ดันเจียนซีจ II

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ดันเจียนซีจ II
ภาพปก
ผู้พัฒนาแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์
ผู้จัดจำหน่ายไมโครซอฟท์เกมสตูดิโอส์, สแควร์เอนิกซ์
แต่งเพลงเจเรมี โซล
ชุดดันเจียนซีจ
เครื่องเล่นไมโครซอฟท์ วินโดวส์
วางจำหน่าย16 สิงหาคม ค.ศ. 2005
แนวแอ็กชันเล่นตามบทบาท
รูปแบบผู้เล่นเดี่ยว, หลายผู้เล่น

ดันเจียนซีจ II (อังกฤษ: Dungeon Siege II) เป็นวิดีโอเกมแอ็กชันเล่นตามบทบาทซึ่งเป็นภาคต่อของดันเจียนซีจใน ค.ศ. 2002 เกมนี้ได้รับการพัฒนาโดยแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์และวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2005[1] เรื่องราวเป็นความต่อเนื่องของเค้าเรื่องดันเจียนซีจ ส่วนภาคเสริมอย่างโบรเคนเวิลด์ได้รับการเปิดตัวใน ค.ศ. 2006

รูปแบบการเล่นมุ่งเน้นไปที่ระบบคลาสของระยะประชิด, ระยะไกล, เวทมนตร์ธรรมชาติ และเวทมนตร์ต่อสู้ โดยมีการแนะนำคลาสเพิ่มเติมอีกสองคลาสในภาคเสริมอย่าง "โบรเคนเวิลด์" ผู้เล่นที่ควบคุมตัวเอกพบว่าตัวเองผลัดเปลี่ยนพันธมิตรครั้งหนึ่งเมื่อเพื่อนของพวกเขาที่ชื่อเดรวินถูกฆ่าตายในเนื้อเรื่องหลัก และพยายามเพื่อกำจัดวายร้ายที่ชื่อวัลดิส ผู้เล่นสามารถรับเอ็นพีซีคนใหม่ ที่มีบุคลิกและคุณลักษณะเฉพาะ ซึ่งนำเสนอความลุ่มลึกในรูปแบบการเล่น

เกมดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดีเมื่อวางจำหน่าย โดยได้รับ 80 คะแนนในเว็บไซต์เมทาคริติก และได้รับรางวัล "เกมเล่นตามบทบาทยอดเยี่ยม ค.ศ. 2005" จากนิตยสารพีซี เกมเมอร์ ยูเอส

รูปแบบการเล่น[แก้]

ในขณะที่อยู่ในถ้ำ คณะของผู้เล่นจะโจมตีมอนสเตอร์กลุ่มหนึ่ง ในขณะที่มอนสเตอร์ตัวหนึ่งอัญเชิญสัตว์ประหลาดออกมา

ไม่เหมือนกับดันเจียนซีจภาคแรก ดันเจียนซีจ II มีแนวทางรูปแบบการเล่นที่หลากหลายกว่า ซึ่งภาคต้นตำรับได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเกมอัตโนมัติเกินไปและขาดคุณค่าในการเล่นซ้ำ โดยผู้พัฒนาแก๊สเพาเวิร์ดเกมส์ได้ปรับปรุงระบบเก่าให้เป็นระบบที่หลากหลายมากขึ้น ที่รวมเอาองค์ประกอบเพิ่มเติมของกลยุทธ์เข้าด้วยกัน

โดยค่าเริ่มต้น ระบบใหม่จะปิดการต่อสู้อัตโนมัติของเกมดั้งเดิมส่วนใหญ่ และกำหนดให้ผู้เล่นคลิกหนึ่งครั้งสำหรับการโจมตีแต่ละครั้งของตัวละครที่เลือก สำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบระบบการต่อสู้ของเวอร์ชันก่อน ระบบใหม่สามารถทำให้มีพฤติกรรมที่ชอบมากกว่า การคลิกที่มอนสเตอร์และกดปุ่มขวาของเมาส์ค้างไว้จะทำให้ตัวละครโจมตีอย่างต่อเนื่องจนกว่ามอนสเตอร์ดังกล่าวจะตาย นอกจากนี้ มีตัวเลือกที่ช่วยให้ตัวละครของผู้เล่นสามารถป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติ และ/หรือโจมตีเป้าหมายต่อไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับในระบบเก่า

