ผู้ใช้:แอ็กเนส เด็นท์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แอ็กเนส เด็นท์[แก้]

แอ็กเนส เด็นท์
เกิดปี ค.ศ. 1931
บูดาเปส, ฮังการี
อาชีพนักเขียน, กวี, ปรัชญา
แนวร่วมในทางวรรณคดีแลนด์อาร์ต

แอ็กเนส เด็นท์ (แม่แบบ:Lang-eng) (1931) เป็นนักเขียน กวีและปรัชญาชาวฮังกาเรียน เขาเป็นที่จดจำในฐานะผู้บุกเบิก ความเคลื่อนไหวทางศิลปะแลนอาร์ตที่เป็นส่วนหนึ่งของกระแสคอนเซ็บช่วลอาร์ตในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอเมริกา

ประวัติ[แก้]

เธอเกิดในบูดาเปส ประเทศฮังการี ในปี 1931 เธอเกิดในครอบครัวของศิลปิน Conceptual art ในนิวยอร์ก เป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการบทกวีและปรัชญา โดยครอบครัวของเธอได้ลี้ภัยนาซีไปอาศัยอยู่ยังสวีเดน และต่อมาในกลางทศวรรษที่ 1940 ในช่วงวัยรุ่นพวกเขาได้ย้ายไปสหรัฐอเมริกา เธอได้กล่าวว่ามันทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงด้านภาษาซ้ำแล้วซ้ำอีก เธอเรียนเขียนภาพที่ New School และมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์ก และได้จัดแสดงผลงานและขายไปบางส่วน ไม่ช้าเธอก็ทิ้งการ วาดภาพเพราะข้อจำกัดเกี่ยวกับผ้าใบ และมุ่งเน้นอิสรภาพจากโลกกว้างในการสำรวจสื่อประเภทอื่นๆ เพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งเดนท์ถือเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงในระดับ นานาชาติเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มศิลปะคอนเซ็บช่วลอาร์ต เธอได้รับการตรวจสอบทางกายภาพ สังคมวิทยา ปรัชญา ภาษาศาสตร์ จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ศิลปะ บทกวีและดนตรี และ เปลี่ยนการคิดค้นของเธอไปเป็นเอกลักษณ์ ของทัศนศิลป์ เดนท์เป็นหนึ่งในศิลปินคนแรกที่มีส่วนร่วมระหว่างงานศิลปะกับวิทยาศาสตร์ และยังเป็นนักบุกเบิกทางนิเวศวิทยา และเป็นสิลปินที่มีการเคลื่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อม ผลงานของเธอนิยมเทคนิคที่มีการควบคุมที่ซับซ้อนและภาพไดอะแกรมของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเธอเรียกมันว่า ทัศนปรัชญา (Visual Philosophy) ประติมากรรม และการแสดงศิลปะด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เช่น ผลงาน Weatfield ในปี 1982 จำนวน 2 เอเคอร์ ในเมืองหลวงที่แมนฮัตตัน

ผลงานของแอ็กเนส เดนท์[แก้]

เดนท์เป็นผู้บุกเบิกความเคลื่อนไหวทางศิลปะในกระแสแลนด์อาร์ตในช่วง ค.ศ. 1960 และ 1970 โดยทั่วไปเธอนิยมสร้างผล งานที่เป็นสากลและมีความหลากหลายทั้งประเภทและสื่อในการแสดงออกที่ล้วนมีความแตกต่างกัน โดยเธอได้ศึกษาและใช้กระบวนการทางด้านวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ภาษาศาสตร์ จิตวิทยา บทกวี ประวัติศาสตร์และดนตรี มาสร้างสรรค์งานศิลปะ ในช่วงหลังๆ เธอเน้นการสร้างผลงานที่เกี่ยวข้องกับการทำกิจกรรมกับผลงานนั้น ออกมาจะมีลักษณะเด่นทางด้านทัศนียภาพและสุนทรียศาสตร์ที่สัมพันธ์กับสภาพสังคมและการเมือง เพื่อบ่งบอกถึงสภาพสังคมทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกการสร้างงานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนั้นเธอยังนำแท่นหมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษผิวโลหะซึ่งเป็นวิวัฒนาการใหม่ๆ ที่ฉีกออกมาจากจารีตเดิมๆ มาเป็นกรรมวิธีหนึ่งในการ สร้างสรรค์ผลงานของเธอ ซึ่งทำให้พื้นผิวส่วนวัสดุสามารถผลิตออกมาได้อย่างแพร่กระจายได้อย่างกว้างขวางและเกิดความงดงามทำให้การวาดและพิมพ์นั้น สามารถวาดเค้าโครงได้จากการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์และการลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องแม่นยำ งานของเดนท์จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ทั้งใน The Metropolitan Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะในเมืองหลวง), The Metro politan Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน), The Whitney Museum of American Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะอเมริกันวิทนี่ย์), Hirshhorn Museum and Sculpture Garden(พิพิธภัณฑ์เฮอร์ชอร์นและสวนประติมากรรมในชิคาโก), The Moderna Museet (พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในสตอกโฮล์ม), The Centre Pompidou (พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยปอมปิดูในปารีส), The Israel Museum (พิพิธภัณฑ์อิสราเอลในเยรูซาเล็ม), The Kunsthalle Nurnberg (พิพิธภัณฑ์คุนสท์ฮัลเลอ นุนเบิร์ก) และที่อื่นๆ อีกมากมาย

