การจุดไฟเผาตัวเอง
การเผาตัวเอง หรือ การจุดไฟเผาตัวเอง (อังกฤษ: Self-immolation) เป็นการกระทำที่มักทำไปในฐานะการประท้วงหรือเพื่อสละชีพเพื่อความเชื่อ มักมีเป้าหมายทางการเมืองหรือทางศาสนา เนื่องด้วยธรรมชาติของการฆ่าตัวตายด้วยวิธีนี้ซึ่งมีความน่ากลัวและทารุณ วิธีการนี้มักถือเป็นการประท้วงวิธีที่สุดขั้วมากที่สุดวิธีหนึ่ง[1] ในการจุดไฟเผาตัวเอง บ่อยครั้งมักมีการเพิ่มสารเร่งไฟไปด้วย เมื่อรวมกับธรรมชาติของผู้กระทำการจุดไฟเผาตนเองที่ไม่ปฏิเสธที่จะโดนไฟลุกลาม มักทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่ลุกลามมากกว่าปกติ[2]
มีการบรรยายถึงการจุดไฟเผาตนเองว่าเป็นการกระทำที่เจ็บปวดอย่างมาก เมื่อการลุกไหม้ดำเนินไปปลายประสาทจะเริ่มถูกเผาไหม้ และทำให้สูญเสียความรู้สึกในส่วนที่ถูกไฟเผาไปในที่สุด การเสียชีวิตสามารถเกิดขึ้นได้ขณะไฟยังลุกอยู่ ซึ่งสามารถเป็นได้จากการหายใจเอาอากาศที่ร้อน ผลิตภัณฑ์จากการสันดาป และเปลวเพลิงเข้าไป[3] เมื่อการเผาไหม้กินพื้นที่ของพื้นผิวร่างกายมากกว่า 25% ร่างกายจะตอบสนองโดยการอักเสบต่อการสูญเสียของเหลวและเลือดซึ่งสามารถนำไปสู่ภาวะช็อกและเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาในสถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยผิวหนังไหม้ภายใน 4 ชั่วโมง อัตราการรอดชีวิตอยู่ที่ 50% ในกรณีที่ผิวหนังไหม้น้อยกว่า 80% และอายุน้อยกว่า 40 ปี และหากผิวหนังไหม้ไปมากกว่า 80% อัตราการรอดชีวิตจะลดลงถึง 20%[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Dvorak, Petula (May 30, 2019). "Self-immolation can be a form of protest. Or a cry for help. Are we listening?". The Washington Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 30, 2019. สืบค้นเมื่อ August 29, 2021.
- ↑ Santa Maria, Cara (9 April 2012). "Burn Care, Self-Immolation: Pain And Progress". Huffington Post. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021.
- ↑ Tvaruzkova, Lucie (26 April 2003). "What does death by burning mean?". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021.
- ↑ Alpert, Emily (15 February 2012). "What happens after people set themselves on fire?". The Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021.