ข้ามไปเนื้อหา

กรณีพิพาทกัศมีร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อินเดียอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ของอดีตรัฐมหาราชาชัมมูและกัศมีร์ อ้างจาก instrument of accession ซึ่งได้ลงนามในปี 1947 ส่วนปากีสถานอ้างด้วยประชากรที่ส่วนใหญ่ของพื้นที่เป็นชาวมุสลิม ในขณะที่จีนอ้างสิทธิ์เหนือ Shaksam Valley และ Aksai Chin

กรณีพิพาทกัศมีร์ หรือ กรณีพิพาทแคชเมียร์ (อังกฤษ: Kashmir conflict) เป็นข้อพิพาทดินแดนหลัก ๆ ระหว่างประเทศอินเดียกับประเทศปากีสถานเหนือดินแดนภูมิภาคกัศมีร์ กรณีพิพาทนี้เริ่มต้นหลังการขีดเส้นแบ่งอินเดีย (partition of India) ในปี 1947 โดยเป็นการพิพาทถึงสิทธิ์เหนือพื้นที่ของอดีตรัฐมหาราชาชัมมูและกัศมีร์ และได้ร้ายแรงขึ้นเป็นสงครามสามครั้งระหว่างอินเดียและปากีสถาน รวมถึงการต่อสู้ด้วยอาวุธเล็กน้อยอีกหลายครั้ง นอกจากนี้ประเทศจีนยังมีส่วนร่วมในข้อพิพาทนี้ในฐานะบุคคลที่สาม (third-party role)[1][2] ทั้งอินเดียและปากีสถานอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ของอดีตรัฐมหาราชา ชัมมูและกัศมีร์ทั้งหมด ถึงแม้ว่าปากีสถานจะยอมรับเอกราชของจีนเหนือ Trans-Karakoram Tract และ Aksai Chin มาตั้งแต่ปี 1963[3] ทางอินเดียควบคุมพื้นที่ไปประมาณร้อยละ 55 และครอบคลุมประชากรไปร้อยละ 70 ส่วนปากีสถานควบคุมพื้นที่ไปประมาณร้อยละ 30 และจีนควบคุมพื้นที่ไปร้อยละ 15[4][5][6] อินเดียปกครองพื้นที่ของชัมมู, เทือกเขากัศมีร์, ส่วนใหญ่ของลาดัก และธารน้ำแข็งเซียะเฉิน (Siachen Glacier)[7] ส่วนปากีสถานปกครองพื้นที่อะซัดกัศมีร์ (Azad Kashmir) และกิลกิต-บัลติสตาน (Gilgit-Baltistan) และประเทศจีนปกครองพื้นที่ของภูมิภาค Aksai Chin, Trans-Karakoram Tract ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีประชากรอยู่อาศัย, และบางส่วนของ Demchok sector[8][3][9][10][11]

หลังการขีดเส้นแบ่งอินเดียและกบฏปูนจ์ 1947 (1947 Poonch rebellion) การก่อการกำเริบในอำเภอทางตะวันตกของรัฐ ได้มีการบุกรุกกัศมีร์โดยกองกำลังชนเผ่าของปากีสถาน ซึ่งส่งผลให้ผู้นำชาวฮินดูของชัมมูละกัศมีร์เลือกที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอินเดียแทนประเทศปากีสถาน[12] อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามอินเดีย-ปากีสถาน ค.ศ. 1947 (Indo-Pakistani War of 1947) ซึ่งจบลงด้วยการเข้ามาแทรกแซงของสหประชาชาติ หยุดยิงระหว่างเส้นที่ต่อมามีชื่อว่า เส้นควบคุม (Line of Control)[13][14] หลังต่อสู้กันอีกครั้งในสงครามอินเดีย-ปากีสถาน 1965 (Indo-Pakistani War of 1965) และอีกครั้งในปี 1971 (Indo-Pakistani War of 1971) จึงได้มีการลงนามในข้อตกลงสิมลา (Simla Agreement)[15][16]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Yahuda, Michael (2 June 2002). "China and the Kashmir crisis". BBC. สืบค้นเมื่อ 22 March 2019.
  2. Chang, I-wei Jennifer (9 February 2017). "China's Kashmir Policies and Crisis Management in South Asia". United States Institute of Peace. สืบค้นเมื่อ 22 March 2019.
  3. 3.0 3.1 "Signing with the Red Chinese". Time (magazine). 15 March 1963. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 December 2008. สืบค้นเมื่อ 28 October 2019.
  4. Hobbs, Joseph J. (13 March 2008). World Regional Geography. CengageBrain. p. 314. ISBN 978-0495389507.
  5. Ie Ess Wor Reg Geog W/Cd. Thomson Learning EMEA. 2002. ISBN 9780534168100. India now holds about 55% of the old state of Kashmir, Pakistan 30%, and China 15%.
  6. Margolis, Eric (2004). War at the Top of the World: The Struggle for Afghanistan, Kashmir and Tibet (paperback ed.). Routledge. p. 56. ISBN 9781135955595.
  7. Malik, V. P. (2010). Kargil from Surprise to Victory (paperback ed.). HarperCollins Publishers India. p. 54. ISBN 9789350293133.
  8. "Kashmir: region, Indian subcontinent". Encyclopædia Britannica. สืบค้นเมื่อ 16 July 2016.
  9. "Jammu & Kashmir". European Foundation for South Asian Studies. สืบค้นเมื่อ 4 May 2020.
  10. Snow, Shawn (19 September 2016). "Analysis: Why Kashmir Matters". The Diplomat. สืบค้นเมื่อ 4 May 2020.
  11. Ruiz Estrada, Mario Arturo; Koutronas, Evangelos; Khan, Alam; Angathevar, Baskaran (2018). "Economic Dynamics of Territorial Military Conflicts: The Case of Kashmir". Journal of Strategic Studies (ภาษาอังกฤษ). doi:10.2139/ssrn.3102745. ISSN 1556-5068. The Kashmir conflict has become the apple of discord primarily between India and Pakistan, and secondarily with China, since their first year of independence. [...] Today, India administers approximately 43 percent of the region (Jammu, the Kashmir Valley, Ladakh, and the Siachen Glacier); Pakistan administers approximately 37 percent of the region (Azad Kashmir and Gilgit- Baltistan); and China administers the rest 20 percent of the region (Demchok district, the Shaksgam Valley, and the Aksai Chin region).
  12. Copland, Ian (Spring 2003), "War and Diplomacy in Kashmir: 1947-48 by C. Dasgupta (review)", Pacific Affairs, 76 (1): 144–145, JSTOR 40024025: "As is well known, this Hindu-ruled Muslim majority state could conceivably have joined either India or Pakistan, but procrastinated about making a choice until a tribal invasion - the term is not contentious - forced the ruler's hand."
  13. Lyon, Peter (1 January 2008). Conflict Between India and Pakistan: An Encyclopedia (ภาษาอังกฤษ). ABC-CLIO. p. 80. ISBN 9781576077122.
  14. "Kashmir | History, People, & Conflict". Encyclopedia Britannica. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 April 2015.
  15. "Simla Agreement". Bilateral/Multilateral Documents. Ministry of External Affairs, Government of India. สืบค้นเมื่อ 27 September 2013.
  16. Fortna, Virginia (2004). Peace time: cease-fire agreements and the durability of peace. Princeton University Press. ISBN 978-0-691-11512-2.