ผลงานสำคัญ
  • Wheatfield – A Confrontation : Battery Park Landfill, Downtown Manhattan

ศิลปกรรมไร่ข้าวสาลี ในฤดูร้อนปี 1982 หลังจากการเตรียมงานในเดือนพฤษภาคม ปี 1982 ในทุ่งข้าวสาลี 2 เอเคอร์ บนแบตเตอรี่ปาร์ค แมนฮัตตัน ห่างจากวอลส์สตรีท 2 ช่วง ตึกไปทางอนุสาวรีย์เทพีสันติภาพ มีการเจาะและขุดร่อง 285 ร่อง เมล็ดพันธุ์ถูกหว่านลงพื้นดินสนามและได้โรยเมล็ดพันธุ์ถูกหว่านลงพื้นดินสนามและได้รบการดูแลถึงสี่เดือน และเก็บเกี่ยวครั้งแรกในวันที่ 16 สิงหาคม ซึ่งได้รวงข้าวสีทองกว่า 1,000 ปอนด์ การใช้จ่ายในจ่ายสร้างผลงานปลูกและเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเป็นมูลค่า 4,500,000,000$ สร้างความขัดแย้งที่มีประสิทธิภาพ Wheatfield เป็นสัญลักษณ์ และแนวคิดสากล เป็นตัวแทนของำลังงาน, การค้า, การค้าโลก, เศรษฐกิจ หมายถึงการปรับตัวต่อความหิวการสูญเสีย และความกังวลต่อระบบนิเวศ

  • Tree Mountain – A Living Time Capsule – 11,000 Trees, 11,000 People, 400 Years, 1992 – 96, (420x270x28 meters)

Tree Mountain เป็นอนุสาวรีย์สากล ที่ใหญ่ที่สุดบนโลกเป็นการทุ่มเทให้กับอัตตาของความเป็นมนุษย์ ภูเขาสูงที่ถูกสร้างโดยมนุษย์สร้างขึ้นขนาดใหญ่ ยาว 420 เมตร กว้าง 270 เมตร สูง 38 เมตร ได้ปลูกต้นไม้ 11,000 ต้น โดยคน 11,000 คน จากทั่วทุกมุมโลกที่ Pinzio Ylojarvi ฟินแลนด์ ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 1992 การสร้างงานสื่อถึงอนาคตกับประวัติศาสตร์ความเป็นมนุษย์ ศิลปินเรียกคืนธรรมชาติโดยเรียกร้องกับความเสียหายของสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับงานศิลปะของระบบนิเวศ ที่วางแผนไว้สำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต

รางวัล[แก้]

โดยเดนท์ประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งในตอนเหนือและใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ทำให้เธอได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอย่างมากมาย

