เฮวีเรน
เฮวีเรน | |
---|---|
ผู้พัฒนา | ควอนติกดรีม |
ผู้จัดจำหน่าย | โซนี่คอมพิวเตอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ |
กำกับ | เดวิด เคจ |
อำนวยการผลิต | Charles Coutier |
เขียนบท | เดวิด เคจ |
แต่งเพลง | Normand Corbeil |
เครื่องเล่น | |
วางจำหน่าย | เพลย์สเตชัน 3เพลย์สเตชัน 4ไมโครซอฟท์ วินโดวส์
|
แนว | ภาพยนตร์เชิงโต้ตอบ, แอ็กชันผจญภัย |
รูปแบบ | ผู้เล่นคนเดียว |
เฮวีเรน (อังกฤษ: Heavy Rain) เป็นวิดีโอเกมแนวแอ็กชันผจญภัย[2][3] พัฒนาโดยบริษัทควอนติกดรีม และเผยแพร่โดยโซนี่คอมพิวเตอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์บนเพลย์สเตชัน 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เกมเป็นฟิล์มนัวร์เขย่าขวัญ มีตัวละครหลัก 4 คน ที่เข้ามาพัวพันกับฆาตกรโอะริงะมิ (Origami killer) ฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารเหยื่อโดยการปล่อยให้จมน้ำฝนจนเสียชีวิต ผู้เล่นมีปฏิสัมพันธ์กับเกมโดยกระทำกับก้านควบคุมตามสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนจอ ในบางกรณีอาจมีควิกไทม์อีเวนต์ในระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจของผู้เล่นและสิ่งที่ผู้เล่นกระทำในเกมจะส่งผลต่อการดำเนินเรื่อง ตัวละครหลักอาจเสียชีวิตได้ และการกระทำบางอย่างอาจทำให้ฉากบางฉากหรือตอนจบเปลี่ยนไป
เฮวีเรน ได้รับการตอบรับอย่างดี และชนะรางวัลเกมแห่งปีหลายรางวัล และขายได้มากกว่า 3 ล้านหน่วย[4] นอกจากนี้ ยังกำลังจะมีการสร้างภาพยนตร์จากเกม ส่วนรูปแบบที่เล่นบนเพลย์สเตชัน 4 ถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 โดยมีการพัฒนาด้านกราฟิกและความคมชัดของภาพ
รูปแบบการเล่น[แก้]
เฮวีเรน เป็น เกมแนวแอ็กชันผจญภัย ผู้เล่นต้องบังคับตัวละคร และทำให้เขาหรือเธอหยิบจับวัตถุ หรือพูดคุยกับตัวละครอื่นๆ ในฉากเพื่อดำเนินเรื่อง เกมถูกแบ่งเป็นหลายฉาก แต่ละฉากประกอบด้วยหนึ่งในตัวละครทั้งสี่ที่ผู้เล่นสามารถบังคับได้ การตัดสินใจหรือการกระทำของผู้เล่นจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องของเกม ตัวอย่างเช่น มีความเป็นไปได้ที่ตัวละครจะเสียชีวิตหรือถูกจับและจะไม่ปรากฏในฉากต่อๆ ไปของเกม[5] ใน เฮวีเรน ไม่มีการแพ้เกมแบบทันที ทว่าเกมจะดำเนินต่อไปจบถึงจุดจบในหลายรูปแบบตามผลรวมการกระทำของผู้เล่นแม้ตัวละครบางตัวจะหายไปจากเกมแล้วก็ตาม[6] เมื่อเล่นจนจบเกมแล้ว ผู้เล่นสามารถย้อนกลับไปเล่นใหม่ และอาจเปลี่ยนเหตุการณ์ต่างๆ ในบทต่อ ๆ ไปได้
