ตราบาปลิขิตรัก
ตราบาปลิขิตรัก | |
---|---|
ไฟล์:Atonement poster.jpg | |
กำกับ | โจ ไรท์ |
เขียนบท | นวนิยาย: เอียน แมคอีวาน Screenplay: คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน |
อำนวยการสร้าง | ทิม บีแวน อีริคเฟลเนอร์ พอล เวบสเตอร์ |
นักแสดงนำ | เจมส์ แม็กอะวอย เคียรา ไนต์ลีย์ เซอร์ชา โรนัน โรโมร่า การาย วาเนสซา เรดเกรฟ |
กำกับภาพ | ซีมัส แมคการ์วี |
ตัดต่อ | พอล ทอตฮิลล์ |
ดนตรีประกอบ | ดาริโอ มาริอาเนลลี |
ผู้จัดจำหน่าย | ยูนิเวอร์แซล |
วันฉาย | สหราชอาณาจักร: 7 กันยายน ค.ศ. 2007 สหรัฐอเมริกา: 7 ธันวาคม ค.ศ. 2007 ไทย: 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 |
ความยาว | 118 นาที. |
ประเทศ | อังกฤษ |
ภาษา | อังกฤษ ฝรั่งเศส |
ทุนสร้าง | 15 ล้านปอนด์ [1] |
ข้อมูลจาก All Movie Guide | |
ข้อมูลจาก IMDb |
ตราบาปลิขิตรัก เป็นชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์เรื่อง Atonement ซึ่งสร้างจากนวนิยายของเอียน แมคอีวานในชื่อเดียวกัน กำกับโดยโจ ไรท์ เขียนบทภาพยนตร์โดยคริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน ถ่ายทำในปี พ.ศ. 2549 ที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส นำแสดงโดยเจมส์ แมคอาวอยและเคียรา ไนต์ลีย์ จัดจำหน่ายโดยยูนิเวอร์แซล ออกฉายในประเทศอังกฤษวันที่7 กันยายน พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) และฉายในไทยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008)
ตราบาปลิขิตรัก ได้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 64 ทำให้โจ ไรท์ในวัย 35ปี เป็นผู้กำกับที่มีอายุน้อยที่สุดที่มีผลงานออกฉายในงานเทศกาลนั้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในการประกาศรางวัลครั้งที่ 80 และเข้าชิงทั้งหมด 6 สาขารวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม,บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม,นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)[2]
เนื้อเรื่องย่อ
[แก้]ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งได้เป็นสี่ตอนเช่นเดียวกันกับนวนิยายต้นฉบับ บางฉากได้ใช้วิธีการเล่าซ้ำโดยแสดงให้เห็นมุมมองที่ต่างกันออกไปต่อเหตุการณ์เดียวกัน ไบรโอนี่ ทาลลิส (เซอร์ชา โรนัน) เป็นเด็กหญิงวัย 13 ปีในครอบครัวที่ร่ำรวยครอบครัวหนึ่งของอังกฤษ เป็นน้องคนเล็กในบรรดาพี่น้องสามคน และใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน เซซิเลีย(เคียรา ไนต์ลีย์)พี่สาวของเธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เช่นเดียวกันกับร็อบบี เทอร์เนอร์(เจมส์ แมคอาวอย)ลูกชายแม่บ้านที่ได้รับการสนับสนุนทางการศึกษาจากพ่อของเซซิเลีย ร็อบบีซึ่งกำลังจะเข้าเรียนแพทย์ได้ใช้เวลาในช่วงฤดูร้อนทำสวนในที่ดินของตระกูลทาลลิส ไบรโอนี่ได้แสดงให้เห็นตั้งแต่แรกเริ่มว่าเธอมีความรู้สึกพิเศษต่อร็อบบี วันที่เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นั้น ญาติของตระกูลอันประกอบด้วยโลล่า ควินซีย์(จูโน เทมเพิล)และน้องชายฝาแฝดของเธอ(ฟีลิกซ์และชาร์ลี วอน ซิมสัน)ได้เดินทางมาเยี่ยมในขณะที่พ่อแม่ของพวกเขาเพิ่งหย่าร้างกัน ในขณะที่ลีออน(แพทริก เคนเนดี้) พี่ชายของเซซิเลียและไบรโอนี่ได้กลับบ้านพร้อมพาเพื่อนชื่อพอล มาร์แชล(เบเนดิคด์ คัมเบอร์แบทช์)เจ้าของโรงงานช็อคโกแลต บ้านทาลลิสจัดมื้ออาหารค่ำเป็นพิเศษ ลีออนได้ชักชวนร็อบบีซึ่งตอบตกลง ทำให้เซซิเลียเกิดความรำคาญเป็นอย่างยิ่ง