  • ในปี 2008 ได้รับรางวัล Ambassador’s Award for Cultural Diplomacy and strengthening the friendship ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐฮังการีมีความดีเลิศด้านศิลปะร่วมสมัย
  • ในปี 2007 ได้รับรางวัล Anonymous Was A Woman Award
  • ในปี 2006 ได้รับรางวัล Nomination for the United States Artist Fellowship
  • ในปี 1999 ด้รับรางวัล The Watson Award for Transdisciplinary Achievement in the Arts, Carnegie Mellon University, Pittsburgh, Pa
  • ในปี 1997-1998 ได้รับรางวัล Rome Prize Fellow (FAAR), American Academy in Rome
  • ในปี1994 ได้รับรางวัล Honorary Doctorate in Fine Arts, Ripon College, Wisconsin (Environmental Responsibility)
  • ในปี1993 ได้รับรางวัล Studio For Creative Inquiry, Research Fellow, Carnegie Mellon University, Pittsburgh, Pa.
  • ในปี1992 ได้รับรางวัล Chicago Bar Association Young Lawyers Public Art Award, The Harold Washington Library Art Collection, Chicago, ("Introspection I - Evolution" - a mural) Herbert F. Johnson Museum of Art purchase grant; Richard A. Florsheim Art Fund
  • ในปี1990 ได้รับรางวัล The Eugene McDermott Achievement Award "In Recognition of Major Contribution to the Arts", Massachusetts Institute of Technology, Council for the Arts, Cambridge, Ma.
  • ในปี1989 ได้รับรางวัล National Endowment for the Arts Individual Artist Fellowship
  • ในปี1987 ได้รับรางวัล The Thord-Gray Memorial Fund Research and Development Grant, American-Scandinavian Foundation
  • ในปี1985 ได้รับรางวัล American Academy of Arts and Letters Hassam and Speicher Fund Purchase Award
  • ในปี1984 ได้รับรางวัล New York State Council on the Arts, Visual Artists Program grant toward the publication of BOOK OF DUST—The Beginning and the End of Time and Thereafter.
  • ในปี1982 ได้รับรางวัล The Ann and Donald McPhail Award (first prize), International Print Competition, Print Club, Philadelphia, Penn.
  • ในปี1981 ได้รับรางวัล National Endowment for the Arts Individual Artist Fellowship
  • ในปี1980 ได้รับรางวัล Fellow at the Center for Advanced Visual Studies, M.I.T., Cambridge, Ma.
  • ในปี1980 ได้รับรางวัล Berthe Von Moschzisker Prize, International Print Competition, Print Club, Philadelphia, Penn. New York State Council on the Arts, Creative Artists Public Service Grant
  • ในปี1978 ได้รับรางวัล DAAD Fellowship (Deutscher Akademischer Austausdienst), Berlin, Germany Purchase award, Footprint '78, International Print Competition
  • ในปี1977 ได้รับรางวัล Collaboration in Art, Science and Technology Fellowship, (C.A.S.T.) Syracuse University, N.Y.
  • ในปี1976 ได้รับรางวัล Museum of Modern Art Purchase with CAPS matching grant, New York
  • ในปี1975-1976 ได้รับรางวัล International Women's Year Award, "In Recognition of Outstanding Cultural Contribution and Education to Women and Art, "International Women's Arts Festival
  • ในปี1975 ได้รับรางวัล National Endowment for the Arts Individual Artist Fellowship
  • ในปี1974 ได้รับรางวัล Creative Artists Public Service Grant, New York State Council on the Arts National Endowment for the Arts Individual Artist Fellowship Purchase Prize, National Drawing Competition, Rutgers University, New Brunswick, N.J.
  • ในปี1973 ได้รับรางวัล Purchase Prize, National Print Competition, Albion College, Mich.
  • ในปี1972 ได้รับรางวัล Creative Artists Public Service Grant, New York State Council on the Arts

จากรางวัลที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีถึงความสำเร็จของเธอในแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่หลากหลาย นอกจากนั้นเธอยังมีผลงานทางด้านประติมากรรมซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญอันกว้างไกลของเธอ เดนท์ได้รับอิทธิพลมาจากโลกใน 4 ทศวรรษที่แล้ว นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถด้านการเขียน ซึ่งเริ่มและสิ้นสุดลงในปี 1989 หนังสือของเธอมีจำนวน 200 และถูกตีพิมพ์ออกมาโดย Visual Studies Work shop Press ในนิวยอร์ก จำนวน 1100 เล่ม

อ้างอิง[แก้]


แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

  • จิระพัฒน์ พิตรปรีชา. โลกศิลปะศตวรรษที่ 20. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.
  • อัศนีย์ ชูอรุณ. (2530). ประวัติศิลปะตะวันตก. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
  • อัศนีย์ ชูอรุณ และเฉลิมศรี ชูอรุณ. (2528). แบบอย่างศิลปะตะวันตก. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
  • Gray Sweeney. (1991). Masterpieces of Western American art. New York : Mallard Press.
  • Kleinbauer, W. Eugene. (1971). Modern perspectives in western art history : an anthology of 20th-century writings on the visual arts. New York : Holt, Rinehart and Winston.
  • Malcolm Andrews. (1999). Landscape and western art. Oxford: Oxford University Press.
  • Wikipedia. Agnes Denes. (2013). Retrieved October 9,2013 from https://en.wikipedia.org/wiki/Agnes_Denes.