ในฉากส่วนใหญ่ ผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครหลักโดยขยับพวกเขาไปมา และยังสามารถกดปุ่มค้างไว้เพื่อฟังความคิดของตัวละคร เมื่อผู้เล่นอยู่ใกล้วัตถุหรือตัวละครอื่นที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันได้ จะมีสัญรูปปุ่มกดขึ้นบนหน้าจอให้ผู้เล่นเลือกสิ่งที่อยากจะทำ บางฉากอาจมีการจับเวลาทำให้ผู้เล่นต้องพยายามรีบเล่นเพื่อรักษาชีวิตของตัวละครไว้ ในฉากอื่นๆ ผู้เล่นอาจไม่สามารถบังคับตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แต่อาจต้องโต้ตอบแบบควิกไทม์อีเวนต์ เช่น ขณะต่อสู้หรือขับรถย้อนศร
นอกจากนี้ เกมยังมีระดับความยากที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ในเมนูทุกเวลา การเปลี่ยนแปลงระดับความยากจะไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเรื่องในเกมโดยตรง ทว่าระดับความยากที่สูงกว่าอาจเปลี่ยนการบังคับ เช่น อาจต้องกดปุ่มมากขึ้นเพื่อให้การกระทำสำเร็จ
เนื้อเรื่อง[แก้]
ตัวละคร[แก้]
เกมมีตัวละครหลักที่บังคับได้อยู่ทั้งหมด 4 ตัวละคร ผู้เล่นสามารถบังคับครั้งละหนึ่งตัวละคร โดยสลับกันในบทต่างๆ ตัวละครในเกมถูกให้เสียง และคัดลอกรูปแบบท่าทางมาจากนักแสดงหลายคน[7] ตัวละครชายทั้งสามคนถูกออกแบบตามผู้พากย์เสียง ส่วนตัวละครหญิงออกแบบตามนางแบบมืออาชีพ โดยในบางบทของเกม ผู้เล่นอาจบังคับมากกว่าหนึ่งตัวละคร
- อีธาน มาส์ อีธานเป็นสถาปนิก เขามีภรรยาและลูกชายสองคน สองปีก่อนลูกชายคนโตของเขาที่ชื่อว่าเจสัน เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ทำให้อีธานต้องอยู่ในสภาวะโคม่าถึงหกเดือน เมื่อตื่นมา เขามีอาการหดหู่และเศร้าโศก เขาป่วยเป็นโรคกลัวที่ชุมชนและอยู่ตัวคนเดียว ห่างเหินจากภรรยาของเขา เกรซ มาส์ และลูกชาย ชอน มาส์ ต่อมาอีธานพบว่าชอนอาจตกเป็นเหยื่อคนต่อไปของฆาตกรโอะริงะมิ เขาถูกบังคับให้ทำแบบทดสอบ 5 อย่าง (ความอันตราย การทรมาณ การทรมาณอย่างโหดร้าย การฆาตกรรม และการเสียสละ) ตัวละครนี้เล่นและพากย์เสียงตามปาสกาล แลงเดล
- สก็อต เชลบี: เชลบี้เป็นอดีตตำรวจและทหารเรือผู้เป็นโรคหืด ปัจจุบันเขาทำงานเป็นนักสืบเอกชน และกำลังสืบสวนเกี่ยวกับฆาตกรโอะริงะมิ ในช่วงหลังของเกม เขาทำงานร่วมกับลอเรน วินเทอร์ ผู้ที่เป็นแม่ของ จอห์นนี่ วินเทอร์ หนึ่งในเหยื่อของฆาตกรโอะริงะมิ ตัวละครนี้เล่นและพากย์เสียงโดยแซม ดักลาส
- นอร์แมน เจย์เดน (Normal Jayden): เจย์เดนเป็นผู้ทำประวัติจากสำนักงานสอบสวนกลาง และถูกส่งมาจากวอชิงตัน ดี.ซี.