ข้ามไปเนื้อหา

ผู้ใช้:Arithat0979399995/ทดลองเขียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

หลักหัตถศาสตร์ (ลายมือ)รวบรวมเรียบเรียงโดย

ผศ.ดร.อริย์ธัช เลิศรวมโชค

หลักหัตถศาสตร์ (ลายมือ)

แนวคิดเกี่ยวกับหัตถศาสตร์พบว่า มนุษย์เกิดมาจะมีแผนที่ชีวิตบนฝ่ามือติดตัวมา ทั้งซ้ายขวา แผนที่ดังกล่าวสามารถจะบอกถึงการดำรงชีวิต อดีต ปัจจุบันและอนาคต วัยเด็กแผนที่บน ฝ่ามือยังน้อยแต่จะค่อย ๆ เพิ่มตามวัย ในช่วงอายุ ๑๐-๑๑ ปี จะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง มีแต่จะ เพิ่มขึ้นบ้างไม่เกิน ๕ เปอร์เซ็นต์ แต่แผนที่จะไม่หายไป เช่น นักกอล์ฟ นักเทนนิส นักแบดมินตัน ที่มี การฝึกฝนหนักจนผิวหนังด้าน เส้นจะเลือนหายไปซึ่งก็ไม่แตกต่างจากฝ่ามือของชาวสวน ชาวไร่ ที่จับ จอบเสียมนาน ๆ เส้นจะหายไปหากหยุดหรือเลิกกิจกรรมเหล่านั้น เส้นจะกลับมาแต่ต้องใช้เวลานาน นับเป็นปี สำหรับการเพิ่มขึ้นของเส้นลายมืออันเป็นแผนที่ชีวิตจะน้อยมาก ในทางทฤษฎีของ หัตถศาสตร์ ลายมือที่ไม่เหมือนกันทำให้การดำรงชีวิตและความประพฤติแตกต่างกัน[๑] ดังจะเห็น แนวคิดของ นักวิจัย นักค้นคว้าตำรา ได้กล่าวไว้ดังนี้

รัศมี สร้อยวัฒนา[๒] กล่าวไว้ว่า ลายมือหรือลิขิตบนฝ่ามือเป็นศาสตร์และเป็นศิลป์อย่าง หนึ่งที่น่าสนใจ จากหลักฐานที่มีการจดบันทึกไว้ในประเทศอินเดียพบว่า ศาสตร์นี้มีกำเนิดมา ๓,๐๐๐ ปี เป็นศาสตร์ดึกดำบรรพ์ จากนั้นได้แพร่ขยายไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก อีกทางหนึ่งมีตำนานกล่าวไว้ ในกรีกสมัยโบราณ รวมทั้งบันทึกที่พบในประเทศจีน กล่าวว่าวิชาลายมือมีกำเนิดมาก่อนสมัยของ ปรมาจารย์ Cheriro ซึ่งเป็น บิ ดาของวิชาหัตถศาสตร์ (Palmistry of Predicting Science) เป็นลักษณะของแนวประยุกต์ โดยศึกษาสีสัน รูปทรงเนินต่าง ๆ ของฝ่ามือ นิ้วมือและเล็บมือรมทั้ง ลายเส้นบนฝ่ามือตลอดจนเครื่องหมายที่พบนั้น เพื่อรวบรวมเป็นสถิติและข้อสรุปในการวิเคราะห์ ลายมือหรือการทำนายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุคลนั้น ๆ โดยอิงการคำนวณเพื่อทราบกำหนด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แน่นอน เด่นชัดมาตั้งแต่เกิดถึงอนาคต สามารถบอกเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของพฤติกรรม สุขภาพของร่างกาย โรคภัยไข้เจ็บ ความรุ่งโรจน์ ความสมหวัง ในธุรกิจการงาน ความผิดหวังในชีวิต ความรักและศัตรู การเงินเครดิต อำนาจบารมี สามารถบอกถึงอดีต ปัจจุบันและ อนาคตได้

จรัญ พิกุล[๓] กล่าวว่า หัตถศาสตร์บอกถึงอุปนิสัย ความสามรถโชคชะตาในทางอาชีพ ความรัก เคราะห์ต่าง ๆ รวมเรียกกว่า บอกเหตุการณ์ในชีวิตของเจ้าของมือ โดยอ่านจากส่วนต่าง ๆ ของมือและเส้นบนฝ่ามือ

ประจวบ แก่นจันทร์[๔] ให้ความเห็นว่า “ลายมือคือสัญญาและกติกาของชีวิต” มนุษย์ เกิดมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ต้องมีครบ ๓๒ อย่าง และลายมือก็เกิดมาพร้อมกันตั้งแต่อยู่ในครรภ์ มารดาแล้ว ร่างกายของมนุษย์นั้นประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔ คือ ๑) ธาตุดิน คือเนื้อ ๒) ธาตุน้ำ คือน้ำ หรือของเหลว เลือดและปัสสาวะ ๓) ธาตุลม คืออากาศหายใจ ส่วนธาตุที่ ๔) คือธาตุไฟ คือความร้อน การเผาผลาญพลังงานของร่างกาย เมื่อ ๔ ธาตุมารวมกัน ก่อให้เกิดรูปร่างหน้าตา นิสัยใจคอที่ แตกต่างกันไป มนุษย์ถูกกระทำจากการเกิด การเจริญวัย การเลี้ยงดู การศึกษาเล่าเรียน สิ่งแวดล้อม เหล่านี้จะเป็นปัจจัยก่อให้เกิดลายมือที่บ่งบอกความลับต่าง ๆ ที่ซ้อนเร้นความรู้สึกภายในจิตใจความ เป็นอยู่ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้อย่างแม่นย า

เกสรีกาญจน์[๕] กล่าวว่า อันมนุษย์เหล่านั้น เมื่อเกิดมาลืมตาดูโลกอาจจะมีอวัยวะหลาย สิ่งที่คล้ายคลึงกันหรืออาจจะเหมือนกันได้ เป็นต้นว่า รูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ กรุ๊ปเลือด หรือแม้กระทั่ง DNA แต่ไม่มีสิ่งที่เหมือนกันเลย นั่นก็คือ ลายมือ ในทางวิทยาศาสตร์จึงเอาลายมือเป็น สัญลักษณ์กำกับตัวบุคคลนั้น ๆ ที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้

ส่วนในทางโหราศาสตร์อีกแขนงหนึ่งได้ยึดเอา ลายมือ มาเป็นเครื่องพยากรณ์ชีวิตว่า บุคคลนั้น ๆ จะมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไร หรือจะประกอบหน้าที่การงานอย่างไรจึงจะเหมาะสม หรือแม้กระทั่งพยากรณ์ได้กล่าวว่าบุคคลจะมีคู่ครองเป็นอย่างไร ตลอดจนใช้ลายมือพยากรณ์ได้ว่า อนาคตของบุคลนั้น ๆ จะมีชะตาชีวิตเป็นเช่นไรได้อีกด้วย ศาสตร์ดังกล่าวนี้มิได้มีในเฉพาะประเทศ ไทยเท่านั้น แต่หากยังมีเกือบทั่วโลกเกือบทุกเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ได้ยึดถือเอาลายมือมาเป็นเครื่อง พยากรณ์ชีวิตเช่นเดียวกัน

Fred Gettings[๖] กล่าวว่า วิชาลายมือเป็นทฤษฎีการอ่านลายมือเป็นสัญลักษณ์ที่ แตกต่างของแต่ละบุคคล รูปแบบมือและลายเส้นต่าง ๆ จะสามารถบ่งบอกถึงอุปนิสัยใจคอ และวิถี ชีวิตได้ การดำเนินชีวิตของเจ้าของชะตา ถึงแม้นเจ้าชะตาจะยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ในจิตใจอาจหมกมุ่น กับสิ่งต่าง ๆ ได้ การเรียนรู้และรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเป็นความฉลาดที่ควรเรียนรู้และนำมา ปรับแก้และรับสถานการณ์ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองไม่ใช่เชื่อแบบงมงาย แต่ก็เป็นการยากที่จะทำให้ คนส่วนใหญ่หรือหลาย ๆ คนเชื่อในคำทำนายได้แต่อย่างไรก็ตามวิชาลายมือก็ยังถือได้ว่าเป็นวิชาที่มี การยอมรับและเชื่อถือกันจนถึงปัจจุบันในศตวรรษที่ ๑๖ วิชานี้มีความโด่งดัง มีการตั้งทฤษฎีการอ่าน ลายมือและการอ่านสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันบนฝ่ามือซึ่งทฤษฎีนี้ไม่เกี่ยวกับเวทย์มนต์ หรือคาถาอาคมแต่อย่างไร หากแต่เป็นเรื่องของวิธีทางวิชาการและมีการจดบันทึกหาความถูกต้อง และมีการทดสอบถึงทฤษฎีว่าด้วยลายมือว่ามีความสัมพันธ์ทางหลักวิทยาศาสตร์อย่างไร  เมื่อเข้าใจหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ย่อมเข้าใจลายมือ เป็นเรื่องไม่ยุ่งยากอะไรในการเรียนรู้ เมื่อรู้และเข้าใจย่อม นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการมีความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ชินแส ไป่หยุน ชานเหยิน[๗] กล่าวว่า หัตถลักษณ์เป็นเข็มทิศของชีวิตด้วย มันช่วยให้เรา ไม่ถึงกับล้มลง แม้หัตถลักษณ์จะแสดงถึงชีวิต ที่น่าเศร้าเพียงใด ก็ไม่จำเป็นต้องมองโลกในแง่ร้าย ขอเพียงมีจิตใจกล้าต่อสู้ กล้าเอาชนะชะตากรรม เชื่อว่าหัตถลักษณ์จะปรากฏ “หนทางแห่งชีวิต” ที่มี ความสุขให้เห็นแน่นอน

หัตถลักษณ์ไม่ได้สะท้อนพรหมลิขิตที่เปลี่ยนแปลงได้ มันคือบันทึกพฤติกรรมสะสมตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบันของคนผู้หนึ่ง ดังเช่น รถไฟที่ออกจากโตกียวสู่โอซาก้า แล่นอยู่บนเส้นทางริมชายฝั่ง ทะเลตะวันออกต้องพึ่งเจ้าหน้าที่รถไฟช่วยสับรางอย่างถูกต้องตามจุดที่กำหนด รถไปขบวนนี้จึงจะ สามารถแล่นได้บนเส้นทางสายคันไซ

แต่ทั้งหมดนี้จะต้องดำเนินการบนจุดที่กำหนดแน่นอน และต้องการหมายกำหนดการที่ ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ ชะตาชีวิตของทุกคนก็เช่นกัน โอกาส แผนการ และความพยายาม ทำให้ ชะตาชีวิตสามารถสับรางก้าวสู่ความสำเร็จ นักหัตถศาสตร์ที่ดีเด่น มักให้คำแนะนำช่วยเหลือผู้อื่น สร้างสรรค์ชีวิตที่มีความสุข โดยคำนึงถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ด้านกาลเทศะขณะที่ดูหัตถลักษณ์ให้ผู้อื่น

ศ. ดุสิต[๘] กล่าวว่า “ลายเส้นบนฝ่ามือ” ยังสามารถบอกได้ถึงการดำเนินชีวิตของ เจ้าของมือนั้น ไว้เว้นแม้แต่มือของคุณเอง เพียงแต่คุณอ่านมันเป็น คุณก็จะรู้ว่าเส้นทางชีวิตของคุณจะ ดำเนินไปอย่างไร จะขึ้นเขาลงห้วยแบบไหน ช่วงไหนจะดีช่วงไหนจะเสื่อม ช่วงไหนจะมีลาภ ช่วงไหน จะเสียเงิน จะจีบสาวที่เราหมายตาไว้ตอนไหนสาวเจ้าจึงจะเออออห่อหมกกับเราได้ หรือหมายตาสาว ที่ต้องใจเอาไว้อยู่แล้ว แต่พอเห็นมือหรือลายมือของเธอเข้า เราก็รู้ทันทีว่า ขืนได้เธอคนนี้มาอยู่ด้วยละ ก็ ความสุขจะต้องบินหนีออกหน้าต่างไปแน่ รู้อย่างงี้แล้วคุณก็จะมีเวลาที่จะฉากหลบออกมาเสีย ก่อนที่จะหลวมตัวจีบเอาเธอเข้ามาอยู่ร่วมบ้านได้ อาการบ้านแตกก็จะไม่เกิดขึ้นกับคุณ

โดยสรุป ลายมือ เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยหลักของเส้นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนฝ่ามือของทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเส้นชีวิต เส้นสมอง เส้นจิตใจ เส้นวาสนา เส้นสมรส เส้นฐานะ เส้นลางสังหรณ์ เส้นเนิน อาทิตย์และเส้นอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวพันกันเป็นเรื่องราว มีความสัมพันธ์กันเชิงบวกและเชิงลบ เป็นนกติกา เป็นโค๊ด เป็นรหัสการบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของบุคคลนั้น ๆ ได้บ่งบอกถึง พฤติกรรมสุขภาพร่างกาย จิตใจ โรคภัยไข้เจ็บ ความรุ่งโรจน์ ความหวังในชีวิต ความรัก ศัตรู ฐานะ และเครดิต อำนาจและบารมี เมื่อทราบเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าของชะตาย่อมต้องมีการป้องกัน ภัยลดการสู้ญเสียและให้มีความระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่จะเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ที่ดี มีการสนับสนุนและมีผลบ่งบอกถึงข้อดีต่าง ๆ ความโดดเด่นของช่วงชะตา อายุ ในทางที่เป็นมงคล ย่อมตีความหมายเป็นวงที่แคบเข้าเพื่อหาวิธีดักต้อนหรือสร้าง แนวทางให้เป็นจริงและให้เกิดขึ้นอย่าง มีคุณภาพและประสิทธิภาพ


๑)ประวัติความเป็นมา (Palmistry)

วิชาการอ่านแผนที่ลายมือ Palm Reading[๙] เพื่อการทำนายทายทัก เป็นที่ แพร่หลายมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะชาวกรีกโบราณ ถึงกับสลักศิลาจารึกรูปฝ่ามือเป็น ประติมากรรม ถูกค้นคว้าออกมา ว่าวิชาการอ่านเส้นลายมือนั้นแพร่หลายมาก่อน จนมาถึงปัจจุบันมี คนนิยมชมชอบ จึงนับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่จะศึกษาและเรียนรู้กันจริง ๆ ไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม แม้แต่ประเทศที่เจริญ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และหลาย ๆ ประเทศในยุโรป ปัจจุบันนี้ทางการ ของสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้จดทะเบียนหมอดูให้ออกไปประกอบอาชีพได้

