ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มอเนอรา"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 20: | บรรทัด 20: | ||
| subdivision = |
| subdivision = |
||
}} |
}} |
||
สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอราหรือเรียกว่า ประมาณว่ามีจำนวนถึง 4 ล้านสปีชีส์ |
'''มอเนอรา''' ({{lang-en|Monera}}) เป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอราหรือเรียกว่า ประมาณว่ามีจำนวนถึง 4 ล้านสปีชีส์ |
||
รวมทั้งองค์ประกอบของผนังเซลล์ ทำให้จำแนกแบคทีเรียออกเป็น 2 อาณาจักรย่อย คือ อาณาจักย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย, อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย |
รวมทั้งองค์ประกอบของผนังเซลล์ ทำให้จำแนกแบคทีเรียออกเป็น 2 อาณาจักรย่อย คือ อาณาจักย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย, อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย |
||
บรรทัด 35: | บรรทัด 35: | ||
===กลุ่ม[[คลาไมเดีย]]=== |
===กลุ่ม[[คลาไมเดีย]]=== |
||
เป็นปรสิตในเซลล์สัตว์ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคโกโนเรีย หรือ[[หนองใน]] เป็นต้น |
เป็นปรสิตในเซลล์สัตว์ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคโกโนเรีย หรือ[[หนองใน]] เป็นต้น |
||
===กลุ่ม[[สไปโรคีท]]=== |
===กลุ่ม[[สไปโรคีท]]=== |
||
มีรูปทรงเกลียว ดำรงชีวิตแบบอิสระแต่บางสปีชีส์เป็นสาเหตุของโรคซิฟิลิส หรือ[[โรคฉี่หนู]] |
มีรูปทรงเกลียว ดำรงชีวิตแบบอิสระแต่บางสปีชีส์เป็นสาเหตุของโรคซิฟิลิส หรือ[[โรคฉี่หนู]] |
||
บรรทัด 52: | บรรทัด 51: | ||
ภายในเซลลฺไม่มีเยื่อหุ้มสารพันธุกรรม และไม่มีโครงสร้างอื่น |
ภายในเซลลฺไม่มีเยื่อหุ้มสารพันธุกรรม และไม่มีโครงสร้างอื่น |
||
มีรูปร่าง 3 แบบ ได้แก่ รูปทรงกลม(coccus), รูปทรงท่อน(bacillus), รูปทรงเกลียว(spirillum) |
มีรูปร่าง 3 แบบ ได้แก่ รูปทรงกลม(coccus), รูปทรงท่อน(bacillus), รูปทรงเกลียว(spirillum) |
||
==การดำรงชีวิต== |
==การดำรงชีวิต== |
||
สามารถสร้างอาหารเองได้โดยใช้พลังงานจากแสง (photosynthesis) |
สามารถสร้างอาหารเองได้โดยใช้พลังงานจากแสง (photosynthesis) |
||
หรือใช้พลังจาก[[ปฏิกิริยาเคมี]] (chemosynthesis) เช่น ซัลเฟอร์แบคทีเรีย<br /> |
หรือใช้พลังจาก[[ปฏิกิริยาเคมี]] (chemosynthesis) เช่น ซัลเฟอร์แบคทีเรีย<br /> |
||
แต่ส่วนใหญ่สร้างอาหารเองไม่ได้ สามารถอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัด ร้อนจัด ทะเลมีความเค็มมาก หรือในสภาพที่มีความเป็นกรดสูง |
แต่ส่วนใหญ่สร้างอาหารเองไม่ได้ สามารถอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัด ร้อนจัด ทะเลมีความเค็มมาก หรือในสภาพที่มีความเป็นกรดสูง |
||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
|||
* [http://www.pubmedcentral.gov/articlerender.fcgi?tool=pubmed&pubmedid=2439888 Bacterial evolution] by [[Carl Woese]] (1987). Woese reviewed the historical steps leading to the use of the term "Monera" and its later abandonment (full text online). {{Entrez Pubmed|2439888}} |
|||
* [http://www.thebigger.com/section/biology/monera/ What is Monera? A descriptive details of the entire kingdom] |
|||
[[หมวดหมู่:โพรแคริโอต|มอเนอรา]] |
[[หมวดหมู่:โพรแคริโอต|มอเนอรา]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:06, 19 กรกฎาคม 2553
มอเนอรา | |
---|---|
![]() | |
Escherichia coli | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | Archaebacteria Eubacteria |
