ผู้ใช้:ปาณิศา/มินน่า ฟอน บารน์เฮลม์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

มินน่า ฟอน บารน์เฮลม์ (Minna von Barnhelm) เป็นละครตลกจาก กอดโฮลด์ แอฟเรม แลสซิ้ง (Gotthold Ephraim Lessing) แบ่งเป็นห้าฉาก ละครนี้เกิดในช่วงสงครามเจ็ดปีและได้นำมาแสดงครั้งแรกในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1767 ผลงานของ แลสซิ้งชิ้นนี้เป็นหนึ่งในละครตลกที่มีความสำคัญในวรรณกรรมเยอรมัน

เรื่องราว[แก้]

ละครเรื่องนี้เริ่มหลังสงครามเจ็ดปี นายพล ฟอน เทลฮายม์ (von Tellheim) ถูกปลดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีข้อสงสัยว่านายพลทุจริตรับสินบนจากข้าศึกมา จึงมารอที่เบอร์ลินกับเด็กรับใช้ยูทส์ (Just) เพื่อรอรับการพิพากษา การถูกกล่าวหาว่า ในสงครามได้รับสินบนจากข้าศึก เพื่อที่ให้ข้าศึกที่แพ้ เสียค่าเสียหายน้อยที่สุดนั้น กินใจและทำให้เทลฮายม์เสียใจมาก เนืองจากเทลฮายม์เป็นคนที่สุจริต มีคุณธรรม และรักศักดิ์ศรีมาก การทำที่ทำให้ถูกกล่าวนี้เกิดขึ้น เพราะฟอนเทลฮายม์เห็นใจผู้พ่ายศึกและเรียกค่าเสียหายที่ต่ำที่สุด แม้ว่าเทลฮายม์เลือกอัตราต่ำที่สุด แต่ซักเซ้น(Sachsen)ก็ไม่สามารถจ่ายได้ในขณะนั้น เทลฮายม์จึงออกเงินให้ก่อน หลังจากสงครามจบแล้วและเทลฮายม์ต้องการเอาพันธบัตรไปแลกกับกระทรวง ก็ถูกกล่าวหาทุจริต กระทรวงจึงยึดเงินและฟ้องเทลฮายม์ ด้วยเหตุนี้เทลฮายม์จึงขาดเงิน

มินน่า ฟอน บารน์เฮลม์ คู่หมั้นของเทลฮาย์ ซึ่งรู้จักกันในสงคราม ตามหาคู่หมั่นตัวเอง เนื่องจากว่าเทลฮายม์ไม่ได้กลับไปหาและไม่ทราบว่าเทลฮายม์ถูกข้อกล่าวหา เธอจึงเดินทางมาเบอร์ลิน เพื่อถามหาที่อยู่เทลฮายม์ที่กระทรวงกับลุงของเธอ แต่เกิดอุบัติเหตุกับรถม้า ลุงจึงให้มินนาเดินทางมาก่อน ซึ่งทำให้มินน่ากับเด็กรับใช้(เป็นเพื่อนตั้งแต่เด็ก)มาถึงเบอร์ลินก่อน พอมาถึงเบอร์ลินแล้ว ก็หาที่พัก แต่โรงแรมเต็มไปหมดทุกที่ มีเพียงโรงเตี๊ยมที่เดียวที่ว่าง แต่ห้องที่ใหญ่ๆและสวยๆหมดแล้ว แต่เถ้าแก่ย้ายผู้พักให้ จึงได้ห้องใหญ่


ภายหลังนี้เป็นการสรุปฉากเท่านั้น

ฉากที่ 1[แก้]

ในขณะเดียวกัน เทลฮายม์ได้กลับมาโรงแรมที่พักและเนืองจากยังไม่ได้จ่ายค่าห้อง เถ้าแก่จึงย้ายให้ไปอยู่ห้องเล็กๆ ยูทส์เคืองเถ้าแก่มาก หาว่าเถ้าแก่หน้าเงินและว่าเถ้าแก่อย่างรุนแรง เถ้าแก่พยายามแก้ตัว โดยบอกว่าจะปล่อยให้ผู้เช่าใหม่อยู่ในห้องเล็กๆได้อย่างไร แต่เทลฮายม์กลับไม่ติดใจเท่าไหร่ สาเหตุที่เถ้าแก่ไม่ไล่เทลฮายม์ออกจากโรงแรมก็คือ ในขณะที่เก็บห้องได้พบเงินในจำนวนมาก ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเงินที่ลูกน้องฝากเทลฮายม์ไว้ ซึงเทลฮายม์ไม่ยอมใช้ ไม่นานต่อมาแม่ม่ายซึ่งมีลูกติดของผู้รับใช้เก่ามาหาเทลฮายม์ เพื่อมาชำระหนี้ตามคำสั่งเสียของสามีเธอ แม้ว่าเทลฮายม์มีปัญหาเรื่องเงิน แต่ก็ปฏิเสธที่จะรับเงิน โดยบอกว่าเทลฮายม์ต่างหากที่ติดหนี้สามีเธอและยังบอกเธอว่ากระทรวงยังต้องจ่ายเงินให้สามีเธออีก ให้เธอไปเรียกร้องได้

