ผู้ใช้:โทนบางแค/หน้าทดลอง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ประวัติ "โทน บางแค"[แก้]

โทนทอง สุขแก่น หรือชื่อที่รู้จักในวงการพระเครื่องว่า โทนบางแค จากอดีตเด็กสลัมที่เกเรชีวิตเริ่มจากศูนย์ฟันฝ่าจนกลายมาเป็นเซียนพระชื่อดังจนทุกวันนี้เขาได้เลยคำว่าเซียนพระไปแล้วเพราะเขาคือนักธุรกิจพระเครื่องอันดับต้นๆระดับประเทศที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดมาร่วมติดตามรับชมเรื่องราวแนวคิดและการใช้ชีวิตรวมถึงการนำพาวงการพระเครื่องไทยก้าวล้ำสู่ระดับสากล

โดย โทนทอง สุขแก่น เปิดเผยว่า “หลังจากที่ผมบวชตอนอายุประมาณ 11 ถึง 14 ปีคือมีปัญหาแล้วก็ไปบวชผมอยู่กับพระที่เป็นพระนักเรียนผมต้องท่องบทสวดให้ท่านทุกวันและท่านเล่นพระท่านก็จะหยิบพระมาให้ผมดูว่าองค์นี้คือพระวัดนี้นะตั้งแต่ตอนนั้นก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาพระเครื่องหลังจากสึกมาด้วยความที่อยากโดดเด่นอยากเป็นเจ้าของบ่อนก็ไปเป็นเด็กวิ่งในบ่อนก่อนพอไปๆมาๆได้ไปเป็นเจ้าของบ่อนแต่ก็โดนโกงโดนบีบและโดนขู่ฆ่าโดนรังแกจากนั้นเลยตัดสินใจหันหลังให้กับธุรกิจด้านมืดมาอาชีพเซียนพระขายพระดีกว่านอกจากนี้ได้ก่อตั้งทำมูลนิธิกู้ภัยชื่อว่าสยามนนทบุรีจุดประสงค์คือเราอยากช่วยเหลือคนเราอยากให้มากกว่าเราอยากทำอะไรให้มันเกิดขึ้นกับประเทศนี้เราอยากเป็น 1% ของความดีถ้าคนไทยทุกคนมองว่าเราทำอะไรเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติบ้างผมว่าประเทศเราจะเจริญและพัฒนาเพิ่มขึ้น”

ชีวิตวัยเยาว์และการศึกษา "โทน บางแค"[แก้]

คนรักพระเครื่องคงเคยได้ยินชื่อ หรือติดตามเพจของ โทน บางแค กันมาบ้าง และคงอยากรู้ประวัติของเซียนพระผู้นี้นั้นเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงชื่นชอบพระเครื่องจนยึดเป็นอาชีพ ติดตามบทสัมภาษณ์สุดสนุกได้ในรายการ Thairath Talk

“ผมไม่ใช่คนบางแค ผมแค่เติบโตที่นั่น” โทน บางแค เริ่มเล่าประวัติตัวเอง โดยแท้จริงแล้วเขาเกิดที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะบ้านเกิดแม่เป็นคนเพชรบูรณ์ หลังจากเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ก็แยกทางกัน คุณย่ารับมาเลี้ยงในกรุงเทพฯ ตั้งแต่นั้นมา

“ผมย้ายมาอยู่แถวบางมดกับคุณย่า เรียนโรงเรียนบริเวณนั้น ผมเริ่มขโมยพระที่บ้านมาขาย (หัวเราะ) นี่ผมทำตามที่คุณย่าสอนเลยนะ ห้ามเอาของคนอื่น แต่ไม่ได้บอกว่าห้ามเอาของในบ้านตัวเอง ผมรู้นะว่ามันไม่ดี แต่ตอนนั้นพระที่บ้านมีเยอะมาก อยู่ในห้องชั้นสองที่ไม่มีคนขึ้นไปนานแล้ว”

ลิงค์ประวัติโดยละเอียดเซียนพระชื่อดัง "โทน บางแค"

