ผู้ใช้:Accident network/ทดลองเขียน
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2548 เพื่อดำเนินงานป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนร่วมกับภาคีอื่นๆ ปัจจุบัน สคอ. ได้รับมอบหมายจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ดำเนินงานด้านการรณรงค์สื่อสารประชาสัมพันธ์เป็นหลัก
ระยะที่หนึ่ง สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน (ตุลาคม 2548 – มีนาคม 2550) ดำเนินงาน 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. แสวงหาภาคีเครือข่ายแกนนำ : เพื่อสร้างความร่วมมือแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน
2. พัฒนาและให้การสนับสนุนแนวความคิดดื่มไม่ขับ, ตั้งสติก่อนสตาร์ท, ดื่มไม่ขับ ขับไม่ซิ่ง, ดื่มแล้วขับ ถูกจับแน่
3. สร้างกระแสรณรงค์พัฒนาและติดตามประเมินผลภาคีเครือข่าย
4. ผลักดันให้เกิดนโยบายสาธารณะและอื่น ๆ
ผลการดำเนินงาน
1. เกิดภาคีเรือข่าย 5 แกนนำหลัก คือ
- ศูนย์พัฒนาคุณธรรม
- มูลนิธิเมาไม่ขับ
- สมาคมหมออนามัย
- กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ภาคีสนับสนุน ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัด กรมทางหลวง ขนส่งจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด เครือข่ายแท็กซี่สามล้อไทยปลอดภัยใสสะอาด เครือข่ายสามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สันนิบาตเทศบาล ฯลฯ
2. สนับสนุนทุนดำเนินงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2549 จำนวน 3 องค์กร คือ
- ศูนย์พัฒนาคุณธรรม
- มูลนิธิเมาไม่ขัย
- สมาคมหมออนามัย
3. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายลดอุบัติเหตุระดับประเทศ และจัดประชุมบูรณาการเฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุปีใหม่ 2550 รวม 4 ภาค
4. พัฒนาขีดความสามารถแกนนำ ในพื้นที่เสี่ยงสูงในการแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ : ดื่มไม่ขับ ตั้งสติก่อนสตาร์ท,อุบัติป้องกันได้, อุบัติเหตุไม่ใช่เรื่องเวรกรรม,ชุมชนปลอดภัย.oพื้นที่เสี่ยงสูง 4 ภาค 16 จังหวัด
ภาคกลาง : พระนครศรีอยุธยา,นครปฐม,ชลบุรี,จันทบุรี
ภาคใต้ : นครศรีธรรมราช,ตรัง,ภูเก็ต,ยะลา
ภาคเหนือ : เชียงใหม่,เชียงราย,พิษณุโลก,นครสวรรค์
ภาคอิสาน : ขอนแก่น,บุรีรัมย์,สุรินทร์,อุบลราชธานี
5. ผลิตและสนับสนุนสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ปีใหม่,สงกรานต์และอื่น ๆ
6. ให้การสนับสนุนโครงการย่อยของภาคีเครือข่ายในปี 2548 – 50 รวม 6 โครงการ
- โครงการลดปัญหาดื่มแล้วขับกับอุบัติเหตุ เครือข่ายนิสิต ป.โท พัฒนามนุษย์และสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- โครงการท่าเรือจุกเสม็ด ลดอุบัติเหตุจราจรจากปัญหาดื่มแล้วขับ ท่าเรือจุกเสม็ด
- โครงการรักและห่วงใย ใส่หมวกนิรภัยให้น้อง ภาคีสุขภาพและความปลอดภัย รพ.พระสมุทรเจดีย์
- โครงการทหารเรือสอนน้องให้มีวินัยและปลอดภัยในการเดินทาง ท่าเรือจุกเสม็ด
- โครงการสามล้อไทยร่วมใจลดอุบัติเหตุ สหกรณ์สามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน จำกัด
- โครงการรวมพลังเยาวชนไทย ลดอุบัติภัยบนท้องถนน ถวายในหลวง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยรอยัล เซฟตี้
7. จัดกิจกรรมแถลงข่าว รณรงค์ ประชาสัมพันธ์และออกติดตามการดำเนินงานรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่,สงกรานต์,ตรุษจีน ลอยกระทง
8. จัดกิจกรรมติดตามสนับสนุนภาคีเครือข่ายเพื่อรวบรวมข้อมูล ภาพและรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมของภาคีเครือข่ายหลัก 3 องค์กร วิเคราะห์ประเด็นปัญหา อุปสรรค พัฒนาองค์ความรู้เพื่อนำไปพัฒนาภาคีเครือข่ายและพัฒนาระบบการเก็บรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นให้มีประสิทธิภาพ ในพื้นที่เป้าหมาย 4 ภาค
