ผู้ใช้:Dolkungbighead/กระบะทราย/ซาโตชิ (แปล)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซาโตชิในโปเกมอนภาค DP (ภาคปัจจุบัน)

ซาโตชิ (ญี่ปุ่น: サトシ Satoshi) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า แอช เคทชัม (อังกฤษ: Ash Ketchum) เป็นตัวละครเอกของโปเกมอนฉบับอะนิเมะและฉบับมังงะที่ชื่อ "Electric Tale of Pikachu" ตัวของซาโตชินั้นมาจากตัวละครหลักที่ชื่อ เร้ด ในเกมโปเกมอนภาคเร้ดและบลู ชื่อของเขาเป็นชื่อเดียวกับผู้สร้างแฟรนไชส์โปเกมอนที่ชื่อ ซาโตชิ ทาจิริ โดยชื่อซาโตชินั้นอาจแปลได้ว่า "ปัญญา" หรือ "เหตุผล" ส่วนชื่อภาษาอังกฤษของเขานั้นมีหลายความหมาย ชื่อท้ายภาษาอังกฤษมาจากการเล่นคำจากคำว่า "Gotta Catch 'em All!" ซึ่งเป็นสโลแกนของโปเกมอนภาคแรก สำหรับชื่อแรกของเขานั้น แอช (Ash) มีตัวอักษรเหมือนกับชื่อ (Satoshi) ยังมีคนอีกกลุ่มที่บอกว่าต้นไม้ที่ชื่อ แอช (Ash Tree) อาจเป็นที่มาของชื่อนี้ก็ได้

ในอะนิเมะ[แก้]

ตัวละคร[แก้]

ซาโตชิในโปเกมอนภาคแรก

เป้าหมายในชีวิตของซาโตชิคือการได้เป็นโปเกมอนมาสเตอร์อันดับ 1 ของโลก ซึ่งได้กล่าวไว้ในตอนแรกของอะนิเมะ Pokémon - I Choose You! (ญี่ปุ่น: ポケモン! きみにきめた!Pokémon! I Choose You!: EP001) ซาโตชิเริ่มต้นเดินทางด้วยวัย 10 ขวบเป็นผู้ฝึกโปเกมอน (Pokémon Trainer) ซึ่งมีจิตใจเมตตา มีเจตนาดี แต่ดื้อรั้นและยังไม่เชี่ยวชาญ เขาได้รับพิกะจูตัวที่มีนิสัยไม่มีความเคารพเจ้าของจากศาสตราจารย์ออคิดส์ เป็นโปเกมอนเริ่มต้นเพราะเขาไม่ตั้งนาฬิกาปลุกและตื่นสายในวันที่เขาต้องมารับโปเกมอนตัวแรก ซาโตชิตั้งใจที่จะไปถึงเป้าหมายสูงสุดให้ได้ ซึ่งการที่เขาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพิกะจู โปเกมอนคู่หูได้ จะทำให้เขาเดินทางได้ง่ายขึ้น

ตั้งแต่นั้นมา ซาโตชิได้เรียนรู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้ฝึกโปเกมอน เขาจับโปเกมอนตัวแรกได้ขณะที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับการต่อสู้ของโปเกมอนเลย และจะไม่พอใจที่จะต้องยอมรับความผิดของเขา ยิม 5 ยิมแรกที่เขาเข้าชิงเข็มกลัดได้มอบเข็มกลัดให้เขาเพียงเพื่อขอบคุณที่ซาโตชิให้ความช่วยเหลือมากกว่าการชนะการต่อสู้กับผู้นำยิม ความจริงแล้วผู้นำยิมคนแรกที่ซาโตชิต่อสู้ชนะมาก็คือ มาทิส ผู้นำยิมลำดับที่ 3 ของเขตคันโต ทุกครั้งที่ซาโตชิคิดว่าเขาทำได้ดีแค่ไหน ก็มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งในวัยเด็กของเขาที่ชื่อ ชิเงรุ ที่ชอบเตือนซาโตชิเสมอว่าเขายังคงเหมือนเด็กเดินเดินเตาะแตะหรือเด็กอายุ 7 ขวบอยู่ และขณะที่ชิเงรุจับโปเกมอนได้ประมาณ 45 ตัว ซาโตชิเพิ่งจะจับได้ถึงตัวที่ 7 จนสถานการณ์นี้ต้องหยุดชะงักลงเมื่อลิซาด้อน โปเกมอนที่เก่งที่สุดของซาโตชิในตอนนั้น ไม่ยอมเชื่อฟังซาโตชิเนื่องจากการขาดประสบการณ์จนกระทั่งเขาได้ปรับปรุงแก้ไขตัวเองจนลิซาด้อนยอมเชื่อฟังซาโตชิในที่สุด

ซาโตชิยังคงมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายของเขาตลอดเวลา หลังจากเขาสะสมเข็มหลักครบทั้ง 8 อัน เขาได้เข้าร่วมแข่งขันในโปเกมอนลีกเซคิเออิ (ญี่ปุ่น: セキエイリーグ Sekiei League) ซาโตชิเข้ารอบลึกกว่าชิเงรุ โดยซาโตชิเข้าได้ถึงแค่รอบที่ 5 แต่ชิเงรุต้องพ่ายแพ้ในรอบที่ 4 หลังจากที่ซาโตชิทำใจได้หลังจากพ่ายแพ้โปเกมอนลีกครั้งนี้ เขาก็ปรับปรุงฝีมือของตนต่อไป เข้าร่วมต่อสู้ครั้งใหม่ และแข่งขันในโปเกมอนลีกอีกมากมาย โดยสามารถเอาชนะออเร้นจ์ลีก (ญี่ปุ่น: オレンジリーグ Orange League) และแบทเทิลฟรอนเทียร์ (ญี่ปุ่น: バトルフロンティア Battle Frontier) ในเขตโฮเฮ็นได้

ซาโตชิมีการเปลี่ยนแปลงมากมายตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทักษะการฝึกโปเกมอน แต่ความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซาโตชิเป็นคนซื่อสัตย์ และไม่เคยทอดทิ้งเพื่อน ครอบครัว และผู้ช่วยเหลือต่าง ๆ ยกเว้นโปเกมอนบางตัวของเขา ซาโตชิกลายเป็นผู้ฝึกที่เก่งกล้าได้จากการค้นหาและใช้ความแข็งแกร่งของโปเกมอนโดยอาศัยความผูกพันใกล้ชิดและค้นหาที่ที่ความสามารถนั้น ๆ ซ่อนอยู่ รวมทั้งใช้ยุทธวิธีแปลกใหม่ในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ เช่น ซาโตชิใช้ความเร็วของพิกะจูเอาชนะโปเกมอนตัวใหญ่กว่าและมีพลังโจมตีมากกว่าหรือได้เปรียบ และการใช้ลิซาด้อนเอาชนะคาเม็กซ์ของชิเงรุโดยการทำให้สนามแข่งร้อน และเข้าต่อสู้ระยะประชิดขณะที่คาเม็กซ์ลายตาจากไอที่ระเหยออกมา ซาโตชิยังสามารถฝึกโปเกมอนของเขาให้เก่งได้โดยไม่จำเป็นต้องพัฒนาร่าง ซาโตชิยังรู้สึกลังเลใจว่าจะยอมให้โปเกมอนของเขาพัฒนาเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นดีหรือไม่ อย่างที่ปรากฏตอนที่เขาทำกับไกลเกอร์ ในตอน Fighting Fear With Fear! (ญี่ปุ่น: グライガー! 友情の翼!Gliger! Wings of Friendship!: DP085)

ซาโตชิในภาค AG
ซาโตชิตอนไม่ใส่หมวก

ระหว่างเนื้อเรื่องในฤดูกาลแรก ซาโตชิไม่ได้ฝึกฝนตัวเองเพื่อให้ตัวเองก้าวหน้าแต่เป็นการจับโปเกมอนให้ได้มากกว่าชิเงรุแทน ต่อมาซาโตชิสนใจจุดเด่นของโปเกมอนแต่ละตัวมากขึ้น ในการทัวร์สัมมนาชิโรกาเนะในเขตโจโต ซาโตชิได้ชนะการต่อสู้กับชิเงรุด้วยการเติบโตและความอ่อนน้อมถ่อมตัว ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของเขา ซาโตชิเติบโตมากขึ้นในเรื่องของความสัมพันธ์กับโปเกมอน อย่างเช่นตอนที่มังกี้ฉกหมวกของเขาไป ในตอน Primeape Goes Bananas (ญี่ปุ่น: おこらないでねオコリザル!Angry Okorizaru: EP025) เขาส่งเสียงร้องขอหมวกคืน แม้แต่การปืนต้นไม้เพื่อให้ได้หมวกคืนมา แต่ตอนที่เอปามทำเช่นเดียวกับแมนกี้ในตอน Slaking Kong (ญี่ปุ่น: 驚異!巨大ケッキングの山!! Marvel! Mountain of the Giant Kekking!!: AG179) เขาพูดเพียงแค่ว่าเขารู้สึกแปลกเมื่อไม่ได้ใส่หมวกใบนั้น