ไบรโอนี่เพิ่งจะเขียนบทละครเรื่อง การทดสอบของอาราเบลล่า(The Trials of Arabella)สำเร็จ เป็นบทละครที่กล่าวถึงความซับซ้อนของความรัก ไบรโอนี่ตั้งใจจะใช้ละครเรื่องนี้เล่นในช่วงอาหารค่ำโดยมีเธอเป็นผู้กำกับ แต่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ โลล่าและฝาแฝดไม่อยากร่วมมือนัก ไบรโอนี่จึงต้องกลับไปที่ห้องอย่างหงุดหงิดและได้เห็นภาพเหตุการณ์ระหว่างเซซิเลียกับร็อบบีที่น้ำพุ โดยภาพที่เห็นคือเซซิเลียถอดเสื้อเหลือเพียงชุดชั้นในและกระโดดลงไปในน้ำพุ มีร็อบบียืนมองใกล้ๆ อันที่จริงเซซิเลียเพียงลงไปเก็บเศษแจกันที่ร็อบบีทำแตกเท่านั้นแต่ก็ทำให้ไบรโอนี่เข้าใจผิดไปแล้ว
ต่อมาเมื่อร็อบบีเขียนจดหมายขอโทษเซซิเลียและฝากไบรโอนี่นำไปส่งให้ ไบรโอนี่ก็แอบอ่านและพบว่าเป็นข้อความหยาบคายเกี่ยวกับเรื่องเพศซึ่งร็อบบีส่งผิดฉบับ ไบรโอนี่เล่าให้โลล่าฟังและกล่าวว่าร็อบบีเป็นบุคคลอันตราย
ต่อมาไบรโอนี่ได้เห็นภาพบาดตาอีกครั้งที่ห้องสมุด เมื่อเซซิเลียกับร็อบบีกำลังกอดก่ายกันอยู่ ในช่วงอาหารค่ำเมื่อฝาแฝดหายตัวไปและทุกคนแยกย้ายกันออกไปตาม ไบรโอนี่ได้เห็นโลล่าถูกใครบางคนข่มขืน โลล่าให้การว่าเธอไม่รู้ว่าใครคือคนที่ทำร้ายเธอ ไบรโอนี่จึงไม่รอช้าที่จะกล่าวหาร็อบบีโดยยืนยันว่าเธอเห็นร็อบบีจริงๆ ร็อบบีที่หาฝาดแฝดพบจึงถูกส่งไปเข้าคุกแม้เซซิเลียจะเชื่อว่าร็อบบีไม่ได้ทำก็ตาม
สี่ปีต่อมา ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ร็อบบีออกจากคุกและเข้าร่วมสงคราม ก่อนหน้านั้นเขาได้พบกับเซซิเลียครั้งหนึ่งในลอนดอนและสัญญาว่าจะกลับมาพบกันอีก ไบรโอนี่ในวัย 18 ปี(โรโมร่า การาย)ไปเป็นพยาบาลตามรอยเซซิเลียและพยายามติดต่อกับเซซิเลียแต่โดนปฏิเสธ เซซิเลียได้ออกจากการเป็นครอบครัวนับตั้งแต่ทุกคนเชื่อว่าร็อบบีกระทำความผิดจริง
ร็อบบีและเพื่อนทหารสองนายซึ่งพลัดหลงกับกองทัพเดินทางไปถึงดันเคิร์ก ประเทศฝรั่งเศส และได้พบกับกองทัพที่รอการเคลื่อนย้ายกลับอังกฤษที่นั่น ร็อบบีได้ยินว่ากองทัพจะทำการเคลื่อนย้ายในวันรุ่งขึ้น ในช่วงเวลาหลังจากนั้น ที่โรงพยาบาลในลอนดอน ไบรโอนี่ได้พบกับความพรั่นพรึงจากผู้ที่ผ่านการรบมาแล้ว
หลังจากเห็นข่าวสมเด็จพระราชินีเสด็จเยี่ยมโรงงานของพอล มาร์แชล ไบรโอนี่ได้เข้าร่วมงานแต่งงานของพอลและโลล่า ณ ที่นั้นเธอตระหนักได้ว่า ในค่ำคืนที่เธอเป็นพยานการข่มขืน ชายที่อยู่ที่นั่นคือพอล ไม่ใช่ร็อบบี ในวันนั้นไบรโอนี่ไปหาเซซิเลียและกล่าวขอโทษ เซซิเลียอาศัยอยู่กับร็อบบี ทั้งสองชี้แนะว่าไบรโอนี่จะต้องสารภาพความจริงทั้งหมดให้ทุกคนได้รับรู้