ประสบการณ์ขายพระครั้งแรก[แก้]

“เวลาเห็นป้ายรับเช่าพระ ก็สงสัยมาก ผมเลยลองเอาพระไปขายลุงแถวบ้าน ก็ได้เงินมาหลักสิบบาท เอาไปขายทุกวัน พอเริ่มมีเงินก็ไปซื้อหนังสือพระ เนื่องจากกลัวคุณลุงคนนั้นจะหลอก พอเปิดดูก็เริ่มสงสัย ทำไมต้องท่าพระจันทร์ วัดราชนัดดา ทำไมถึงมีพระเครื่องอยู่แค่ที่นี่ เลยสงสัย”

โทนในวัยประถม 4 จึงเลือกผจญภัยหนีเรียน นั่งรถประจำทางไปท่าพระจันทร์ ได้สัมผัสประสบการณ์ขายพระเต็มตัว เรียกว่ามีอึ้ง เปิดโลกขายพระเครื่องอย่างแท้จริง!

เส้นทางวงการพระเครื่องของ "โทน บางแค"[แก้]

"โทนทอง สุขแก่น" หรือ "โทน บางแค" คนดังวงการพระเครื่องปี 2017 ต่อสู้อยู่ในวงการนี้กว่า 25 ปีด้วยใจรักด้วยความเป็นนักคิดนักพัฒนากว่าจะประสบความสำเร็จได้ต้องใช้เวลา ลุยงานทุกรูปแบบ เป็นทั้งหน่วยกู้ภัยช่วยสังคมช่วยผู้ที่ประสบภัยบนท้องถนนชุมชน เปิดสนามพระเครื่องบริหารเองก็ทำมาแล้วที่สนามบินน้ำ สร้างพระถวายวัดถวายหลวงพ่อตี๋วัดหูช้าง เกจิดังเมืองนนท์พระขุนแผนผงพรายกระดูกผีเป็นที่นิยมอยู่ในวงการขณะนี้ ก็ทำมาแล้ว โทนเปิดร้านใหญ่ขายวัตถุมงคลบนพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานชั้น 3 ชื่อร้านเจ้าสัวสยาม เปิดเว็บไซต์ขยายงานให้บริการคนไทยและต่างชาติ ที่นิยมสะสมวัตถุมงคลของไทยไปถึงขั้น จะเปิดตัวสาขาในต่างประเทศอีกแล้ว ไม่ธรรมดา บ้านโทนอยู่บางแคคนวงการพระเครื่องเลยให้ฉายาว่า “โทน บางแค” เปิดร้านพระแห่งแรกอยู่ที่ตลาดบางแคตรงท่ารถเมล์บางบอน-บางแคนั่นแหละ ซื้อพระได้จะเข้าสนามพระท่าพระจันท์ ไปขายให้ อ้วน ลอบโลก และ ช่างสะพานพุทธ ถ้าได้พระบูชาไปหา ตุ้ม สุพรรณ ถ้าเป็นพระทั่วไปจะไปขายให้ ป๋อง สุพรรณ และ ตี๋ วัดไทร ไปอาทิตย์ละ 2 ถึง 3 หน พอมีเงินเหลือเก็บจึงนำไปเป็นทุนเปิดร้านพระเครื่องเองที่สนามพระท่าพระจันทร์ ร่วมกับกลุ่มเพื่อน เอท่าพระจันทร์และ เจท่าพระจันทร์ในปี 2540 ระหว่างนั้นก็จะเดินสายไปตามตลาดนัดพระเครื่องวันจันทร์ไปที่องค์พระนครปฐม วันพุธไปที่ตลาดพระสะพานใหม่ดอนเมือง วันอาทิตย์ก็จะไปที่ตลาดพระเครื่องหัวรอ อยุธยา

