ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:MFU55 FMKPMA/กระบะทราย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

จื่อจัง (子张)[แก้]

จื่อจัง แซ่จวนซุน นามว่าซือ (颛孙师) คนรัฐเฉิน (陈国人) สมัยยุคปลายชุนชิว (春秋末年) เป็นหนึ่งในเจ็ดสิบสองลูกศิษย์เอกของขงจื่อ อายุอ่อนกว่าขงจื่อ 48 ปี มีความสามารถสูง ตรงไปตรงมา ขงจื่อจึงวิจารณ์ว่า “จื่อจังนั้นมากเกิน ส่วนจื่อเซี่ยนั้นก็หย่อนเกิน” [1]


จื่อจังเป็นลูกศิษย์ที่นอกจากจะรักการเรียนแล้ว ยังมักจะตั้งคำถามไต่ถามขงจื่อเสมอ และทุกครั้งที่ขงจื่อตอบคำถามของจื่อจัง จื่อจังก็จะจดบันทึกอย่างตั้งใจ ซึ่งในคัมภีร์หลุนอีว์ (论语) ปรากฏคำถามของจื่อจัง คำตอบของขงจื่อ และบทสนทนาระหว่างขงจื่อกับจื่อจัง ดังนี้ [2]

คัมภีร์หลุนอีว์:จื่อจัง (论语:子张)[แก้]

เล่มที่2 บทที่ 12 จื่อจังเรียนด้วยมุ่งหวังรับราชการ อาจารย์กล่าวว่า “ฟังให้มากสงวนการพูดเมื่อสงสัย พูดส่วนที่เหลืออย่างระมัดระวัง โอกาสกังวลในการพูดจะมีน้อย ดูให้มากสงวนการกระทำเมื่ออันตราย ทำส่วนที่เหลืออย่างระมัดระวัง โอกาสเสียใจในการกระทำจะมีน้อย เมื่อโอกาสกังวลในการพูดมีน้อยโอกาสเสียใจในการกระทำก็มีน้อย ตำแหน่งราชการย่อมอยู่ในนั้น” [3]


เล่มที่2 บทที่23 จื่อจังถามว่า”จะรู้เรื่องหลี่ในอีกสิบชั่วคนจากนี้ได้หรือไม่” อาจารย์ตอบว่า “ราชวงศ์ซังใช้หลี่แห่งราชวงศ์เซี่ย อาจรู้ได้ว่า มีอะไรที่ยกเลิกไป หรือมีอะไรที่เพิ่มเติมขึ้น ราชวงศ์โจวทำตามหลี่แห่งราชวงศ์ซัง อาจรู้ได้ว่ามีอะไรยกเลิกไป หรือมีอะไรเพิ่มเติมขึ้น อาจมีผู้อื่นที่ทำตามหลี่แห่งราชวงศ์โจว ถึงแม้ยุคสมัยจะห่างกันเป็นร้อยชั่วคน ก็รู้ได้” [4]


เล่มที่5 บทที่ 18 จื่อจังถามว่า”เจ้าเมืองจื่อเหวินได้ดำรงตำแหน่งถึงสามครั้งก็มิได้แสดงอาการยินดี เมื่อออกจากตำแหน่งสามครั้งก็ไม่แสดงอาการไม่พอใจ คอยชี้แนะให้เจ้าเมืองคนใหม่ได้รู้แนวการปกครองของเก่า อาจารย์เห็นอย่างไร” อาจารย์ตอบว่า “สัตย์ซื่อ ภักดี” จื่อจังถามต่อไปว่า “เขามีมนุษยธรรมหรือไม่” อาจารย์ตอบว่า “เราไม่รู้ว่าเขามีมนุษยธรรมหรือไม่” “เมื่ออำมาย์ชุยจื่อสังหารเจ้าแห่งแคว้นฉี เฉินเหวินจื่อมีรถม้าศึก 10 คัน แต่เขาก็ละจากเมืองไป เมื่อมาถึงอีกแคว้นหนึ่งกล่าวว่า’ก็ยังเหมือนชุยจื่อผู้เป็นนายของเรา’จึงจากแคว้นนั้นไปอีก เมื่อมาถึงอีกแคว้นหนึ่งก็กล่าวว่า ‘ก็ยังเหมือนชุยจื่อผู้เป็นนายของเรา’ จึงจากแคว้นนั้นไปอีก อาจารย์เห็นอย่างไร” อาจารย์ตอบว่า “เขาบริสุทธิ์” จื่อจังถามต่อไปว่า “เขามีมนุษยธรรมหรือไม่” อาจารย์ตอบว่า “ไม่รู้ เขาได้มนุษยธรรมได้อย่างไรหรือ” [5]