เพื่อช่วยกองตำรวจสืบเกี่ยวกับฆาตกรโอะริงะมิ เจย์เดนมีแว่นตาความเป็นจริงเสริม และถุงมือข้างเดียว ที่เรียกว่า อาริ (ARI)[8] หรือ "Added Reality Interface" ทำให้เขาสามารถตรวจสถานที่เกิดเหตุและวิเคราะห์หลักฐานอย่างรวดเร็ว เขายังกำลังต่อสู้กับอาการติดสารเสพติดที่ชื่อว่าทริปโตเคน (triptocaine) ที่ช่วยให้เขารับมือกับผลกระทบทางจิตเมื่อใช้อาริ ผู้ทำงานร่วมกับนอร์แมน คือ ตำรวจยศร้อยโท คาร์เตอร์ เบรก ทว่าด้วยการที่มีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับฆาตกรโอะริงะมิทำให้นอร์แมนเกิดไม่ถูกกับเบรก ตัวละครนี้เล่นและพากย์เสียงโดยลีออน อ็อกเคนเดน (Leon Ockenden)
- เมดิสัน เพจ: เมดิสันเป็นนักถ่ายภาพวารสารศาสตร์ผู้อาศัยอยู่ในเมืองเพียงลำพัง เธอมีอาการนอนไม่หลับและฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง เธอมักเข้าพักในโมเต็ลซึ่งเป็นที่ๆ เธอสามารถหลับสนิทได้ ในที่สุดเธอพบว่าตนเองเข้าไปพัวพันกับคดีฆาตกรโอะริงะมิ และทำการสืบสวนด้วยตนเอง เธอยังกลายเป็นเพื่อนกับอีธาน ช่วยรักษาแผลและช่วยทำบททดสอบ มีตอนจบสองแบบที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน (หนึ่งในนั้นเป็นการอยู่อย่างมีความสุข และอีกหนึ่งแบบเป็นการอยู่กับความเศร้าโศก) ตัวละครถูกออกแบบตามแจ็กกี แอนสลี ผู้ทำการแสดงการเคลื่อนไหวในเกม ส่วนหน้าและเสียงพากย์ทำโดยจูดี บีเชอร์
นอกจากตัวละครที่บังคับได้ทั้ง 4 ตัวละครแล้ว ยังมีตัวละครอื่นๆ อีกเช่น
- ลอเรน วินเทอร์: ลอเรนเป็นแม่ของจอห์นนี่ วินเทอร์ หนึ่งในเหยื่อของฆาตกรโอะริงะมิ เธอทำงานเป็นโสเภณี ตัวละครนี้เล่นและพากย์เสียงโดย Aurélie Bancilhon
- พาโค แมนเดส: พาโคเป็นเจ้าของไนท์คลับที่ชื่อ บลู ลากูน และเป็นจ้าของหนึ่งในสถานที่ที่อีธานต้องผ่านบททดสอบ ตัวละครนี้เล่นและพากย์เสียงโดย เดวิด กัสแมน
ตัวละครมีความโดดเด่นขึ้น เมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป เกมส์เรดาร์ ชื่นชมบทบาทตัวร้ายของฆาตกรโอะริงะมิ และยกให้เป็นผู้ร้ายดีเด่นอันดับที่ 42 ในพ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013)[9] ในปีเดียวกัน เมดิสัน ถูกจัดอันดับให้เป็นฮีโร่หญิงในวิดีโอเกมดีเด่นโดยคอมเพล็กซ์[10]
เนื้อเรื่อง[แก้]
เกมเปิดฉากโดยมี อีธาน มาส์ กำลังใช้เวลากับครอบครัวในวันเกิดปีที่ 10 ของเจสันผู้เป็นลูกชายคนโต ขณะอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนแน่น เจสันเดินหลงไป ทำให้อีธานต้องตามหา จนพบเจสันข้างนอกที่อีกฝั่งของถนน เมื่อเห็นพ่อ เจสันวิ่งข้ามถนนกลับมาหาอีธานจนไม่ทันดูรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว อีธานกระโดดออกไปเพื่อช่วยเจสัน ทว่าสุดท้ายเจสันถูกรถชนจนเสียชีวิต และอีธานเองต้องตกอยู่ในสภาวะโคม่าถึงหกเดือน สองปีหลังจากอุบัติเหตุ อีธานมีอาการโศกเศร้า กลัวที่ชุมชน และบางครั้งมีอาการหมดสติไปหลายชั่วโมง เขาห่างเหินจากภรรยา และชอน ลูกชายอีกคน วันหนึ่งขณะอยู่ในสวนสาธารณะกับชอน อีธานหมดสติไป และตื่นมาพบว่าชอนหายตัวไป