ในปีค.ศ. 1999 ไบรโอนี่ในวัยชรา(วาเนสซา เรดเกรฟ)ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนวนิยายเรื่องสุดท้ายของเธอ ไบรโอนี่เปิดเผยว่าเธอเป็นโรค Vascular dementia ทำให้ความจำของเธอจะเสื่อมลงในไม่ช้า นอกจากนี้เธอยังเปิดเผยอีกว่าตอนจบของนิยายกับชีวิตจริงไม่เหมือนกัน ในความจริงเธอไม่ได้ไปหาเซซิเลีย เซซิเลียกับร็อบบีเองก็ไม่ได้พบกันหรือใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะร็อบบีได้เสียชีวิตที่ดันเคิร์ก ส่วนเซซิเลียจมน้ำจากเหตุการณ์ท่อระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดิน เสียชีวิตเช่นกัน ไบรโอนี่กล่าวว่านวนิยายเรื่องนี้คือการไถ่บาป(Atonement)ของเธอ
ฉากสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้คือร็อบบีและเซซิเลียยิ้มอย่างร่าเริงที่ชายหาด ใกล้ๆมีบ้านสีฟ้าที่ทั้งสองคนคาดหวังว่าจะได้อยู่ร่วมกัน ทั้งสองดูมีความสุขมากซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีช่วงเวลาเช่นนั้น
ตัวละครหลัก
[แก้]- เคียรา ไนต์ลีย์ รับบทเป็น เซซิเลีย ทาลลิส ลูกคนกลางของตระกูลทาลลิส ในตอนแรกจะได้รับบทเป็นไบรโอนี่วัย 18 ปีแต่โจ ไรท์ซึ่งเป็นผู้กำกับได้เห็นว่าเธอเหมาะกับบทเซซิเลียมากกว่า ไนต์ลีย์เคยร่วมงานกับไรท์มาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Pride & Prejudice (ค.ศ. 2005) ไนต์ลีย์ต้องฝึกพูดภาษาอังกฤษสำเนียงยุค ค.ศ. 1940 เพื่อรับบทนี้
- เจมส์ แมคอาวอย รับบทเป็น ร็อบบี เทอร์เนอร์ ลูกชายแม่บ้านของตระกูลทาลลิส หลังจากปฏิเสธงานก่อนหน้านี้ ไรท์ได้เลือกแมคอาวอยเป็นร็อบบี แม้ว่าโปรดิวเซอร์จะเลือกนักแสดงไว้หลายคนเช่นเจค จิลเลนฮอล แมคอาวอยกล่าวว่าร็อบบีเป็นบทที่เล่นยากที่สุดบทหนึ่งเลยทีเดียว
- เซอร์ชา โรนัน รับบทเป็น ไบรโอนี่ ทาลลิส ในวัย 13 ปี เด็กหญิงผู้ทะเยอะทะยานอยากเป็นนักเขียนและมีจินตนาการสูงส่ง เอียน แมคอีวานกล่าวชมการแสดงของเธอว่าไม่ธรรมดา โรนันได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากบทนี้
- โรโมร่า การาย รับบทเป็น ไบรโอนี่ ทาลลิส ในวัย 18 ปี ในตอนแรกผู้ที่จะได้รับบทนี้คือแอบบี คอร์นิชซึ่งปฏิเสธเพราะต้องถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Elizabeth: The Golden Age โรโมร่าใช้เวลาอยู่ในกองถ่ายเพียง 4 วันเท่านั้น
- วาเนสซา เรดเกรฟ รับบทเป็น ไบรโอนี่ ทาลลิส ในวัย 77 ปี เรดเกรฟได้รับการเลือกเป็นไบรโอนี่วัยชราหลังจากที่โรนันได้รับการเลือกเป็นไบรโอนี่ในวัยเด็ก ทั้งโรนัน การาย และเรดเกรฟ ต้องทำผมทรงเดียวกันและแสดงความเป็นไบรโอนี่ออกมาคล้ายคลึงกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- แฮเรียต วอลเทอร์ รับบทเป็น เอมิลี่ ทาลลิส แม่และหัวหน้าครอบครัวของตระกูลทาลลิส
- แพทริค เคนเนดี้ รับบทเป็น ลีออน ทาลลิส พี่ชายคนโตในบรรดาพี่น้องสามคนของตระกูลทาลลิส
- เบรนดา เบลทติน รับบทเป็น เกรซ เทอร์เนอร์ แม่บ้านของตระกูลทาลลิส แม่ของร็อบบี
- จูโน เทมเพิล รับบทเป็น โลล่า ควินซีย์ ลูกพี่ลูกน้องของไบรโอนี่ที่มาเยี่ยมบ้าน
- ฟีลิกซ์และชาร์ลี วอน ซิมสัน รับบทเป็น น้องชายฝาแฝดของโลล่า
- เบเนดิกด์ คัมเบอร์แบตช์ รับบทเป็นพอล มาร์แชล เพื่อนของลีออน เจ้าของโรงงานช็อกโกแลต
งานสร้างภาพยนตร์
[แก้]สถานที่ถ่ายทำ
[แก้]
สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องตราบาปลิขิตรักส่วนมากอยู่ในประเทศอังกฤษ เช่นฉากอพยพทหารที่ดันเคิร์กถ่ายทำที่เรดคาร์เมืองตากอากาศริมทะเล, สเตรทแฮม, ทางตอนใต้ของลอนดอน ใช้ถ่ายทำฉากอพาร์ทเมนต์ของเซซิเลียหลังจากที่เธอตัดขาดจากครอบครัวแล้ว ในส่วนของคฤหาสน์ตระกูลทาลลิสถ่ายทำที่คฤหาสน์สโตรคเซย์ เขตชรอพเชียร์ ซึ่งเป็นบ้าพักส่วนบุคคลที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1889 เป็นคฤหาสน์สไตล์วิคตอเรียน[3]
สถานที่ถ่ายทำในลอนดอนมีทั้งถนนไวท์ฮอลล์ในเวสท์มินสเตอร์และเบธนอลกรีนทาวเวอร์ฮอลล์ซึ่งใช้เป็นฉากร้านน้ำชาในปี ค.ศ. 1939 นอกจากนี้ยังมีโบสถ์เซนต์จอห์นสมิธแสควร์ในเวสท์มินสเตอร์ที่ใช้เป็นฉากงานแต่งงานของโล่ล่ากับพอล มาร์แชล ในบางส่วนของฉากโรงพยาบาลเซนต์โธมัสถ่ายทำที่ พาร์คพาเลซ เบิร์กเชียร์ และเมืองเฮนเลย์ออนเทมส์ทางตอนใต้ของออกฟอร์ดเชียร์ ส่วนภายนอกโรงพยาบาลนั้นถ่ายทำที่มหาวิทยาลัยแห่งลอนดอน(University College London) บ้านพักตากอากาศในรูปถ่ายและในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์ถ่ายทำที่เซเว่นซิสเตอร์ ซัสเซกส์ ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ
การตอบรับจากสังคม
[แก้]รางวัล
[แก้]รางวัลที่ได้รับ
[แก้]- รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 80: ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)[2]
- รางวัลภาพยนตร์แห่งอังกฤษ ครั้งที่ 61[4]:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม
- รางวัลมะเขือเทศทองคำ: ภาพยนตร์รักโรแมนติคยอดเยี่ยม[5]
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ฮูสตัน[6]:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมหนึ่งในสิบอันดับ
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 65[7]:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทภาพยนตร์ดรามา
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ดนตรีประกอบภาพยตร์นานาชาติ[8]:
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์แห่งปี (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทดรามา
- เรียบเรียงดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี
- รางวัลภาพยนตร์และโทรทัศน์ไอริช:
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ลาสเวกัส[9]: นักแสดงรุ่นเยาว์หญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลกลุ่มผู้วิจารณ์ภาพยนตร์แห่งลอนดอน[10]:
- นักแสดงชายอังกฤษยอดเยี่ยมแห่งปี (เจมส์ แมคอาวอย)
- นักแสดงสมทบหญิงอังกฤษ (วาเนสซา เรดเกรฟ)
- รางวัลนิลส์สันสาขาภาพยนตร์[11]:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- ประดับฉากยอดเยี่ยม
- ศิลปินรุ่นเยาว์ (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ฟีนิกส์[12]:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมหนึ่งในสิบอันดับ
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- นักแสดงรุ่นเยาว์ในบทนำหรือสมทบยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ซานดิเอโก[13]:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมหนึ่งในเจ็ดอันดับ
- ตัดต่อยอดเยี่ยม (พอล ทอตฮิลล์)
- รางวัลแซทเทิลไลท์ ครั้งที่ 12[14]: บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
รางวัลที่เสนอชื่อเข้าชิง
