สถาบันเพื่อการวิจัยแพทยศาสตร์

พิกัด: 52°26′12.4″N 13°19′1.47″E / 52.436778°N 13.3170750°E / 52.436778; 13.3170750
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สถาบันเพื่อการวิจัยแพทยศาสตร์
Forschungseinrichtung für experimentelle Medizin
"หลุมหลบภัยหนู" (Mouse Bunker) ภาพถ่ายปี 2019
แผนที่
ชื่อเดิมห้องทดลองสัตว์ส่วนกลาง มหาวิทยาลัยเปิดเบอร์ลิน (Central Animal Laboratories of the Free University of Berlin), Zentrale Tierlaboratorien der Freien Universität Berlin
ชื่ออื่นMäusebunker, หลุมหลบภัยหนู
ข้อมูลทั่วไป
สถานะสร้างแล้วเสร็จ
ประเภทวิจัยทางวิทยาศาสตร์, ทดลองในสัตว์, การผสมพันธุ์สัตว์
สถาปัตยกรรมบรูทัลลิสต์
ที่ตั้งลิกแตร์เฟลเดอ เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
ที่อยู่Krahmerstraße 6
พิกัด52°26′12.4″N 13°19′1.47″E / 52.436778°N 13.3170750°E / 52.436778; 13.3170750
ผู้เช่าในปัจจุบันชารีเต
เริ่มสร้าง1971
แล้วเสร็จ1981
ข้อมูลทางเทคนิค
จำนวนชั้น9
การออกแบบและการก่อสร้าง
สถาปนิกGerd Hänska, Kurt Schmersow, Magdalena Hänska

สถาบันเพื่อการวิจัยแพทยศาสตร์ (เยอรมัน: Forschungseinrichtung für experimentelle Medizin; อังกฤษ: Research Institutes for Experimental Medicine) เป็นสถาบันวิจัยในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี[1] ตัวอาคารของสถาบันเป็นที่รู้จักในชื่อ หลุมหลบภัยหนู (Mäusebunker) แรกเริ่มสร้างขึ้นเพื่อใช้งานสำหรับการทดลองในสัตว์และผสมพันธุ์สัตว์ทดลองที่ใช้ในสถาบัน ตัวสถาบันตั้งอยู่ใกล้กันกับศูนย์การแพทย์เบนยามิน ฟรังกลิน (Benjamin Franklin Medical Center) และ สถาบันความสะอาดและอนูชีววิทยา (Institute for Hygiene and Microbiology) สามสถาบันนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นสาธารณูปโภคกำลังสูงสำหรับการพัฒนาและการใช้งานยากับวัคซีนใหม่ ๆ

ตัวอาคารเป็นผลงานออกแบบแรกเริ่มโดยสามีภรรยา แกร์ด และ มักดาเลนา ฮันสกา (Gerd Hänska and Magdalena Hänska) ออกแบบในระหว่างปี 1965 ถึง 1967 และเริ่มก่อสร้างในปี 1971. แบบแปลนโดยละเอียดและการก่อสร้างนำโดยแกร์ด ฮันสกา และ ควร์ท ชแมร์โซว (Kurt Schmersow) ระหว่างปี 1971 ถึง 1981 รูปลักษณะของอาคารกลายมาเป็นที่ถกเถียงนับตั้งแต่แรกเริ่ม ด้วยการออกแบบที่ดูชั่วร้าย (sinister) และการใช้งานเพื่อการทดลองในสัตว์ ทำให้อาคารนี้ไม่เป็นที่นิยมในสาธารณชน กระนั้น เมื่อเวลาผ่านไป อาคารนี้กลายมาเป็นที่นิยมชื่นชอบโดยผู้นิยมสถาปัตยกรรมบรูทัลลิสต์ มีการตีพิมพ์ระดับนานาชาติหลายชิ้นที่ยกอาคารนี้เป็นตัวอย่างชิ้นสำคัญของสถาปัตยกรรมบรูทัลลิสต์ในเยอรมนี[2][3][4]

หลังเจ้าของปัจจุบันของอาคาร ชาริเต ประกาศแผนว่าจะทุบอาคารนี้ทิ้ง ได้เกิดความตระหนักขึ้นในสาธารณชนมากยิ่งขึ้น[5] มีการลงนามยื่นอุทธรณ์ให้อนุรักษ์อาคารนี้ นำโดยสถาปนิกกุนแนร์ คลัก (Gunnar Klack) และนักประวัติศาสตร์ศิลป์ แฟลิซ ตอร์แคร์ (Felix Torkar) ในปี 2020[6] มีการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของอาคาร "หลุมหลบภัยหนู" ตีพิมพ์ในสิ่งพิมพ์ระดับนานาชาติ[7][8] มีการอ้างถึงอาคารนี้เชื่อมต่อกับตัวอย่างชิ้นงานบรูทัลลิสต์อื่น ๆ ในระดับโลก ไปจนถึงการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของแต่ละอาคารโดยอ้างถึงอาคารหลังนี้ เช่น สถานีรถบัสกลางเทลอาวีฟ ในอิสราเอล[9] และวังแสดงดนตรีและกีฬาวิลเนียส ในลิทัวเนีย[10]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Research Institutes for Experimental Medicine". experimentelle-medizin.charite.de. Charité Berlin.
  2. Van Mead, Nick. "Brutalist buildings under threat – in pictures". The Guardian.
  3. Crook, Lizzie. "Nathan Eddy documents under-threat brutalist Mäusebunker building in Battleship Berlin film". dezeen.com. Dezeen.
  4. SOS Brutalism. Oliver Elser, Philip Kurz, Peter Cachola Schmal, Felix Torkar, Maximilian Liesner, Dorothea Deschermeier ([English edition] ed.). Zurich, Switzerland. 2017. ISBN 978-3-03860-075-6. OCLC 1012942456.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  5. Hickley, Cathrine. "Berlin's residents rally to save city's Brutalist building that was once a laboratory for animal experiments". The Art Newspaper.
  6. "The Inspiring Fight On The Ground To Save Berlin's At-Risk Brutalism". Greyscape.
  7. Moody, Oliver. "Architects battle to save 'brutal' features of Berlin design history". The Times.
  8. Hindahl, Philipp (2022-01-18). "A Treasure of Berlin Brutalism on the Brink of a Transhumanist Future". pinupmagazine.org (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-01-19.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  9. Zandberg, Esther. "מאז הקמתם שני הבניינים האלה ספגו גינויים, אחד מהם זוכה פתאום לתהילה". הארץ (ภาษาฮิบรู). สืบค้นเมื่อ 2022-02-03.
  10. "Nuo Brno iki Tel Avivo" - Berlynas I dalis, nr. 157 (ภาษาอังกฤษ), สืบค้นเมื่อ 2022-02-03