เล่มที่12 บทที่ 6 จื่อจังถามว่า”อะไรคือการเห็นแจ้ง” อาจารย์กล่าวว่า “ผู้ซึ่งคำกล่าวร้ายป้ายสีไม่อาจครอบงำจิตใจได้ คำตำหนิไม่อาจเสียดแทงบาดใจได้ ผู้นั้นอาจเรียกได้ว่ามีปัญญา ใช่แล้ว ผู้ซึ่งคำกล่าวร้ายไม่อาจครอบงำ คำตำหนิไม่อาจบาดใจได้ คือผู้เห็นการณ์ไกล” [6]


เล่มที่12 บทที่ 10 จื่อจังถามว่า”ทำอย่างไรจึงจะเชิดชูคุณธรรม ทำอย่างไรจึงจะแยกแยะความหลงให้ชัดเจนขึ้นได้” อาจารย์กล่าวว่า “ให้สัตย์ซื่อถือสัจจะเป็นหลัก แล้วปฏิบัติตามหลักแห่งความถูกต้อง นี่คือการเชิดชูคุณธรรม” [7]


เล่มที่17 บทที่ 6 จื่อจังถามขงจื่อเกี่ยวกับมนุษยธรรม ขงจื่อตอบว่า”สามารถปฏิบัติห้าสิ่งอย่างครบถ้วนทั่ว คือมนุษยธรรม” จื่อจังขอให้อธิบาย อาจารย์ตอบว่า “ให้เกียรติ ใจกว้าง จริงใจ มุ่งมั่น เมตตา เมื่อให้เกียรติ ผู้คนจะไม่ดูแคลน เมื่อใจกว้าง จะได้มวลชน เมื่อจริงใจ ผู้คนจะเชื่อถือ เมื่อมุ่งมั่น จะมีผลงาน เมื่อเมตตา จะใช้คนได้” [8]

  1. (1)อมร ทองสุก. 2549. คัมภีร์หลุนวี่ The Analects of Confucius. พิมพ์ครั้งที่1. บริษัท ชุณหวัตร จำกัด. หน้า 67.
  2. (2)สุวรรณา สถาอานันท์. 2554. คัมภีร์หลุนวี่ : ขงจื่อสนทนา. พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ : โอเพ่นบุ๊กส์
  3. (3)子张学干禄。子曰:“多闻阙疑,慎言其余,则寡尤;多见阙殆,慎行其余,则寡悔。言寡尤,行寡悔,禄在其中矣。”(《为政》) http://kongzi.baike.com/article-54287.html#1
  4. (4)子张问:“十世可知也?”子曰:“殷因于夏礼,所损益,可知也。周因于殷礼,所损益,可知也。其或继周者,虽百世,可知也。”(《为政》) http://kongzi.baike.com/article-54287.html#1
  5. (5)子张问曰:“令尹子文三仕为令尹,无喜色;三已之,无愠色。旧令尹之政,必以告新令尹。何如?”子曰:“忠矣。”曰:“仁矣乎?”曰:“未知,焉得仁?” 崔子弑齐君,陈文子有马十乘,弃而违之。至于他邦,则曰:‘犹吾大夫崔子也。’违之。之一邦,则又曰:‘犹吾大夫崔子也。’违之。如何?”子曰:“清矣。”曰:“仁矣乎?”曰:“未知,焉得仁?”(《公冶长》) http://kongzi.baike.com/article-54287.html#1
  6. (6)子张问明。子曰:“浸润之谮,肤受之愬,不行焉,可谓明也已矣。浸润之谮,肤受之愬,不行焉,可谓远也已矣。”(《颜渊》) http://kongzi.baike.com/article-54287.html#1
  7. (7)子张问崇德辨惑。子曰:“主忠信,徙义,崇德也。爱之欲其生,恨之欲其死。既欲其生,又欲其死,是惑也。‘诚不以富,亦祗以异。’”(《颜渊》) http://kongzi.baike.com/article-54287.html#1
  8. (8) 子张问仁于孔子。孔子曰:“能行五者于天下为仁矣。请问之。”曰:“恭、宽、信、敏、惠。恭则不侮,宽则得众,信则人任焉,敏则有功,惠则足以使人。”(《阳货》) http://kongzi.baike.com/article-54287.html#1