- ภาคกลาง : พระนครศรีอยุธยา,สระบุรี,ชลบุรี
- ภาคใต้ : ภูเก็ต,สุราษฎร์ธานี,พังงา
- ภาคเหนือ : พิษณุโลก,นครสวรรค์,เชียงใหม่
- ภาคอิสาน : ขอนแก่น,อุดรธานี,นครราชสีมา
9. ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายเทศกาลปีใหม่ 2549 โดยเสนอโครงการและผ่านการอนุมัติโดย สสส. ทำสัญญากับ สคอ. ได้แก่ 1.ศูนย์พัฒนาคุณธรรม 2.มูลนิธิเมาไม่ขับ 3.สมาคมหมออนามัย 4. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 5.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สคอ.ผลิตและจัดส่งสื่อสนับสนุนภาคีเครือข่ายทุกจังหวัด)
10. ร่วมดำเนินงานกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน และร่วมกับภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนให้เกิดข้อเสนอนโยบายสาธารณะในพื้นที่
ระยะที่สอง สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2550 - พ.ศ.2552 ดำเนินงาน 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. ประสานความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการจัดเวทีพัฒนาศักยภาพและสร้างแรงจูงใจในการดำเนินงานตามมาตรเพื่อความปลอดภัยทางถนนทั้ง 5 ด้านให้เกิดประสิทธิภาพ
2. สื่อสารประชาสัมพันธ์และสนับสนุนการณรงค์เฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องโดยการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน
3. สนับสนุนภาคีเครือข่ายรณรงค์จัดกิจกรรมเชิงรุกเฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุในเทศกาลที่สำคัญ รวมทั้งในพื้นที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยง
ผลการดำเนินงาน
1. จัดเวทีพื้นที่นำร่องชุมชนปลอดภัย โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เน้นการทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในกลุ่มเสี่ยงและพื้นที่เสี่ยงด้วยมาตรการ 5 E นำร่องในพื้นที่ 8 จังหวัด 16 พื้นที่
2. ประสานความร่วมมือและจัดเวทีสร้างแรงจูงใจเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์วิธีการดำเนินงานส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรหรือบุคคลได้มีขวัญและกำลังใจในการทำงานอย่างต่อเนื่อง 4 ภาค รวม 8 ครั้ง
3. จัดเวทีพัฒนาศักยภาพผู้ประสานงานระดับภาคและระดับจังหวัด ตลอดจนให้การสนับสนุนการดำเนินงานทางวิชาการ โดยผู้ประสานงานระดับจังหวัด ระดับภาค ทำหน้าที่เชื่อมโยงการทำงานทั้งแนวราบและแนวดิ่ง
4. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาความร่วมมือกับเครือข่ายสื่อมวลชนท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ผลกระทบ ความสูญเสียให้เกิดการรับรู้ในสังคมไทย 4 ภาค
5. นำมาตรการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ร่างเป็นข้อเสนอ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาเป็นมติในที่ประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 2 วันที่ 17 – 19 ธันวาคม 2552 นำไปสู่การประสานความร่วมมือจัดทำพื้นที่นำร่องบังคับใช้กฎหมายครบวงจร การลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างเป็นรูปธรรมและการออกใบอนุญาตขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ
6. ขับเคลื่อนประเด็นนโยบายปลอดแอลกอฮอล์ในกลุ่มผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ ให้ได้รับการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
7. จัดเวทีแถลงข่าวสร้างกระแสการรับรู้ช่วงเทศกาลปีใหม่สงกรานต์ อย่างต่อเนื่องโดยใช้ Theme หลักจาก สสส.
8. ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สนับสนุนการดำเนินงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดทั้งปี เน้นหนักช่วงเทศกาลปีใหม่, สงกรานต์
9. สคอ.จัดทำข้อมูลเชิงประเด็นในหลายรูปแบบ เช่น จดหมายข่าว เว็บไซต์ เอกสารวิชาการเรื่อง จักรยานยนต์ ความเร็ว ดื่มไม่ขับ สิทธิผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
10. ให้การสนับสนุนภาคีเครือข่ายเชิงยุทธศาสตร์จัดกิจกรรมเฝ้าระวังป้องกันกลุ่มเสี่ยง เช่น เยาวชน ผู้ใช้แรงงาน เช่น กลุ่มอาชีวะ มากกว่า 10 พื้นที่ และภาคีเครือข่ายดำเนินงานประสบความสำเร็จตามเป้าหมายมากกว่าร้อยละ 80 เกิดเครือข่าย “อส.จร.” และเครือข่ายเยาวชนอาสาลดอุบัติเหตุ ในพื้นที่ดำเนินการ
11. ให้การสนับสนุนภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุภาคประชาสังคม (คอจ.) ในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ สร้างความร่วมมือ ร่วมเป็นเจ้าภาพและร่วมแก้ไขปัญหาโดยพื้นที่ ท้องถิ่น ชุมชน ภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคมเป็นแกนหลัก
12. เกิดเครือข่ายลดอุบัติเหตุทางถนนใน 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำพูน น่าน มุกดาหาร มหาสารคาม อุดรธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เกิดมาตรการชุมชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน
ระยะที่สาม พัฒนาศักยภาพเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (ปี 2553) ดำเนินงาน 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. พัฒนา ผลิตและกระจายสื่อ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์อย่างเหมาะสมและครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
2. สร้างและขยายเครือข่ายภาคประชาสังคม ระดมความร่วมมือแบบมีส่วนร่วม พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายให้เข้มแข็งผลักดันให้เกิดมาตรการทางสังคม
3. สนับสนุนให้เกิดการแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติทั้งในระดับพื้นที่และระดับชาติ
ผลการดำเนินงาน
1. สร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ สนับสนุนการดำเนินงานของท้องถิ่น ชุมชนและภาคีเครือข่ายในประเด็น จักรยานยนต์/หมวกนิรภัย นอกเทศกาล โดย
- ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์สนับสนุนตลอดทั้งปี
- ร่วมมือกับสภาวิศวกร จัดทำ spot และ VTR ชุมชนปลอดภัย
- ร่วมมือกับ บ.Mankind และ บ.กลาง ฯ ผลิตสื่อ VTR เปิดไฟใส่หมวกลดเจ็บตายสนับสนุน “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน”
- จัดทำรายการ TV และวิทยุ Safety Chanel
- สนับสนุนป้ายรณรงค์ “อุบัติเหตุป้องกันได้” เครือข่ายสามล้อ
- จัดทำเอกสารคู่มือ หมวกนิรภัย/การขับขี่รถจักรยานยนต์ปลอดภัย
- สื่อสาร”ทศวรรษความปลอดภัยทางถนน” กับรถจักรยานยนต์ ร่วมกับ คุณพึ่งนภา คล่องพยาบาล, คุณประวีณมัย บ่ายคล้อย นำเสนอผ่านรายการข่าวเช้า TV-Thai
2. สร้างกระแสการรับรู้ สนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่าย ตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน
- จัดทำแผนการผลิตและให้การสนับสนุนสื่อ ในช่วงเทศกาล โดยจัดเวที รวบรวม สังเคราะห์ข้อมูล และออกแบบ ผลิตและจัดส่งสื่อให้กับภาคีเครือข่าย
- จัดเวทีสร้างกระแส แถลงข่าว ร่วมกับ NBT
- จัดกิจกรรม Press Tour ครม./สื่อมวลชน โดย นศ.มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ร่วมดำเนินการ
- จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างกระแสตามจุดที่สำคัญเช่น หมอชิต หัวลำโพง
3. สนับสนุนภาคีเครือข่ายดำเนินงานในพื้นที่ส่งเสริมความปลอดภัย เขตเทศบาล อบต. /สถาบันการศึกษา/โรงงาน โดย
- ร่วมกับสภาวิศวกร จัดทำคู่มือดำเนินงาน/จัดประกวดชุมชนปลอดภัย
- บูรณาการกับเครือข่าย สสส. (เหล้า-บุหรี่-อุบัติเหตุ)
- สนับสนุนเครือข่าย อสม.จัดทำแผนงานชุมชนด้านความปลอดภัยเข้าสู่กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบล
- ร่วมกับ ม.เกษมบัณฑิต ดำเนินงานพื้นที่ส่งเสริมความปลอดภัยในสถาบันการศึกษา โดย “วีรบุรุษสีส้ม” ทำหน้าที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์
- ร่วมกับ อปท. ขับเคลื่อนพื้นที่ส่งเสริมความปลอดภัยในท้องถิ่นชุมชน 16 จังหวัดนำร่อง
- ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนร่วมกับแผนงาน Happy Workplace
- สนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุระดับจังหวัด (คอจ.) 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย สุพรรณบุรี มุกดาหาร
4. พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายและบุคลากร โดย
- นำบุคลากรและภาคีเครือข่ายเข้าอบรมหลักสูตรที่สำคัญ เช่น ปลุกยักษ์ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพในการทำงาน
- สนับสนุนภาคีเครือข่ายจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน รวม 7 ชุด (น้ำด้วน/ปทุมวิลเลจ/อสม./หมออนามัย/ศูนย์เสมา ฯ/ สามล้อ/มอเตอริ่ง)
- จัดฝึกอบรมอาสาสมัครสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยทางถนน (อสป.) โดยรับอาสาสมัครจากสถาบันการศึกษา/เทศบาล/โรงงาน ทั้ง 76 จังหวัด ยกเว้น กทม.
5. จัดทำข้อเสนอต่อคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน โดยประสานงานกับสำนักบูรณาการ ปภ. ในประเด็น เปิดไฟใส่หมวก คาดเข็มขัดนิรภัย 100% ในสถานที่ราชการและพื้นที่ตัวอย่าง 50 แห่งทั่วประเทศ การควบคุมขนาดซีซีของรถจักรยานยนต์
6. ร่วมมือกับสมาคมรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทยและบริษัทผู้จำหน่ายรถ ขับเคลื่อนการจ่ายหมวกนิรภัย 2 ใบ ต่อการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 1 คัน
7. ร่วมขับเคลื่อนการกำหนดมาตรฐานหมวกนิรภัยในประเทศไทย
8. ขับเคลื่อนกับกรมการขนส่งทางบก ประเด็น ให้มีการจัดเก็บภาษีตามขนาดซีซีของรถจักรยานยนต์
9. ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพผลักดันให้มีการควบคุมการโฆษณาหรือส่งเสริมการขายที่มีผลกระทบให้เกิดพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ (ต่อยอดมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ) ในประเด็น
- การบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับเหล้า บุหรี่ (มติที่ 5 ปี 2551)
- การโฆษณา การส่งเสริมการขาย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่เน้นความเร็วและแรง (มติที่ 9)
- ส่งเสริมให้สถานที่ราชการเป็นพื้นที่ส่งเสริมสุขภาพ
10. ร่วมกับ สช./สคล. และเครือข่ายในพื้นที่ จังหวัดสิงห์บุรี ขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ประเด็นอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นระบบ
11. สนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายที่ได้รับทุนจาก สสส. (คอจ. 4 จังหวัด เครือข่าย อสม./ สามล้อ / หมออนามัย)
ระยะที่สี่ พัฒนาเครือข่ายเพื่อการรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน (1 พฤษภาคม – 30 กันยายน 2554) ดำเนินงาน 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายสนับสนุนให้เกิดการดำเนินงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
2. สนับสนุนภาคีเครือข่าย ดำเนินงานผลักดันให้เกิดมาตรการทางสังคมเพื่อการเฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่
3. พัฒนาสื่อสิ่งพิมพ์ให้การสนับสนุนภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ
ผลการดำเนินงาน
1. ร่วมกับ P5TV จัดรายการวิวาทะจราจร ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2554 เพื่อแลกเปลี่ยนกับผู้ชมทางบ้าน และจัดทำสกู๊ปพื้นที่สร้างเสริมความปลอดภัย 4 แห่งทีร่ได้รับรางวัลจากสภาวิศวกร ออกอากาศและจัดทำเป็น CD กระจายให้ภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ได้ใช้เป็นคู่มือดำเนินงาน
2. จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน ของอาสาสมัครสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัย (อสป.) จำนวน 54 คน จาก 31 พื้นที่ ที่มีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจัดรายการวิทยุชุมชน เสียงตามสายในพื้นที่ จัดทำข้อมูลข่าวสารโดย อปท. เป็นต้น
3. พัฒนาศักยภาพ บุคลากรและภาคีเครือข่าย โดยจัดอบรมการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุก/การจัดทำแผนงานโครงการให้กับแกนนำเครือข่ายและเจ้าหน้าที่ สคอ. รวมทั้งสิ้น 37 คน ได้แก่เครือข่าย อสป./อสม./สามล้อ/ศูนย์เสมา/ สคล. และ จนท.สคอ.