[แก้]- รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 80:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (ซาราห์ กรีนวูด,เคที สเปนเซอร์)
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (แจคเคอลีน เดอร์แรน)
- รางวัลสมาคมผู้กำกับศิลป์ ครั้งที่12: ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยมในภาพยนตร์เรื่องยาว (ซาราห์ กรีนวูด)
- รางวัลสมาคมช่างกล้องภาพยนตร์แห่งอเมริกา ครั้งที่22: กำกับภาพยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ (ซีมัส แมคการ์วี)
- รางวัลภาพยนตร์แห่งอังกฤษ ครั้งที่ 61:
- ภาพยนตร์อังกฤษยอดเยี่ยม
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม (โจ ไรท์)
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (เจมส์ แมคอาวอย)
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (เคียรา ไนต์ลีย์)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- ตัดต่อยอดเยี่ยม (พอล ทอตฮิลล์)
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (แจคเคอลีน เดอร์แรน)
- เสียงประกอบยอดเยี่ยม (แอดนนี แฮมบรูค,พอล ฮัมบลิน,แคทเทอรีน ฮอดจ์สัน)
- แต่งหน้ายอดเยี่ยม (อิวานา พรีโมแรค)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์กระจายเสียง (BFCA):
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ผู้กำกับยอดเยี่ยม (โจ ไรท์)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (วาเนสซา เรดเกรฟ)
- นักประพันธ์ดนตรียอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- นักแสดงรุ่นเยาว์หญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ชิคาโก:
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลสมาคมนักออกแบบเสื้อผ้า ครั้งที่10: ออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับภาพยนตร์ย้อนยุคยอดเยี่ยม (แจคเคอลีน เดอร์แรน)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ดัลลัส-ฟอร์ท วอร์ธ (DFWFCA): นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลลูกโลกทองคำ ครั้งที่ 65:
- ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (โจ ไรท์)
- นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ดรามา (เจมส์ แมคอาวอย)
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ดรามา (เคียรา ไนต์ลีย์)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมสาขาภาพยนตร์ดรามา (เซอร์ชา โรนัน)
- บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ดนตรีประกอบภาพยตร์นานาชาติ: นักประพันธ์ดนตรีแห่งปี (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลภาพยนตร์และโทรทัศน์ไอริช:
- ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม
- นักแสดงนำชายนานาชาติยอดเยี่ยม (เจมส์ แมคอาวอย)
- นักแสดงนำหญิงนานาชาติยอดเยี่ยม (เคียรา ไนต์ลีย์)
- รางวัลกลุ่มผู้วิจารณ์ภาพยนตร์แห่งลอนดอน:
- รางวัลแอทเทนเบอโรห์สำหรับภาพยนตร์อังกฤษแห่งปี
- ผู้กำกับแห่งปี (โจ ไรท์)
- นักแสดงนำหญิงอังกฤษแห่งปี (เคียรา ไนต์ลีย์)
