เหตุระเบิดที่มัสยิดในเปศวาร์ พ.ศ. 2566

พิกัด: 34°00′47″N 71°33′34″E / 34.01306°N 71.55944°E / 34.01306; 71.55944
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เหตุวางระเบิดมัสยิดในเปศวาร์ ปี 2023
เป็นส่วนหนึ่งของความไม่สงบในแคว้นแคบาร์ปัคตูนควา
ภาพถ่ายภายในมัสยิดหลังเกิดเหตุ
สถานที่ย่านพอลิสไลน์ เปศวาร์ แคว้นแคบาร์ปัคตูนควา ประเทศปากีสถาน
พิกัด34°00′47″N 71°33′34″E / 34.01306°N 71.55944°E / 34.01306; 71.55944
วันที่30 มกราคม ค.ศ. 2023 (2023-01-30)
13:30[1] (PKT)
เป้าหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประเภทระเบิดฆ่าตัวตาย
ตาย101 (รวมผู้โจมตี)
เจ็บ220+
ผู้ก่อเหตุหน่วย Jamaat-ul-Ahrar ของ Tehrik-i-Taliban Pakistan[2]

ในวันที่ 30 มกราคม 2023 เวลาประมาณ 13:30 นาฬิกา PKT เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในมัสยิดแห่งหนึ่งในย่านพอลิสไลน์ (Police Lines) เมืองเปศวาร์ แคว้นแคบาร์ปัคตูนควา ประเทศปากีสถาน ผู้ก่อเหตุได้จุดระเบิดขณะในมัสยิดกำลังมีละหมาดกลางวัน ซุฮฺริ เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 101 ราย[3] และบาดเจ็บมากกว่า 220 คน ในจำนวนนี้ 7 คนอาการสาหัส[4] Omar Mukaram Khurasani เอมีร์คนปัจจุบันของ Jamaat-ul-Ahrar และสมาชิกของสภาผู้นำตอลิบานปากีสถาน ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในเหตุโจมตีครั้งนี้[2]

ภูมิหลัง[แก้]

ในเปศวาร์เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของแคบาร์ปัคตูนควาในตะวันตกของปากีสถาน เป็นเป้าของเหตุโจมตีก่อการร้ายหลายครั้ง รวมถึงการโจมตีมัสยิดในปี 2013, 2015 และ 2022[5]

การโจมตี[แก้]

มัสยิดที่เกิดเหตุตั้งอยู่ในเขตความปลอดภัยสูง ซึ่งในเขตนี้ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของทั้งกองกำลังตำรวจแคว้น และหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย[6] ผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายสามารถผ่านด่านตรวจหลายด่วนที่มีตำรวจท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลโดยไม่ถูกจับได้[7] ในมัสยิดขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ 300 ถึง 400 นาย ซึ่งในเวลานั้นกำลังมีละหมาดกลางวัน ซุฮฺริ อยู่[1]

ผู้ก่อเหตุได้จุดระเบิดที่ติดกับตนขณะยืนอยู่ในแถวหน้าสุดของผู้มาละหมาด เหตุระเบิดครั้งนี้รุนแรงจนทำให้เพดานของมัสยิดถล่มลงมา[7] ตำรวจนายหนึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุนี้ระบุว่าเขาเห็น "เปลวเพลิงขนาดใหญ่ลุกลามขึ้น" ก่อนจะถูกห้อมล้อมด้วยควันฝุ่นสีดำ[4] เบื้องต้น เหตุระเบิดเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย บาดเจ็บมากกว่า 200 คน โดย 90% ของผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ[6]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Pakistan mosque blast: Police targeted in attack that kills 59". BBC News. 30 January 2023.
  2. 2.0 2.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ LWJ 2023
  3. Christina Goldbaum; Salman Masood; Zia ur-Rehman (31 January 2023). "'Terrorism Has Returned': Pakistan Grapples With Attack That Left 150+ Dead". The New York Times.
  4. 4.0 4.1 Saifi, Sophia; Mogul, Rhea; Mehsud, Saleem (2023-01-31). "Death toll from blast in Pakistan mosque rises to at least 100 as country faces 'national security crisis'". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-01-31.
  5. Saifi, Sophia; Mehsud, Saleem; Humayun, Hira (2023-01-30). "Pakistani Taliban claims responsibility for mosque blast that killed more than 40 people". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-01-30.
  6. 6.0 6.1 "Rescue operation continues after Pakistan blast that killed 92". Al Jazeera. 2023-01-31.
  7. 7.0 7.1 Ahmed, Jibran; Shahzad, Asif (2023-01-30). "Suicide bombing at mosque in Pakistan kills 59, targeted police". Reuters.