ประเทศที่เป็นต้นกำเนิดในการอ่านลายมือเพื่อการทำนายทายทัก คือประเทศกรีก โบราณ ส่วนใหญ่ชาวยิปซีเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำนายทายทักและแพร่ไปอินเดียสมัยก่อนคนเข้าใย ว่าวิชาเหล่านี้เป็นวิชาที่งมงาย แต่ถ้าเรียนรู้จริง ๆ แล้วไม่ว่าวิชาแขนงใดเมื่อคนเข้าใจและสนใจมีความ พยายามศึกษา ค้นคว้า ก็สามารถนำมาเป็นอาชีพได้

ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมีคนรู้จักทั่วโลก มีนามว่า ท่านคานท์หลุย แฮมอน (Count Louis Hamon) แต่ท่านเรียกตัวเองว่า ไคโร ( Cheiro) เป็นภาษากรีกโบราณ แปลว่านักวิเคราะห์ลายมือ ท่านเป็นผู้แนะนำปัญหาชีวิตบนฝ่ามือที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นปรมาจารย์ที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก เป็นนักอ่านลายมือ และสามารถทำนายชะตาชีวิตของผู้คนผ่านทางลูกแก้ว มีตาทิพย์ หูทิพย์

ท่านไคโร ได้บัญญัติลายมือไว้ 7 แบบ นักเขียนเรื่องแนะนำปัญหาบนฝ่ามือจากต้องใช้ ตำราของไคโรมาอ้างอิง ถือว่าเป็นผู้ที่มีศิลปะรวบรวมความคิดไว้ได้สมเหตุสมผล ท่านไคโรมีบิดามาดา เป็นชาวไอริช มารดาเป็นยิปซี เป็นปราชญ์แห่งศิลปะการอ่านแผนที่บนฝ่ามือ เพื่อการทำนายทายทัก และการทำนายทางลูกแก้ว

ชาวยิปซีจะเลือกหัวหน้าเผ่าเป็นผู้นำของพวกเขา จะต้องมีเชื้อสายเป็นชาวยิปซีโดยแท้ แต่พวกเขายอมรับไคโรเป็นประมุข แม้จะไม่มีเชื้อสายชาวยิปซีโดยกำเนิดก็ตามแต่ไคโรปฏิเสธ ชอบที่ จะแสวงหาความอิสระในการดำรงชีวิต ยึดถือวิชาชีพของตนเองตามมารดาโดยสายเลือด แต่ทว่าไคโร มีญาณวิเศษเหนือกว่ามารดา มีลางสังหรณ์ Sixthsenseหรือสัมผัสที่ ๖ และดูลุกแก้ว นอกจากนั้นยัง มีตาทิพย์ หูทิพย์Clairvoyant ท่านมีชีวิตอยู่ระหว่างต้นศตวรรษที่ ๒๐ แต่ปัจจุบันยังมีคนเอาตำรา ของท่านมาเป็นต้นแบบในการทำนายทายทัก และแปลออกมาเป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกทั้งแต่งเติมตาม อัธยาศัย ตำราบางส่วนของท่านไคโรอาจจะเข้าใจยากสักหน่อยเพราะท่านรู้ และอ่านลายมือผสม ญาณทิพย์ ตาทิพย์ ผู้ที่เรียนการอ่านแผนที่บนฝ่ามืออย่างเดียว จึงจำเป็นต้องค้นคว้าตำราอื่น

นอกจากตำราของไคโร ยังมีตำราอีกเล่มหนึ่งเป็นตำราที่มีเนื้อหาและสาระละเอียดมาก คือ William G. Benhamวิลเลียม จี เบลแฮม เป็นจิตแพทย์ได้รับการยกย่องจากไคโรว่าเบนแฮม เขียนตำราได้ใกล้เคียงที่สุด กล่าวคือ Benham ได้พยายามเก็บข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นการสัมผัสฝ่ามือ และสืบหาข้อเท็จจริงจากชีวิตจริงของผู้ป่วย ทั้งได้มีโอกาสอ่านลายมือบุคคลสำคัญชั้นสู้งของประเทศ

อีกท่านหนึ่ง คือ กงต์ เซ เดอแซงต์ – แชร์แมง Comte C. de Saint-Germain. A.B., LLM ท่านผู้นี้เป็นผู้วางมาตรฐานการอ่านลายมือในยุคต่อมา ประชาชนให้การยกย่องนับถือ ถือกำเนิด ในประเทศฝรั่งเศส แต่มาเติบโตในยุคต้น ๆ ของประเทศสหรัฐอเมริกา

๒)ความสัมพันธ์ระหว่างหัตถะศาสตร์กับโหราศาสตร์

วิชาโหราศาสตร์บอกได้ถึงอุปนิสัยทั่ว ๆ ไป บอกถึงความโน้มเอียงในทางต่าง ๆ ตามตาดาวเคราะห์ในจักรราศี หัตถศาสตร์จะกำหนดให้แคบเข้าถึงสภาพที่ถูกต้องอันมีเฉพาะตัว ดังนั้น คนที่เกิดในราศีเดียวกันมีดาวเคราะห์ตัวเดียวในราศีเดียวกัน ในภพหรือเรือนเดียวกัน ก็ไม่ จำเป็นจะต้องอ่านชะตาต่าง ๆ อย่างเดียวกัน ความแตกต่างที่แยกออกไปนี้จะดูได้ที่มือและลายมือ รวมทั้งหน้าตาท่าทางอีกด้วย

การดูมือของคนต่าง ๆ ที่เกิดในราศีเดียวกัน นักศึกษาวิชาโหรา-หัตถศาสตร์ ต้องหมั่น สังเกตความแตกต่างของปริมาณและคุณภาพของอุปนิสัย อารมณ์ ความสามารถ เพราะลักษณะของ มือเส้นหลัก ขนาดรูปร่างของเนินที่มีอิทธิพล รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ด้วย จะบอกความแตกต่างที่ไม่ เหมือนกันของคนที่มีราศีอันเดียวกัน[๑๐]

หัตถะศาสตร์อาจจะบอกบางสิ่งบางอย่างไม่เหมือนกับดวงชะตา เช่น ชาตาชีวิตและ อาชีพของคนทั้งหลายที่เกิดจากอิทธิพลของคนต่างชาติ เช่นต่างเมือง ต่างถิ่น การแต่งงานกับคน ต่างชาติ คบเพื่อนต่างชาติ เกิดในประเทศหนึ่งแต่ไปมีชีวิตอีกประเทศหนึ่ง สิ่งที่เกี่ยวกับต่างชาติ ต่างประเทศนี้บางกรณีก็ดูด้วยวิชาหัตถศาสตร์ได้ยากมาก เส้นชีวิตที่มีแขนงเส้นแยกออกไปจนถึงเนิน จันทร์ อาจจะพบได้ในมือของคนต่างชาติซึ่งมาถือกำเนิดในเมืองไทย แล้วกลับออกไปหากินใน บ้านเมืองของตัวในภายหลังแต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะมีลุกจีนบางคนที่เกิดในเมืองไทยและกลับไปหา กินในเมืองจีน ก็ไม่จำเป็นต้องมีเส้นชีวิตทำนองนี้ ในทางโหราศาสตร์จะช่วยได้มากในการอ่านชีวิต เกี่ยวกับต่างชาติต่างประเทศ เช่น ราศีธนู เป็นราศีที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับภาษา ต่างชาติ ต่างประเทศ การเดินทางไกลหรือส่วนที่ ๙ เรียกว่าภพที่ ๙ ของดวงชาตาก็บอกถึงเรื่องเหล่านี้ ดังนั้น หากได้ แนวทางในเรื่องของโหราศาสตร์มาประกอบดูกับลายมือแล้ว ก็จะมีประโยชน์อีกมาก ดีกว่าที่จะดูแต่ มือหรือดูแต่ดวงชาตาอย่างเดียว

เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหัตถะศาสตร์บอกได้ยาก คือชาตาชีวิตของคนที่มีวิถีชีวิตไม่อยู่ นิ่ง เปลี่ยนแปลงขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ชอบทำงานจำเจ อยู่ไม่เป็นที่ มีสิ่งกระตุ้นอยู่ ภายในใจเสมอ โหราศาสตร์บอกแบบคนทำนองนี้ได้ดี แต่หัตถะศาสตร์บอกยากหรือไม่ได้เลย  เพราะลายมือของคน ดังกล่าวนี้ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของเส้นเสมอ มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในวันเสาร์ (เส้นโชค - วาสนา) และเส้นอื่น ๆ ดูคราวหนึ่งอาจจะทายไปอย่างหนึ่ง พอมาดูอีกคราวหนึ่งก็เปลี่ยนไปอีกแล้ว ไม่คงที่ ในทางโหรา[๑๑]ศาสตร์บอกได้ง่ายจากดาวเคราะห์มาก ๆ หรือดาวสำคัญที่อยู่ในราศี เปลี่ยนแปลง(ราศีเมถุน-กันย์-ธนู-มีน) และในภพที่ ๓-๒-๙-๑๒ หรือที่เรียกว่า ภพชั้นสาม

ธรรมชาติของคนเรามักจะทะนงตน หลอกลวงตนเอง กลัวความวิกฤติต่าง ๆ ดังนั้น แต่ละคนจึงไม่ยอมรับจุดอ่อนหรือความผิดของตน คนที่มีใจเข้ากับหัตถศาสตร์ ก็ว่าลายมือเป็นของแน่กว่าดวงชาตา คนที่มีหัวใจในทางโหราศาสตร์ ก็มักจะว่าดูดวงชะตาดีกว่าลายมือ แต่ถ้ามีหัวทั้งในทาง ดูลายมือและทางดวงดาวก็จะอยู่ในฐานะที่ดีกว่า ในบทนี้จึงขอสนับสนุนให้ท่านศึกษาทั้งสองทางและ นำประกอบร่วมกัน โดยคิดเสียว่าวิถีชีวิตของคนเราอ่านได้สองทางเหมือนหลักบวกและหลักลบของ ขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ หลักของชีวิตก็ทำนองเดียวกัน[๑๒]

๓) การอ่านลายมือ

การอ่านแผนที่ชีวิตบนฝ่ามือ จำเป็นต้องรู้จักเส้นหลัก ๔ เส้นหลัก คือ เส้นชีวิตที่ เรียกว่า เส้นการดำรงชีวิต เส้นสมอง เส้นใจ และเส้นวาสนา ทั้ง ๔ เส้นนี้จะบ่งบอกให้ทราบถึงการ ดำรงชีวิต อีกทั้งเป็นฐานของการเคลื่อนไหวของนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วกลาง และนิ้วก้อย ให้เกิดความคล่องตัวและสัมผัส อาการของการเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มจุติเป็นทารกอยู่ใน ครรภ์มารดา ซึ่งเป็นแผนที่กำหนดประจำชีวิตของแต่ละคน จนถึงวันแรกเกิดจากท้องมารดา แผนที่ บนฝ่ามือนี้มีควบคู่กับการดำรงชีวิตบนผืนโลกจนถึงวาระสุดท้ายที่ต้องจากโลกไป เป็นการสิ้นสุดใน การดำรงชีวิตของแต่ละคน

แผนที่หรือเส้นปรากฏเป็นฐานรองรับเพื่อการเคลื่อนไหว จะมีลักษณะเล็ก ใหญ่ สั้น ยาว จะไม่เหมือนกันในแต่ละคน แม้แต่แฝดจากพันธุกรรมเดียวกัน ยังมีแผนที่บนฝ่ามือ ไม่ใคร่จะ เหมือนกัน ร่องผิวหนังบริเวณปลายนิ้วทุกนิ้วของแฝดที่มีลักษณะเป็นก้นหอยหรือมัดหวาย แม้แต่ ลายเส้นของแผนที่ชีวิตบนฝ่ามือเพียงคล้ายคลึงใกล้เคียงกันเท่านั้น พี่น้องของครอบครัวที่พ่อแม่ เดียวกัน จากพันธุกรรมเดียวกัน ก็จะมีแผนที่บนฝ่ามือไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ นักพยากรณ์จึงยึดการ ทำนายชะตาชีวิตว่าเป็นศาสตร์ที่เรียนรู้เกี่ยวกับแผนที่บนฝ่ามือที่เรียกว่า Palmistry และได้สร้างเป็น ทฤษฎีเพื่อความเหมาะสมและการพยากรณ์ให้เข้ากับสถานการณ์แต่ละยุคสมัย

วิธีการทำนายโดยพิจารณาหรือตรวจสอบชะตาจากแผนที่ชีวิตบนฝ่ามือของผู้รู้สมัย โบราณ จึงไม่ใช่เป็นของแปลก หากแต่ได้ถูกทอดทิ้งเป็นเวลายาวนาน และวิชานี้ก็ ๆ ไม่ใช่วิชาหลักที่ จะนำมาเปรียบเทียบ แข่งขันกับศิลปกรรมยิ่งใหญ่มหัศจรรย์ หรือปราสาทราชมณเฑียร หรือป้อม ปราการตามสถานที่ต่าง ๆ

การอ่านแผนที่เพื่อทำนายชีวิตบนฝ่ามือ คือแนวทางชี้แนะเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ที่ พยายามจะฝ่าฟันและเอาชนะสิ่งแวดล้อมจากธรรมชาติ และผลักดันสังคมให้มีโอกาสขยายกว้าง ออกไปเช่น จากสังคมเล็กของครอบครัวไปเป็นชุมชน โดยมีเผ่าพันธุ์ค่อย ๆ ทวีจำนวนประชากรมาก ยิ่งขึ้น ทั้งนี้มนุษย์ได้พยายามแสวงหาลู่ทางในการดำรงชีวิตเพื่อเอาชนะสิ่งที่ตนได้กระทำ ให้ได้มาซึ่ง สิ่งที่เหนือกว่าผู้อื่นและเพื่อแสวงหาจุดยืนให้ถูกทาง นอกจากเพื่อสร้างความเกรงขามให้ปรากฏบน    ความมหัศจรรย์[๑๓]

๔) พื้นฐานในการดูหัตถะลักษณ์[๑๔]

(๑)ลักษณะลายมือ การแบ่งมือเป็น ๗ ลักษณะ ในคัมภีร์นรลักษณ์ศาสตร์ จำนวนมากของจีนโบราณเอง มีบันทึกเกี่ยวกับลักษณะมือไม่น้อย ซึ่งส่วนใหญ่แบ่งมือออกเป็น ๕ ลักษณะ ได้แก่ มือธาตุทอง มือธาตุไฟ มือธาตุดิน มือธาตุน้ำ และมือธาตุไม้ วิธีแบ่งลักษณะมือนี้ ได้รับ อิทธิพลจากทฤษฎีเบญจธาตุ รากฐานของปรัชญาจีนอย่างลึกซึ้งภูมิหลังการก่อเกิดวิชาหัตถลักษณ์ แบบญี่ปุ่น คือ ทฤษฎีเบญจธาตุเช่นกัน แล้วภูมิหลังการก่อนเกิดวิชาหัตถลักษณ์แบบตะวันตก คืออะไร? เราพอจะอนุมานได้ว่า คือ วิชาดูโชคชะตาจากดวงดาว หมายความว่า ถือดาว ๗ ดวง ที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัส ดาวศุกร์ และดาวเสาร์เป็นรากฐาน บวกกับเทพนิยายจำนวนหนึ่งที่ฟังดูลี้ลับ ก่อตัวขึ้นเป็นหนึ่งในระบบ โหราศาสตร์ ทัศนคติของชาวยุโรปอเมริกาที่มีต่อเลข “๗” คล้ายคลึงกับทัศนคติของญี่ปุ่นที่มีต่อ เบญจธาตุ คือ เห็นว่าเกี่ยวพันกับทุกปัญหา