- นักแสดงสมทบหญิงอังกฤษยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- นักเขียนบทภาพยนตร์แห่งปี (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- พัฒนาการแสดงยอดเยี่ยมแห่งอังกฤษ (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลม้วนฟิล์มทองคำของผู้ตัดต่อเสียงภาพยนตร์ ครั้งที่ 55: กำกับเสียงยอดเยี่ยม (เบคกี พอนทิงก์,ปีเตอร์ เบอร์จิส)
- สมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ออนไลน์:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- ตัดต่อยอดเยี่ยม (พอล ทอตฮิลล์)
- ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลแซทเทิลไลท์:
- นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ดรามา (เคียรา ไนต์ลีย์)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ดรามา (เซอร์ชา โรนัน)
- ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (แจคเคอลีน เดอร์แรน)
- ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์เซนต์หลุยส์เกทเวย์:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- รองอันดับหนึ่ง กำกับภาพยอดเยี่ยม (ซีมัส แมคการ์วี)
- บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ตะวันออกเฉียงใต้:
- ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (โจ ไรท์)
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- รางวัลห้องสมุดยูเอสซี(USC): บทภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน:บทภาพยนตร์,เอียน แมคอีวาน:หนังสือต้นฉบับ)
- รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์วอชิงตัน ดี.ซี.:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (โจ ไรท์)
- นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (ซาราห์ กรีนวูด)
- พัฒนาการแสดงยอดเยี่ยม (เซอร์ชา โรนัน)
- รางวัลไอวอร์ โนเวลโล: ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ดาริโอ มาริอาเนลลี)
- รางวัลภาพยนตร์และโทรทัศน์ลียง:
- ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (โจ ไรท์)
- บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตัน)
- กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม (ซาราห์ กรีนวูด,เคที สเปนเซอร์)
ดนตรีประกอบ
[แก้]ดนตรีประกอบของภาพยนตร์เรื่องตราบาปลิขิตรัก ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงและได้รับรางวัลมากมาย ซึ่งอัลบัมดนตรีประกอบนี้ประพันธ์โดยดาริโอ มาริอาเนลลี และเล่นโดย ชอง-อีฟ ติโบเดต์นักเปียโนคลาสสิกชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการร่วมมือกับโจ ไรท์เป็นครั้งที่สองหลังจากภาพยนตร์เรื่อง Pride & Prejudice
รายชื่อเพลง
[แก้]- ไบรโอนี่ (Briony) - 1:46
- ข้อความของร็อบบี (Robbie's Note) - 3:07
- สองคนที่น้ำพุ (Two Figures By a Fountain) - 1:17
- ซี เธอ และชา (Cee, You and Tea) - 2:27
- ด้วยสองตาของฉันเอง(With My Own Eyes) - 4:41
- อำลา (Farewell) - 3:32
- จดหมายรัก (Love Letters) - 3:12
- ครึ่งหนึ่งถูกสังหาร (The Half Killed) - 2:11
- ช่วยฉันด้วย (Rescue Me) - 3:21
- บทอาลัยแด่ดันเคิร์ก (Elegy for Dunkirk) - 4:16
- กลับมา (Come Back) - 4:28
- จุดจบ (Denouement) - 2:29