"โทน บางแค" เคยบุกไปเปิดร้านพระเครื่องสาขาที่เซ็นทรัลพระราม 3 อยู่ใกล้กับศูนย์พระเครื่องมณเฑียร ช่วงนั้นกำลังโด่งดังเป็นศูนย์พระเครื่องใหญ่และเป็นที่รวมเซียนนักซื้อทุกชนชั้นมากันยามเย็นและค่ำคืนคึกคักมาก เป็นช่วงเศรษฐกิจดีได้เข้าไปแข่งขันแฟนพันธ์แท้ทางที.วี.ช่อง 5 ที่กำลังโด่งดัง โทนได้รองแชมป์แฟนพันธ์แท้พระเหรียญ ทำให้เป็นที่รู้จักทั้งคนนอกวงการและในวงการพระเครื่องยิ่งขึ้น

พ.ศ. 2550 "โทน บางแค" ได้ย้ายออกจากสนามพระท่าพระจันทร์ไปเปิดร้านที่พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน แรกๆอยู่ตรงทางเข้าสมาคมต่อมาได้ย้ายไปอยู่ห้องใหญ่จ่ายไปหลายล้านถึงปัจจุบัน ตกแต่งสวยงาม ชื่อร้านเจ้าสัวสยาม และจดทะเบียนเป็นบริษัทพระเครื่องเมืองไทยจำกัด โทน บางแคเป็นประธานบริหารเอง เหตุผลที่ตั้งเป็นรูปบริษัทเพราะได้ไปเจอมากับตัวเองมาเลยแหละสำนักเซอร์พระสำนักหนึ่งกำลังออกใบเซอร์ให้ลูกค้าทั้งที่พระไม่แท้ โทน บางแคหยิบส่องแล้วส่องอีกดูยังไงก็ไม่แท้จึงเกิดความคิดว่าเราต้องตั้งสถาบันออกใบรับรองพระแท้หรือออกใบเซอร์อย่างมีคุณภาพถูกต้องและเป็นธรรม โดยอาศัยประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการพระเครื่องมานาน 20-25 ปี

  "โทน บางแค" รับตรวจสอบพระเครื่องทุกประเภทให้ฟรี เจ้าของพระจะรู้เลยเก๊แท้ไม่มีค่าใช้จ่าย ถ้าต้องการใบรับรองพระแท้หรือใบเซอร์จึงต้องชำระค่าบริการแบบสมาทการ์ด 500 บาท แบบหนังสือรับรองฉบับละ 1,000 บาท หากสมัครเป็นสมาชิกได้สิทธิพิเศษลด 10 เปอร์เซ็นต์ พระที่ผ่านการตรวจเช็คที่นี่รับรองผลเป็น พระแท้มาตรฐานสากลนิยม ที่นี่มีข้อกำหนดไว้ว่า ลูกค้าต้องนำพระมาให้ตรวจเช็คเองเท่านั้น ถ้าจะส่ง ทางไปรษณีย์ให้ดูตามที่อยู่ใน เฟสบุ๊ค โทน บางแค FC .

นี่เป็นตัวอย่างการอ้างอิงบทความข่าว[1]

นี่เป็นแม่แบบสำหรับข้อความที่ขาดแหล่งที่มา[ต้องการอ้างอิง]

จิมมี เวลส์ ← นี่เป็นลิงก์ไปยังผู้ก่อตั้งวิกิพีเดีย ข้อความที่แสดงสำหรับลิงก์สามารถปรับได้อย่างนี้ ถ้าลิงก์ชี้ไปหน้าที่ยังไม่มีคนสร้าง จะเห็นเป็นสีแดง แบบนี้

นี่เป็นพาดหัวส่วนย่อย[แก้]

  • รายการจุดนำ 1
  • รายการจุดนำ 2

ทำให้ข้อความเป็น ตัวเส้นหนา หรือ ตัวเอน ได้เมื่อต้องการ

  1. รายการเลขนำ 1
  2. รายการเลขนำ 2

ส่วนอ้างอิง[แก้]

  1. Jones, Bob (7 April 2023). "Sample headline". The Sample Times. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2024.

ส่วนแหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

แหล่งข้อมูลเว็บไซต์ตัวอย่าง


กลับหน้าสอนการใช้งาน