ต่อมาเขาพบว่าการหายตัวไปของชอนมีความเกี่ยวเนื่องกับ 'ฆาตกรโอะริงะมิ' ฆาตกรมีรูปแบบการฆ่าโดยการลักพาตัวเด็กผู้ชายในหน้าฝน จากนั้นไม่กี่วันใน ศพของเด็กเหล่านั้นมักถูกพบในที่ลับตาคน โดยสาเหตุการตายคือการจมน้ำ มีโอะริงะมิรูปสัตว์ในมือ และกล้วยไม้บนหน้าอก นักสืบประวัติ FBI นอร์แมน เจย์เดน เข้ามาช่วยตำรวจสืบเกี่ยวกับฆาตกรโอะริงะมิ และสรุปว่าเด็กถูกขังในที่ซึ่งหากฝนตกครบ 6 นิ้ว ร่างของพวกเขาจะถูกท่วมและพวกเขาจะจมน้ำตาย พวกเขารู้ว่ามีเวลาน้อยกว่าสามวันในการช่วยชอน
อีธานกลับไปที่โมเต็ลเพื่อหลบสื่อ เขาได้รับจดหมายบอกให้ไปที่ล็อกเกอร์ และเจอกล่องรองเท้าที่มีโทรศัพท์มือถือ ปืนพก และโอะริงะมิรูปต่างๆ โทรศัพท์มือถือสั่งให้เขาทำชุดบททดสอบที่เขียนไว้บนโอะริงะมิแต่ละชิ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำเพื่อชอนได้แค่ไหน เมื่อทำบททดสอบแต่ละอันเสร็จ เขาจะได้รับคำใบ้ที่อยู่ของชอน บททดสอบมีระดับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในแต่ละอัน ตั้งแต่การขับรถย้อนศรเป็นระยะทาง 5 ไมล์ในความเร็วสูงบนทางด่วน รับความเจ็บปวดทางร่างกายและการถูกไฟฟ้าช็อต ตัดส่วนหนึ้งของนิ้วตนเอง ฆ่าชายคนหนึ่ง และดื่มยาพิษ[11] ขณะทำตามบททดสอบเหล่านี้ เขาพบกับ เมดิสัน เพจ ผู้หญิงที่เป็นโรคนอนไม่หลับ และผู้ช่วยฟื้นฟูทั้งด้านจิตใจและร่างกายให้กับเขาหลังบททดสอบต่างๆ เมดิสันเริ่มสืบสวนด้วยตนเองและพยายามหาคนที่ตั้งบททดสอบเหล่านี้
เจย์เดน ผู้ที่ทำงานร่วมกับตำรวจที่ชื่อว่า คาร์เตอร์ เบรก สืบสวนผู้ต้องสงสัย 2 คน ทว่ายังไม่พบฆาตกรโอะริงะมิตัวจริง อดีตภรรยาของอีธานไปที่สถานีตำรวจเพื่อบอกตำรวจเกี่ยวกับอาการหมดสติของอีธาน ชี้ทางให้ตำรวจไปหาจิตแพทย์ของอีธาน เบรกมั่นใจว่าอีธาน คือ ฆาตกรโอะริงะมิ ส่วนเจย์เดนยังคงพยายามหาหลักฐานเพื่อบอกว่าอีธานบริสุทธิ์ ระหว่างเหตุการณ์เหล่านี้ สก็อต เชลบี้ เข้าเยี่ยมผู้ปกครองของเหยื่อเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับฆาตกรโอะริงะมิ และได้หลักฐานหลายชิ้นเกี่ยวกับฆาตกร หนึ่งในผู้ปกครอง ลอเรน วินเทอร์ ยืนยันจะช่วยเขาสืบสวน พวกเขาหลงผิดและเชื่อว่าเพล์บอยหนุ่มคนหนึ่งเป็นฆาตกร และยังถูกขู่ให้เลิกสืบสวนโดยพ่อของเพล์บอยหนุ่ม[11]
ฉากจบ[แก้]