กิโร (Giro) นักหัตถลักษณ์ศาสตร์ทางอังกฤษ เคยแสดงความเห็นไว้ดังนี้ ปรากฏการณ์ ทางฟิสิกส์ และการเคลื่อนไหวทางจิต ล้วนมีองค์ประกอบ ๗ ประเภท นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อโดยแท้ ดังเช่น ร่างกายของคนเราเปลี่ยนแปลงอย่างขัดเจนทุก ๗ ปีต่อครั้ง ทารกในครรภ์ถึงเดือนที่ ๗ จึงแสดงเพศชัดเจน[๑๕] นอกจากนี้มนุษย์ว่าจะได้ความรู้เช่นทุกวันนี้ ผ่านมา ๗ ยุคสมัย มนุษย์ใน โลกนี้ก็แบ่งเป็น ๗ เผ่าพันธุ์ใหญ่ อื่น ๆ ได้แก่ สิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ ๗ แห่งของโลก ดาว ๗ ดวง และ หอบวงสรวง ๗ แห่ง หนึ่งสัปดาห์มี ๗ วัน แม่สี ๗ สี หินโลหะ ๗ ชนิด คนมี ๗ อารมณ์ ใบหน้ามี ๗ ทวาร ชีวิตพื้นฐานมีของ ๗ อย่าง ตลอดจนโลกมีทวีปใหญ่ ๗ แห่ง ฯลฯ

ในเมื่อดาร์บันตินี่เป็นชาวฝรั่งเศส จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่เขาแบ่งมือเป็น ๗ ลักษณะ ก่อนเมื่อแบ่งมือเป็น ๗ ลักษณะ เขาอาจคำนึงถึงปัญหาบางประการดังต่อไปนี้ ตัวอย่างเช่น มือเกิดขึ้น ได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น มือเกิดขึ้นได้อย่างไร ฝ่ามือกับนิ้วมือเกี่ยวพันกันอย่างไร ฯลฯ ผมขอแนะนำวิธี วินิจฉัยตามขั้นตอนดังนี้ สิ่งที่ต้องดูอันดับแรกคือ เมื่อเทียบมือกับรูปร่างแล้ว จัดเป็นสัดส่วนที่สมดุล หรือไม่ อันดับต่อมาคือ ลักษณะมือและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ามือกับนิ้วมือ มีอยู่ข้อหนึ่งไม่ควรลืม คือ ปัญหาข้างต้นล้วนเกี่ยวพันกันควรวินิจฉัยโดยไม่พิจารณาลักษณะหนึ่งใดโดด ๆ แต่ควรมอง ลักษณะโดยรวม จึงจะสอดคล้องกับความจริง[๑๖]

บัญญัติไคโร ๗ แบบ[๑๗]

ภาพที่ ๑.๑ แสดงการแบ่งมือออกเป็น ๗ ลักษณะ


แบบที่ ๑      มือพื้นฐาน        Elementary Hand

แบบที่ ๒      มือทำประโยชน์  Useful Hand

แบบที่ ๓      มือใบพาย        Spaturate Hand

แบบที่ ๔      มือศิลป์           Artistic Hand

แบบที่ ๕      มือนักปราชญ์    Philosophic Hand

แบบที่ ๖      มือนักวางแผน    Idialistic Hand

แบบที่ ๗      มือผสม           Mixup Hand

แบบที่ ๑ มือพื้นฐาน (Elementary Hand)

เป็นลักษณะมือเล็กบอบบาง นิ้วเล็ก เล็บยาว แสดงถึงทำอาชีพใด ๆ ไม่ค่อยต่อเนื่อง มักจะมองหาความสุข ความสบาย ใช้ชีวิตง่าย ๆ มากกว่าที่จะแสวงหาอาชีพให้เป็นหลักแหล่งเกทอบ จะไม่มี ข้อนิ้วที่โคนนิ้วทุกนิ้วจะยาว แต่ที่ปลายนิ้วกลับจะสั้น แสดงถึงการประกอบอาชีพใด ๆ ไม่ถาวร ความกระตือรือร้นต่อการงานและอาชีพเกือบไม่มี

แบบที่ ๒ มือทำประโยชน์ (Useful Hand)

มือทำประโยชน์ เป็นฝ่ามือที่ค่อนข้างใหญ่ โคนนิ้วใหญ่ ปลายนิ้วจะเรียวเล็กน้อยหรือ เท่ากัน หรือพบว่ามีเส้นอยู่ ๔ เส้น คือเส้นการดำรงชีวิต เส้นสมอง เส้นใจ และเส้นวาสนา เส้นอื่น ๆ จะขึ้นเรียงรายสม่ำเสมอและเป็นระเบียบไม่หนาทึบ

อุปนิสัยของคนพวกนี้มีความเคร่งครัดต่อระเบียบแบบแผน ยึดมั่นต่อสถาบันและผู้นำเป็น ผู้รักงานรักเกียรติรักษาคำมั่นสัญญา ไม่ทอดทิ้งการงาน เขาจะมุมานะปฏิบัติจนประสบความสำเร็จไม่ ว่างานนั้นจะยากง่ายแค่ไหน จึงเป็นแบบอย่างของมือคนทำประโยชน์

แบบที่ ๓ มือใบพาย (Spaturate Hand)

ลักษณะปลายนิ้วเหมือนพายขนมเปียกปูน หรือไม้พายเรือ คือ นิ้วทุกนิ้วจะบานออก โดย นิสัยมักมีความเด็ดเดี่ยว ไม่ยอมใครง่าย ๆ ถือว่าตนเองทำมาได้ดีตลอดและไม่เคยผิดพลาด ถ้าถูก ตำหนิมักจะตัดสินอย่างรวดเร็ว นั่นคือลาออกทันที ทั้งนี้ไม่หมายความว่าใจน้อย แต่เป็นความเด็ด เดี่ยวและมั่นใจของเขา และก็ไม่ได้มองผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับงานที่เขากำลังทำยังไม่แล้วเสร็จ เขาผละ ไปทันที[๑๘]

แบบที่ ๔ มือศิลป์ (Artistic Hand)

มือศิลป์เป็นมือที่ชอบการเริ่มต้น แต่ไม่ชอบให้เสร็จ เบื่อง่าย ใจเร็ว ชอบทดลอง มือศิลป์ ไม่ใช่เป็นนักศิลปิน นักดนตรี หรือแม้แต่ช่างวาดเขียน แต่แท้จริงเข้าใจผิด เป็นเพียงมีความคิดและ อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น ชอบความสนุกสนานและใช้เงินเปลือง หรือเปลืองตัว มีศิลปะการพูดที่ดี หัวสมองไวแต่ทำไปชั่วขณะก็เกิดความเบื่อ ชอบปรับตัวเองเข้ากับสังคม แต่อย่าหวังอะไรแน่นอนจาก ตัวเขา

แบบที่ ๕ มือนักปราชญ์ (Philosophic Hand)

เป็นมือที่นิ้วมือยาว ข้อนิ้วโต และลำนิ้วคอด คล้ายมือผสม นักปราชญ์มีลักษณะเป็น นักบุญ เขามีความเสียสละต่อส่วนรวม เช่น การสร้างสถานที่ศึกษาให้คนยากคนจนตามแนวความคิด ของเขา เขาจะเป็นนักการสอนศาสนาได้ดี เป็นนักเทศน์ที่มีคนเลื่อมใส นักประพันธ์และนักกวี มองโลกในแง่ของการสร้างสรรค์ ชอบอ่านหนังสือ ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย การแต่งตัวภูมิ ฐาน ทั้งชอบคนมีระเบียบและรักษาความเที่ยงตรง

แบบที่ ๖ มือนักวางแผน (Idialistic Hand)

เป็นลักษณะมือคิดฝัน ฝ่ามือบาง นิ้วยาวโปร่งหนังจะติดข้อ มองดูข้อนิ้วจะใหญ่เล็กน้อย มีทั้งเล็บกว้าง เล็บกลม เล็บยาวไม่ค่อยได้ทำมาก เล็บกลมมักจะจะอับโชคหน่อย ได้แต่คิดแต่ทำไม่ได้ เหมือนคนอื่น มักจะมองตนเองเหมือนคนโชคร้าย แต่ต้องทะนงตัวเองไว้ก่อน เพื่อรักษาดุลของ    สัญชาตญาณไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นความบกพร่องของตนเอง[๑๙]

แบบที่ ๗ มือผสม (Mixup Hand)

ฝ่ามือผสมมักจะมีความรอบรู้หลายอย่าง เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับสังคมได้หลาย รูปแบบฝ่ามือผสมเขาจะดัดแปลงธรรมชาติภายในตัวของเขาให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี เช่น การช่าง การเงิน การบริหาร การออกแบบ การแสดง การตลาด การท่องเที่ยว เขาจะพูดจะทำเหมือน รอบรู้ ในอาชีพการทำงานนั้น ๆ ได้อย่างดี ทั้งยังสามารถวางตัวเข้ากับคนชนบทได้ ในขณะเดียวกันเขาก็ กลับตัวเข้ากับเมืองหลวงได้ดี อีกด้วย โดยทิ้งร่องรอยของคนชนบทได้หมดสิ้น เขาจึงเป็นนักแสดง นักร้อง นักการเมือง ผู้ผลิตสินค้า ผู้แทนการจำหน่าย ด้วยการเอาจริงเอาจัง มองดูว่ากิจการงานเขา มหาศาล แต่นั่นก็เพียงชั่วระยะหนึ่ง เท่ากับลูกโป่งลอยอยู่บนอากาศเมื่อแก๊สบรรจุหมดแล้วมีอยู่ทาง เดียวคือตกลงมา

นิ้วมือผสมเขาจะรวมไว้ทุกแบบ ตามลักษณะ ๗ แบบ ดังที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นจะสังเกต ได้จากรูปนิ้วทุกนิ้ว นิ้วชี้จะใหญ่นิ้วกลางจะเป็นรูปพาย นิ้วนางจะยาว คดงอในขณะเดียวกันนิ้วก้อยจะ สั้นมาก หรือจะสลับอย่างอื่นก็ได้

เล็บ ทุกเล็บจะไม่เหมือนกันตามรูปของนิ้ว เช่น เล็บสั้นยาว สามเหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยมเป็น ต้น การทำความเข้าใจกับเล็บ มีส่วนที่บอกถึงลักษณะอุปนิสัยได้หลายอย่าง เช่น อารมณ์ โรคร้าย การงาน ความใจร้อน ความใจเย็น ความสุขและความทุกข์ ฉะนั้น เล็บทุกแบบจะปรากฏบนฝ่ามือ ผสมได้

ฝ่ามือผสม มักจะไม่มีสิ่งใดชี้ชวนให้เกิดความสนใจได้นาน แม้จะทำกิจการงานชนิดใดก็ ตาม มือมองดูผิวเผินเหมือนเขามีความจริงจัง แต่แล้วเขาก็ทำไปไม่ตลอด เพราะขาดคุณภาพและฝีมือ นั่นเอง[๒๐]

ความแตกต่างระหว่างมือขวาและมือซ้าย

หลักใหญ่ซึ่งใช้ในการดูลายมือมีว่า “ซ้าย” เป็นมือกำเนิดมา และ “ขวา” เป็นมือที่ทำ หรือมือที่มีชีวิตต่อไปข้างหน้าที่จะผจญโชค ผู้ปฏิบัติส่วนมาก หรือว่านักพยากรณ์ส่วนมากควรจะ พยายามอ่านทั้งซ้ายและขวาให้มีความสัมพันธ์กันแล้วค่อย ๆ ทำนายออกไป

ถ้าหากว่าทั้งสองมือต่างกันบ้างเล็กน้อย ข้อสำคัญที่สุดก็ควรสังเกต ดูเส้นสมองเป็นหลัก ใหญ่ เช่น “บนมือซ้ายเส้นสมองปลายโค้งลงไปฐานจันทร์ แสดงว่าใฝ่ฝันสร้างวิมานในอากาศ สติปัญญาเลื่อนลอย”

แต่มือขวาเส้นสมองตรงอย่างสมบูรณ์ไม่โค้งลงหาฐานจันทร์แล้วไซร้ แสดงว่าสติปัญญา ทางช่างหรือตามหลักวิชาทางศิลปอันมีประโยชน์และนำวิชาหรือศิลปนั้นให้เป็นเงินทอง

มือขวา เป็นมือแน่นอนเจริญวิวัฒนาการในสิ่งที่ตนกรทำขึ้น

มือซ้าย เป็นมือส่วนประกอบ และเป็นสิ่งแวดล้อมที่จะเป็นไปนั้นที่ทางมือขวากระทำอยู่ ในเรื่องทางสุขภาพเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นการเปรียบเทียบทั้งสองมือก็สำคัญอย่างมากมาย เช่น

ตัวอย่างว่าเส้นชีวิตเป็นเส้นที่ไม่ดี, ขาด, พร่าทางมือซ้ายแต่ทางมือขวาชัดหนักเป็นเส้นกระจ่างดียาวก็ แสดงว่า เมื่อเยาว์วัยนั้นสุขภาพไม่ค่อยสู้ดีนักมักขี้โรค มักเจ็บไข้ได้ป่วยเสมอมา ตอนอายุมากก็หาย และมีร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยมาเบียดเบียนอีก ดังนี้เป็นต้น[๒๑]

(๒)เส้นลายมือ

เส้นลายมือซึ่งประกอบด้วยเส้นหลัก ๔ เส้น ได้แก่ เส้นชีวิต เส้นสมอง เส้นหัวใจ และเส้น วาสนา เส้นนอกเหนือจากนี้ถือเป็นเส้นรอง

เส้นชีวิตเป็นเส้นสำคัญที่สุดในแง่ชีวิตมนุษย์ตำแหน่งของเส้นชีวิตเริ่มจากใต้เนินดาว พฤหัส โค้งลงล้อมเนินทั้งหมดใต้โคนนิ้วโป้งไว้