โปเกมอนอะนิเมะหลายตอน โดยเฉพาะระหว่างดำเนินเนื้อเรื่องในเขตโจโต ซาโตชิมักได้ผูกมิตรกับผู้คนที่จะคอยฝึกฝนให้เขาเป็นผู้ฝึกโปเกมอนที่เก่งขึ้นได้ แม้ว่าซาโตชิจะไม่ใช่เด็กที่อยู่ในการอุปถัมภ์ แต่ก็เขาก็ยังอ่อนต่อโลกและได้เรียนรู้ถึงวิธีการไว้ใจเพื่อน แม้ว่าเพื่อนของซาโตชิที่ดีที่สุดคือพิกะจู แต่ต่อมาซาโตชิได้มองเพื่อนมนุษย์ที่ใกล้ชิดได้ในระดับเดียวกับพิกะจูได้ เช่น คาสึมิและทาเคชิในตอน Gotta Catch Ya Later (ญี่ปุ่น: サヨナラ…そして、たびだち!Goodbye... And Then, Setting off!: EP273) รวมถึง ฮารุกะและมาซาโตะในตอน Battling the Enemy Within (ญี่ปุ่น: バトルピラミッド!VSレジロック!! Battle Pyramid! VS Regirock!!: AG178)

ซาโตชิได้เดินทางไปตามโลกของโปเกมอน และได้เข้าร่วมแข่งขันในการแข่งขันโปเกมอนลีกประจำเขตภูมิภาคถึง 4 ครั้ง แต่เขาก็ได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ ๆ เกี่ยวกับโปเกมอนตลอดเวลา

ซาโตชิกำลังใช้พลังคลื่นชี้นำภายในต้นไม้แห่งการเริ่มต้น (Tree of Beginning).

ซาโตชิเคยได้เห็นและสัมผัสกับโปเกมอนในตำนาน โดยเฉพาะ โฮโอ ลูเกีย ลาติอัส ลาติออส และเชมิน ในโปเกมอนฉบับภาพยนตร์เรื่องที่ 2 (The Power of One) เวอร์ชันพากย์ภาษาอังกฤษ ซาโตชิได้เป็น "ผู้ที่ได้รับเลือก" เป็นผู้ที่นำความสมดุลกลับมาสู่โลก แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ซาโตชิก็มีลักษณะพิเศษที่ว่าเขามีพลังคลื่นชี้นำเหมือนกับอาร์ลอน ฮีโร่ในตำนาน (ใน Lucario and the Mystery of Mew) และเขาสามารถใช้งานพลังนี้ได้เหมือนกับอาร์ลอน อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้รับการฝึกฝนในเรื่องนี้ แต่เลือกที่จะเดินทางต่อไปแทน เขายังถูกเปรียบเทียบได้กับผู้คุ้มครองพลังคลื่นชี้นำโบราณในตอน The Keystone Pops! (ญี่ปุ่น: ミカルゲの要石!Mikaruge's Keystone!: DP056) ที่มีคู่หูเป็นพิกะจูเหมือนกัน ต่อมาในตอน Pokémon Ranger and the Kidnapped Riolu! Parts 1 (ญี่ปุ่น: ポケモンレンジャー!波導のリオル!!(前編) Pokémon Ranger! The Wave-Guiding Riolu!! (Part 1): DP071) และ Pokémon Ranger and the Kidnapped Riolu! Parts 2 (ญี่ปุ่น: ポケモンレンジャー!波導のリオル!!(後編) Pokémon Ranger! The Wave-Guiding Riolu!! (Part 2): DP072) ซาโตชิใช้พลังคลื่นชี้นำอีกครั้งเพื่อหาตำแหน่งที่อยู่ของโปเกมอนที่ชื่อริโอลุที่หายไป และใช้อ่านจิตใจของริโอลุด้วย อย่างไรก็ตาม การใช้พลังงานนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจากริโอลุมีพลังคลื่นชี้นำที่แข็งแกร่งอย่างผิดธรรมชาติ

ซาโตชิได้รับบัตรประกวดโปเกมอนสำหรับเขตภูมิภาคซินโน เขากล่าวไว้ว่าเขาสนใจเข้าประกวดโปเกมอนที่นี่ แต่ความจริงแล้วเขายังเคยได้รับจากเขตโฮเอ็น แต่เพียงเพื่อเข้าชมการประกวดเท่านั้น ซาโตชิยังได้นำมอนสเตอร์บอลครึ่งซีกติดตัวไว้ โดยอีกครึ่งซีกนั้นอยู่กับชิเงรุและเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง นอกจากนี้ยังมีเหยื่อตกปลารูปคาสึมิที่คาสึมิมอบให้ซาโตชิเป็นของขวัญ และริบบิ้นครึ่งซีกที่ได้รับจากการประกวดโปเกมอนกับฮารุกะก่อนที่เธอจะออกจากกลุ่มเพื่อไปแข่งประกวดต่อในเขตโจโต