ขณะใกล้ถึงจุดจบของเกม ผู้เล่นบังคับเด็กคนหนึ่ง 34 ปีก่อน เขาและแฝดชาย จอห์น เชพเพิร์ด กำลังเล่นในเขตก่อสร้าง จากนั้นจอห์นตกลงไปในท่อระบายน้ำซึ่งแตก และตะโกนขอความช่วยเหลือ เมื่อฝาแฝดของเขาพบตัว กลับไม่สามารถดึงตัวจอห์นขึ้นมาได้เนื่องจากขาของเขาติดอยู่กับท่อ ด้วยฝนที่ตกหนักและท่อที่มีน้ำขังอยู่เกือบเต็ม จอห์นกำลังจะจมน้ำต่อหน้าฝาแฝดของเขา ภาพในอดีตจบลงเท่านี้ โดยธรรมชาติ ผู้เล่นสันนิษฐานว่าแฝดชายของจอห์นเป็นฆาตกรโอะริงะมิ ต่อมาภาพในอดีตกลับมาอีกครั้ง และเผยว่าฝาแฝดของจอห์นวิ่งไปหาพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ด้วยความเมา พ่อของเขาไม่เชื่อและไม่สนใจ จนทำให้เด็กชายต้องกลับไปหาฝาแฝดและมองดูเขาจมน้ำจนเสียชีวิต สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจให้ฆาตกรโอะริงะมิลักพาตัวเด็กและพยายามให้พ่อมาช่วยชีวิตพวกเขา เพื่อหาพ่อที่ทำทุกอย่างได้เพื่อลูก ฝาแฝดของจอห์นถูกเปิดเผยว่าคือ สก็อต เชลบี้ หรือ ชื่อเก่าคือ สก็อต เชพเพิร์ด การกระทำของเชลบี้ในเกมนั้นไม่ได้เพื่อสืบสวนหาฆาตกร แต่เพื่อหาหลักฐานและทำลายเพื่อให้ไม่สามารถสืบมาที่ตัวเขาได้
บทสุดท้ายของเกม โกดังเก่า เป็นฉากสำคัญที่ชี้ฉากจบ ตัวละครทั้งสาม (อีธาน เมดิสัน และนอร์แมน) ต่างได้รับหลักฐานซึ่งชี้ทางสู่โกดัง ช่วยชอน และสู้กับฆาตกรโอะริงะมิ (สก็อต) ฉากนี้ดำเนินได้ถึง 8 แบบด้วยกัน ตัวอย่างเช่น หากอีธานไปคนเดียว เขาจะช่วยชอน แล้วฆ่าหรือไว้ชีวิตสก็อต ทว่าจะโดนยิงโดยตำรวจเมื่อเดินออกจากโกดัง หากตัวละครทั้งสามไปที่โกดัง อีธานจะช่วยชอน นอร์แมนจะสู้กับฆาตกรโอะริงะมิ และเมดิสันจะเตือนชอนเกี่ยวกับตำรวจด้านนอก หลังบทนี้จะมีฉากจบ 5 ส่วน ประกอบด้วย รายงานข่าว และฉากจบของแต่ละตัวละคร ฉากจบของแต่ละคนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การที่ฆาตกรโอะริงะมิถูกจับกุม, การที่ ชอน มาส์ ได้รับการช่วยเหลือ, และการที่แต่ละตัวละครมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว ตัวอย่างเช่น ในฉากจบที่ดีที่สุด อีธาน เมดิสัน และชอนใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข สก็อตเสียชีวิต นอร์แมนลาออกจาก FBI และใช้ชีวิตเรียบง่าย ส่วนลอเรนกำลังสาปแช่งที่หลุมศพของสก็อต ในฉากจบที่แย่ที่สุด อีธานแขวนคอตายในคุก ส่วนเมดิสัน ลอเรน และนอร์แมน เสียชีวิต และสก็อตรอดจากคดีทั้งหมด
รางวัล[แก้]
เกียรติคุณ | รางวัล | ผู้จัด |
---|---|---|
นวัตกรรมทางเทคนิค | บริติชอะคาเดมีวิดีโอเกมส์อะวอดส์ ครั้งที่ 7[12] | รางวัลแบฟตา |
เพลงประกอบ | ||
เนื้อเรื่อง | ||
ความสำเร็จโดดเด่นในด้านวิศวกรรมภาพ | อินเตอร์แอกทิฟอะชีฟเมนต์อะวอดส์ 2011[13] | เอไอเอเอส |
นวัตกรรมเกมดีเด่น | ||
เพลงประกอบดีเด่น | ||
เกมผจญภัยแห่งปี[14] | เกมแห่งปี 2010 | เกมสปาย |
เกมเพลย์สเตชัน 3 แห่งปี[15] | ||
เกมเพลย์สเตชัน 3 แห่งปี[16] | เกมแห่งปี 2010 | ไอจีเอ็น |
