กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง
หน้าตา
| กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (bubonic plague) | |
|---|---|
| "ฝีมะม่วง" บนต้นขาของบุคคลที่ติดกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง | |
| สาขาวิชา | โรคติดเชื้อ |
| อาการ | ไข้, ปวดศีรษะ, อาเจียน, ต่อมน้ำเหลืองบวมโต[1][2] |
| การตั้งต้น | 1–7 วันหลังได้รับเชื้อ[1] |
| สาเหตุ | Yersinia pestis โดยมีหมัดเป็นพาหะนำโรค[1] |
| วิธีวินิจฉัย | ตรวจหาแบคทีเรียในเลือด เสมหะ หรือต่อมน้ำเหลือง[1] |
| การรักษา | ยาปฏิชีวนะ เช่น สเตรปโตมัยซิน เจนตามัยซิน หรือดอกซีไซคลีน[3][4] |
| ความชุก | 650 รายต่อปี[1] |
| การเสียชีวิต | 10% เมื่อควบคู่กับการรักษา[3] |
กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง (อังกฤษ: bubonic plague) เป็นชนิดย่อยชนิดหนึ่งของกาฬโรคซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่เมื่อเวลาผ่านไป 1-7 วันหลังได้รับเชื้อ โดยจะมีไข้ ปวดศีรษะ และอาเจียน ต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงกับจุดที่รับเชื้อโรคผ่านผิวหนังจะบวมโตและมีอาการเจ็บ บางครั้งต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้อาจแตกออกเป็นแผลได้
สาเหตุ
[แก้]กาฬโรคต่อมน้ำเหลืองเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis โดยมีตัวหมัดหนูเมืองร้อน (Xenopsylla chopis) เป็นพาหะ เฉพาะกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการลุกลามจนกลายเป็นกาฬโรคในกระแสเลือด (septicemic plague) เท่านั้น จึงจะสามารถติดต่อกันผ่านการสัมผัสเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อหรือการไอได้
อ้างอิง
[แก้]- 1 2 3 4 5 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อWHO2014 - ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCDC2012Sym - 1 2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อLancet2007 - ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCDC2012Tx
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]| การจำแนกโรค | |
|---|---|
| ทรัพยากรภายนอก |