ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:Giggabite/กระบะทราย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Internet of things

Internet of thing แปลได้ง่ายๆ ว่า "อินเทอร์เน็ตสำหรับสิ่งของ" ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ Internet of thing จะเข้ามาเป็นแนวคิดที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเหล่านี้ให้คุยกันได้เองโดยไม่ต้องผ่านคน โดยมีเป้าหมายคือช่วยกันทำงานเพื่อให้คนสะดวกสบายขึ้น โดยที่ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการ ควบคุม และติดตามใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะเข้ามาเป็นตัวกลางที่จะสื่อสารระหว่างของ 2 สิ่ง หากนวัตกรรมนี้สามารถทำได้อย่างเต็มรูปแบบ จะเป็นทั้งประโยชน์อย่างมหาศาล และความเสี่ยงไปพร้อมๆ กัน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการดำเนินการในหลายประเทศกับสิ่งของบางอย่างแล้ว

ตัวอย่างในปัจจุบันที่มี Internet of thing เข้ามาเกี่ยวข้องคืออุปกรณ์ที่ถูกนำมาติดกับร่างกายของสัตว์เลี้ยง RFID เช่น สุนัข แมว หรือสัตว์ในฟาร์ม เพื่อใช้เป็นป้ายประจำตัวบอกชื่อว่าสัตว์ตัวนี้ชื่ออะไรใครเป็นเจ้าของ หากท่านจะนำสุนัขของท่านไปยุโรป ท่านต้องไปให้นายทะเบียนทำป้ายอิเล็กทรอนิกส์ให้เพื่อบ่งบอกว่าใครเป็นเจ้าของ พ่อพันธุ์แม่พันธุ์สัตว์ส่วนใหญ่ ก็ต้องมีการติดป้าย RFID เพื่อบอกว่าใครเป็นใครและเพื่อป้องกันสัตว์สูญหาย

อีกตัวอย่างทีเป็นพัฒนาการใหม่ และน่าตื่นเต้นคือ บ้านที่มีการเชื่อมต่อ (Connected Home) จะให้คุณสามารถล็อกออนเข้าสู่เครือข่ายภายในบ้านก่อนที่คุณจะออกจากที่ทำงานในตอนเย็นเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศและเตาอบ หากสัญญาณกันขโมยของดังขึ้นระหว่างที่คุณออกไปทำธุระนอกบ้าน คุณก็สามารถล็อกออนเข้าสู่ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านจากสมาร์ทโฟนของคุณ ตรวจสอบภาพจากกล้องวิดีโอวงจรปิด และรีเซ็ตสัญญาณกันขโมยอีกครั้งหากไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น

และอีกตัวอย่างหนึ่ง คือ รองเท้าอัจฉริยะ ที่ช่วยนำทางผู้พิการทางสายตา รองเท้าอัจฉริยะนี้มีชื่อว่า ‘เลอชาล’ (Lechal) หลักการทำงานคือ รองเท้าจะเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านทางบลูทูธ จากนั้นจะใช้ระบบ GPS นำทางด้วยวิธีการสั่นเพื่อบอกทิศทาง เช่น ถ้าต้องเลี้ยวขวา รองเท้าข้างขวาก็จะสั่นเพื่อบอกทิศทาง เป็นต้น ผู้สวมใส่สามารถสั่งการด้วยเสียง เพื่อบอกจุดหมายปลายทางได้ และรองเท้าจะสั่นแรงขึ้น เมื่อผู้สวมใส่เดินเข้าไปใกล้ยังจุดหมาย นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์จับสิ่งกีดขวาง สามารถบอกขนาดและลักษณะของสิ่งกีดขวางได้ อย่างแม่นยำอีกทั้งยังสามารถใช้นับจำนวนก้าวและคำนวณแคลอรี่ได้ด้วย

ข้อดีของยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กลง ราคาถูกลงมาก ทำให้อุปกรณ์หลายอย่างที่เป็นเครื่องใช้ไม้สอยธรรมดาเริ่มจะมี “ความฉลาด” ของคอมพิวเตอร์ขึ้นมาบ้างแล้ว Internet of Things คือแนวคิดที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์อัจฉริยะเหล่านี้ให้คุยกันได้เองโดยไม่ต้องผ่านคน โดยมีเป้าหมายคือช่วยกันทำงานเพื่อให้คนสะดวกสบายขึ้น โดยที่คนไม่ต้องเข้าไปยุ่งหรือสั่งการเลย

ปัญหาของ Internet of Things ที่จะต้องแก้ไขคือ สร้าง "มาตรฐานกลาง" สำหรับอุปกรณ์ ให้สามารถคุยเป็นภาษาเดียวกันได้ ส่วนใหญ่อุปกรณ์พกพาต่อเน็ตก็เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางที่ทุกคนยอมรับ แต่ปัญหาของ Wi-Fi คือกินพลังงานเยอะ จึงมีวิธีการสื่อสารไร้สายแบบใหม่ที่ทำงานได้เหมือน Wi-Fi แต่กินไฟน้อยลงมากๆ แม้เราจะมี Internet of things เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ก็เป็นความเสี่ยงในการใช้เทคโนโลยีทางการก่อการร้ายและก่ออาชญากรรมได้เช่นกัน หากระบบรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไม่ดีพอ จะทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามากระทำการที่ไม่พึงประสงค์ต่ออุปกรณ์ข้อมูลสารสนเทศหรือความเป็นส่วนตัวของบุคคลได้ ดังนั้น การพัฒนาไปสู่ Internet of Things จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนามาตรการและเทคนิคในการรักษาความปลอดภัยไอทีควบคู่กันไปด้วย