เส้นชีวิตสะท้อนพลังชีวิตและสุขภาพเป็นหลัก แต่ก็เกี่ยวพันถึงความยืนยาวของชีวิตด้วย ชะตากรรมและการเปลี่ยนแปลงทั้งปวงที่เกี่ยวพันถึงสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ ความโชคร้านและชีวิต ล้วนสะท้อนออกบนเส้นชีวิตและรอบบริเวณเส้น เพราะฉะนั้ น ชีวิตทางวัตถุสมบูรณ์หรือไม่ ล้วนขึ้นกับเส้นชีวิต[๒๒]

เส้นชีวิตที่ดี คือ เส้นที่ลึกและเรียบ ไม่ใช่เส้นที่กว้างใหญ่แต่ตื้นเขิน และที่ตัวเส้นนั้นจะมีสี ที่ดีด้วย “สี” ที่ว่านี้ก็คือ ในความลึกของเส้นนั้นจะมีสีเลือดที่เติมอาบอยู่ข้างใน มองเห็นเป็นสีชมพู ทีเดียว เส้นที่มองดูเห็นซีดขาวนั้นแสดงถึงชีวิตที่มีปัญหา อาจจะด้วยเรื่องป่วยไข้ หรือปัญหาเรื่องอื่นก็ ได้[๒๓]

เส้นสมอง แสดงถึงความคิดของเจ้าของมือว่ามีคุณภาพอย่างไร เส้นสมองจะแสดงถึง สติปัญญาของเจ้าของมือด้วย และเส้นสมองจะเป็นที่รองรับสิ่งต่าง ๆ ที่จะแล่นเข้าสู่ด้วย เช่นมีเส้นที่ แสดงถึงความทุกข์พุ่งเข้ามาชนหรือตัดผ่าน ก็แปลว่าขณะนั้นสมองได้รับความกระทบกระเทือน คุณกำลังคิดหนัก หรือมีความกังวลสู้ง อะไรอย่างนั้น[๒๔]

เส้นสมองมีจุดเริ่มอยู่ที่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ซึ่งก็คือระหว่างเนินดาวพฤหัสกับเนินดาว ศุกร์ ขวางผ่านหว่างกลางฝ่ามือ สิ้นสุดที่ใกล้เนินดาวอังคารกับเนินจันทร์ เส้นสมองมีจุดเริ่มอยู่ที่เนิน ใต้ดาวพฤหัส นักหัตถะลักษณ์ศาสตร์บางคน จึงเรียกเส้นสมองว่าเส้นดาวพฤหัส เส้นสมองคือการ ประสานระหว่าง “จิตใจบงการ” ของดาวพฤหัสกับ “จิตใจแห่งความรัก” ของดาวศุกร์ พูดในแง่หนึ่ง ผลึกแห่งดาวพฤหัสกับดาวศุกร์คือเส้นสมอง

ถ้าใช้เส้นสมองแทนประสาทส่วนกลาง หัวเส้นสมองก็คือส่วนศีรษะ และส่วนอื่น ๆ ก็คือ ปลายประสาทที่กระจายออกไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่วนปลายของเส้นสมองแสดงถึง ความสัมพันธ์กับพลังงานแห่งจักรวาล ซึ่งบางครั้งได้พลังงานจากดาวอังคารมากกว่า บางครั้งได้รับ พลังงานจากดวงจันทร์มากกว่า

ส่วนใหญ่ที่สุดของเส้นสมองจะอยู่บนที่ราบดาวอังคาร สะท้องความสัมพันธ์ระหว่าง ความคิดกับชีวิตประจำวัน คนที่มีเส้นสมองตรง จะมีความสามรถพิเศษด้านคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ ส่วนคนทีมีเส้นสมองโค้งจะมีความสามารถดีเด่นด้านวรรณกรรม ภาษา ศิลปะ[๒๕]

เส้นหัวใจ เส้นหัวใจคือเส้นที่ขึ้นขวางฝ่ามือเส้นบน และมีต้นเส้นขึ้นริมฝ่ามือด้านนิ้วก้อย ทอดขวางไปหานิ้วชี้หรือเนินพฤหัสฯ ปลายเส้นจะสั้นหรือยาว หรือจะชี้ไปที่ตรงไหนก็ได้ไม่จำกัด แต่ความหมายจะไม่เหมือนกัน บางคนเส้นหัวใจจะยาวถึงโคนนิ้วชี้ บางคนก็ยาวไปถึงริมนนิ้วชี้เท่านั้น และบางคนสั้นแค่ใต้เนินเสาร์ (นิ้วกลาง) แค่นั้นก็มี ไอ้ที่น่าแปลกกว่าเพื่อนก็คือ บางคนไม่มีเส้นหัวใจ อยู่ในมือก็มีด้วยเหมือนกัน

เส้นหัวใจนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งมาก เพราะชื่อมันก็บอกแล้วว่าหัวใจก็ทั้งร่างมนุษย์เรา นี่น่ะ อะไรมันจะสำคัญเท่ากับหัวใจล่ะจริงไหมล่ะครับ ขาดหัวใจหรือหัวใจล้มเหลวเสียหน่อยเราก็ หม่องเท่งกันแล้ว

เพราะเหตุนี้แหละเส้นหัวใจจึงมีความหมายถึงชีวิต หมายถึงจิตใจของเจ้าตัว หมายถึง ความรัก หมายถึงสิ่งที่ปรารถนา หมายถึงความหวัง หมายถึง โอ๊ยจิปาถะครับ แต่ตอนนี้เรารู้ไว้แค่นี้ ก่อนก็พอแล้ว เดี๋ยวจะสับสนกับซะเปล่า ๆ[๒๖]

เส้นวาสนา[๒๗] เป็นเส้นสำคัญที่สุดรองจากสามเส้นหลัก โดยมากเริ่มที่โคนฝ่ามือตรงขึ้น ไปที่เนินดาวเสาร์ แต่อันที่จริงนั้นจุดเริ่มไม่ค่อยแน่นอน บ้างเริ่มที่ข้อมือ บ้างเริ่มที่ราบเนินดาวเสาร์ บ้างเริ่มที่เนินจันทร์ บ้างเริ่มที่เนินดาวศุกร์ นอกจากนี้ เริ่มที่เส้นสมอง เส้นอารมณ์ หรือเส้นชีวิตก็มี

เหล่านี้ล้วนสะท้อนชะตาชีวิตของคนเรา อย่างไรก็ตาม นักหัตถลักษณ์ในอดีตส่วนใหญ่ เห็นว่า เส้นวาสนาสมบูรณ์สวยงามเท่าใดจะมีชะตาชีวิตดีเท่านั้น แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วย

ความหมายของเส้นต่าง ๆ โดยสังเขป

หมายเลข ๑ เส้นชีวิต แสดงให้รู้ถึงการดำรงชีวิตของเจ้าของมือว่าจะสุขสบายหรือ ลำบาก มีโรคภัยหรือต้องโยกย้าย เป็นชีวิตที่ดีในระดับใด

หมายเลข ๒ เส้นสมอง แสดงถึงความคิดและสติปัญญา คิดสั้นหรือคิดยาว รอบคอบ หรือวู่วาม มีจินตนาการที่ดีหรือไม่

หมายเลข ๓ เส้นหัวใจ มีความหมายถึงสภาพจิตใจและความรัก พื้นฐานของอารมณ์

หมายเลข ๔ เส้นวาสนา แสดงแนวทางการดำเนินชีวิตว่าจะราบรื่นหรือประสบอุปสรรค อย่างใด เมื่อใด มีความหมายถึงการดำเนินชีวิตทั้งหมด

หมายเลข ๕ เส้นอาทิตย์ หมายถึงเกียรติยศชื่อเสียงและการเงิน หมายเลข ๖ เส้นเรื่องคู่ แสดงภาวะในชีวิตคู่ครองของเจ้าของมือ[๒๘] หมายเลข ๗ เส้นเกียรติยศ หมายถึงความผูกพันในเกียรติ สิ่งที่มีเกียรติ

หมายเลข ๘ เส้นอารมณ์ เส้นพฤหัสฯ ก็เรียก หมายถึง อารมณ์และความทะเยอทะยาน อำนาจ การปกครอง

หมายเลข ๙ เส้นกามารมณ์ แสดงความอยากมีอยากเป็น (ตัณหา) ของเจ้าของมือ และพื้นฐานกามารมณ์

หมายเลข ๑๐,๑๑ เส้นผู้ใหญ่, เส้นผู้น้อย หมายถึง ผู้ใหญ่หรือผู้ด้อยกว่าเจ้าของมือ เช่น ญาติผู้ใหญ่หรือผู้บังคับบัญชา

หมายเลข ๑๒ เส้นโรค แสดงโรคภัยไข้เจ็บหรือสภาวะเศรษฐกิจของเจ้ามือ

หมายเลข ๑๓ เส้นศัตรู แสดงถึงการกีดกั้นขัดขวางต่าง ๆ

หมายเลข ๑๔ เส้นอุปถัมภ์หมายถึงผู้ช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำจุน การได้รับความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ

หมายเลข ๑๕ เส้นวิ่งเต้น แสดงถึงการวิ่งเต้นติดต่อในกิจต่าง ๆ ถ้าอยู่ใต้เส้นหัวใจหมายถึง มรดก

หมายเลข ๑๖ เส้นเดินทาง การเดินทางเคหสถานชนิดต้องแรมคืน

หมายเลข ๑๗ เส้นรุ่งเรือง แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของเจ้าของมือ

หมายเลข ๑๘ เส้นเครียด แสดงภาวะเครียดของเจ้าของมือที่ได้รับจากเรื่องต่าง ๆ (แล้วแต่เส้นสัมพันธ์)

หมายเลข ๑๙ เส้นคู่   หมายถึง เพศตรงข้าม ช่วงเวลาที่จะได้พบ ผลของความลัพธ์

หมายเลข ๒๐ เส้นคุ้มกัน หมายถึง ผู้ให้ความปกป้องคุ้มครอง ความคุ้มครองต่าง ๆ[๒๙]

หมายเลข ๒๑ เส้นหนี้สิน แสดงหนี้สินของเจ้าของมือ การตกเป็นหนี้ทางบุญคุณ

หมายเลข ๒๒เส้นลาภ แสดงความมีโชค มีลาภ การได้มาโดยลงทุนน้อยหรือไม่ต้องลงทุนเลย

หมายเลข ๒๓ เส้นจาก แสดงการพลัดพราก การจากครอบครัว (ถ้าปรากฏอยู่ด้านนอกเส้นชีวิต หมายถึงการลงทุนที่ไม่ได้คืน)

ความหมายทั้งหมดนี้เป็นความหมายเฉพาะตัวของเส้นนั้น ๆ ถ้ามีเส้นอื่นเข้ามาสัมพันธ์ถึง ด้วย ก็บวกความหมายของเส้นเข้าด้วยกัน รวมทั้งความหมายของเนินที่เส้นนั้นสถิตอยู่ด้วย จะได้ ความหมายแท้จริงที่จะพยากรณ์ออกไป[๓๐]


ภาพที่ ๑.๒ แสดงเส้นบนฝ่ามือ

ชื่อเส้นบนฝ่ามือ[๓๑]

๑.    เส้นชีวิต          ๙.       เส้นกามารมณ์    ๑๗.     เส้นรุ่งเรือง

๒.    เส้นสมอง         ๑๐.     เส้นผู้ใหญ่        ๑๘.     เส้นเครียด

๓.    เส้นหัวใจ         ๑๑.     เส้นผู้น้อย        ๑๙.     เส้นคู่

๔.    เส้นสาสนา       ๑๒.     เส้นโรค           ๒๐.     เส้นคุ้มกัน

๕.    เส้นอาทิตย์       ๑๓.     เส้นศัตรู          ๒๑.     เส้นหนี้สิน

๖.    เส้นเรื่องคู่        ๑๔.     เส้นอุปถัมภ์       ๒๒.     เส้นลาภ

๗.    เส้นเกียรติยศ     ๑๕.     เส้นวิ่งเต้น        ๒๓.     เส้นจาก

๘.    เส้นอารมณ์       ๑๖.     เส้นเดินทาง     

(๓) ลักษณะนิ้วมือ

นิ้วมือเป็นส่วนประกอบของฝ่ามือที่มีความสำคัญ เปรียบเสมือนบ้านเอนที่ต้องมีเสาบ้าน ที่เข้มแข็งและสวยงาม ฝ่ามือเปรียบเสมือนบ้าน นิ้วมือก็คือเสาบ้าน ถ้านิ้วมือสวยงามได้สัดส่วน ก็จะ พาให้บ้านคือฝ่ามือรูปทรงที่ดีมีคุณภาพไปด้วย ถ้าฝ่ามือใหญ่นิ้วมือใหญ่ได้สัดส่วน จะทำการใด ๆ ก็ราบรื่น ประสบความสำเร็จด้วยดี นิ้วทั้งหมดจะมีความสำคัญทุกนิ้ว ตามความหมายดังนี้

๑.นิ้วหัวแม่มือ หรือ นิ้วโป้ง (The Trumb) ทางการพยากรณ์จะใช้เรียกนิ้วนี้ว่า “นิ้วพลังจิต” เป็นนิ้วที่ควบคุมกลไกของนิ้วต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ เมื่อตั้งมือขึ้นนิ้วหัวแม่มือตั้งแข็ง แสดงว่าจิตตานุภาพกระแสจิตเข้มแข็งมาก ไม่ยอมถอย ดื้อรั้น ไม่ร้องไห้ง่าย ๆ ยกเว้นแต่มีจุดดำ ร้องไห้คนเดียวได้ ถ้ายาวจะเป็นคนใจบุญ ถ้าปลายนิ้วปุ้มจะเป็นคนใจแข็ง ค่อนไปทางใจดำและดื้อรั้น แต่ก็ยังมีเหตุผล บุคคลใดถ้าจะดูนิสัยของบุคคลให้ตั้งมือขึ้น ถ้าหัวแม่มือกางออก ๔๕ องศา แสดงว่า บุคคลนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองมาก มักเป็นคนมีความคิดเห็นเป็นอิสระ ถ้าเป็นลูกจ้างจะยอมเป็น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เด็กที่ปัญญาอ่อนนิ้วนี้ปลายจะแหลมเล็กและสั้น ซึ่งหมายถึงขาดการ ควบคุม

๒.นิ้วชี้หรือนิ้วพฤหัสบดี (Index Finger หรือ First Finger)เรียกว่า “นิ้ว นักปราชญ์” ถ้ายาวได้สัดส่วนจะดีทางด้านการปกครอง ศาสนา ปรัชญา ถ้านิ้วนี้ตรงได้สัดส่วน การ ปกครองดี ถ้านิ้วนี้คดนิด ๆ เอียงหน่อย ๆ จะแหลมหรือไม่แหลมก็แล้วแต่ พวกนี้เรียนวิทยาศาสตร์ดี เรียนคำนวณดี จะเป็นนักวิเคราะห์วิจัยดี ถ้าตั้งมือแล้วนิ้วชี้กางออกจะเป็นคนชอบอิสระ ไม่ชอบเป็น ลูกน้องใคร มักจะเป็นนายเขาอยู่เสมอ

