ตระกูลโกเลอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ตระกูลโกเลอร์ (อังกฤษ: Goler clan) คือตระกูลยากจนในแถบชนบทตระกูลหนึ่งที่อาศัยอยู่บนเขาเซาท์ใกล้เมืองวูลฟ์วิลล์ รัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา พวกเขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 จากการที่สมาชิกครอบครัวทั้งชายและหญิงหลายคนสมสู่กันในหมู่พี่น้อง และล่วงประเวณีลูกหลานของตัวเอง[1][2]

ประวัติ[แก้]

บริเวณโดยรอบภูเขาเซาท์

สมาชิกของตระกูลโกเลอร์อาศัยอยู่ร่วมกันภายในกระท่อมสองหลังในป่าอันห่างไกลบนภูเขาเซาท์ ห่างออกไปทางทิศใต้จากชุมชนไวต์ร็อก นอกเมืองวูลฟ์วิลล์ บรรพบุรุษของตระกูลนี้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่กลางคริสต์ทศวรรษ 1800 และจากข้อมูลของนักสังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยอะคาเดีย พบว่าตระกูลโกเลอร์มีประวัติการสมสู่กับญาติพี่น้องของตนเองตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1860[3] ชาลส์ และสเตลลา โกเลอร์ เป็นผู้อาวุโสที่สุดของตระกูลอาศัยร่วมกับลูกหลานทั้งชายหญิงจำนวน 5 คนภายในกระท่อมที่ทรุดโทรม[3]

ตระกูลโกเลอร์อาศัยอยู่ห่างไกลกับชุมชนเกษตรกรรมในหุบเขาแอนนาโพลิสและเมืองใหญ่ใกล้เคียงเฉกเช่นตระกูลบนเขาทั่วไป ผู้ใหญ่ในตระกูลโกเลอร์หลายคนมีภาวะบกพร่องด้านสติปัญญา เรียนหนังสือมาน้อย และไม่ได้ทำงานที่เป็นแก่นสาร รายได้ส่วนใหญ่มาจากเงินสวัสดิการสังคม หรือออกไปรับจ้างในฟาร์มใกล้ ๆ เพียงครั้งคราว พวกเขายังชีพด้วยการตกปลา หาอาหารในป่า จำพวกเบอร์รี และผลไม้ป่าอื่น ๆ[4] สมาชิกที่เป็นเด็กถูกบังคับให้ทำงานบ้าน เช่น เตรียมอาหาร หรือใช้ให้เด็ก ๆ ขนขยะที่ผู้ใหญ่ยัดไว้บนห้องใต้หลังคาจนเต็มออกไปทิ้ง[4]

ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา เด็ก ๆ จากตระกูลโกเลอร์พยายามแจ้งบุคคลภายนอกหรือเจ้าหน้าที่รัฐว่าพวกเขาถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยสมาชิกในครอบครัวแต่กลับถูกปฏิเสธ และจำต้องกลับบ้านไปโดนสมาชิกผู้ใหญ่ในตระกูลลงโทษ[4] กระทั่ง ค.ศ. 1984 มีเด็กหญิงจากตระกูลโกเลอร์วัย 14 ปี ได้แจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ในโรงเรียน โดยเปิดเผยว่าเธอถูกทารุณกรรม ทั้งต่อร่างกาย ทางเพศ และจิตใจมาอย่างยาวนาน ครั้นเมื่อมีการสอบสวนทางคดี เจ้าหน้าที่พบว่าเด็กจากตระกูลโกเลอร์จำนวนหนึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วยน้ำมือของพ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา พี่สาว พี่ชาย เครือญาติ และอื่น ๆ ระหว่างที่ตำรวจกำลังสอบปากคำ ผู้ใหญ่ในตระกูลโกเลอร์ออกปากยอมรับอย่างเปิดเผย และโอ้อวดอีกว่าเคยล่วงประเวณีมาแล้วหลายรูปแบบ รวมทั้งมีเพศสัมพันธ์กับลูกหลานของตนเองที่ยังเด็ก พวกเขามักจะอ้างว่าเด็กเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทุกครั้ง[4]

การสอบสวนและสิ่งสืบเนื่อง[แก้]