หลังจากที่แม่ม่ายไป ก็มีลูกน้องแวรเนอร์ (Paul Werner)มาอีก ลูกน้องคนนี้ขายทรัพย์สินตัวเองหมด เพื่อไปทำสงคราม เนื่องจากเบื่อชีวิตธรรมดา เมื่อแวรเนอร์ได้ยินปัญหาเรื่องเงินจากยูทส์ ก็ไปหาเทลฮายม์ เพื่อต้องการจะเอาเงินให้ยืม แต่เทลฮายม์ไม่ต้องการให้ช่วย แวรเนอร์จึงโกหกเทลฮายม์ โดยบอกว่ายังติดหนี้สามีแม่ม่ายอยู่ ซึ่งคุยกับแม่ม่ายว่าให้เอามาจ่ายที่เทลฮายม์แทน ฉะนั้นให้รับเงินไปได้ แต่แวรเนอร์ไม่รู้ว่าแม่ม่ายมาหาเทลฮายม์แล้ว จึงโดนจับโกหกได้ ซึ่งทำให้แทลฮายม์โกรธมาก


ฉากที่ 2[แก้]

ในขณะเดียวกันมินน่าก็ส่งเด็กรับใช้มาขอโทษและขอบคุณผู้เช่าของห้องก่อน เนื่องจากอุตสาห์สละห้องให้ เด็กร้บใช้ฟันสิสก้า(Franziska)มาหาเถ้าแก่ เพื่อถามหาที่อยู่ ซึ่งเถ้าแก่ได้ชี้ไปยังยูทส์และบอกว่าเขาเป็นเด็กรับใช้ของเจ้าของห้อง ซึ่งในขณะนั้นนั่งอยู่ตรงนั้น ตอนนี้ผู้ชมถึงรู้ว่าคนที่ถูกเชิญย้ายห้องก็คือเทลฮายม์นั้นเอง ฟันสิสก้าถามยุทส์ แต่ยูทส์ไม่ยอมบอก ฟันสิสก้าจึงให้ฝากบอกคำขอบคุณ

หลังจากฟันสิสก้ากลับมาที่ห้องแล้ว เถ้าแก่ก็ได้มาสอบถามข้อมูล ซึ่งเป็นระเบียบจากตำรวจในสมัยนั้น ภายหลังการสอบถามเถ้าแก่โชว์แหวนวงหนึ่งให้เห็น ซึ่งคล้ายกับแหวนของมินน่ามากที่เธอใส่อยู่ ซึ่งมีเทลฮายม์จำนำกับเถ้าแก่ไว้ก่อนหน้านั้น เพื่อชำระค่าห้อง มินน่าเห็นว่าเป็นแหวนของคู่หมั้น จึงได้เก็บไว้และให้เถ้าแก่ไปตามคู่หมั้นเธอมา แต่ยูทส์ไม่ยอมไปตาม แต่จะบอกให้แทลฮายม์ให้ทราบว่ามีคนอยากพบ

เทลฮายม์มาหาผู้ที่ขอบคุณตามมารยาท โดยไม่รู้ว่าผู้ที่ขอบคุณนั้นเป็นคู่หมั้นของตัวเอง เมื่อเจอแล้วก็กระโดดเข้าหา แต่สักพักก็ปฏิเสธ โดยอ้างว่าขาดความเหมาะสม เนื่องจากเขาเป็นคนจน คนพิการ(มือข้างขวาเป็นอัมพาตเพราะสงคราม)และออกไปจากห้อง

ฉากที่ 3[แก้]

