ผู้ใช้:WKPlatric/ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
      การประยุกข์ความรู้ทางพุทธศาสนาไปสู่วิชาเทอร์โมไดนามิกส์
      หากน้องๆหรือเพื่อนสังเกตุดูรถของเราในบ้านนะครับ   ว่าเวลาขับรถ ตอนออกสตาร์ทรถ เครื่องยนต์จะร้อนนะครับ  หลายคนอาจจะงงนะครับว่าทำไมถึงต้องสังเกตุด้วย   หากพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว  การสังเกตุนี่ก็เป็นหลักวิชาอันนึงของทางวิทยาศาสตร์เลยนะครับ   เมื่อสังเกตุปรากฎการณ์ตามธรรมชาติ 

จนความรู้ของเราเต็มเปี่ยมแล้ว ก็จะทำให้เราอยากรู้ความรู้นั้นเพิ่มเติมนะครับ และ หากได้เรียนวิทยาศาสตร์ด้วยแล้ว เอามาประยุกข์กับวิชชาธรรมกายด้วย เราจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยนะครับ แต่ตอนนี้เอาเป็นว่าให้คุณพ่อคุณแม่พาไปวัด ไปนั่งธรรมมะกับหลวงพ่อที่วัดนะครับ พอมีประสบ การณ์การปฎิบัติธรรมก็รายงานคุณพ่อคุณแม่นะครับ บอกท่านว่าเราเห็นองค์พระแล้ว เราจะทำยังงัยต่อไปดีนะครับ คุณพ่อคุณแม่อาจจะพาน้องๆที่มีผลการปฎิบัติธรรมที่ดี ไปให้พระอาจารย์แนะนำให้นะครับ หากมีเวลาก็อาจจะเอาเวลาที่ไปเที่ยวสนุกกับเพื่อนๆมาหาความสนุกที่ยิ่งกว่านั้นนะครับ ก็คือการไปเที่ยวพระนิพพานกันนะครับ

         ประเด็นหลักๆของวิชชาธรรมกาย เทอร์โมไดนามิกส์นั้น  ความรู้หลักเลยก็ต้องการให้เพื่อนและน้องๆได้สัมผัสกับวิชชาธรรมกายน่ะครับ   เหตุผลก็คือ  หากมีวิชชาธรรมกายแล้ว  การประยุกข์ความรู้แขนงต่างๆนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปนะครับ   หลังจากน้องๆและเพื่อนเมื่อได้เข้าถึงพระธรรมกายในตัวแล้ว  ก็อยากจะเชิญชวนน้องได้มารับบุญที่วัดพระธรรมกายนะครับ   เพราะกว่าจะได้เห็นองค์พระภายใน   ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนนะครับ  เพราะกว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราจะได้มาตรัสรู้   ซี่งก็เป็นหน้าที่หลักของธาตุธรรมที่ท่านส่งพระพุทธองค์ลงมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   การได้เข้าถึงพระรัตนะไตรภายในนั้นก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนนะครับ   ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกินความสามารถของมนุษย์ปุถุชนทั่วๆไปจะทำได้นะครับ   ยากไปกว่าการเห็นองค์พระแล้ว  การรักษาความละเอียดของใจนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญกว่าอีกนะครับ  และ ยิ่งไปกว่านั้น   การรับบุญซึ่งก็เป็นงานหลักของชาววัดพระธรรมกายจะขาดไปไม่ได้เลยนะครับ   ซึ่งหลวงปู่ก็คอยจับตาดูเราอยู่  ด้วยพระธรรมกายของท่านนะครับ   
       ครับ  ก็มาคุยกันต่อกับการใช้ดวงตาพระธรรมกายในการต่อยอดหลักวิชา เทอร์โมไดนามิกส์นะครับ    สำหรับเรื่องเทอร์โมไดนามิกส์นั้น   น้องๆและเพื่อนๆอาจเคยผ่านมาแล้วกับเรื่องวิชา