สมาชิกตระกูลโกเลอร์ที่เป็นเพศชายจำนวน 15 คน และเป็นหญิงอีกหนึ่งคน ถูกตั้งข้อกล่าวหาหลายร้อยเรื่อง ทั้งการร่วมประเวณีในหมู่เครือญาติ และการล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ[4] เดิมผู้ต้องหาสารภาพแล้ว แต่ต่อมาผู้ต้องหาได้กลับคำให้การ และปฏิเสธข้อกล่าวหาต่าง ๆ โดยอ้างว่าไม่ได้กระทำ งานหนักจึงตกเป็นของอัยการเต็มเวลาของเทศมณฑลคิงส์ ปกติแล้วเขาจะจัดการคดีข่มขืนเพียงหนึ่งหรือสองคดีต่อปี นอกนั้นก็มีเพียงคดีทำร้ายร่างกาย การลักขโมย การแต่งกายไม่สุภาพ และอาชญากรรมอื่น ๆ ซึ่งมีน้อยมาก[4] ในเวลาต่อมาผู้ต้องหา 13 คน ถูกตัดสินจำคุก 1-7 ปี โดยวิลเลียม เดนนิส โกเลอร์ ได้รับโทษจำคุก 7 ปี ส่วนวิลเลียม เจมส์ โกเลอร์ หลานชาย ได้รับโทษจำคุก 4.5 ปี[3][5]

จากคดีดังกล่าวทำให้ผู้คนหวนกลับมาสนใจสภาพอันยากไร้ของผู้คนจำนวนมากในเทศมณฑลคิงส์ บริเวณภูเขานอร์ทและภูเขาเซาท์มีประชากรยากจนราว 4,000 คน และพื้นเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์รอบ ๆ เคนต์วิลล์ ก็มีเพิงพักที่ทำจากกระดาษของคนยากไร้จำนวนมาก พวกเขาถูกสังคมตั้งแง่รังเกียจ และทางการก็เพิกเฉยกับปัญหานี้ที่มีมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ ทั้ง ๆ ที่มีเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงความถี่ของปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1860 อีกทั้งประชากรยังมีปัญหาด้านความพิการตั้งแต่กำเนิด และปัญหาบกพร่องทางสติปัญญาในระดับสูง ซึ่งประชากรที่มีรายได้น้อยเหล่านี้ล้วนทำงานหาเงินเพื่อสร้างบ้านที่มีเตาไฟขนาด 565 ตารางฟุตเป็นของตนเอง[3]

กรณีของตระกูลโกเลอร์ ถือเป็นคดีอาชญากรรมที่อื้อฉาวจนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศแคนาดา มีการตีพิมพ์หนังสือ On South Mountain: The Dark Secrets of the Goler Clan ("บนเขาเซาท์: ความลับดำมืดของตระกูลโกเลอร์") เขียนและตีพิมพ์ในปี 1998 ได้อธิบายเรื่องราวของคดีนี้ไว้โดยละเอียด[4] ดอนนา โกเลอร์ หนึ่งในเด็กที่ถูกทารุณกรรม ซึ่งต่อมาได้ถูกย้ายออกจากบ้านโกเลอร์เมื่ออายุ 11 ปี ได้ผันตัวเป็นนักเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย เพื่อเรียกร้องให้มีการร่างกฎหมายล่วงละเมิดเด็กให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการคุกคามเด็ก[6] คำให้การของดอนนาเป็นหลักฐานสำคัญที่อัยการใช้ในการพิจารณาคดี[4]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. The scars of poverty เก็บถาวร 2022-10-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Macleans
  2. Dad who led 'hillbilly sex ring' incest clan let kids be raped in exchange for beer Mirror UK
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 Beltrame, Julian (March 13, 1986). "Shame of 'hillbilly' incest forces Nova Scotia county into action". Ottawa Citizen. Southam News. สืบค้นเมื่อ November 1, 2015.
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7 Cruise, David; Griffiths, Alison (1998). On South Mountain: The Dark Secrets of the Goler Clan. Penguin Books. ISBN 0-670-87388-8.
  5. Canada Notes เก็บถาวร 2022-10-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Macleans
  6. "Abuse victim fights to change law". CBC News (ภาษาอังกฤษ). November 13, 1998. สืบค้นเมื่อ February 27, 2018.