ข้ามไปเนื้อหา

คุยกับผู้ใช้:Otot

ไม่รองรับเนื้อหาของหน้าในภาษาอื่น
เพิ่มหัวข้อ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

(คลิกชมวิดีโอเสียงชาวบ้าน) http://www.matichon.co.th/mtc-news-clip.php?news_id=1274975998

ไฟล์:Http://www.matichon.co.th/online/2010/05/12749759981274976455l.jpg

ชาวบ้าน 3 คนที่ถูกลูกหลงในเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารส่งกำลังเข้ากระชับพื้นที่ การชุมนุมของจากกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 บอกเล่านาที ถูกกระสุนพุ่งเข้าใส่จนต้องหามส่งโรงพยาบาล

1 รายสูญเสียตามองไม่เห็นทั้งสองข้างกระสุนยังคาอยู่ใต้ตา 

อีกรายหนึ่งรอดมาจากกระสุนถล่มยิงวัดปทุมวนารามเล่านาทีหลบอยู่ใต้ท้องรถกระสุนเข้าที่หลังและมือ และ รายสุดท้ายรอดชีวิตมาได้หวุดหวิดจากกระสุนที่ทะลุกะโหลกคนข้างๆมาปักที่ต้นคอเฉียดเส้นเลือด


ที่ชั้น 9 โรงพยาบาลกลางในห้องพักผู้ป่วยชายมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กระชับพื้นที่เข้ารักษาตัว 4 ราย ชายวัย 40 ปี นายกิตติชัย แข็งขัน ชาวขอนแก่นถูกเข็นไปล้างแผลตั้งแต่บ่ายโมงกลับมาอีกทีตอนบ่าย 4 โมง ด้วยสภาพอิดโรยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเหนื่อยหน้ามืดคุยไม่ไหวแต่ยังแข็งใจตอบคำถาม

ไฟล์:Http://www.matichon.co.th/online/2010/05/12749759981274976486l.jpg

"ผมพูดในสิ่งที่ตัวเองประสบมาเห็นมากับตาถ้าไม่เห็นแบบนี้ก็พูดไม่ได้" คำตอบจากนายนายกิตติชัย ในฐานะชาวบ้านคนหนึ่งไม่ใช่ผู้มาร่วมชุมนุมแต่มาทำงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ช่วยหลานเดินสายไฟฟ้าใน สตช. แต่จะแวะเวียนไปร่วมกินข้าวกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงชาวขอนแก่นในฐานะคนบ้านเดียวกันไม่คิดว่าจะถูกยิงปางตายเช่นนี้


นายกิตติชัย นอนซมอยู่บนเตียงคนป่วยโดยมีผ้าพันแผลติดอยู่ที่ด้านหลังเหนือเอวขึ้นมา และบริเวณมือขวา มีสายน้ำเกลือโยงไปที่แขน นอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่บนเตียงท่าทางอิดโรยนอนหงายไม่ได้ เล่าถึงนาทีที่ถูกยิงบาดเจ็บว่า ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่ม หลังจากที่ผมออกมาจาก สตช. เพื่อไปหาผู้ชุมนุมชาวขอนแก่นตามปกติเพราะคิดว่าแกนนำได้มอบตัวหมดแล้ว จึงคิดว่าเหตุการณ์น่าจะสงบแล้ว แต่พอไปถึงถูกไล่มาเรื่อยๆจากแยกศาลาแดงมาจนถึงแยกราชประสงค์ การ์ดเสื้อแดงบอกให้วิ่งเข้าไปหลบในวัด จะปลอดภัยที่สุดผู้คนแตกกระจายวิ่งหลบเข้าไปในวัดปทุมบ้าง สตช.บ้าง