4. จัดให้ภาคีเครือข่ายและบุคลากร สคอ. ได้ศึกษาดูงานการดำเนินงานมาตรการเพื่อความปลอดภัยทางถนนในโรงงาน ได้แก่ บริษัท เอเชีย พรีซิชั่น จำกัด และ บริษัท ไลออน ประเทศไทย จำกัด พื้นที่เครือข่ายหมออนามัย ตำบลทัพหลวง จังหวัดสุพรรณบุรี พื้นที่เครือข่าย อสป. ตำบลศรีดอนมูล จังหวัดเชียงราย เป็นต้น เพื่อให้เครือข่ายสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้และนำไปดำเนินการในพื้นที่ได้
5. สนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่าย อสป. จำนวน 31 พื้นที่ ให้ดำเนินการกำหนดมาตรการทางสังคมในพื้นที่ตามบริบท
6. สนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุที่ได้รับทุนจาก สสส. ได้แก่ คอจ. 4 จังหวัด น่าน เชียงราย มุกดาหาร และสุพรรณบุรี
7. ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย แก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ โดยส่งเสริมบทบาทและเน้นการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำร่องที่ ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก
8. ร่วมกับ บริษัท SCG ระยอง และ SCG บางซื่อ วางแผนเรื่องความปลอดภัยทางถนนของพนักงานบริษัทในเส้นทางการขนส่งของบริษัท และการเดินทางของพนักงาน โดยร่วมกำหนดบทบาท มาตรการเพื่อความปลอดภัย
9. จัดประชุมแกนนำภาคีเครือข่าย เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จำนวน 1 ครั้ง เน้นประเด็น สื่อที่ดีมีประสิทธิภาพ ประเภทของสื่อที่ได้รับความสนใจ และการร่วมมือผลิตสื่อในพื้นที่
10. ผลิต และกระจายสื่อให้ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน เน้น ภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ องค์กรศาสนา ภาคประชาชน และหน่วยงานภาครัฐ
11. สำรวจความพึงพอใจโดยการส่งแบบสอบถามกับผู้รับสื่อ มีผู้ตอบแบบสอบถามกลับมาทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและภาคีเครือข่าย พบว่า ร้อยละ 72 มีความพึงพอใจเกี่ยวกับลักษณะรูปแบบของสื่อประชาสัมพันธ์ของ สคอ. และร้อยละ 98 มีความพึงพอใจที่ได้รับสื่อประชาสัมพันธ์จาก สคอ. และมีความประสงค์ที่จะได้รับอย่างต่อเนื่อง
ระยะที่ห้า พัฒนาเครือข่ายเพื่อการรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน (ปี 2554 - 2556) ดำเนินงาน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. พัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน
2. ขับเคลื่อนงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน
ผลการดำเนินงาน
1. จัดเวทีร่วมกันกับสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 3 ครั้ง มีสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศมากกว่า 200 คน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและมีเป้าหมายร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนโดยใช้ทุนในพื้นที่ เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบล
2. สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายเยาวชน จัดกิจกรรมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยงบประมาณจากท้องถิ่นและภาคเอกชน (อปท., บริษัทกลางฯ) สภาเยาวชนระดับพื้นที่นำเอาปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นกิจกรรมหลัก สถาบันการศึกษาส่งเสริมกิจกรรมในหลักสูตรให้มีงานแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน เป็นแนวทางดำเนินงานเช่นคณะนิเทศศาสตร์ ม.เกษมบัณฑิต , ร.ร.มัธยม ฯ ระดับจังหวัด เป็นต้น