ในดันเจียนซีจภาคแรก ตัวละครพิเศษทั้งสี่ (หรือที่เรียกว่าคลาส) แตกต่างกันเฉพาะในไอเทมและคาถาที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้ใช้ ส่วนในดันเจียนซีจ II แต่ละความสามารถพิเศษ (ระยะประชิด, ระยะไกล, เวทมนตร์ธรรมชาติ, เวทมนตร์ต่อสู้) ได้มีชุดทักษะเฉพาะตัวที่กำหนดจุดแข็งเฉพาะของตัวละคร ตัวอย่างเช่น ตัวละครที่เน้นระยะประชิดสามารถใช้โล่ปกป้องพันธมิตรได้ดีกว่า หรือพัฒนาทักษะการใช้อาวุธสองมือเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก การทำมัลติคลาส (กระจายประสบการณ์และทักษะให้มากกว่าหนึ่งคลาส) สามารถทำได้ แต่ควรทำด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ ทักษะการเรียนรู้ของตัวละครในหลาย ๆ ด้านหากมากเกินไป อาจพบว่าพวกเขาเหล่านั้นแผ่วลง และไม่สามารถทำหน้าที่ใด ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในภาคเสริมสำหรับดันเจียนซีจ II ซึ่งคือ "โบรเคนเวิลด์" ได้มีการแนะนำคลาสตัวละครใหม่สองคลาส คลาสเหล่านี้เป็นตัวละครมัลติคลาส ได้แก่ หมัดศิลาเป็นมัลติคลาสของระยะประชิดกับเวทมนตร์ธรรมชาติ และนักฆ่าเลือดเป็นมัลติคลาสของระยะไกลกับเวทมนตร์ต่อสู้ คลาสใหม่เหล่านี้ได้รับผังทักษะเฉพาะของตนเองนอกเหนือจากคลาสอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถทำมัลติคลาสได้ง่ายขึ้นโดยไม่เสียเปรียบมากนัก ตัวอย่างเช่น หมัดศิลาสามารถทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กเมื่อทำการโจมตี เพื่อสร้างความเสียหายของตัวละครระยะประชิดล้วน ๆ ต่อไป และนักฆ่าเลือดสามารถทำให้เป้าหมายเลือดออก เพื่อความเสียหายของตัวละครระยะไกลล้วน ๆ ต่อไป (เนื่องจากมัลติคลาสของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถอัปเกรดอาวุธได้บ่อยนัก และอาจจะอ่อนแอกว่าในการต่อสู้)

การเปลี่ยนแปลงอีกประการในดันเจียนซีจ II คือการเพิ่มระบบฮีโรเพาเวอส์ ซึ่งพลังคือความสามารถพิเศษที่ตัวละครสามารถใช้ได้เมื่อการโจมตีปกติไม่เพียงพอ พวกเขารวมความสามารถ เช่น อยู่ยงคงกระพันสำหรับทั้งคณะ และพลังในการเรียกสายฟ้าที่สร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูทั้งหมดในพื้นที่ โดยพวกเขาจะได้รับเมื่อทักษะบางอย่างได้รับการฝึกฝนในระดับหนึ่ง พลังแต่ละแบบมี 3 เลเวล โดยแต่ละเลเวลต้องใช้ค่าทักษะมากขึ้นจึงจะได้รับ รวมถึงพลังจะเพิ่มขึ้นตามเลเวลของตัวละคร