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Sarkar, Samit (20 March 2019). "Detroit: Become Human, Heavy Rain, Beyond: Two Souls coming to PC this year". Polygon.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Stuart, Keith (21 March 2011). "Heavy Rain creator: I am fed up with space marines! | The Guardian". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 6 May 2011.
- ↑ "Heavy Rain is 'interactive drama' – Sony". สืบค้นเมื่อ 19 February 2008.
- ↑ "Heavy Rain tops 3 million sales". 19 August 2013. สืบค้นเมื่อ 7 November 2014.
- ↑ Heavy Rain Hands-On: Meeting Mad Jack. Shacknews. 3 June 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-07. สืบค้นเมื่อ 4 June 2009.
- ↑ Heavy Rain Preview for the PS3 from 1UP. 1UP.com. 22 May 2009. สืบค้นเมื่อ 14 June 2009.
- ↑ Reality blurs between Heavy Rain characters and actors. arstechnica. 17 February 2010. สืบค้นเมื่อ 17 February 2010.
- ↑ Heavy Rain. Sony Computer Entertainment / Quantic Dream. 2009. p. 9.
- ↑ "100 best villains in video games". GamesRadar. 17 May 2013. สืบค้นเมื่อ 21 June 2013.
- ↑ Rougeau, Michael (4 March 2013). "50 Greatest Heroines in Video Game History". Complex. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-04. สืบค้นเมื่อ 24 March 2013.
- ↑ 11.0 11.1 Post, Emily (14 April 2010). "Analysis: Heavy Rain's Storytelling Gaps". Gamasutra. สืบค้นเมื่อ 14 April 2010.
- ↑ Fred Dutton (16 March 2011). "Gaming BAFTA winners revealed News – - Page 1". Eurogamer.net. สืบค้นเมื่อ 6 May 2011.
- ↑ Academy of Interactive Arts & Sciences (1 April 2015). "14th Annual Interactive Achievement Awards". interactive.org.
- ↑ "Game of the Year 2010 – Adventure Game of the Year". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-08. สืบค้นเมื่อ 24 December 2010.
- ↑ "Game of the Year 2010 – PlayStation 3 Game of the Year". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-09. สืบค้นเมื่อ 15 December 2010.
- ↑ "Game of the Year 2010 – PlayStation 3 Game of the Year". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-06-13. สืบค้นเมื่อ 15 December 2010.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์ทางการ
- Quantic Dream website เก็บถาวร 2011-02-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน