ข้ามไปเนื้อหา

แบล็กอายด์พีส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดอะแบล็กอายด์พีส์
แบล็กอายด์พีส์แสดงที่ O2 Apollo Manchester ในปี ค.ศ. 2018 (จากซ้ายไปขวา: แอพเพิล.ดี.แอป, เจ เรย์ โซล, ทาบู และวิล.ไอ.แอม)
แบล็กอายด์พีส์แสดงที่ O2 Apollo Manchester ในปี ค.ศ. 2018
(จากซ้ายไปขวา: แอพเพิล.ดี.แอป, เจ เรย์ โซล, ทาบู และวิล.ไอ.แอม)
ข้อมูลพื้นฐาน
รู้จักในชื่อแบล็กอายด์พ็อดส์ (1995)
แบล็กอายด์พีส์ (1995–2000)
ที่เกิดลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
แนวเพลง
ช่วงปี
  • 1995–2011
  • 2015–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
สมาชิก
อดีตสมาชิก
  • เฟอร์กี้
  • ดันเต ซานติเอโก
  • คิม ฮิลล์
  • เซียร์รา สวอน
เว็บไซต์blackeyedpeas.com

เดอะแบล็กอายด์พีส์ (อังกฤษ: The Black Eyed Peas) เป็นวงดนตรีฮิปฮอปจากอเมริกา มีเพลงดังอย่าง Where Is The Love?, My Hump เป็นต้น

ประวัติ

[แก้]

ปี 1989 วิลเลียม อดัมส์ หรือ วิล.ไอ.แอม (William Adams / will.i.am) และอัลเลน พิเนดา หรือ แอพเพิล.ดี.แอป (Allen Pineda / apl.de.ap) รู้จักกันและเริ่มร้องเพลงแร็ปออกโชว์ด้วยกันในลอสแอนเจลิส ทั้งคู่เซ็นสัญญากับค่ายรูธเลส (Ruthless Records) ที่บริหารงานโดยอีซี-อี (Eazy-E) โดยใช้ชื่อวงว่า แอทบัน คลานน์ (Atban Klann)[3] แต่อัลบั้มแรกของพวกเขาไม่ได้ออก เพราะทางค่ายเพลงไม่คิดว่าการสื่อความหมายในแนวบวกของเพลงในอัลบั้มนี้จะได้รับความนิยม

ปี 1995 Eazy-E เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ วง Atban Klann ก็กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้งภายใต้ชื่อวงแบล็กอายด์พีส์ (Black Eyed Peas) โดย will.i.am ได้ให้เหตุผลบนปกของอัลบั้ม มังกีบิสซิเนส (Monkey Business) ถึงการตั้งชื่อวงนี้ว่า "เป็นอาหารสำหรับจิตใจ" พวกเขาพาไฮเม โกเมซ หรือ ทาบู (Jaime Gomez / Taboo) เข้ามาเป็นสมาชิกคนที่สามและมีคิม ฮิลล์ (Kim Hill) เป็นนักร้องแบ็คอัพให้ แบล็กอายด์พีส์ไม่เหมือนกับวงฮิปฮอปทั่ว ๆ ไป เพราะพวกเขาเลือกที่จะแสดงสดและใช้เครื่องดนตรี รวมทั้งสไตล์การแต่งตัวก็ต่างจากศิลปินแร็ปแก็งสเตอร์อื่น ๆ ในแถบลอสแอนเจลิสในสมัยนั้น

ในช่วงกลางทศวรรษที่ 90 พวกเขาแสดงในคลับย่านลอสแอนเจลิสและมีแขกรับเชิญเช่น ชาลี 2น่า (Chali 2na) และจูราสสิค 5 (Jurassic 5) หลังจากเซ็นสัญญากับค่ายอินเตอร์สโคป (Interscope Records) และออกอัลบั้มแรกชื่อ บีไฮด์เดอะฟรอนต์ (Behind the Front) ในปี 1998 ทางวงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี เพลงฮิตได้แก่ Joints and Jam ซึ่งได้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Bulworth ด้วย ส่วนอัลบั้มที่สองออกในปี 2000 ชื่อ บริดจิงเดอะแก็ป (Bridging the Gap) มีเพลงฮิตอย่าง Request + Line ที่ได้เมซี่ เกรย์ (Macy Gray) มาร่วมร้อง