๓.นิ้วกลางหรือนิ้วเสาร์ (Middel Finger หรือ Second Finger) เรียกว่า “นิ้ว สันโดษ” เป็นลักษณะที่ดีจะมีความมั่นคงทางหลักฐาน การงาน ชอบความสงบ สันโดษ ถ้าเราตั้งมือ แล้วถ้านิ้วกลางตั้งตรงก็ธรรมดา แต่ถ้าบังเอิญนิ้วกลางเอียงมาทางนิ้วชี้ ก็แสดงว่าเป็นคนชอบสะสม ที่ดิน เช่น ไปอยู่ต่างจังหวัดก็ซื้อที่ต่างจังหวัด ไปอยู่ต่างประเทศก็ซื้อที่ดินต่างประเทศ

๔.นิ้วนาง หรือ นิ้วอาทิตย์ (Ring Finger หรือ Third Finger) เรียกว่า “นิ้วศิลปิน” ถ้ายาวได้สัดส่วน ให้คุณค่าทางด้านศิลปะ การออกแบบ เครดิตดี มีชื่อเสียง ความเจริญรุ่งเรือง มีความรักที่มั่นคง ถ้านิ้วนางเอนออกมาทางนิ้วก้อย บุคคลนี้หาเงินเก่ง จะมีเงินเข้ามือตลอด แต่ใช้เงิน ไม่ค่อยวางแผน

๕.นิ้วก้อยหรือ นิ้วพุธ (Little Finger หรือ Fourth Finger)เรียกว่า “นิ้วปฏิภาณ” ลักษณะนิ้วก้อยดียาวเกินข้อที่ 1 ของนิ้วนางเป็นคนที่มีไหวพริบ ปฏิภาณดี ทันโลก ทันเหตุการณ์ ฉลาดในการพูด รอบรู้ทันคน ไม่อาภัพในอาชีพการงาน นิ้วก้อยกางออกในกรณีที่ทำนิ้วชิดกันทุกนิ้ว นิ้วก้อยกางออกมากเห็นชัดแสดงว่าคนนั้นไม่ค่อยจะเลี้ยงดูบุตรของตนเอง บุตรมักจะอยู่ไกล ๆ ถ้าลูก อยู่ด้วยก็จะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร แม่พูดลูกจะไม่ทำไม่ฟังแม่ ถ้าอยู่กับพ่อแม่ก็เปรียบเสมือนกับเกาะ พ่อแม่กินโดยไม่ยอมจ่าย เรียกว่า เลี้ยงไม่โต นิ้วก้อยคดหรืองอ เป็นคนฉลาดพลิกแพลงเก่ง ถ้านิ้วก้อย งอแต่กำเนิดจะเรียกว่า “มือหนีภาษี” ก็ไม่ผิดนัก คือทำงานหลบภาษีเก่งจะเป็นคนฉลาดมาก ถ้าเรียนได้ ๒-๓ ปริญญา กรณีถ้าไม่งอแต่คด เรียกว่า มีลูกเล่นดี มีมุขเป็นตลกได้ มีชื่อเสียง ถ้ามีบุตรจะฉลาด แต่ถ้ามีคนรับใช้มักไม่ซื่อสัตย์[๓๒]

นิ้วและการแสดงออกทางอุปนิสัย

นิ้วเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายที่รับหน้าที่ของโสดประสาทสั่งการออกมาให้เป็น รูปธรรมหรือเป็นตัวแปรของอารมณ์ความคิด ที่แสดงออกมาให้เกิดการสัมผัสและจับต้อง ในทาง ทฤษฎีของ Palmaitry การอ่านแผนที่บนฝ่ามือและอาการเคลื่อนไหวของนิ้วไว้ดังนี้.เวลากางมือ ออกไป ถ้าช่วงนิ้วทั้ง 4 คือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง ห่างเท่า ๆ กันแสดงว่ามีอารมณ์ความคิดเห็นเป็นของตัวเอง จะมีทรรศนะไม่ตรงกันกับคู่ครอง ความห่างช่องนิ้วเท่ากัน มีมากถึง ๘๐% ฉะนั้นท่านเลือกเอาตามที่ กล่าวอ้างอิงนี้ ท่านก็จะหาคู่สมรสแต่งงานไม่ได้เลย แต่ความดีทั้งหลายไม่เกิดขึ้นกับอารมณ์อย่างเดียว อุปนิสัยความสามารถอย่างอื่นมีส่วนช่วยให้ชีวิตสมประสงค์ นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับการวางตัวและการให้ เกียรติซึ้งกันและกันด้วย

ถ้ากางมือออกแล้วนิ้วชี้แยกโดดเดี่ยว นิ้วนาง นิ้วกลาง และนิ้วก้อยอยู่ชิดกัน แสดงว่า ชอบอิสระ เชื่อมั่นในตนเอง คนจำพวกนี้มีความดื้ออยู่ในกลมสันดาน แต่ถ้าเขาจะยอมใคร เขาก็ยังมี ข้อแม้ไว้อย่างหนึ่งจนได้ เช่น หุ้นส่วนทำการค้า ถ้าเขายอมให้หุ้นส่วนดำเนินการบริหารจัดการ แต่เขา ก็จะมีสิ่งผูกมัด หรือข้อบังคับตามแนวความคิดของเขาหมายความเช่นนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความไม่วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ แต่เกี่ยวกับการแสดงความคิดเห็นของตนเอง เพื่อให้ตนเองสบอารมณ์เท่านั้น

เมื่อกางมือออกมาแล้วนิ้วชี้ กับนิ้วก้อยแยกออก แต่นิ้วกลางกับนิ้วนางชิดติดกัน หมายความว่า มีความห่วงใยในญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง

ถ้านิ้วทุกนิ้วกางออกแล้วยังชิดติดกันอยู่แสดงถึงว่าเป็นคนที่ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่มีความ เด็ดขาดมักจะลังเล บุคคลประเภทนี้เหมาะที่จะทำงานทางด้านวิชาการหรือทำงานตามคำสั่งหรือ แม้แต่เป็นผู้มีความรับผิดชอบ ก็จะมีความซื้อสัตย์อย่างแท้จริง

ถ้านิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วกลางติดกัน แต่นิ้วก้อยห่างออกมา มักจะเปลี่ยนอาชีพบ่อย ๆ เมื่อถึง ขั้นปลายชีวิตก็จะมองเบื่องหลังของตนเองว่าผ่านงานการมาหลายชนิดอย่างโชกโชนคนพวกนี้เป็นคน เจ้าอารมณ์ ทำงานตามใจชอบ บางครั้งไม่มีจุดยืนของตนเอง นึกอยากจะทำก็ทำ นึ กอยากจะเลิกก็ เลิก เขาจะตั้งรากฐานฐานะได้ เมื่ออายุขึ้นเลข ๔ ไปแล้ว

ถ้าแบมือออกไปแต่นิ้วก้อยกับโค้งเข้าหานิ้วนาง แสดงถึงการพึ่งพาอาศัยญาติพี่น้องมี ความห่วงใยทรัพย์สิน ห่วงในลูกและบริวาร ห่วงใยผลงานที่ทำไว้จะเกิดความเสียหาย มักจะมี ความคิดวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้า ส่วนสำเร็จหรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง[๓๓]

(๔) เนินมือ

ศ. ดุสิต กล่าวว่า “เนิน” หมายถึง ส่วนที่สู้งขึ้นมา เนินบนฝ่ามาก็คือส่วนที่นูนสู้งขึ้นมา บนฝ่ามือนั่นเอง ชื่อของเนินก็คือชื่อของวันนั่นเอง แต่เนื่องจกเนินบนฝ่ามือมีถึง ๙ เนิน มากกว่าชื่อของวัน ดังนั้น เนินจึงมีชื่อซ้ ากันบ้างในการใช้พยากรณ์ บ่งบอกเรื่องราว เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับเส้น และเครื่องหมายที่จะปรากฏบนเนิน ดังต่อไปนี้[๓๔]

๑. เนินพฤหัสบดี Mount of Jupiter

บ่งบอกถึงความมีน้ำใจ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เมตตา ยึดถือความถูกต้องและยึดถือความบุ ติธรรม เสียสละ ชอบทำบุญ ชอบการกุศล มองโลกในแง่ดี อารมณ์เปลี่ยนแปลงชั่วขณะ เป็นนัก ปกครองที่เสียสละ เป็นคนตรง หากมีเส้นกำดำรงชีวิตพุ่งขึ้นไปบนเนินนี้ แสดงถึงว่าเป็นคนที่มี ความสามารถ เก่งและรอบรู้ในวิชาการจนได้รับการยกย่องนับถือ เนินจะต้องกว้าง ๒๐ มม. วัดที่ริม ฝ่ามือ เนินหนาแสดงถึงความมั่นคงในเรื่องของปัญญา ความคิด จะพบในบุคคลที่เป็นผู้นำท้องถิ่น มักจะให้ความเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป

๒. เนินเสาร์ Mount of Saturn

บ่งบอกถึง สติปัญญา ความรู้ คุฯธรรม การศึกษา อาชี การงาน การดำรงชีวิต ธุรกิจ ความสุขุมรอบคอบ มุ่งมั่น มุมานะ มีความอุตสาหะ อัจฉริยะ ชอบศึกษาเรียนรู้ มีความเป็นผู้นำหาก เนินกว้างต่ำกว่า ๒๕ มม. ความพยายามและอดทนจะมีน้อยแม้จะเก่งแต่เรียนไม่จบ ชอบฝึกงาน หางานของตนเอง

เนินเสาร์กว้าง ๒๕ มม. เป็นต้นไป ความสำเร็จ เป็นผู้บริหาร มีอำนาจ มีลูกน้องบริวาร นับร้อยพัน มักจะมองผลประโยชน์รายได้ควบคู่กันไปด้วย การงานอาชีพจะก้าวหน้ายิ่งขึ้น ใจกล้า พยายามจดจำ และกตัญญู[๓๕]

๓. เนินอาทิตย์ Mount of Sun (Apollo)

เป็นเนินที่บ่งบอกความรัก ความร้อนแรง มีเกียรติ มีอำนาจ มีชื่อเสียง เจ้ายศเจ้าอย่าง ความมักใหญ่ใฝ่สู้ง ความเป็นผู้นำ การดิ้นรนขวนขวายเพื่อจะให้ได้มาซึ่งเกียรติและอำนาจ ทรัพย์สิน เงินทอง

หากเนินนี้ วัดได้มาตรฐาน ๓๐ มม. จะถือว่าประสบความสำเร็จ ในด้านความเป็นผู้นำ ทั้งการทำงานและอาชีพ ประกอบด้วยเนินนี้จะต้องมีเส้นพุ่งขึ้น แตกเป็นแฉก เหมือนต้นไม้ยืนต้น เรียงรายกัน ชีวิตจึงจะก้าวหน้าและรุ่งเรือง ตรงกันข้าม หากมีเนินได้มาตรฐาน แต่ไม่มีเส้นพุ่งขึ้น ดังกล่าว จะขวนขวายเป็นผู้นำหรือผู้บริหารได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น ในที่สุดก็เกิดปัญหาล้มเหลว

๔. เนินพุธ Month of Mercury

บ่งบอกถึงวาจาสุภาพ อ่อนหวาน คารมคมคาย สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดี เปลี่ยนแปลง เปลี่ยนอารมณ์ได้ง่าย ไม่ชอบความรุนแรง แต่ชอบเอาชนะ แต่งตัวเด่นสวยงาม ชอบสังคมและเฉิดฉาย มีมนุษยสัมพันธ์ ชองแสวงหาชื่อเสียง และหาจุดเด่นในทางสังคม และสร้าง จุดยืนของตนเอง   และสร้างฐานะการงานเพื่อหวังจุดเด่นและโด่งดังในสังคม

เนินนี้วันริมฝีมือจากเส้นใจไปถึงโคนนิ้วชี้ จะมีความกว้าง ๒๐ มม. แสดงถึงประสบ ความสำเร็จในธุรกิจการค้า หากมีเส้นพุ่งตรงขึ้นไปบนเนินนี้ แสดงถึงผลประโยชน์รายได้จะมีต่อเนื่องตรงข้ามหากเนินแคบถือว่าไม่ได้มาตรฐานธุรกิจการงานและประสบความสำเร็จเป็นพัก ๆ การเงิน รายได้จะไม่ต่อเนื่อง[๓๖]

เนินอังคาร Month of Mars

เนินนี้แบ่งออกเป็น ๓ เนิน

เนินอังคารต่ำ Lower Mars, ที่ราบอังคาร Plain of Mars, เนินอังคารสู้ง Upper Mars

๕. อังคารต่ำ

เป็นเนินแห่งความรัก อารมณ์ทางเพศ ถ้าเส้นจากเนินเสาร์ หรือแยกจากเส้นใจโค้งมาที่ เนินอังคารต่ำนี้ จะหมกมุ่นกับความรัก ความหลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง หรือได้คู่ไม่โสด หากเนิน กว้างและนูน ความรักจะสร้างความพึงพอใจกับเพศตรงข้าม บดบังความเสื่อม จรรยา และศีลธรรม หรือความยับยั้ง สร้างมนต์ขลัง เนินอังคารต่ำจึงบ่งบอกถึงชีวิตรักและอารมณ์

๖. ที่ราบอังคาร

บ่งบอกถึงความสุขุมรอบคอบ เนินอังคารกลาง ตั้งอยู่ใจกลางมือมีหน้าที่ควบคุมให้กับ เนินต่าง ๆ เปรียบเสมือนตัวจักรเครื่องยนต์ ที่ทำหน้าที่หมุนให้ตัวจักรเล็ก ๆ ทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เนินนี้เป็นพื้นที่ของเส้นวาสนา เส้นอาทิตย์ และเส้นพุธ ที่จะต้องผ่านเนินนี้ หากนเนิน สมบูรณ์ไม่แตกขาด ไม่ถูกตัดขวาง ชีวิตก็ประสบความสำเร็จรุ่งโรจน์

๗. เนินอังคารสู้ง

บ่งบอกถึงความกล้าหาญ ใจกล้า เด็ดเดี่ยว มุทะลุ หุนหันพลันแล่น และรวดเร็ว ถ้าเนิน นูนหนาแต่แคบ จะใจร้อนโทโส สามารถชักปืนยิงได้ทันที แม้จะกลับมาขอโทษแต่ก็สายไปแล้ว ตนเอง ก็หมดอนาคต คนพวกนี้ขาดความยั้งคิด และอาจฆ่าตัวตายได้ง่ายเมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหา จะกลับ กลายเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไม่กล้าเสี่ยง ไม่กล้าตัดสินใจ[๓๗]

