ผู้ใช้:Cloudwu4271/ทดลองเขียน
หลุมสิว
[แก้]
สาเหตุหลุมสิว
[แก้]หลุมสิวเป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายหลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ โดยส่วนมากถ้าการอักเสบหรือบาดเจ็บเกิ
Cloudwu4271 |
---|
ดแค่ผิวชั้นบนก็จะไม่ทิ้งรอยแผลที่ยุบตัวให้เห็น แต่ถ้าหากเกิดในชั้นที่ลึกลงยังผิวชั้นใน การรักษาแผลจะสร้างพังผืดที่ดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิวนั่นเอง
ดังนั้นหากไม่อยากเป็นหลุมสิว ก็ต้องดูแลรักษาสิวอย่างถูกวิธี ถึงแม้ปัจจุบันจะไม่มีวิธีที่ป้องกันการเกิดหลุมสิวได้ 100% แต่อย่างน้อยก็มีวิธีที่ช่วยลดการเกิดหลุมสิวได้ โดยการดูแลตัวเองก่อนสิวอักเสบลุกลาม
วิธีการลดการเกิดหลุมสิว
[แก้]วิธีการที่ดีที่สุดในการลดการเกิดหลุมสิวคือ รีบรักษาสิวทันทีที่สิวเริ่มขึ้น โดยการทายากลุ่มรักษาสิว ถ้าหากทาแล้วไม่ดีขึ้น หรือสิวอักเสบมีขนาดใหญ่มากควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้สิวอักเสบยิ่งแย่ลง เพราะยิ่งสิวอักเสบเม็ดใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทิ้งหลุมสิวมากขึ้น ดังนั้น ห้ามแกะ บีบ หรือขัดถูใบหน้าแรงๆ เมื่อเป็นสิวเด็ดขาด เพราะการบีบเค้นทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น อาจลงไปในชั้นผิวที่ลึกขึ้น และกระบวนการสมานแผลของร่างกายจะใช้เวลานานขึ้น เกิดพังผืดมากขึ้น ก็จะกลายเป็นแผลเป็นหรือหลุมสิวถาวรได้เลย
ห้ามแกะสะเก็ด หลังจากหัวสิวหลุดแล้ว
วิธีรักษาหลุมสิว
[แก้]หากเกิดหลุมสิวขึ้นแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลเพราะปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาหลุมสิวให้ดีขึ้นได้ อาจไม่ได้กลับมาเหมือนเดิม แต่ก็ช่วยให้รอยหลุมสิวตื้นขึ้น
Alpha hydroxyl acids (AHAs)
[แก้]วิธีนี้หลายๆ คนเรียกว่า ‘การใช้กรดผลไม้’ ซึ่งมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การอุดตันของรูขุมขน และทำให้รอยหลุมสิวดูจางลงได้ แต่เราควรเลือกใช้ความเข้มข้นให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า แต่หากผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งก็ไม่ควรใช้นะคะ
Lactic acid การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดแลกติก
[แก้]วิธีนี้ต้องทำทุก 2 สัปดาห์ สามารถช่วยรอยหลุมสิวให้ตื้นขึ้น รอยดำสิวจางลง แต่วิธีการนี้ควรให้คุณหมอเป็นผู้ทำให้จะดีกว่า เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
การใช้ยากลุ่มRetinoid
[แก้]วิธีนี้เป็นการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวดูเรียบขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้รอยดำจากสิวดูจางลง แต่ก็มีความระคายเคืองเช่นกัน จึงไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย และยามีความไวต่อแสงจึงทาได้เฉพาะช่วงกลางคืน และต้องทาครีมกันแดดในเวลากลางวันด้วย
การรักษาด้วยกรดซาลิซีลิก (Salicylic)
[แก้]วิธีนี้เป็นการรักษาที่ดีมากวิธีหนึ่งเลยก็ว่าได้ การแต้มกรดซาลิซีลิกเฉพาะจุด เป็นการกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ที่บริเวณนั้น จะช่วยให้หลุมสิวบริเวณนั้นตื้นขึ้น ในคนที่มีหลุมสิวลึกวิธีนี้ค่อนข้างจะได้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดีเลย
Microdermabrasion
[แก้]เป็นการใช้เครื่องมือในการผลัดเซลล์ผิวให้ลงในชั้นลึกขึ้น หลายคนรู้จักกันว่าคือ การกรอหน้า วิธีนี้จะได้ผลดีกับกรณีที่เป็นหลุมสิวตื้น แต่ไม่ได้ผลในคนที่มีหลุมสิวลึก หลังทำอาจมีอาการแสบเล็กน้อยและหน้าแดง จะใช้เวลา 1-2 เดือนถึงจะเริ่มเห็นผล
การใช้เข็มเล็กๆตัดผังพืดใต้หลุมสิว วิธีนี้เป็นการใช้หัวเข็มแซะเข้าไปยังบริเวณได้หลุมสิวโดยตรง ค่อนข้างจะเจ็บสักหน่อย แต่เป็นการช่วยให้การดึงรั้งของพังผืดลดลง ทำให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ด้วย หลุมสิวจึงตื้นขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ (filler)
[แก้]การเติมฟิลเลอร์บริเวณหลุมสิวเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ แต่วิธีนี้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และฟิลเลอร์เองมีอายุอยู่ได้ 6 – 18 เดือน ต้องมาเติมบ่อยๆ
Micro needles
[แก้]คือการใช้เข็มเล็กๆ กระตุ้นให้เกิดรอยแผลเล็กๆ ทั่วบริเวณที่เป็นหลุมสิว เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น วิธีนี้ใช้ได้ผลค่อนข้างดีทั้งหลุมตื้นและลึก แต่ค่อนข้างเจ็บและหลังทำหน้าจะช้ำแดง และต้องดูแลตัวเองหลังการรักษาดีๆ เพื่อไม่ให้เกิดรอยดำหลังการรักษา
การใช้เลเซอร์
[แก้]ใช้เลเซอร์กระตุ้นการผลัดเซลล์เพื่อช่วยให้ผิวเกิดการสร้างขึ้นใหม่ วิธีการนี้ก็ค่อนข้างเจ็บ และหลังทำหน้าจะแดงช้ำ แต่ผลลัพธ์ในการรักษาถือว่าดีและคุ้มค่า
นี่คือหน้าทดลองเขียนของ Cloudwu4271 หน้าทดลองเขียนเป็นหน้าย่อยของหน้าผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้มีไว้ทดลองเขียนหรือไว้พัฒนาหน้าต่าง ๆ แต่นี่ไม่ใช่หน้าบทความสารานุกรม ทดลองเขียนได้ที่นี่ หน้าทดลองเขียนอื่น ๆ: หน้าทดลองเขียนหลัก |