เช่นเดียวกับภาคก่อน ดันเจียนซีจ II เป็นเกมเล่นตามบทบาทซึ่งยึดคณะเป็นหลัก ผู้เล่นสามารถมีตัวละครได้สูงสุดสี่ตัวในคณะภายใต้การตั้งค่าความยากระดับแรก (ทหารรับจ้าง), ตัวละครห้าตัวในระดับความยากทหารผ่านศึก และหกตัวในระดับความยากขั้นสูงสุด นอกเหนือจากความสามารถในการสรรหาตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุม (NPC) ที่ทำหน้าที่เหมือนกับตัวละครของผู้เล่นเองแล้ว ผู้เล่นยังสามารถซื้อสัตว์เลี้ยงที่เติบโตหลังจากที่ได้รับไอเทม อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนภาคก่อน ซึ่งตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุมที่ได้รับการว่าจ้างมีบุคลิกเฉพาะตัว และสามารถพูดคุยกับผู้เล่นและคนอื่น ๆ ได้ในบางจุดในเกม โดยพวกเขายังมีภารกิจส่วนตัวอีกด้วย ทั้งนี้ สัตว์เลี้ยงเริ่มต้นด้วยการโจมตีปกติ (และเวทมนตร์ หากมี) โดยได้รับพลังเมื่อเติบโตถึงเลเวลสาม และสุดท้ายจะได้รับการปลดปล่อยเมื่อโตเต็มวัย ส่วนการปล่อยออราพิเศษเฉพาะสัตว์เลี้ยงให้ผลประโยชน์แก่ตัวละครที่เป็นมิตรภายในขอบเขต (เช่น การฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ที่เพิ่มขึ้น)

ระบบเวทมนตร์ในดันเจียนซีจ II นั้นส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลง นักเวทต่อสู้และนักเวทยังคงสามารถเข้าถึงสายคำเสกที่แยกจากกันเพื่อเพิ่มพลังตามเลเวลของตัวละคร อย่างไรก็ตาม เวทมนตร์ต่อสู้และเวทมนตร์ธรรมชาตินั้นแตกต่างกันมากกว่าในดันเจียนซีจภาคแรก โดยเวทมนตร์ต่อสู้มุ่งเน้นไปที่การสร้างความเสียหายจำนวนมหาศาลและทำให้ศัตรูอ่อนแอลงด้วยคำสาป ในขณะที่เวทมนตร์ธรรมชาติจะเน้นไปที่การรักษา, การอัญเชิญ และเสริมความแข็งแกร่งให้สมาชิกในคณะด้วยการโอบล้อมและร่ายมนตร์พิโรธ

คณะถูกจำกัดให้บัฟสูงสุดสองบัฟพร้อมกัน ซึ่งคาถาของสัตว์เลี้ยงนับรวมในการจำกัดบัฟนี้ แต่ไม่มีการปล่อยพวกมัน (ดูด้านบน) ส่วนคาถาเสริมประสิทธิภาพอาวุธที่ใช้โดยตัวละครฟิสต์ออฟสโตนและบลัดอัสแซสซินที่นำมาใช้ในภาคเสริม จะไม่นับรวมในขีดจำกัดนี้ อนึ่ง ศัตรูแต่ละตัวสามารถมีดีบัฟได้ครั้งละหนึ่งดีบัฟเท่านั้น ซึ่งผลกระทบด้านลบทั้งหมดจะนับรวมในขีดจำกัดนี้ รวมทั้งคำสาปและทำให้มึน