เทอร์โมไดนามิกส์นะครับ สาเหตุหลักที่ผมเอง ก็คือผู่รับหน้าที่ของหลวงพ่อ ซึ่งท่านอนุญาติให้ใช้วิชชาธรรมกายมาถ่ายทอดให้กับน้องๆและเพื่อนๆนะครับ เรื่องนี้ผมเองตอนนั้นยังเรียนอยู่ปีสองในมหาวิทยาเกษตรศาสตร์นะครับ จำได้ว่าตอนนั้นผมเองก็ยังติดอยู่ที่เรื่องของพลังงานภายในของความร้อนครับ ก็คือพลัง เอนทราปีนะครับ และผมเองก็เพิ่งจะค้นพบอนุภาคภายในของ เอนทราปีนั้น ก็เป็นพลังอนุภาคเอ็นทราฟีออนนะครับ สำหรับน้องๆที่มาใหม่ก็ควรที่จะศึกษางานของผมในเรื่องธรรมกายฟิสิกส์นะครับ ซึ่งผมก็ได้ทำการต่อยอดวิชชาโดยใช้วิชชาธรรมกายของครูบาอาจารย์ในการทำการศึกษานะครับ อนุภาคเอ็นทราฟีออนนั้น เป็นอนุภาคธาตุไฟของอนุภาคนิวทราฟีออนนะครับ ก็มาทบทวนกันนิดนึงนะครับ

        อนุภาคนิวทราฟีออนคืออะไร
       หากเราศึกษาเรื่องนิวเครียล์ฟิสิกส์มาระดับนึงแล้ว  เราจะรู้จักกับอนุภาคมิวออนนะครับ  และที่ขาดไม่ได้เลยก็อนุภาคไพออนนะครับ   อนุภาคสองตัวนี้นักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันได้ทำการทดลอง  และก็ค้นพบนะครับ  ว่ามันก็คือสับอะตอมมิกส์ภายในอนุภาคอิเล็กตรอนนะครับ   สำหรับเรื่องอิเล็กตรอนนั้น   ก็จะขอข้ามไปก่อนนะครับ  เพราะเรื่องนี้น้องๆและเพื่อนๆอาจจะเคยศึกษามาแล้วตอนมัธยมปลายนะครับ  มาเข้าเรื่องกันต่อนะครับ  นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำการทดลองยิงอนุภาคนิวตรอนให้ไปชนกับอนุภาคมิวออนนะครับ ผลออกมาก็คล้ายๆกับมิวออนกับไพออนนะครับ  คือ จะได้อนุภาคสองตัวคือ อนุภาคนิวทราฟีออน  กับ วีนิวทราฟีออนนะครับ  เมื่อใช้ดวงตาธรรมกายศึกษาก็จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยนะครับ  ซึ่งผมเองก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องนิวเคลียส์ฟิสิกส์มาก่อน   และ  ได้ทำการศึกษาโดยใช้พระธรรมกายของครูบาอาจารย์ในการศึกษานะครับ   สำหรับผมเองก็เป็นโชคดีน่ะครับ  ก็เลยได้มาศึกษาวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อตอนเรียนนั้นผมเองก็พักการเรียนที่มหาวิทยาลัย   มาบวชเรียนที่วัดพระธรรมกายนะครับ  สำหรับการสร้างบารมีของผมนั้นหลวงพ่อก็คอยดูอยู่ตลอดเวลาครับ  ไม่เว้นแม้กระทั้งตอนกินข้าว  ตอนนอน   ตอนเข้าห้องน้ำ  ไม่เว้นแม้กระนั้นเลยนะครับ  ผมเองก็นั่งสมาธิ  สร้างบารมี ทำบุญคราใดก็จะถวายบุญนั้นให้กับหลวงพ่อตลอดครับ    ก็อยากให้น้องๆเพื่อนๆได้มาวัดพระธรรมกายมาสร้างบารมีกันนะครับ    และที่สำคัญก็คือ  องค์พระในตัวนะครับ หลวงพ่อบอกว่าทุกหนึ่งชั่วโมงขอหนึ่งนาที  เพื่อหยุดใจ  มององค์พระ  ดวงธรรม   ไม่ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำ  เข้าห้องน้ำ  ขับรถ  ล้างจาน   สรุปแล้วก็คือ  ทุกกิจกรรมเลยนะครับ   หลวงพ่อท่านตั้งใจสอนพวกเรามากๆเลยนะครับ  หากไม่รู้จักกับวิชชาธรรมกายแล้ว  ก็น่าเสียดายโอกาสที่ได้เกิดมาอยู่ที่เมืองไทยนะครับ
        "การบวชสร้างบารมี"
       การสร้างบารมีเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นเรื่องสำคัญ   เพราะการบวชนั้นหากน้องๆลองสังเกตุการเรียนของเราตั้งแต่เริ่มที่อนุบาลเลยนั้น  ก็เป็นระบบการเรียนที่ได้ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงการเรียนจนรับปริญญานะครับ  พอเรียนจบอนุบาลก็มาต่อระับประถม   พอจบประถมก็เข้าสู่ระบบสูงขึ้นคือระดับมัธยม  จบมัธยมก็

สอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยนะครับ จะเห็นว่ามีการเรียนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นระบบของครูบาอาจารย์ของเราในอดีตได้วางแนวทางเอาไว้ครับ ซึ่งตอนนี้ผมเองก็กำลังศึกษาระบบของนักปราชญ์ในอดีตอยู่นะครับ และยิ่งไปกว่านั้นหากน้องๆและเพื่อนๆได้เข้ามาบวช อาจจะบวชตามประเพณี สักหนึ่งพรรษาขึ้นไป ระบบพระธรรมกายในตัวก็จะได้รับการต่อยอดขึ้นไปน่ะครับ หากมีผลการปฎิบัติธรรมจนได้เห็นพระธรรมกายภายในแล้ว บุญบารมีนั้นก็จะติดตามตัวเราไปน่ะครับ หากเราได้ศึกษาวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อแล้วเราจะเข้าใจเรื่องธรรมกายมากขึ้น บุญนี้จะไปเชื่อมสายบุญกับมหาปูชนียาจารย์คือหลวงปู่วัดปากน้ำ คุณยายอาจารย์ น่ะครับ สำหรับการบวชนั้นเป็นการศึกษาขั้นสูงของเมืองไทย และในดินแดนที่พุทธศาสนาแผ่ไปถึงนะครับ น้องๆและเพื่อนๆเมื่อได้เข้ามาบวชก็อยากให้ตั้งใจกันหน่อยนะครับ เพราะโอกาศในการเข้ามาบวชนั้นยากมากๆเลยนะครับ ต้องมีบุญเก่าในอดีตชาติสั่งสมมาดีมากๆนะครับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นท่านเองก็ได้รับการศึกษาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อนๆจนตรัสรู้ตามพระองค์ไปนะครับ ความรู้นั้นก็มีมากมายเลยนะครับ ทั้งหมดนั้นก็รวมอยู่ในวิชชาธรรมกายนะครับ

     "การสร้างบารมีเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า"
     การสร้างบารมีนั้นสำคัญมากๆเลยนะครับ  ตราบใดที่โลกนี้ยังมีคนพาลอยู่  ทางหลุดพ้นทางเดียวก็คือการเข้าถึงธรรมนะครับ   หลักๆเลยก็คือการบวชเป็นพระเพื่อสร้างบารมีนะครับ  หลวงพ่อเคยบอกว่าชุดพระ  ผ้าสีสุดท้ายก็คือธงชัยพระอรหันต์หรือจีวรพระนะครับ   อย่างเช่นการออกรบปราบศัตรู  ก็ต้องซ้อมรบ  ซ้อม

ฝีมือของเราให้ดี หากฝีมือเราไม่ดี ก็มีหวังอาจแพ้ศัตรูได้นะครับ จะเป็นพระอรหันต์ได้นั้นก็ต้องมีบุญเก่าสั่งสมมาดีนะครับ การนั่งสมาธินั้นก็คือการออกรบกับกิเลสนะครับ ก็คือศัตรูของเรานะครับ การสร้างบารมีเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พุทธเจ้าเองแม้ไม่ได้กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกนะครับ เพราะเกินภูมิปัญญาของพระอรหันต์นะครับ ส่วนใหญ่กล่าวถึงชาดกนะครับ พระสูตรก็น่าสนใจนะครับ แต่การเป็นพระพุทธเจ้านั้น หลักๆเลยก็ต้องออกบวชนะครับ เพราะการเป็นพระพุทธเจ้านั้นต้องเคยบวชมาหลายครั้งเลยนะครับ บารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น หากน้องๆไปคุยกับพระอาจารย์ที่วัด พระอาจารย์ก็อาจจะแนะนำน้องๆนะครับ สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนั้นก็คือ พระพุทธเจ้าศรีศากยะมุนีย์นะครับ และสำหรับกัปป์นี้เป็นภัทรกัปป์นะครับ ก็คือ เป็นกัปป์ที่พิเศษมากๆนะครับ คือมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิดเยอะที่สุดตามสถิติที่เคยมีมาในทุกยุกข์ทุกสมัยนะครับ