ครอบครัว[แก้]

ซาโตชิเคยอาศัยอยู่กับแม่ของเขาที่ชื่อ ฮานาโกะ จนกระทั่งเขาออกจากบ้านเพื่อเดินทางเป็นผู้ฝึกโปเกมอนเมื่ออายุได้ 10 ขวบ

สำหรับพ่อของซาโตชิยังไม่มีการแนะนำ ในอะนิเมะบอกเป็นนัย ๆ ไว้ว่าพ่อของซาโตชิ ครั้งหนึ่งเป็นผู้ฝึกโปเกมอนที่เริ่มเดินทางจากเมืองมาซาระ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในแวดวงแฟนคลับโปเกมอนมีการพูดคุยอภิปรายกันถึงบุคลิกลักษณะของพ่อของซาโตชิ ทั้ง ๆ ที่ผู้เขียนเรื่องนี้ไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่ลักษณะมุมมองชีวิตของซาโตชิ ตัวละครในเรื่องโปเกมอนที่แฟนคลับวางตัวไว้ให้เป็นพ่อของซาโตชิมีหลายตัว เช่น ซาคากิ (บอสของแก๊งร็อคเก็ต) ศาสตราจารย์ออคิดส์ และซิลเวอร์ ซึ่งปรากฏตัวใน Pokémon Chronicles ตอน The Search for the Legend (ญี่ปุ่น: 天駆ける伝説 ヒロシとファイヤー!The Heavenly Legend, Hiroshi and Fire!: H018)

บทสัมภาษณ์ของผู้เขียนโครงเรื่องโปเกมอนยืนยันว่าพ่อของซาโตชิเป็นผู้ฝึกโปเกมอนอยู่ในเขตคันโต พ่อของซาโตชิอาจจะหรืออาจจะไม่ได้แนะนำไว้ในเนื้อเรื่อง แต่เนื้อเรื่องจะเน้นไปที่การเติบโตของซาโตชิและการพัฒนาฝีมือผู้ฝึกโปเกมอน

ซาโตชิเป็นเด็กที่แตกต่างจากตัวละครหลักตัวอื่นที่มีพี่น้อง ยกเว้นฮิคาริ และเค็นจิ

โปเกมอน[แก้]

ซาโตชิได้ผูกมิตรกับโปเกมอนและจับโปเกมอนตลอดเนื้อเรื่องของอะนิเมะ หลักความคิดของเขาเกี่ยวกับการฝึกโปเกมอนคือโปเกมอนจะมีความเป็นส่วนตัวและการท้าทายสิ่งต่าง ๆ ทอย่างทนทานที่สุดจะได้จากความไว้ใจ มิตรภาพ และการขยันฝึกรวมกัน ซาโตชิจะต่อสู้กับโปเกมอนที่มีความคล้ายพิกะจูได้ดีที่สุด กล่าวคือโปเกมอนที่มีความเร็วดี หลบหลีกเก่ง และสามารถแสดงท่าโจมตีอันทรงพลังออกมาได้ แต่ซาโตชิก็จะใส่ใจฝึกฝนโปเกมอนที่อยู่กับเขาไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ตาม ซาโตชิมักจะต่อสู้โดยวิธีที่ไม่ธรรมดาแต่ยุติธรรม และโปเกมอนของเขาเองก็ปฏิบัติตามเขาเช่นกัน

อ้างอิง[แก้]

Ash Ketchum

ตรงที่แปลแบบไม่แน่ใจหรือเรียบเรียงไม่ถูก[แก้]

  • He was determined to achieve his goal, however, and when he showed his willingness to give up his own safety to keep Pikachu safe, he formed a strong bond of friendship with his Pokémon which would set his course for the future.
  • ...,Gary Oak, who always reminded Ash that he was always a step or seven behind,...
  • ...,with matters being further hampered when his Charizard, his most powerful Pokémon, refused to listen to him due to his inexperience until he had proven himself to the powerful Fire-type.
  • Although he is not a dependent individual, he is still young and has learned to make his way relying on his friends, particularly the maternal skills of Brock.
  • ... that a combination of trust, friendship and hard work are needed to overcome the toughest of challenges.