ระบบ "เกมโอเวอร์" ของดันเจียนซีจ II นั้นคล้ายกับเกมเล่นตามบทบาทอื่น ๆ เมื่อตัวละครสูญเสียพลังชีวิตเพียงพอ พวกเขามักจะเข้าสู่สภาวะหมดสติ ซึ่งตัวละครล้มลงกับพื้น, ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และต้องรอจนกว่าพลังชีวิตของพวกเขาจะค่อย ๆ ฟื้นคืนขึ้นมาใหม่เอง หรือรอการหายจากเวทมนตร์จากตัวละครอื่น หากตัวละครถูกศัตรูโจมตีอย่างแรงพอ หรือหากศัตรูยังคงโจมตีตัวละครที่หมดสติอย่างต่อเนื่อง ตัวละครนั้นอาจถูกฆ่าตายในที่สุด เมื่อความตายเกิดขึ้น ตัวละครจะไม่สามารถรับการรักษาได้อีกต่อไป และต้องฟื้นคืนชีพโดยตัวละครอื่น หรือโดยผู้ปลุกชีพซากศพ ซึ่งเป็นตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุมในเมือง หากคณะถูกเข่นฆ่า ก็อาจเลือกที่จะเกิดใหม่อีกครั้งในเมืองโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ ซึ่งเครื่องมือของพวกเขาถูกทิ้งไว้บนศพ จากนั้น คณะดังกล่าวจะต้องหาวิธีที่จะนำเครื่องมือที่ตกหล่นกลับมา ไม่ว่าจะโดยการกลับไปหาศพของตัวละครดังกล่าว หรือโดยการเรียกตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุมอย่างผู้ปลุกชีพซากศพสำหรับค่าใช้จ่ายทางการเงิน

โหมดหลายผู้เล่น[แก้]

ดันเจียนซีจ II รองรับการเล่นเกมแบบร่วมมือกันหลายผู้เล่นผ่านแลน, อินเทอร์เน็ต และเครือข่ายเกมสปาย ผู้เล่นหลายคนสามารถร่วมมือกันในคณะที่แยกจากกันแต่เป็นพันธมิตร โดยมีการจำกัดตัวละครทั้งหมดแปดตัว แม้ว่าจะมีเพียงสี่ตัวเท่านั้นที่สามารถควบคุมโดยผู้เล่นได้ สัตว์เลี้ยงที่ถูกจัดซื้อจะนับรวมในขีดจำกัดนี้ แต่สิ่งมีชีวิตที่อัญเชิญ (จากคาถา) ไม่นับเช่นนั้น เกมนี้มีโหมด "แบบดั้งเดิม" (old school) ที่ไม่รองรับในโหมดหลายผู้เล่น ซึ่งอนุญาตให้ผู้เล่นสูงสุดแปดคนเล่นพร้อมกันได้ หากต้องการเปิดใช้งานสิ่งนี้ ให้เพิ่ม "oldschool=true" (โดยไม่ใส่เครื่องหมายคำพูด) ลงในบรรทัดคำสั่งหรือไฟล์ .ini

สำหรับการเล่นผ่านแลนและอินเทอร์เน็ต เกมที่บันทึกไว้จะได้รับการเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของผู้เล่นเอง ส่วนสำหรับการเล่นเกมสปาย เกมและตัวละครที่บันทึกไว้จะได้รับการเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของเกมสปาย โดยสภาพแวดล้อมของเกมสปายจำกัดจำนวนการโกงออนไลน์ที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ในช่วงเบตาช่วงปลาย ความเป็นไปได้ยังคงมีอยู่ รวมทั้งสามารถดาวน์โหลดตัวละครเกมสปายจากเซิร์ฟเวอร์เกมสปายไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้เล่น ซึ่งสามารถใช้กับอินเทอร์เน็ต, แลน และเกมแบบผู้เล่นเดี่ยวได้ ส่วนสิ่งที่ตรงกันข้ามไม่เป็นความจริงคือ: ตัวละครเกมสปายสามารถสร้างและปรับเลเวลได้ในเครือข่ายเกมสปายเท่านั้น ซึ่งเครือข่ายจีเอสพยายามสนับสนุนเฉพาะเกมต้นฉบับเท่านั้น กอปปีที่ไม่มีลิขสิทธิ์จะถูกบล็อกหากไม่สามารถจำลองซีดี-คีย์ ส่วนการเล่นออนไลน์อาจไม่สามารถเล่นได้ด้วยเกมมือสองเช่นกัน และดันเจียนซีจ II เวอร์ชันสตีมไม่รองรับฟังก์ชันหลายผู้เล่น[2]

โครงเรื่อง[แก้]