หลังจากแทลฮายม์ไป ซึ่งมินน่าเองก็งง จึงเรียกเถ้าแก่มาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทราบเรื่องการโดนกล่าวหาแล้ว ยูทส์ก็เข้ามาในห้องเพื่อเอาจดหมายจากเจ้านายมาให้ ซึ่งแทลฮายม์อธิบายในจดหมายว่าทำไมขาดความเหมาะสม การสนทนาระหว่างยูทส์ทำให้ผู้ชมเห็นว่า แทลฮายม์เป็นคนที่ดี ต่อมาฟันสิสก้าก็เจอแวรเนอร์ ซึ่งกำลังไปหาแทลฮายม์เพื่ออำลา ฟันสิสก้ากับแวรเนอร์คุยถูกคอกันมาก หลังจากคุยเสร็จแวรเนอร์ปรับความใจกับแทลฮายม์และอำลา โดยแทลฮายม์สัญญาว่าถ้าหากขาดเงินอีก จะต้องเอ่ยปากยืมเงินแวรเนอร์เป็นคนแรก ต่อมาฟันสิสก้าเอาจดหมาย ซึ่งมินน่าเปิดอ่านแล้ว มาให้แทลฮายม์ โดยบอกแทลฮายม์ว่า มินน่าไม่ได้อ่านจดหมายและสิ่งที่ต้องการพูดก็ให้บอกเธอโดยตรงและนัดเจอหน้าบ้านเวลาสามโมง

ฉากที่ 4[แก้]

ระหว่างการนัดเจอกับแทลฮายม์ มีคนมาหาแทลฮายม์ ซึงนำข่าวมาบอกแทลฮายม์ว่ามีการพิจารณาว่าเข้าใจผิด แทลฮายม์พ้นโทษหมดทุกประการ ส่วนเงินที่เรียกร้องจะได้เต็มจำนวน เมื่อมินน่าได้รับข่าวนี้ ก็ต้องการเอาคืนบ้าง โดยบอกแทลฮายม์ว่า เนื่องจากเธอไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ลุงเธอเสนอและเธอรักแทลฮายม์คนเดียว แล้วนี้แทลฮายม์ก็ไม่รักเธออีก เธอจึงถูกตัดออกจากมรดก เธอจึงคืนแหวนมั้นที่เธอให้แทลฮายม์คืนให้แทลฮายม์ โดยที่แทลฮายม์ไม่รู้ว่าเป็นแหวนของตัวเอง

ฉากที่ 5[แก้]

แทลฮายม์รู้สึกผิด จึงไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีตัวเอง รีบไปยืมเงินจากแวร์เนอร์ เพื่อจะแต่งงานและใช้ชีวิตกับมินน่า แวรเนอร์ซึงทราบข่าวว่าแทลฮายม์จะได้เงินจากกระทรวงคืน บอกให้แทลฮายม์รู้ แทลฮายม์ไม่ต้องการรอจึงให้เอาเงินไปให้ยูทส์ เพื่อไปไถ่แหวนหมั้นที่เคยจำนำไว้ออกมา ไม่นานฟันสิสก้าก็ได้เจอแทลฮายม์ ซึ่งฟันสิสก้าหาว่าแทลฮายม์ใจร้าย แม้แต่แหวนหมั้นก็ยังไม่ใส่เลย ซึงแทลฮายม์อ้างว่าลืมใส่ แทลฮายม์มาพบมินน่า เพื่อจะบอกว่าพ้นโทษแล้วและขอเธอแต่งงาน ขอให้เธอรับแหวนหมั้นนั้นคืน แต่มินน่าไม่ยอมรับแหวนคืน จึงกลับไปเอาแหวนหมั้น ซึงได้เจอยุทส์ ซึ่งรายงานว่าแหวนหมั้นที่เคยจำนำไว้ถูกมินน่าไถ่ไปแล้ว ซึ่งทำให้แทลฮายม์คิดว่าที่มินน่ามานั้น มาเพื่อที่จะถอนหมั้นเฉยๆเลยโกรธ

ในขณะเดียวกันแวรเนอร์มาหาแทลฮายม์ เพื่อเอาเงินมาให้ ซึ่งแทลฮายม์โกรธมินน่า จึงปฏิเสธไม่รับเงินอีกคัร้ง ต่อมาแทลฮามย์ไปหามินน่า เพื่อที่จะว่าเธอเรื่องที่จะถอนหมั้น ในขณะนั้นลุงของมินน่าก็ได้เข้ามา ซึ่งแทลฮายม์คิดว่าลุงคนนั้นแย่มากที่รังแกมินน่า จึงพยายามปกป้องมินน่า แต่หลังจากลุงกล่าวว่าไม่รู้เรื่องตัดออกจากกองมรดกและมินน่าเปิดโปรงเรื่องทั้งหมด ซึ่งบอกให้ดูแหวนของตนว่าเป็นแหวนของใคร แทลฮายม์ก็เข้าใจทุกอย่างและทั้งสองคนก็ได้กลับมาเป็นคู่เหมือนเดิม [1]

ลิงค์[แก้]

อ่านละครทั้งบท


อ้างอิง[แก้]

  1. Minna von Barnhelm,Lessing, Reclam