วัดสันกู่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก วัดโป่งสลี)
วัดสันกู่
แผนที่
ชื่อสามัญวัดสันกู่, วัดโป่งสลี
ที่ตั้งตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย
ประเภทวัดราษฎร์
นิกายมหานิกาย
พระพุทธศาสนา ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา

วัดสันกู่ ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งสลี เลขที่ 40 หมู่ที่ 1 ตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย เดิมเป็นวัดร้าง ชาวบ้านเรียกว่า(ลอมกู่หรือวัดสันกู่) สร้างมาในสมัยใดและใครเป็นผู้สร้าง ไม่มีใครทราบมีหลักฐานที่ปรากฏเหลือไว้คือ เสาหิน อิฐแบบโบราณ และพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอก แกะสลักด้วยหินทรายแดง 1 องค์ ประดิษฐานตั้งอยู่บนเนินซากฐานเจดีย์เก่าก่อด้วยอิฐแบบโบราณ จึงสันนิษฐานว่าวัดนี้อาจจะสร้างในสมัยที่พม่าปกครองล้านนาประมาณปี พ.ศ. 2101 เพราะได้นำอิฐให้กรมศิลปกรได้ ตรวจสอบและได้สันนิษฐานว่าประมาณ 400-500ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 บ้านโป่งได้แยกหมู่บ้านใหม่ และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านใหม่นี้ว่าบ้านโป่งสลี พอแยกหมู่บ้านแล้ว นายสุคำ โกษา ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น ก็ได้พาชาวบ้านโป่งสลี ได้ร่วมกันบูรณะวัดสันกู่ร้างซึ่งเป็นวัดร้างที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ของหมู่บ้านให้เป็นที่พักสงฆ์มีพระสงฆ์มาอยู่จำพรรษา และได้ตั้งชื่อที่พักสงฆ์ว่าวัดโป่งสลี

ตามชื่อของหมู่บ้านตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา จนถึงเดือน เมษายน พ.ศ. 2553 ซึ่งทางวัดโป่งสลีได้จัดเข้าปฏิบัติธรรมรุกขมูลกรรมขึ้น และได้มีพระเถระผู้ใหญ่ที่มาร่วมปฏิบัติธรรมกล่าวกับ พระสมชาย สุทฺธิมโน ซึ่งเป็นพระที่จำพรรษาอยู่วัดโป่งสลีว่า ชื่อวัดโป่งสลีมันสั้นไปและไม่ได้ความหมายที่ดี จึงแนะนำให้เติมคำว่า “ชัย” ต่อท้ายจึงได้ชื่อว่า วัดโป่งสลีชัย และมีความหมายดีจึงแปลได้ว่า วัดที่เป็นดินโป่งมีต้นศรีหรือต้นโพธิ์แห่งชัยชนะ แห่งการชนะ คำว่าชัยชนะในที่นี้หมายถึงชัยชนะกิเลสหรือชัยชนะอุปสรรค์ต่างๆเป็นต้น จึงได้ชื่อว่าวัดโป่งสลีชัย ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เลขานุการเจ้าคณะหนเหนือ

วัดปากน้ำได้มาดูวัด เพื่อนำข้อมูลไปรายงาน มหาเถรสมาคมได้มีมติยกวัดสันกู่ร้างให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์ จำพรรษา อย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงให้ชื่อวัดสันกู่ ตามชื่อเดิม ความหมายของคำว่าวัด สันกู่ คือ สัน แปลว่า ที่สูง กู่ แปลว่า ธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระพุทธรูป หรือที่บรรจุพระบรมสาริริกธาตุ ที่เราชาวพุทธเชื่อว่าเป็นของสูง และยืดถือสักการบูชา จึงได้ชื่อว่าวัดสันกู่ มาจนถึงทุกวันนี้ๆ