๘. เนินศุกร์ Month of Venus

บ่งบอกถึงความรัก ชอบศิลปะ การบันเทิง มองโลกในแง่สีสัน เฉิดฉาย สมาคมและสังคม มีเสน่ห์ เป็นนักรัก มีกฎเกณฑ์ทางประเพณีนิยม ถ้าเนินนูนมาก อารมณ์รัก อารมณ์สุนทรี จะบังเกิด ขึ้น อารมณ์แจ่มใส เจ้าชู้ มองโลกในแง่ดี มีความกระตือรือร้น เป็นที่ต้องตาต้องใจของเพศตรงข้าม ตรงข้ามหากเป็นเนินแคบ ความพยายาม ความกระตือรือร้นจะลดลง แม้แต่การพูด การแสดงออก ทางสังคมและทางเพศจะลดน้อยลงตามล    าดับจนหาคู่สมรสที่อยู่ร่วมกันค่อนข้างยาก

เนินศุกร์นอกจากจะเป็นเนินแห่งความรัก ยังสามารถดูแลทรัพย์สินและปกครองทรัพย์ได้ ดี ทั้งมีคารมคมคายในด้านคำพูดวาจา สรรหาคำพูดหว่านล้อมเพื่อให้คนเชื่อถือแต่จะเป็นจริงใจ หรือไม่ขึ้นอยู่กับปลายเส้นสมองย้อนขึ้น แสดงถึงการเอาเปรียบหรือคดโกง

๙. เนินจันทร์ Month of Moon (Luna)

เป็นเนินที่บ่งบอกถึง ความสวยงาม ความรัก จินตนาการ การวางแผนชีวิต มักจะมีลีลา สรรหาในเรื่องของความสุข ความปรารถนา การจินตนาการสิ่งที่ยังไม่มาถึง พึงหวังให้ได้มา หากเนินนี้ นูนและกว้าง อารมณ์ ความปรารถนา ก็จะเกิดความรุนแรงขึ้นหากเนินต่าง ๆ ได้มาตรฐาน

๑๐. สามเหลี่ยมเนปจูน

อยู่ใต้ข้อมือ เป็นสัญญาของการได้นับทรัพย์สินมรดก หรือหาทรัพย์ที่ดินจากความมุมานะ อุตสาหะ ดังตัวอย่าง รูปที่ ๓๔ หน้า ๔๔ หากได้มาโดยไม่เป็นธรรม มักจะมีเส้นตัดขวางหรือเส้นทึบ กั้น คนที่ไม่มีทรัพย์สินมรดก ที่ราบเนปจูนจะแคบ แบน ไม่มีเส้น ประกอบด้วยเนินทุกเนินใต้นิ้วก็จะ แคบกว่ามาตรฐาน[๓๘]

๕) เล็บมือ

เล็บมือ เล็บมือเป็นสิ่งที่หน้าสนใจยิ่ง เพียงแต่เฉพาะเรื่องเล็บอย่างเดียว ยังสามารถเรียน เป็นตำราเล่มใหญ่ได้ ทั้งนี้เพราะ เล็บมือมีความสำคัญมาก สามารถบอกข้อมูลที่เป็นความหมายขิง พฤติกรรม หรือบุคลิกของเจ้าของมือได้ เช่น อารมณ์ ทัศนคติ ความสุภาพเรียบร้อย ความละเอียด ประณีต ความมีระเบียบรอบคอบ ความเรียบง่ายไม่พิถีพิถัน ความจริงใจ ความซื่อตรง ความต่อสู้ มานะ อดทนดิ้นรน ความสุขสบาย รวมทั้งสุขภาพโรคภัยไข้เจ็บ จึงใช้ประกอบในการวิเคราะห์ลายมือ ได้ดียิ่ง

วงพระจันทร์ที่ฐานเล็บทุกเล็บ บอกถึงความมีสุขภาพดี เกิดขึ้นกับบุคคลนั้น หากฐานเล็บ ปราศจากวงจันทร์ ย่อมเป็นสิ่งแสดงให้ทราบว่า ร่างกายของผู้นั้นจะมีปัญหาทางด้านสุขภาพ ไม่แข็งแรง ในต่างประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา และยุโรป มีความสนใจตื่นตัวศึกษาเรื่องเล็บที่ส่วนสัมพันธ์ กับโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้น เช่น โรคคอ ทรวงอก โรคปอด โรคหัวใจ อัมพาต โรคประสาท อารมณ์ เครียด

เล็บที่มีดอกเล็บหรือจุดขาวเต็มไปด้วยจุดเหล่านี้ บ่งบอกถึงสุขภาพที่มีปัญหาทางด้าน ประสาท แสดงความวิตกกังวล กระวนกระวาย มีความทุกข์ร้อนไม่สงบในทางจิตใจ อารมณ์เป็นการ เสื่อมลง ทางด้านระบบประสาท ทำให้การพักผ่อนหลับนอนไม่ปกติ อารมณ์เครียดเกิดขึ้นตามมาเล็บ มือแบ่งออกได้หลายชนิด

ลักษณะและความหมายของเล็บ

เล็บสั้น คือ เล็บที่วัดได้มาเกิน ๑๐ ม.ม. หากสั้นมากถึง ๕ ม.ม. มักเป็นคนดื้อรั้น ชอบ เอาชนะ อารมณ์เครียด ขาดความอดทน และถือทิฐิเป็นนิสัย[๓๙]

เล็บสั่นรูปสี่เหลี่ยม ปกติจะโกรธยาก หากมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงย่อมรุนแรงเมื่อยามโกรธ และไม่อภัยให้ใครโดยง่าย

(หากเล็บยิ่งสั้นมาก ยิ่งทวีความคับแค้นมากยามโกรธต้องพยายามหาทางแก้แคนใน ภายหลัง ชอบยึดมั่นดื้อดึงในความคิดเห็น และเหตุผลของตนว่าถูกต้องเสมอ)

เล็บกลม พบไม่บ่อยนักในลักษณะของความบ้าบิ่น มีการแสดงออกถึงความคิดเห็นและ เหตุผลส่วนตัวในหลาย ๆ เรื่อง ในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ยอมรับ

เล็บเว้าเข้า เป็นลักษณะของเล็บที่พบในบุคคลที่ปัญหาด้านสุขภาพที่เกี่ยวกับระบบ หมุนเวียนโลหิต เช่น โลหิตจาง โลหิตเป็นพิษ

เล็บโค้งนูน เป็นลักษณะของเล็บที่พบในบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการหายใจ โรคปอด หรือทรวงอก

โปรดสังเกตผู้ที่มีเล็บสั้น เล็บกว้าง และหนา เป็นลักษณะของบุคคลที่กระทำการใดจะ เป็นไปด้วยความคล่องแคล่วว่องไว รวดเร็ว เป็นคนใจร้อนมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เป็นผู้ที่ชอบ ความสะดวกสบายมีชีวิตเรียบง่าย ไม่พิถีพิถันขาดความรอบคอบ ไม่เจ้าระเบียบ

สำหรับผู้ที่มีเล็บต่างกันทั้งสี่นิ้ว ( สังเกตเล็บนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย ) แสดงถึง

- อารมณ์ของการเปลี่ยนแปลงง่าย ใจร้อน

- เปลี่ยนคู่ครอง และมิตรสหายบ่อย

- ชอบเปลี่ยนอาชีพ หน้าที่ธุรกิจการงาน[๔๐]

วงพระจันทร์ใหญ่ ผู้ที่มีลักษณะเล็บยาวเรียว จะมีวงพระจันทร์ที่ฐานเล็บใหญ่ บอกถึง สุขภาพที่ดี มีพลังชีวิตที่กระฉับกระเฉง ในธุรกิจหน้าที่การงาน อารมณ์แจ่มใสรื่นเริง

เล็บยาว ความยาวของเล็บไม่ต่ำกว่า ๑๐ ม.ม. มักพบความยามของเล็บอยู่ระหว่าง ๑๐- ๑๔ ม.ม. ผู้มีเล็บยาวมีนิสัยชอบใช้ชีวิตสบาย มีระเบียบวินัย วินัยรักความสงบ หรือตั้งมั่นอยู่ในความ สงบมีสมาธิ มีความมานะ อบทนเป็นนิสัย มักพบในหมู่นักพาต นักบวช ในจำนวน ๙ ใน ๑๐ ของบุคคลเหล่านี้ที่มีเล็บยาวเกิน ๑๒ ม.ม.

เล็บยาวรูปสี่เหลี่ยม มักไม่ชอบรับผิดชอบงานหนัก ชอบใช้ชีวิตสบาย ไม่ชอบความเหน็ด เหนื่อย อารมณ์ราบเรียบ ไม่ชอบสิ่งรบกวน เข้าใจค่อนข้างยาก

เล็บยาวมนและกว้าง มักพบบุคคลประเภทดังกล่าวในสังกัดคนสวยเหล่านักร้อง รีเซฟชั่น นิสต์ รวมทั้งบุคคลที่ต้องออกสังคมเป็นอาชีพ ซึ่งมีลักษณะตรงข้ามกับเล็บสี่เหลี่ยมกว้าง

เล็บสี่เหลี่ยมกว้าง พบในบุคคลที่มีความรับผิดชอบในธุรกิจการงาน มีความจำเจคลุกคลี กับงาน ส่วนใหญ่มักใช้พลังหรือแรงงานแทนความฉลาด หรือความคิด พบในบุคคลที่ใช้แรงงาน เกษตรกร กรรมกร หัวหน้างาน สำหรับผู้ที่ใช้ความคิด ความฉลาดจะพบในบุคคลที่เป็นผู้นำ มีลูกน้อง และบริวาร

เล็บรูปสามเหลี่ยมคล้ายเปลือกหอย เป็นลักษณะของบุคคลที่มีชีวิตเหน็ดเหนื่อย มีความ กดดันเป็นนิสัย มีความรู้สึกอิดโรย ไม่กระฉับกระเฉง หรือกระปี้กระเป่า แสดงถึงสุขภาพที่ไม่ดี มีการ เจ็บป่วยจากโรคภัยเกี่ยวกับไต[๔๑]

เล็บไม่สั้นไม่ยาวลักษณะรูปไข่ เป็นลักษณะเล็บของคนฉลาด มีความคิดและใช้สมองใน การดำเนินงาน สามารถบริหารธุรกิจการงานในระดับต่าง ๆ ในสังคม ทั้งสร้างค่านิยมให้กับสังคมทุก ระดับ มีผู้ยกย่อง สรรเสริญ พบในบุคคลที่เป็นหัวหน้าหรือผู้นำ มีลูกน้องและบริวารจำนวนมาก

ปลายเล็บที่โค้งหรืองุ้มเข้า บอกถึง แนวโน้มของปัญหาการเกิดโรคภูมิแพ้ที่เกี่ยวกับอาการ เป็นหวัด เจ็บคอ หรือเจ็บบริเวณหน้าอก อาการไปเรื้อรัง

ลักษณะเล็บเป็นคลื่น ย่อมเหมือนกับจุดขาวหรือดอกเล็บทีปรากฏกับผู้ที่มีอาการทาง ประสาท อารมณ์อ่อนไหวง่าย มีความเครียดเกิดขึ้น เมื่ออาการทางประสาทผ่านพ้นไป จุดขาวเหล่านี้ จะหายไปเอง

หมายเหตุ รูปทรงของเล็บมือควรสอดคล้องกับลักษณะรูปทรงของฝ่ามือ เล็บที่ยาวเรียว มักพบบนนิ้วมือที่เรียวยาวของฝ่ามือศิลป์ เช่นเดียวกับเล็บสี่เหลี่ยมกว้าง พบได้บนนิ้วมือที่มีขนาด เท่ากันตั้งแต่ปลายนิ้วถึงโคนนิ้วบนฝ่ามือทำประโยชน์ เป็นต้น[๔๒]

สรุป การสังเกตเล็บมือของผู้มีปัญหาทางสุขภาพ ดังนี้

ผู้มีโรคประสาท อารมณ์เครียด หงุดหงิด เล็บสั้น ชอบกัดเล็บเป็นนิสัน รวมทั้งเล็บมือที่มี ดอกเล็บที่เป็นจุดขาว แสดงถึงร่ายงายที่กำลังเครียดเกิดความวิตกกังวล ทุกข์ร้อน กระวนกระวาย ปัญหาทางสุขภาพจะปรากฏแน่ชัดถ้าเล็บมือมีลักษณะ งุ้มลง หรือโค้งขึ้น จะมีอาการของอวัยวะ เกี่ยวกับระบบหายใจในทรวงอก เช่น ปอด และหลอดลม รวมทั้งระบบหมุนเวียน ซึ่งมีผลจาก โรคหัวใจ ลิ้นหัวใจ โลหิตจาง หรือโลหิตเป็นพิษ หัวใจอ่อนกำลัง การสู้บฉีดโลหิตไม่ปกติ สังเกตจาก ฐานเล็บหรือส่วนโคนของเล็บมีสีเขียว ไม่เป็นสีชมพู แลดูเล็บมือไม่สดใส ผู้ที่มีเล็บไม่เรียบมีลักษณะย่อ หรือเป็นคลื่น จะปรากฏอาการเช่นเดียวกับผู้ที่มีจุดขาวหรือดอกเล็บ ทำให้ทราบอาการทางประสาทที่ มีอารมณ์เครียดเกิดขึ้นกับบุคคลเหล่านั้น

ภาพที่ ๑.๓ แสดงรูปแบบต่าง ๆ ของเล็บมือ

๑.    เล็บสั้นรูปสี่เหลี่ยม         ๗. เล็บรูปสี่เหลี่ยมกว้าง

๒.    เล็บกลม                    ๘. เล็บรูปสามเหลี่ยม (เปลือกหอม)

๓.    เล็บเว้า                     ๙. เล็บรูปไข่

๔.    เล็บโค้งนูน                 ๑๐. เล็บแคบยาวรี

๕.    เล็บยาวมนและกว้าง      ๑๑. ก. เล็บมีรอยย่นตามแนวตั้ง

๖.    เล็บยาวรูปสี่เหลี่ยม             ข. เล็บมีรอยย่นตามขวาง[๔๓]

(๖) ลายนิ้วมือ

ใต้ฟ้าไม่มีหัตถลักษณ์เหมือนกันฉันใด ก็ไม่มีลายนิ้วมือที่เหมือนกันฉันนั้น แต่หัตถลักษณ์ เปลี่ยนแปลงได้ ขณะที่ลายมือไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่เกิดจนตาย

เพราะฉะนั้น นักหัตถลักษณ์ศาสตร์ทั้งหลาย จึงเชื่อว่า ลายนิ้วมืออาจเป็นข้อมูลประกอบ ที่ดีมากสำหรับศึกษาแนวโน้มโดยกำเนิดของคนเรา