อาณาจักร: | Eubacteria |
ไฟลัม: | Schizomycophyta Cyanophyta |
มอเนอรา (อังกฤษ: Monera) เป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรมอเนอราหรือเรียกว่า ประมาณว่ามีจำนวนถึง 4 ล้านสปีชีส์ รวมทั้งองค์ประกอบของผนังเซลล์ ทำให้จำแนกแบคทีเรียออกเป็น 2 อาณาจักรย่อย คือ อาณาจักย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย, อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย
อาณาจักรย่อยอาร์เคียแบคทีเรีย
อาร์เคียแบคทีเรียผนังเซลล์ไม่มีเปบทิโดไกลแคนดำรงชีวิตในแหล่งน้ำพุร้อน ทะเลที่มีน้ำเค็มจัด บริเวณที่มีความเป็นกรดสูง และบริเวณทะเลลึก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มยูริอาร์เคียโอตา
ซึ่งสร้างมีเทนและชอบความเค็มจัด
กลุ่มครีนาร์เคียโอตา
ซึ่งชอบอุณหภูมิสูงและกรดจัด
อาณาจักรย่อยยูแบคทีเรีย
นับว่าเป็นแบคทีเรียแท้ แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ 5 กลุ่ม คือ
กลุ่มโพรทีโอแบคทีเรีย
พวกสังเคราะห์แสงได้ เช่น เพอเพิลซัลเฟอร์แบคทีเรีย(purple sulfur bacteria) พวกช่วยตรึงแก๊สไนโตรเจนในอากาศ มาสร้างเป็นสารประกอบไนโตรเจนในดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น Rhizobium sp. ในปมรากของพืชตระกูลถั่ว
กลุ่มคลาไมเดีย
เป็นปรสิตในเซลล์สัตว์ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคโกโนเรีย หรือหนองใน เป็นต้น
กลุ่มสไปโรคีท
มีรูปทรงเกลียว ดำรงชีวิตแบบอิสระแต่บางสปีชีส์เป็นสาเหตุของโรคซิฟิลิส หรือโรคฉี่หนู
กลุ่มแบคทีเรียแกรมบวก
Lactobacillus sp.เป็นพวกผลิตกรดแลกติกได้จึงนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ได้แก่ การทำเนย ผักดองและโยเกิร์ต; Steptomyces sp.ใช้ทำยาปฏิชีวนะ เช่น ยาสเตร็บโตมัยซิน ยาเตตราไซคลิน เป็นต้น; Bacillus sp.สามารถสร้างเอนโดสปอร์(endospore) ทำให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี บางชนิดเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคแอนแทรกซ์
กลุ่มไมโคพลาสมา
เป็นเซลล์ที่ไม่มีผนังเซลล์ มีเพียงเยื่อหุ้มเซลล์ที่ประกอบด้วยชั้นของไขมัน ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่น แต่มีบางพวกทำให้เกิดโรคปอดบวมในคนและวัว
กลุ่มไซยาโนแบคทีเรีย
สังเคราะห์แสงได้ มี คลอโรฟิลล์เอ, แคโรทีนอยด์ และไฟโคบิลิน นักวิทยาศาสตร์คาดว่าเป็นพวกทำให้ออกซิเจนในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่หายใจโดยใช้ออกซิเจนในปัจจุบัน เช่น แอนาบีนา(Anabaena), นอสตอก(Nostoc) และออสิลลาทอเรีย (Oscillatoria) สามารถตรึงแก๊สไนโตเจนในอากาศ ให้เป็นสารประกอบไนเตรต
ลักษณะรูปร่าง
แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็ก ประมาณ 1 - 5 ไมโครเมตร มีผนังเซลล์เป็นสารประกอบเพปทิโดไกลแคน ภายในเซลลฺไม่มีเยื่อหุ้มสารพันธุกรรม และไม่มีโครงสร้างอื่น มีรูปร่าง 3 แบบ ได้แก่ รูปทรงกลม(coccus), รูปทรงท่อน(bacillus), รูปทรงเกลียว(spirillum)
การดำรงชีวิต
สามารถสร้างอาหารเองได้โดยใช้พลังงานจากแสง (photosynthesis)
หรือใช้พลังจากปฏิกิริยาเคมี (chemosynthesis) เช่น ซัลเฟอร์แบคทีเรีย
แต่ส่วนใหญ่สร้างอาหารเองไม่ได้ สามารถอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่หนาวจัด ร้อนจัด ทะเลมีความเค็มมาก หรือในสภาพที่มีความเป็นกรดสูง
แหล่งข้อมูลอื่น
- Bacterial evolution by Carl Woese (1987). Woese reviewed the historical steps leading to the use of the term "Monera" and its later abandonment (full text online). แม่แบบ:Entrez Pubmed
- What is Monera? A descriptive details of the entire kingdom