เกมเริ่มต้นด้วยตัวเอกที่ผู้เล่นควบคุมและเพื่อนของพวกเขา เดรวิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทหารรับจ้างในกองทัพของวัลดิส ขุนศึกที่ปรับตัวให้เข้ากับเผ่าพันธุ์ของพ่อมดแห่งความมืดและกวัดแกว่งดาบเวทมนตร์แห่งซารามอธ ตัวละครของผู้เล่นและเดรวินได้รับคำสั่งให้ยึดวิหารที่นางไม้ถือครอง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ยึดวิหารได้แล้ว วัลดิสก็โจมตีพวกทหารรับจ้าง ซึ่งเดรวินถูกฆ่าตาย และตัวละครของผู้เล่นก็หมดสติไป

ต่อมา ตัวละครของผู้เล่นฟื้นคืนสติในการดูแลของเหล่านางไม้ ซึ่งแทนที่จะประหารชีวิต พวกนางไม้ยอมให้ผู้เล่นได้รับอิสรภาพโดยช่วยพวกเขาในการทำสงครามกับวัลดิส หลังจากที่ตัวเอกได้รับอิสรภาพ พวกเขาค้นพบว่าพวกเขาติดเชื้อโรคระบาด โรคลึกลับที่สร้างขึ้นโดยพ่อมดแห่งความมืดที่ผลักดันให้เหยื่อเข้าสู่ภาวะวิกลจริต ครั้นหลังจากรักษาด้วยน้ำจากเทวสถานเอลเวน พวกเขาก็กลับบ้านเกิด

ระหว่างทางกลับบ้าน ตัวละครของผู้เล่นได้ช่วยชีวิตชายชราคนหนึ่งจากนางไม้ที่เป็นโรคระบาดบ้า ชายชราบรรยายเหตุการณ์ที่เรียกว่ามหากลียุค ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อดาบแห่งซารามอธที่วัลดิสถืออยู่ กระทบกับโล่เวทมนตร์ที่เรียกว่าโล่แห่งอาซูไน โดยการทำให้โล่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้เกิดภัยพิบัติที่สิ้นสุดยุคแรก วัลดิสหวังว่าจะทำให้เกิดหายนะอีกครั้งด้วยการรวบรวมชิ้นส่วนของโล่แห่งอาซูไนเพื่อที่เขาจะได้ทำลายมันอีกครั้ง ชายชราอธิบายถึงโรคระบาด โดยบอกว่ามันเกิดจากคริสตัลที่สร้างขึ้นระหว่างมหากลียุคที่อนุญาตให้วิญญาณของกองทัพของซารามอธครอบครองสิ่งมีชีวิต

หลังจากที่ตัวละครของผู้เล่นกลับบ้าน พวกเขาเริ่มรวบรวมชิ้นส่วนของโล่เพื่อปะทะกับวัลดิส หลังจากที่พวกเขารวบรวมชิ้นส่วนทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็นำพวกมันไปยังอกัลลันยักษ์ เพื่อที่พวกเขาจะได้สร้างโล่ขึ้นใหม่ เมื่อพวกเขาหลอมใหม่ พวกเขาวางเหรียญใหญ่ไว้ตรงกลางเพื่อเพิ่มความทนทาน เหรียญใหญ่นี้เคยสวมใส่โดยเดรวิน ซึ่งเขามอบมันให้แก่ตัวละครของผู้เล่นก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

ด้วยการสร้างโล่ขึ้นใหม่ ตัวละครของผู้เล่นจะเดินทางไปยังฐานที่มั่นของวัลดิส ที่รู้จักกันในชื่อเขาแห่งซารามอธ โล่ดังกล่าวปกป้องพวกเขาจากพ่อมดแห่งความมืด แต่การรบกับวัลดิสนั้นพิสูจน์ได้ว่าเป็นภาวะจนมุม จนกระทั่งมีชายชราปรากฏตัวและได้รับโล่จากตัวละครของผู้เล่น เขามอบโล่ให้วัลดิส โดยเผยให้เห็นว่าเขาคือพ่อมดแห่งความมืด ซึ่งวัลดิสพยายามทำลายโล่ด้วยดาบแห่งซารามอธ แต่เมื่อเขาโจมตีโล่ ดาบของเขาก็แตกเป็นเสี่ยงแทน แล้ววัลดิสและตัวละครของผู้เล่นเริ่มการปะทะอีกครั้ง โดยที่วัลดิสถูกสังหาร

