยความเรียบร้อย ท่านมีแนวความคิดส่งเสริมการสวดมนต์ให้สวดถูกอักขรวิธี ถูกสังโยค และใช้บทสวดมนต์ให้ตรงกับงานบุญต่างๆ มีการจัดอบรมซ้อมสวดพระกรรมวาจาจารย์ ก่อนการแต่งตั้งเป็นพระคู่สวด จัดอบรมกวดวิชานักธรรมชั้นเอก ก่อนสอบสนามหลวง ปีละ 15 วัน เป็นเวลานาน กว่า 20 ปี เน้นให้พระภิกษุ-สามเณรในจังหวัดนครปฐมทุกรุป ทำอุโบสถกรรม สวดพระปาฏิโมกข์ตลอดปี ท่านยังมีโอกาสไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ อาทิ วัดไทยลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และได้รับอาราธนาไปดูงานด้านพระพุทธศาสนา ที่วัดเส้าหลิน วัดที่ปักกิ่งและกวางเจา สาธารณรัฐประชาชนจีน

งานปกครอง[แก้]

เป็นเลขานุการกรรมการสงฆ์จังหวัดภูเก็ต

เป็นเจ้าอาวาสวัดวังตะกู

เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม

เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

สมณศักดิ์[แก้]

พ.ศ. ๒๔๙๖ เป็น พระวินัยธร ฐานานุกรมของเจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต (สมัยเป็นเลขานุการกรรมการสงฆ์จังหวัดภูเก็ต)

พ.ศ. ๒๕๑๔ รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็น พระครูปฐมคณารักษ์

พ.ศ. ๒๕๑๗ รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระปฐมนคราภิรักษ์

พ.ศ. ๒๕๒๓ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชคุณาภรณ์ บวรธรรมานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

พ.ศ. ๒๕๓๘ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพคุณาภรณ์ สุนทรธรรมภาณี ศีลาจารนิวิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

พ.ศ. ๒๕๔๕ รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมเสนานี ศีลาจารวิมล โสภณกิจจานุกิจ นิวิฐธรรมสุนทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

อ้างอิง[แก้]