- บ้านพักริมหาด (The Cottage on the Beach) 3:25
- การไถ่บาป (Atonement) - 5:24
- Suite bergamasque: Clair de lune (โคล้ด เดอบุซซี) - 4:52
สื่อภายในที่พักอาศัย
[แก้]ตราบาปลิขิตรักในรูปแบบดีวีดีโซน 2 ออกวางจำหน่ายวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 และแบบHD DVDในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2008 ส่วนดีวีดีโซน 1 วางจำหน่ายวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 2008[15] ในประเทศไทยวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบวีซีดีและดีวีดีในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2008[16] ภายในดีวีดีประกอบด้วยภาพยนตร์, คำอธิบายภาพยนตร์โดยผู้กำกับ โจ ไรท์, เบื้องหลังการถ่ายทำ, จากนวนิยายสู่ภาพยนตร์, ฉากที่ถูกตัดออกพร้อมคำอธิบายโดยผู้กำกับ โจ ไรท์ และตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอลิซาเบธ ราชินีบัลลังก์ทอง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Keira Knightly shines in Atonement". The Age.
- ↑ 2.0 2.1 "Academy Award nominations for Atonement". Academy Awards.
- ↑ Atonement FilmInFocus Production Notes[ลิงก์เสีย]
- ↑ "รางวัล BAFTA ประจำปี ค.ศ. 2007". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-08. สืบค้นเมื่อ 2008-08-13.
- ↑ รางวัลมะเขือเทศทองคำ สาขาภาพยนตร์รักโรแมนติคยอดเยี่ยม
- ↑ รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ฮูสตันประจำปี ค.ศ. 2007
- ↑ "รางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 65". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-24. สืบค้นเมื่อ 2012-05-24.
- ↑ รางวัลสมาคมวิจารณ์ดนตรีประกอบภาพยตร์นานาชาติประจำปี ค.ศ. 2007
- ↑ "รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ลาสเวกัสประจำปี ค.ศ. 2007". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-21. สืบค้นเมื่อ 2008-09-02.
- ↑ รางวัลกลุ่มผู้วิจารณ์ภาพยนตร์แห่งลอนดอนประจำปี ค.ศ. 2007
- ↑ 6th Annual Nilsson Award Nominees for the Most Outstanding Filmmaking of 2007
- ↑ "รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ฟีนิกส์ประจำปี ค.ศ. 2007". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-01-11. สืบค้นเมื่อ 2008-09-02.
- ↑ "รางวัลสมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ซานดิเอโกประจำปี ค.ศ. 2007". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-02-26. สืบค้นเมื่อ 2008-09-02.
- ↑ "รางวัลแซทเทิลไลท์ครั้งที่ 12". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-22. สืบค้นเมื่อ 2008-09-02.
- ↑ Atonement [WS DVD
- ↑ http://www.japclub.com/dvd_box/catalyts/2008_jun/atonement.htm
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ตราบาปลิขิตรัก ที่เว็บ siamzone
- ตราบาปลิขิตรัก ที่เว็บ Kapook
- ตราบาปลิขิตรัก เก็บถาวร 2008-09-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ที่เว็บ mono2u
- Atonement ที่เว็บ MySpace
- Atonement ที่เว็บ Rottentomatoes