ถ้าสังเกตลายนิ้วมืออย่างละเอียด จะพบว่ามีลายหลัก ๆ อยู่ ๓ ลักษณะ คือ ลายก้นหอย ลายโค้ง และลายมัดหวายแต่ลายเหล่านี้เรียงอยู่บนนิ้วทั้งห้าอย่างไร

ภาพที่ ๑.๔ แสดง ลายก้นหอย (ซ้าย) ลายโค้ง (กลาง) และลายมัดหวาย (ขวา) (๑)ทั้งห้านิ้วเป็นลายก้นหอย (พวกถือตนเป็นใหญ่) เป็นคนมั่นใจตนเอง มานะอดทน นิสัย

ก้าวร้าว ชอบใช้เสียงข่ม ไม่ยอมค้อมหัวยอมแพ้หรือยอมรับผิดไม่ว่าในกาลเทศะใด ถึงจะ เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แตะมักล้มเหลวหรือเคราะห์ร้าย เพราะนิสัยส่วนตัว นี่คือชีวิตที่ขึ้นลง สำเร็จล้มเหลวแบบสุดขั้ว เนื่องจากเป็นคนแข็งกร้าวดื้อรั้นมากไป คนรอบข้างไม่เข้าอกเข้าใจ

(๒) ทั้งห้านิ้วเป็นลายอื่น (พวกซื่อสัตย์เถรตรง) เป็นพวกอยู่ในกรอบ ไม่ยอมยืดหยุ่นผ่อน ปรน เรียกกันว่า พวกซื่อสัตย์เถรตรง ยากที่จะประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ พออายุมากขึ้น วิธีคิดจะ เปลี่ยนไปในทางยืดหยุ่นมากขึ้น ถ้ามุมานะอย่างเสมอต่อเสมอปลาย อยู่กับความจริง จะประสบ ความสำเร็จในบั้นปลาย ข้อควรสอนใจ คือ ตอนร่วมมือบุกเบิกสร้างกิจการกับคนอื่น มักประสบความ เสียหายอย่างหนัก เพราะถูกอีกฝ่ายหนึ่งหลอกลวง ทางที่ดีควรสร้างกิจการด้วยตนเอง หรือทำงาน บริษัทที่เชื่อถือได้[๔๔]

(๓) นิ้วโป้งเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกประสบความสำเร็จในบั้นปลาย ชีวิต) เป็นคนมุมานะ พยายามมาก แต่ต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากมากกว่าคนอื่น บางครั้งถึงเคราะห์ร้าย ก็ไม่ท้อแท้ถอดอาลัย วัยหนุ่ม อาจต้องเผชิญกับความทุกข์ยากสาหัส แต่จะประสบความสำเร็จมี ชื่อเสียงในบั้นปลาย มีชีวิตที่มั่นคั่งสงบสุข

(๔) นิ้วชี้เป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกมนุษยสัมพันธ์) คนพวกนี้ไม่ชอบ ขลุกตัวอยู่ในบ้าน ไม่ชอบทำงานที่ลำบากและต้องขยัน เป็นคนร่าเริงไม่นิ่ง ถึงยินดีด้วยเต้นรอบทิศเพื่อคนอื่น แต่ท้ายที่สุดก็จะคุยโวโอ้อวด จึงอาจตกเป็นเป้าเกลียดชัง เป็นคนทำงานหยาบสะเพร่า ไม่ สามารถทำงานที่ละเอียดอ่อน นอกจากนี้ ยังสนใจงานที่มีลักษณะเสี่ยงภัยและฉวยโอกาสเป็นพิเศษ

(๕) นิ้วกลางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกคุยโวโอ้อวด) ไม่ว่าพูดจาหรือ วางแผนทำอะไร คนประเภทนี้จะชอบคุยเขื่อง ดูคล้ายแบกรับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่มักทำได้ไม่ถึงหนึ่ง ส่วนสิบ มีปณิธานยิ่งใหญ่ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามแผนโดยอยู่กับความเป็นจริง ก็ไม่มีทางสำเร็จการ ใหญ่

ในแง่โชคภาวาสนา ต้องสร้างตัวลำแข้งของตนเอง อย่าหวังมรดกเด็ดขาด ทางที่ดีคืออย่า แต่เพ้อฝัน ต้องมุมานะดำเนินการโดยอยู่กับความเป็นจริง

(๖) นิ้วนางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกมีอนาคต) ไม่ว่างานอะไร พวกเขาจะไม่เกียจคร้านละเลยรู้จักแก้ปัญหาแบบแยบยล ได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา พวก เขามักเป็นที่อิจฉาริษยาของเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วตั้งแต่อายุยัง น้อย[๔๕]

(๗) นิ้วก้อนเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกมีความสามารถ) พวกเขามี ความสามารถเป็นพิเศษ ไม่จำเป็นต้องรับช่วงกิจการของพ่อแม่ ชอบสร้างกิจการด้วยสติปัญญาของ ตนเอง กระทั่งประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด แม้มีจุดอ่อนสำคัญ คือ ไม่มีความอดทน เมื่อตกอยู่ใน สภาพแวดล้อมอันยากลำบากหรือประสบความล้มเหลว มักจะทนไม่ได้ หรือทำเรื่องโง่ ๆ อย่างหน้า เสียดาย ทางที่ดีคือต้องพยายามขัดเกลาจิตใจ บ่มเพาะความทรหดอดทนที่เข้มแข็ง

(๘) นิ้วโป้งและนิ้วชี้เป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกผู้ดีสู้งศักดิ์) เป็นคนใจ กว้าง จิตใจเปิดเผย มีกลิ่นอายผู้ดี ค่อนข้างเป็นที่ยกย่องนับถือ รอบตัวมีคนคอยประจบสอพลอ ระวัง จะตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น

(๙) นิ้วโป้งและนิ้วกลางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกจับจรด) พวกเขามัก จากบ้านเกิดไปใช้ชีวิตในต่างแดน เพราะฉะนั้น ถึงพยายามมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว แต่เนื่องจากเป็น คนจับจรด ไม่หนักแน่นมั่นคง ชีวิตจึงค่อนข้างลำบาก

(๑๐) นิ้วโป้งและนิ้วนางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกโชคดีในบั้นปลาย) พวกเขาจะประสบความทุกข์ยากสาหัสในวัยหนุ่มสาว ค่อย ๆ มีชื่อเสียงเมื่อถึงวัยกลางคน ความสามารถเป็นที่ยอมรับ ความเชื่อถือก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย ทำให้งานการดำเนินไปอย่างราบรื่น พอถึง บั้นปลายชีวิตจะประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น บนพื้นฐานที่สร้างขึ้นอย่างดีในวัยกลางคน

(๑๑) นิ้วโป้งและนิ้วก้อยเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกนักโต้แย้งอภิปราย) เวลาฟังคนพวกนี้พูดอะไร จะรู้สึกว่าพวกเขาคิดอะไรเป็นระบบ มีเหตุผล เหมาะที่จะเป็นทนาย ผู้พิพากษา หรือนักการเมือง มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในอาชีพเหล่านี้[๔๖]

(๑๒) นิ้วโป้ง นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกจิตใจอ่อนแอ) เป็นพวกไม่มั่นใจในตนเอง ขี้ลังเล ไม่สามารถทำงายสำคัญให้สำเร็จ มักปล่อยชีวิตให้ผ่านไปโดยไม่เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมีนิสัยใจร้อน ขี้หงุดหงิด ขี้โกรธ บางครั้งก็ล่วงเกินผู้อาวุโสในเรื่องเล็กน้อย จึงมักเสียโอกาสที่ดี

(๑๓) นิ้วก้อยเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกประนีประนอม) นิสัยอ่อนโยน คล้อยตาม ไม่ชอบขัดแย้งวิวาทกับคนอื่น ชอบประนีประนอมด้วยวิธีที่เหมือสม เป็นที่ตอนรับของ สมัครพรรคพวก มีโอกาสประสบความสำเร็จเหนือความสามารถค่อนข้างมาก

(๑๔) นิ้วโป้งเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกใจร้อนขี้หงุดหงิด) นิสัยใจร้อน ขี้หงุดหงิด ออกประสาทนิด ๆ ไม่หนักแน่นสุขุม แต่ส่วนใหญ่แล้วหัวสมองค่อนข้างดีมีความสามารถ ถ้าแก้ไขจุดอ่อนข้างต้นได้ ก็จะประสบความสำเร็จ ควรสนใจขัดเกลาจิตใจ เปิดใจให้กว้าง รักษาท่าที หนักแน่นสุขุมเยือกเย็นไว้ให้ได้ตลอดเวลา

(๑๕) นิ้วชี้เป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกยึดมั่นในคุณธรรม) มีอุดมคติสู้งส่ง ไม่เหมาะที่จะทำการค้า เหมาะที่จะเป็นนักวิชาการ นักการศึกษา นักการศาสนา ฯลฯ ถ้าประกอบ อาชีพเหล่านี้ จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าอาชีพอื่นแต่อาจประสบความยุ่งยากอย่างมากใน เรื่องเซ็กส์ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

(๑๖) นิ้วกลางเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกมีคุณธรรมของจอมยุทธ์) พวกเขาจะไม่บอกปัดเมื่อได้รับการไหว้วาน ชอบช่วยเหลือคนอ่อนแอและไม่ได้รับความเป็นธรรม มีคุณธรรมของจอมยุทธ์ งานขยันขันแข็ง ไม่ยอมสิ้นเปลืองเวลา เป็นที่เชื่อถือของสังคม มีโอกาส เจริญก้าวหน้าสู้ง แต่ต้องระวังตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น[๔๗]

(๑๗) นิ้วนางเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกอบอุ่นจริงใจ) เป็นคนอบอุ่น จริงใจ มีมนุษยสัมพันธ์ เป็นที่ชื่นชอบของผู้อาวุโสและลูกน้อง มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่าง ราบรื่น ของเพียงรักษาแบะพัฒนาสิ่งที่สร้างขึ้นแล้วให้ดี จะมีความสุขทั้งชีวิตครอบครัวและชีวิตสังคม (๑๘) นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วนางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกดื้อรั้น) ข้อดี

คือ เป็นคนซื่อตรง ข้อพกพร่องคือดื้อรั้นมาก มักขัดแย้งวิวาทกับคนอื่น เพราะดึงดันในความคิดเห็น ของตน เมื่อประสบภัยน้อยคนจะยินดรยื่นมือเข้ามาช่วยแต่เมื่ออายุมากขึ้น อารมณ์จะค่อย ๆ เย็นลง มีโอกาสประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก

(๑๙) นิ้วโป้งและนิ้วนางเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกทึ่มทื่อ) นิสัย ค่อนข้างทึ่มทื่อ พูดจาและทำงานไม่คล่องแคล่ว แต่อยู่กับความจริง กำหนดแผนการแล้วจะเดินหน้า ทำทีละขั้น แม้จะค่อนข้างเชื่องช้า มนุษยสัมพันธ์ก็ไม่ดี แต่มีโอกาสร่ำรวยและมีชื่อเสียง

(๒๐) นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกวิญญูชน) มีคุณธรรม ในหัวใจ เคารพเบื้องบน เมตตาเบื้องล่าง มีบุคลิกภาพของวิญญูชน ปรับตัวเข้ากับทุกคนได้ มักได้เป็น ผู้บริหารระดับสู้งของบริษัท ผู้อำนวยการธนาคาร หรือผู้จัดการบริษัทขนาดใหญ่ แต่กลับไม่สันทัดใน การจัดการและรับมือเพศตรงข้าม

(๒๑) นิ้วชี้และนิ้วนางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกใจร้อน) นิสัยใจร้อน ถ้าเป็นสิ่งที่ต้องการต้องทำให้ได้ทันที ถ้าไม่แก้ไขนิสัยเช่นนี้ ชีวิตจะล้มเหลว ความพยายามขัดเกลา นิสัยใจคอให้ดี

(๒๒) นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกผู้นำ) คนประเภทนี้ ใจคอกว้างขาวง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักเห็นใจคนอื่น สันทัดในการใช้บุคลากร ชอบช่วยเหลือคนอื่น มัก ได้รับการอุ้มชูให้เป็นผู้นำ นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นคนละเอียดรอบคอบ สมองปราดเปรียว มีคุณสมบัติของผู้ประสบความสำเร็จ[๔๘]

(๒๓) นิ้วกลางและนิ้วก้อยเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกบ้าบิ่น) พวกเขา มักคิดเอาเองว่าสิ่งที่ตนคิดและทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนอย่างไร พวกเขาจะต่อสู้ โต้แย้งด้วยจนถึงที่สุด แต่พวกเขามีสันดานที่ไม่เลว เป็นผู้ช่วยที่ดี ถ้ารู้จักดัดนิสัยตนเองอย่างเหมาะสม งานการจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่น

(๒๔) นิ้วกลางและนิ้วนางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกหัวมังกุท้ายมังกร) นิสัยจับจรดเอาแน่ไม่ได้ อยากลองทุกอย่าง แต่ไม่ยืนหยัดอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เป็นคนประเภท ฉลาดน้อย ไม่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ถ้ามีจิตใจยืนหยัดจะประสบความสำเร็จ

(๒๕) นิ้วกลางและนิ้วนางเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกวีรบุรุษ) ไม่คลั่ง ไคล้เงินทอง ไม่ชอบเล่นเล่ห์เหลี่ยม ไม่คิดตั้งหลักแหล่ง ไม่คิดสร้างครอบครัวที่มั่นคงมีความสุข นิสัย โอ่อ่าผ่าเผย เป็นพวกวีรบุรุษเหมาะที่จะเป็นนักการเมืองหรือทนายความ

(๒๖) นิ้วกลางและนิ้วก้อยเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกฉวยโอกาส) พวกเขาชอบตั้งความหวังที่ยิ่งใหญ่ รู้จักฉวยโอกาส เหมาะกับงานที่มีลักษณะฉวยโอกาส เช่น พ่อค้าวา นิช วิศวกรเหมือง แต่ดวงจะลำบากตอนหนุ่ม มั่นคั่งตอนแก่น

(๒๗) นิ้วชี้และนิ้วนางเป็นลายก้นหอย นิ้วที่เหลือเป็นลายอื่น (พวกก้าวร้าว) นิสัยดื้อรั้น ก้าวร้าว ชอบโต้แย้งวิวาทกับคนอื่น ไม่ควรหวังพึ่งพ่อแม่ ต้องพยายามเรียนรู้วิธีใช้ชีวิตอย่างอิสระแต่ เนิน ๆ มีเช่นเนิ่น มิเช่นนั้น ชีวิตหลังวัยกลางคนจะลำบากมาก