"ผมมาจากทางศาลาแดงมาเป็นกลุ่มสุดท้ายพอดีกับเวทีสลายหมดแล้ว การ์ดก็ให้วิ่งเข้าไปในวัด พอไปถึงผมก็พักผ่อนนอนเล่นกันอยู่ตั้งนานถึงได้ยินเสียงปืนดังมาอีก จึงเข้าไปหลบใต้ท้องรถ ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่ม เขายืนอยู่บนทางรถไฟฟ้ายิงเข้ามาในวัดต่างคนต่างหลบกัน ผมโดนยิงข้างหลังกับมือ พวกเราไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ 5-6 คน


ตอนที่ผมโดนยิงทหารก็ให้ออกมาจากใต้ท้องรถ เขายิงมาจากบนสะพานรถไฟฟ้า ผงกหัวขึ้นไม่ได้เลย พอโดนลูกปืน มันร้องให้ออกมา แต่ไม่มีใครออกไป พอผมโดนยิง ผมบอกว่ายอมแล้วๆมันก็ยิงใส่มืออีก มันโกหกบอกให้ออกมายิง แต่ผมไม่ไหวแล้วเลือดออกเยอะ พอออกมามันบอกให้ผมถอดเสื้อออกแล้วยกมือขึ้น แล้ววิ่งไป ผมก็วิ่งไปหาพยาบาลทำแผลให้ ผมยืนหันหน้าเห็นทหารเขาเล็งมาใส่ผม แต่ตอนนั้นเขาไม่ยิงใส่แล้ว เพราะเห็นว่าผมถูกยิง บอกให้ถอดเสื้อ ยกมือขึ้น ผมก็ยกมือขึ้นสองข้างแล้วก็วิ่งไปเลย" นายกิตติชัยกล่าวและยืนยันอีกครั้งว่า


"ผมเห็นเขายิงผมยืนยันไม่มีใครหรอกนอกจากทหารใส่ชุดพรางใส่หมวกเขาก็ตะโกนให้ผมออก ผมก็ตะโกนออกแล้วครับ ผมก็บอกยอมแล้วครับเห็นยืนเล็งใส่ผมอยู่ ถ้ามันยิงตอนผมถอดเสื้อคงตายแล้ว แต่มันก็บอกให้ผมวิ่ง ผมก็วิ่งไปหาพยาบาลไปอ่อนแรงตรงนั้น พอทำแผลใกล้เสร็จห้ามเลือด เขาก็ยิงมาใส่หลายนัด โดนฝรั่งที่กำลังถ่ายรูปผมอยู่ จากนั้นผมก็สลบไปเลย"


นายกิตติชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ผมนอนเจ็บอยู่หลายชั่วโมงทหารไม่ให้ออกมา ไม่ให้รถพยาบาลเข้าไปเอาออกมาด้วย ผมสลบอยู่หลายรอบเพราะเสียเลือดมากกว่าจะมาถึงโรงพยาบาล 5 ทุ่มแล้วถูกยิงตั้งแต่ 6 โมง พยาบาลที่ไปนำตัวผมออกมาจากในวัดต้องหามออกมาใส่รถด้านนอกเพราะไม่ให้เอารถเข้าไปรับ"


นายกิตติชัย กล่าวอีกว่า เพื่อนที่หมอบอยู่ใต้ท้องรถด้วยกันมาเยี่ยมบอกว่ามีคนที่แอบอยู่ใต้ท้องรถด้วยกันถูกยิงเสียชีวิต และยิงมาจากสะพานรถไฟฟ้า มีคนไม่น้อยๆไปหลบในวัดประมาณ 4-5 พันคน บางคนวิ่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจบางคนวิ่งเข้าไปหลบในวัด ก็นึกว่ารอดแล้วแต่ก็ยังโดนจนได้ในวัดที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว


"เสียใจกับผู้ชุมนุมเหมือนกันคงจะเจ็บเหมือนกัน ขนาดผมโดนแค่นี้ยังเจ็บ คนที่ไม่ไหวเขาคงโดนหนักกว่าผม สลบในวัด 2-3 รอบกว่าจะมาถึงนี่" นายกิตติชัยกล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274975998&grpid=01&catid=

เริ่มการอภิปรายด้วย Otot

เริ่มการอภิปรายใหม่