การตลาด[แก้]

โบรเคนเวิลด์[แก้]

บริษัททูเค เกมส์ ได้เปิดตัวดันเจียนซีจ II: โบรเคนเวิลด์ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2006[3] ภาคเสริมดังกล่าวจะแนะนำคุณสมบัติหลายอย่าง รวมถึงปฏิบัติการ (การศึก) เพิ่มเติม, คลาสลูกผสมสองคลาสตามคลาสที่มีอยู่, คนแคระในฐานะเผ่าพันธุ์ที่สามารถเล่นได้, "ตำรับ" ที่อิงตามมนต์เสน่ห์, สัตว์เลี้ยงสองแบบที่สามารถซื้อได้ในเมืองหลักของ ได้แก่ แกะบรรทุก (Pack Ram) และสัตว์อสูร (Kohl Beast) ตลอดจนบรรดาไอเทมข้ามฝั่งของเพลย์สเตชัน พอร์เทเบิล เพื่อโปรโมต และใช้ร่วมกับดันเจียนซีจ: โธรนออฟแอกโกนี

ดีลักซ์อิดิชัน[แก้]

ดันเจียนซีจ II: ดีลักซ์อิดิชัน เป็นชุดสะสมพิเศษที่รวมดันเจียนซีจ II ดั้งเดิม, ภาคเสริมอย่างโบรเคนเวิลด์ และไอเทมสะสมจำนวนมาก ซึ่งประกอบไปด้วยแผนที่, ภาพบุคคล, วอลเปเปอร์ และไฟล์วิดีโอ "การสร้างดันเจียนซีจ II" ในซีดี-รอม โดยได้รับการเปิดตัวเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2006

การตอบรับ[แก้]

การตอบรับ
คะแนนรวม
ผู้รวมคะแนน
เมทาคริติก80/100[4]

เกมดังกล่าวได้รับการวิจารณ์ซึ่งเป็นที่นิยมโดยทั่วไปจากบทวิจารณ์ของนักวิจารณ์ 51 คน โดยให้ 80 คะแนนในเว็บไซต์เมทาคริติก[4]

ดันเจียนซีจ II ได้รับรางวัล "เกมเล่นตามบทบาทยอดเยี่ยม ค.ศ. 2005" จากนิตยสารพีซี เกมเมอร์ ยูเอส โดยเกรก เวเดอร์แมน แห่งนิตยสารดังกล่าวเรียกเกมนี้ว่า "ภาคต่อที่หายากซึ่งอยู่เหนือกว่าภาคก่อนในทุกด้าน"[5]

ส่วนเว็บไซต์เกมสปอตกล่าวว่า "ดันเจียนซีจ II เป็นความพยายามอย่างแข็งขันที่สามารถปรับปรุงเกมภาคแรก เพื่อส่งมอบการแฮกดันเจียนที่ใช้เวลานานและหนักหน่วงในการต่อสู้ ซึ่งจะทำให้แฟน ๆ ของเกมประเภทนี้พอใจอย่างแน่นอน"[2]

อ้างอิง[แก้]

  1. Dungeon Siege II - IGN (ภาษาอังกฤษ), สืบค้นเมื่อ 2022-03-08
  2. 2.0 2.1 "Dungeon Siege II Review". GameSpot (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2022-03-08.
  3. "2K". www.2kgames.com. สืบค้นเมื่อ 2018-03-15.
  4. 4.0 4.1 "Dungeon Siege II for PC Reviews". Metacritic. สืบค้นเมื่อ 2017-03-06.
  5. Vederman, Greg (March 2006). "The Twelfth Annual PC Gamer Awards". PC Gamer US. 13 (3): 33–36, 38, 40–42, 44.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]