แบล็กอายด์พีส์ประสบความสำเร็จสูงสุด ในปี 2003 กับอัลบั้มที่สาม เอเลฟังก์ (Elephunk) ด้วยสถิติยอดจำหน่ายสูงกว่า 2 ล้านแผ่นทั่วโลก มีเพลงฮิตคือ Where is the Love?, Hey Mama, Let’s Get Retarded และ Shut Up ต่อมาดันเต ซานติเอโก อดีตสมาชิกวงแนะนำสเตซี แอน เฟอร์กูสัน หรือ เฟอร์กี้ (Stacy Ann "Fergie" Ferguson / Fergie) เข้ามาเป็นนักร้องหญิงในวง ในปี 2005 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่สี่ชื่อ มังกีบิสซิเนส (Monkey Business) มีเพลงฮิตอย่าง My Humps, Feel It และ Disco Club

ในปี 2006 แบล็กอายด์พีส์ได้ร้องเพลงให้กับงานฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งทำร่วมกับไบรอัน อีโน โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ ซึ่งเคยโปรดิวซ์เพลงให้วง U2 และเดวิด โบอี ต่อมาทางวงได้ออกอีพีรวมเพลงมิกซ์ชื่อ Renegotiations: the Remixes เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2006 โดยเป็นการนำเพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้ม มังกีบิสซิเนส มาเรียบเรียงใหม่

วงแบล็กอายด์พีส์ได้ก่อตั้งมูลนิธิ The Pea Pod Foundation เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั่วโลก ซึ่งมูลนิธินี้ดำเนินงานผ่าน The Entertainment Industry Foundation โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2006 มีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นในฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหารายได้ให้กับมูลนิธิ ซึ่งแบล็กอายด์พีส์ก็ได้ขึ้นแสดงร่วมกับ เซร์ชีอู เมงจิส, เจสซิกา ซิมป์สันและดาราอื่น ๆ อีกมากมาย

ปี 2009 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่ห้า ดิอี.เอ็น.ดี. (The E.N.D.) ซึ่งมีลักษณะเป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น อัลบั้มนี้มีซิงเกิลนำอย่าง Boom Boom Pow, I Gotta Feeling และ Meet Me Halfway ปีต่อมาวงออกอัลบั้มที่หก เดอะบิกินนิง (The Beginning) ในปี ค.ศ. 2018 แบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่เจ็ด มาสเตอส์ออกเดอะซัน วอลุม 1 (Masters of the Sun Vol. 1) โดยมีเจ เรย์ โซลทำหน้าที่ร้องนำแทนเฟอร์กี้ที่ออกจากวง[4] ต่อมาแบล็กอายด์พีส์ออกอัลบั้มที่แปด ทรานสเลชัน (Translation) ในปี ค.ศ. 2020[5]

สมาชิก

[แก้]
  • วิลเลียม เจมส์ อดัมส์ จูเนียร์ หรือรู้จักในชื่อ วิล.ไอ.แอม
  • อัลเลน พิเนดา ลินโด หรือรู้จักในชื่อ แอพเพิล.ดี.แอป
  • ไฮเม ลูอิส โกเมซ หรือรู้จักในชื่อ ทาบู
  • เจสซิกา เรย์โนโซ หรือรู้จักในชื่อ เจ เรย์ โซล

ผลงานอัลบั้ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Why the EDM Revolution Has Only Just Begun". Music Life Coach.
  2. "The Black Eyed Peas - Biography". Billboard.
  3. Black Eyed Peas allmusic.com
  4. "Meet J. Rey Soul, The Black Eyed Peas' New Member". Billboard. May 19, 2020. สืบค้นเมื่อ June 17, 2020.
  5. "Black Eyed Peas announce new album 'Translation'". NME. June 13, 2020. สืบค้นเมื่อ June 17, 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]