(๒๘) นิ้วโป้งและนิ้วกลางเป็นลายอื่น นิ้วที่เหลือเป็นลายก้นหอย (พวกบริหารทรัพย์สินไม่ เป็น) ขาดจินตภาพคณิตศาสตร์ บริหารทรัพย์สินไม่เป็น ถึงหาเงินได้มากแต่ก็คล้ายกับใช้ชะลอมตักน้ำ เงินทองรั่วไหลไม่หยุด ถ้าได้ผู้ช่วยที่ดี ช่วยจัดการทรัพย์สินให้ดีจะประสบความสำเร็จ อย่างคราดไม่ ถึง[๔๙]

๗) เครื่องหมาย Mark and Sign

เครื่องหมายจะเกิดขึ้นจากเส้นอิทธิหรือเส้นจร หรือเกิดขึ้นเองลอย ๆ เช่น มีจุดแดง น้ำตาล ขึ้นมาเป็นเครื่องหมาย อยู่ ๆ อังคารหมองขึ้นมา เป็นเครื่องหมายพวกนี้เปลี่ยนหายไป เครื่องหมายที่ดี ถ้าอยู่ในเนินที่ดี ไปลอยตัวอยู่ในที่ดี จะให้อิทธิพลมาก ถ้าเครื่องหมายเบียดชิดเส้น ไม่ดี เพราะไม่ได้ลอยตัวทำให้หมดพลังไปตัวเส้นที่มีลักษณะเป็นเครื่องหมายจะให้อิทธิพลเมื่อ เส้น เสาร์ อาทิตย์ พุธ พฤหัส ดีในช่วงระยะอายุ จะเห็นว่าบางคนมีจุดแดงมา 5 ปี ไม่ได้อะไรเลย เครื่องหมายเป็นแต่เพียงลางบอกเหตุให้รู้ว่า เมื่อถึงชีวิตช่วงที่ดีจึงจะให้พลังมีอิทธิพลขึ้นมา

ถ้าเป็นเครื่องหมายที่ดี ไปลอยตัว ยังไม่ได้อิทธิพลอะไร แต่มันต้องมีประโยชน์แน่ แต่จะ รวดเร็วหรือไม่? ถ้าทำท่าจะล้มเหลวเสียหายทั้ง ๆ ที่ยังไม่ถึงกำหนดระยะเวลา แต่ก็ช่วยประคับประครองไว้ ไม่เสียหายมาก ลักษณะของเครื่องหมาย ต้องเป็นเส้นจรหรืออิทธิพลขึ้นมาจึงจะเป็น เครื่องหมาย[๕๐]

ขั้นตอนการดูหัตถลักษณ์

ถ้าจะดูหัตถลักษณ์ให้ตัวเอง จะต้องดูลักษณะหลังมือก่อน เพื่อจำแนกว่าเป็นมือลักษณะ ใดจากทั้งหมด ๗ ลักษณะ

เรื่องนี้ดูคล้ายง่าย ในทางเป็นจริงยุ่งยากเอาการ ถ้าลักษณะมือค่อนข้างชัดก็วินิจฉันง่าย ถ้าพบมือก้ำกึ่งระหว่างสองลักษณะ แม้นักหัตถลักษณ์ศาสตร์ผู้ช านาญก็อาจสับสนงุนงง

ปัญหาการวินิจฉัยลักษณะมือที่ว่านี้ จะขอกล่าวถึงอย่างระเอียดในบทต่อไป ถัดมาค่อยดูนิ้วมือ ขณะที่ดูว่านิ้วสั้นหรือยาวต้องดูว่านิ้วตรงหรือคดด้วย เพื่อนอ่าน

ความสามารถและแนวโน้มลักษณะนิสัยเจ้าของมือ

จากนั้น ให้ดูว่ารูปเล็บสั้นหรือยาว ลักษณะเล็บเป็นอย่างไร ซึ่งไม่เพียงช่วยให้เข้าใจ ลักษณะนิสัยมากขึ้น ยังช่วยให้วินิจฉัยปัญหาสุขภาพได้แม่นยำขึ้น

เมื่อดูส่วนต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ค่อยดูเนินและลายบนฝ่ามือ เนิน คือ ส่วนที่นูนขึ้นมาบนฝ่า มือ แบ่งเป็น ๘ เนิน ๑ ที่ราบ ช่วยให้เข้าใจลักษณ์โดยรวมของฝ่ามือง่ายขึ้น เนินแต่ละเนินแทน ความหมายบางอย่าง โดยต้องวินิจฉัยจากระดับความนูน ซึ่งพูดว่ามีความหมายค่อนข้างสำคัญในทาง หัตถลักษณ์ศาสตร์

การดูเนินต่าง ๆ จะช่วยให้เข้าใจเหตุการณ์ในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มความหวังบน เส้นทางแห่งชีวิต ไม่ว่าปัญหาฐานะการงาน การศึกษาเล่าเรียน ทรัพย์สินเงินทอง หรือความรัก

นอกจากนี้ การดูลักษณะลายมือ ก็ช่วยให้เข้าใจปัญหาอาชีพ ความรัก การแต่งงาน ชะตา ชีวิต ฯลฯ ในวันข้างหน้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น[๕๑]

หลักทั่วไปในการวินิจฉัย

- มือค่อนข้างใหญ่ เหมาะที่จะทำงานละเอียดปลีกย่อย เป็นคนไม่ค่อยร่าเริง มักแสดง ท่าทางเคอะเขินและไม่ค่อยมีความสุขในที่ธารกำนัล

- มือใหญ่มาก มีนิสัยแบบ “ทรราช” มาสนใจระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม ชอบทำตาม ความพอใจส่วนตัว

- มือค่อนข้างเล็ก นิสันร่าเริงเบิกบาน ชอบวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่าง ๆ ชอบคุยโวโอ้อวด และสุรุ่นสุร่ายกับอาหารการกิน

- นิ้วเรียวยาวและสวย ชอบยืนยันข้อเสนอของตนเองอย่างดื้อรั้น ขี้หงุดหงิด มุทะลุ ไม่น่าสนิทสนม

- ผู้หญิงที่ฝ่ามือใหญ่ ส่วนใหญ่คลอดบุตรง่าย

- ผู้หญิงที่ฝ่ามือเล็ก ส่วนใหญ่คลอดบุตรยาก

- ฝ่ามือสั้นและอ้วน ไม่ว่าชายหรือหญิง ล้วนเป็นคนเย็นชาไร้น้ำใจ

- ฝ่ามือยาวแต่นิ้วอวบสั้น โกหกเก่ง เชื่อถือไม่ค่อยได้

- ฝ่ามือสั้นหรือยาว แต่นิ้วอวบสั้น จะมีนิสัยชอบติดยึดกับสูตรสำเร็จ ทำตามกฎระเบียบ ตายตัว ให้ความรู้สึกไร้น้ำใจ

- นิ้วเล็กมากเท่าใด จะมีนิสัยเลอะเทอะมากเท่านั้น ชอบแสดงความกล้าหาญกับเรื่องไร้ สาระ ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น

- มือออกสีแดง เป็นคนกล้าหาญ ซาบซึ้งตื้นตันใจง่าย มักถูกมองว่าเป็นคนมุทะลุ ไม่มรวานตาเล็งการณ์ไกล แต่ค่อนข้างโชคดี

- มือออกสีเขียวขาว ถึงเป็นผู้ชาย จะมีนิสันคล้ายผู้หญิง ค่อนข้างอ่อนแอ อาจเป็นโรคโลหิตจาง

- มือออกสีเขียว เลือดไหลเวียนไม่สะดวก เจ็บป่วยบ่อย

- มือขาวมาก ขี้หงุดหงิด ชอบแก้แค้น

- มือออกสีเหลือง อาจเป็นโรคตับ[๕๒]

โดยสรุป หัตถลักษณ์เป็นเข็มทิศชีวิตของเราได้ มันช่วยให้ชีวิตที่กำลังจะเจอกับปัญหาได้มีวิธีที่จะรับมือกับปัญหาหรือความทุกข์ที่กำลังจะเกิด การใช้หัตถลักษณ์มาคาดคะเนเหตุการณ์ใน อนาคต เพียงบอกแนวโน้มหลัก ๆ ได้เท่านั้น เช่น ลักษณะมือใช้บอกอุปนิสัยและอาชีพ เส้นลายมือ ใช้ดูชะตาชีวิตอย่างละเอียด ลักษณะนิ้วมือ ช่วยให้เข้าใจอุปนิสัยและอาชีพโดยรวม เนินมือช่วยให้ เข้าใจเป้าหมายชีวิต เล็บมือใช้ดูสุขภาพ และลายนิ้วมือใช้ดูแนวโน้มชะตาชีวิตโดยกำเนิด เป็นหลักการวินิจฉัยเหตุการณ์ในอนาคต ที่ค่อนข้างไกล มีระดับความแม่นย าประมาณ ๖๕% ไม่สู้ง กว่านี้ นอกจากนั้น หัตถลักษณ์ยังเป็นศาสตร์ที่ใช้ทำความเข้าใจ อุปนิสัยใจคอของคนเราได้ด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าในทางหัตถลักษณ์ปรากฏสัญญาณบางอย่างที่เลวร้าย ก็ไม่จำเป็นต้องท้อแท้ ทอดอาลัย มองโลกในแง่ร้าย เพียงเราใช้ความพยายาม อดทน ก็สามารถผ่านอุปสรรคทุกปัญหาได้


[๑] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ , พิมพ์ครั้งที่ ๒ , (สมุทรสาคร: โรงพิมพ์ ยูไนเต็ทโปรดักชั่น, ๒๕๔๙), หน้า ๖-๗.

[๒] รัศมี สร้อยวัฒนา, ศิลปะการศึกษาลิขิตบนฝ่ามือ, (เอกสารประกอบการบรรยาย คณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๕๓๔), หน้า ๑.

[๓] จรัญ พิกุล, โหรา-หัตถศาสตร์, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์เฟื่องอักษร, ๒๕๐๙), หน้า ๒๒.

[๔] ประจวบ แก่นจันทร์, ลายมือและกติกาของชีวิต, ม.ป.ป., ๒๕๔๓, หน้า ๑-๖.

[๕] เกสรีกาญจน์ จิตรโสภี, ศาสตร์แห่งลายมือ, (กรุงเทพมหาคร: ปัญญาชน. ๒๕๕๗), หน้า ๕-๖

[๖] Fred Gettings, The Book of Palrniistry.London : The Hamlyn Publishing Group Limited. 1974 หน้า 139-140.

[๗] ชินแส ไป่หยุน ชานเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, พิมพ์ครั้งที่ ๒.(กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เต๋าประยุกต์, ๒๕๕๐). หน้า ๒๓๑.

[๘] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, พิมพ์ครั้งที่ ๑๐, (กรุงเทพมหานคร: มติชน ๒๕๔๙), หน้า ๒.

[๙] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาฝ่ามือ, พิมพ์ครั้งที่ ๒, (สมุทรสาคร: โรงพิมพ์ยูไนเต็ดโปรดักชั่น, ๒๕๔๙), หน้า ๑๒-๑๓.

[๑๐] จรัญ พิกุล, โหรา-หัตถศาสตร์, (กรุงเทพมหาคร: โรงพิมพ์เฟื่องอักษร ๒๕๐๙), หน้า ๒๘-๒๙.

[๑๑] จรัญ พิกุล, โหรา-หัตถศาสตร์, (กรุงเทพมหาคร: โรงพิมพ์เฟื่องอักษร ๒๕๐๙), หน้า ๒๘-๒๙.

[๑๒] จรัญ พิกุล, โหรา-หัตถศาสตร์, หน้า ๔๐.

[๑๓] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาฝ่ามือ, พิมพ์ครั้งที่ ๒, (สมุทรสาคร: โรงพิมพ์ยูไนเต็ด โปรดักชั่น, ๒๕๔๙), หน้า ๑๘-๑๙.

[๑๔] ชินแส ไป่หยุน ชานเหยิน, หัตถลกษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, พิมพ์ครั้งที่ ๒, (กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เตา๋ ประยุกต์, ๒๕๕๐), หน้า ๑๒.

[๑๕] เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๐.

[๑๖] เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๑.

[๑๗] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาฝ่ามือ, หน้า ๒๑.

[๑๘] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาฝ่ามือ, หน้า ๒๔-๒๕.

[๑๙] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาฝ่ามือ, หน้า ๒๖-๒๘.

[๒๐] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาฝ่ามือ, หน้า ๒๙.

[๒๑] จ.บุนนาค, ตำราดูลายมือของไคโร, (กรุงเทพมหานคร: นวชาตการพิมพ์ ๒๕๑๑), หน้า ๒-๓.

[๒๒] ชินแส ไป่หยุน ชานเหยิน, หัตถลกษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกู, หน้า ๑๐๑.

[๒๓] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, พิมพ์ครั้งที่ ๑๐, (กรุงเทพมหานคร: มติชน, ๒๕๔๙), หน้า ๓๑.

[๒๔] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๓๕.

[๒๕] ชินแส ไป่หยุน ชานเหยิน, หัตถลกษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๑๕๐-๑๕๑.

[๒๖] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๓๙.

[๒๗] ชินแส ไป่หยุน ชานเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๑๗๘.

[๒๘] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๓๑๓.

[๒๙] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๓๑๓.

[๓๐] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๓๑๕.

[๓๑] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๓๑๖.

[๓๒] พรสุข เพ็งมณี, ลายมือพื้นฐาน, เอกสารประกอบการสอนสมาคมโหรนานาชาติ, ๒๕๔๗, หน้า ๗.

[๓๓] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๔๑.

[๓๔] ศ. ดุสิต, มือบอกชีวิต, หน้า ๑๔.

[๓๕] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๔๓.

[๓๖] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๔๕.

[๓๗] เรื่องเดียวกัน, หน้า ๔๙.

[๓๘] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๔๗.

[๓๙] รัศมี สร้อยวัฒนา, ศิลปะการศึกษาลิขิตบนฝ่ามือ, หน้า ๑๘.

[๔๐] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๑๙-๒๐.

[๔๑] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๑๙-๒๐.

[๔๒] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๒๒.

[๔๓] สมบัติ รูปประดิษฐ์, แนะนำปัญหาบนฝ่ามือ, หน้า ๒๒.

[๔๔] ชินแส ไป่หยุน เชนเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๒๓๕-๒๓๖.

[๔๕] ชินแส ไป่หยุน เชนเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๒๓๕-๒๓๖.

[๔๖] เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๓๗.

[๔๗] ชินแส ไป่หยุน เชนเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๒๓๙.

[๔๘] ชินแส ไป่หยุน เชนเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๒๔๑.

[๔๙] เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๔๒.

[๕๐] เกสรีกาญจน์ จิตรโสภี, ศาสตร์แห่งลายมือ, หน้า ๓๖๒.

[๕๑] ชินแสไป่หยุน เชนเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๑๑-๑๒.

[๕๒] ชินแสไป่หยุน เชนเหยิน, หัตถลักษณ์ศาสตร์ฉบับวิธีดูลายมือแบบกูรู้, หน้า ๒๑.