อดุลย์ วันไชยธนวงศ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อดุลย์ วันไชยธนวงศ์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน
ดำรงตำแหน่ง
23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 – 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ดำรงตำแหน่งร่วมกับ สมบัติ ยะสินธุ์
คะแนนเสียง30,697 (29.75%)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด7 กันยายน พ.ศ. 2498 (68 ปี)
จังหวัดเพชรบุรี ประเทศไทย
พรรคการเมืองพรรคชาติไทยพัฒนา

อดุลย์ วันไชยธนวงศ์ เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 สมัย สังกัดพรรคพลังประชาชน ได้รับเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2550

ประวัติ[แก้]

อดุลย์ วันไชยธนวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2498 เป็นบุตรของจิโรจน์ วันไชยธนวงศ์ และเป็นพี่ชายของอนันต์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ว.เชียงราย เขาสำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

นอกจากนั้น นายอดุลย์ ยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย และเป็นหลาน (อา) ของสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.

การทำงาน[แก้]

นายอดุลย์ ประกอบอาชีพรับราชการ ในตำแหน่งวิศวกร

นายอดุลย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2543 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกในประเทศไทย ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา[1][2]

ในการทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา นายอดุลย์เกิดกรณีขัดแย้งกันระหว่างสมาชิก เนื่องจากกรณีการชกหน้าสมาชิกรัฐสภา ในที่ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ระหว่างประชุมวุฒิสภา พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ได้ชกต่อยเข้าที่ใบหน้าของนายอดุลย์ เนื่องจากนายอดุลย์ลุกจากที่นั่งเดินเข้ามาในระยะประชิด เพราะมีความเห็นขัดแย้งกัน กรณีการเผยแพร่เอกสารสมุดปกเหลือง เรื่อง "ความจริงที่ตากใบ" อันเป็นรายงานเกี่ยวกับความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ของทีมงานที่นำวุฒิสภากลุ่มหนึ่ง นำโดย เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง การชกหน้าทำร้ายร่างกาย ของสมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน ในระหว่างที่มีการประชุมกัน ซึ่งได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียอย่างยิ่งของวงการการเมืองไทย[3]

ต่อมานายอดุลย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งแรก ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน คู่กับปัญญา จีนาคำ แต่นายอดุลย์ได้รับเลือกตั้งเพียงคนเดียว

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 นายอดุลย์ ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในนามพรรคชาติไทยพัฒนา[4][5] แข่งขันกับอดีต ส.ส. รวมกันถึง 4 คน คือ สมบัติ ยะสินธุ์ (ประชาธิปัตย์) ปัญญา จีนาคำ (เพื่อไทย) สมบูรณ์ ไพรวัลย์ (ภูมิใจไทย) และนายอดุลย์ แต่ผลการเลือกตั้งปรากฎว่านายสมบัติ ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.แม่ฮ่องสอน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา เขตเลือกตั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอน (นายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์)" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-07-24. สืบค้นเมื่อ 2020-07-23.
  2. วุฒิสภาไทย ชุดที่ 8
  3. สภาเถื่อน!“ประทิน”ต่อย“อดุลย์”กลางที่ประชุม
  4. ชทพ. เปิดตัวมนสิทธิ์ คำสร้อย-อดุลย์
  5. 2 อดีต ส.ส.แม่ฮ่องสอน สวมเสื้อคนละพรรคลงสนามเลือกตั้ง 54 แล้ว
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๔, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๑๑, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