3. ให้คำปรึกษา และเป็นพี่เลี้ยงภาคีเครือข่าย แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในจุดตัดทางรถไฟ พื้นที่ต้นแบบร่วมกับสภาวิศวกร เกิดพื้นที่ต้นแบบ 33 พื้นที่ทั่วประเทศ
ส่วนที่ สคอ. ดำเนินการเอง
4. ออกแบบ ผลิต และกระจายสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับเครือข่าย เพื่อการสื่อสารประชาสัมพันธ์ด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีมากกว่า 200 องค์กร มากกว่า 1 ล้านชิ้น มีการรวบรวมนโยบาย, มาตรการ, ข้อสั่งการ, ข้อมูลทางวิชาการ ตลอดจนกิจกรรมรณรงค์ที่สำคัญ ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน, ปีรณรงค์สวมหมวกนิรภัย 100 % เพื่อใช้ประกอบการดำเนินงาน มากกว่า 5,000 ฉบับ มูลค่าของการผลิตไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
5. ให้การสนับสนุนสื่อมวลชนระดับพื้นที่ผลิตสื่อท้องถิ่น เช่น สวท.เชียงรายผลิตสื่อ Radio Spot ภาษาท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ผ่านเครือข่ายวิทยุและเสียงตามสายในพื้นที่ เครือข่ายองค์กรภาครัฐและเอกชนระดับจังหวัดที่ร่วมดำเนินการ อาทิเช่น สาธารณสุขจังหวัด, ตำรวจภูธรภาค, จังหวัด, นครบาล,ปภ.จังหวัด ,เขต-แขวงการทาง, ประชาสัมพันธ์จังหวัด ,เครือข่ายสื่อมวลชนภูมิภาค,วิทยุ, เคเบิลทีวี, โทรทัศน์, นสพ., อสป., อปท., เสียงตามสาย , หอกระจายข่าว เป็นต้น
ส่วนที่ 2 สคอ. ดำเนินงานร่วมกับภาคีเครือข่ายแกนนำอื่น ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
6. ร่วมจัดทำแผนงานฯและสนับสนุนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 1669
7. สร้างความร่วมมือในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ การบังคับใช้กฎหมาย ตาม พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับสำนักควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
8. สร้างความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์มาตรการ, นโยบาย, ข้อสั่งการของคณะอนุกรรมการฯ, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ ฯ ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ฯ ร่วมลงนามจัดทำหลักสูตร ฯ สำหรับตำรวจ
9. ร่วมมือกับมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุให้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
10. สร้างความร่วมมือกับกองสวัสดิศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผลักดันให้เกิดโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน ฝึกอบรมตัวแทนครู, สพฐ., ระดับภาค (กาญจนบุรี) ผอ.กองฯ ให้ความสนใจและแสดงความประสงค์ที่จะเสนอต่อกระทรวงบรรจุเป็นงานเร่งด่วน
11. ร่วมมือกับบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ดำเนินงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ร่วมกับสื่อมวลชน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถและสนับสนุนการจัดกิจกรรมเยาวชนอาสาฯ
12. สร้างความร่วมมือกับบริษัทเอพีฮอนด้า ฝึกอบรมครูฝึกขับขี่ปลอดภัยภาคประชาชน คัดเลือกอาสาสมัคร 76 จังหวัด ๆ ละ 1 ตำบล และวางแผนขยายผลสู่กลุ่มเป้าหมายจังหวัดละ 50 คน
13. สร้างความร่วมมือกับบริษัท SCG จัดกิจกรรมรณรงค์เฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มพนักงาน, ผู้บริหาร หนุนเสริมการทำงานยุทธศาสตร์เชิงรุกสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย
14. สร้างความร่วมมือกับบริษัท , โรงงานเอกชน (มากกว่า 100 บริษัท) ให้การสนับสนุนวิทยากร สื่อสิ่งพิมพ์ในการรณรงค์ทั้งในและนอกเทศกาล
15. ร่วมมือกับสถาบันเอไอที, คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ รวบรวมองค์ความรู้ด้านการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยง (ทางโค้ง, ทางแยก, วงเวียน ฯลฯ) สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้การสนับสนุนท้องถิ่นชุมชนในการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่
16. ร่วมมือกับเครือข่ายเยาวชน ดำเนินงานผ่าน Social Network (Facebook / Twitter ตั้งสติก่อนสตาร์ท) เสนอสถิติข้อมูล, นโยบาย, ข้อสั่งการ, กิจกรรมรณรงค์, พื้นที่ดีเด่น, นวัตกรรม
ระยะที่หก แผนงานสื่อสารประชาสัมพันธ์รณรงค์แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ปี ๒๕๕๘ – ปัจจุบัน มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานทุก 2 ปี ปัจจุบัน สสส.มอบภารกิจหลักให้ สคอ. ทำงานด้านการรณรงค์และสื่อสารประชาสัมพันธ์เป็นหลัก
วิธีการดำเนินงาน
1. ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายเกาะติดสถานการณ์ จัดทีมรวบรวมวิเคราะห์ออกแบบวิธีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ( ยื่นหนังสือ,การแสดง,ประท้วงฯ) ผลักดันหน่วยงานรับผิดชอบหลักกำหนดนโยบาย,เร่งรัดให้เกิดการดำเนินการแก้ไขปัญหา ติดตามรายงานผลเผยแพร่ต่อสาธารณะ
2. สร้างความร่วมมือกับภาคีเชิงยุทธ์ศาสตร์ดำเนินงานด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ขับเคลื่อนประเด็น,นโยบาย,มาตรการ ที่สำคัญ ลดความสูญเสียในกลุ่มเสี่ยง
- ตำรวจ : การบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ( 5 จริง, 5 จอม, อื่น ๆ )
- คมนาคม : มาตรฐาน ( รถ,คน,ถนน ) ที่ปลอดภัย
- ท้องถิ่น : ท้องถิ่นชุมชนปลอดภัย , การประชุมนานาชาติ “ ชุมชนปลอดภัย ” ครั้งที่ 22 จ.น่าน
- การรถไฟแห่งประเทศไทย : การแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟ ( งานต่อเนื่อง )
- ศึกษาธิการ : การมีและใช้หลักสูตรด้านความปลอดภัย , โรงเรียนปลอดภัย,มหาวิทยาลัยปลอดอุบัติเหตุ )
- NBT,NBC : ท้องถิ่น,ชุมชน,องค์กรต้นแบบ ด้านความปลอดภัย
- สื่อภูมิภาค , สื่อท้องถิ่น : รูปแบบวิธีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่ในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมเสี่ยง,กลุ่มเสี่ยง
- GRSP : มาตรฐานการดำเนินงานเพื่อความปลอดภัยทางถนน
- บ.กลาง ฯ : กิจกรรมรณรงค์สื่อสารประชาสัมพันธ์ร่วมกับภาคีเครือข่าย
- กรมการท่องเที่ยวฯ : มาตรฐานการบริการรถโดยสารเพื่อการท่องเที่ยว
- ภาครัฐและเอกชนที่สนใจ : ประกาศมาตรการองค์กรสร้างความปลอดอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน
- ผลิตสื่อสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายทั่วประเทศตามนโยบายของ สสส,ศปถ,รัฐบาล ทั้งในและนอกเทศกาลสำคัญ ( งานต่อเนื่อง )
นี่คือหน้าทดลองเขียนของ Accident network หน้าทดลองเขียนเป็นหน้าย่อยของหน้าผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้มีไว้ทดลองเขียนหรือไว้พัฒนาหน้าต่าง ๆ แต่นี่ไม่ใช่หน้าบทความสารานุกรม ทดลองเขียนได้ที่นี่ หน้าทดลองเขียนอื่น ๆ: หน้าทดลองเขียนหลัก |