ยุทธการที่กิสาน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ยุทธการที่กิสาน
ส่วนหนึ่งของ การบุกขึ้นเหนือของจูกัดเหลียงครั้งที่ 4

แผนที่แสดงการบุกขึ้นเหนือของจูกัดเหลียงครั้งที่ 4 และครั้งที่ 5
วันที่มีนาคม – สิงหาคม ค.ศ. 231[1]
สถานที่
ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลกานซู่ ประเทศจีน
ผล วุยก๊กได้ชัยชนะในเชิงยุทธศาสตร์ จ๊กก๊กได้ชัยชนะในเชิงยุทธวิธี
คู่สงคราม
วุยก๊ก จ๊กก๊ก
เซียนเปย์
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ
สุมาอี้
เตียวคับ 
ปีเอียว
ไต้เหลง
กุยห้วย
เจี่ย ซื่อ
งุยเป๋ง
จูกัดเหลียง
อองเป๋ง
อุยเอี๋ยน
งอปั้น
โกเสียง
ห่อปี
กำลัง
ไม่ทราบ ไม่ทราบ
ความสูญเสีย
ไม่ทราบ ไม่ทราบ

ยุทธการที่กิสาน (จีน: 祁山之戰) เป็นยุทธการที่เกิดขึ้นบริเวณเขากิสาน (祁山 ฉีชาน; พื้นที่ภูเขาบริเวณอำเภอหลี่ มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) ระหว่างรัฐจ๊กก๊กและวุยก๊กในปี ค.ศ. 231 ในยุคสามก๊กของจีน ยุทธการครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งที่มีการรบดุเดือดที่สุดในการบุกวุยก๊กของจ๊กก๊กห้าครั้ง เป็นผลทำให้ทั้งสองฝ่ายสูญเสียทหารไปหลายพันนาย แม้ว่าจูกัดเหลียงจะสามารถได้ชัยชนะในช่วงต้นของยุทธการ แต่ในที่สุดยุทธการก็สิ้นลุดลงด้วยชัยชนะทางยุทธศาสตร์ของวุยก๊กเนื่องจากทัพจ๊กก๊กมีเสบียงไม่เพียงพอ เสบียงอาหารที่ไม่เพียงพอมีสาเหตุมาจากฝนตกหนักและความผิดพลาดที่ทำโดยลิเงียม[2] จูกัดเหลียงผู้สำเร็จราชการของจ๊กก๊กใช้เวลาพักฟื้นสามปีก่อนจะบุกวุยก๊กอีกครั้งในปี ค.ศ. 234

ภูมิหลัง[แก้]

ในปี ค.ศ. 217 หวดเจ้งนักยุทธศาสตร์ของเล่าปี่เสนอว่าเมืองฮันต๋งสามารถใช้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อโจมตีภาคกลางของวุยก๊กและเข้ายึดอาณาบริเวณทางตะวันตกของวุยก๊กอันได้แก่มณฑลเลียงจิ๋วและยงจิ๋วได้[3] ตั้งแต่นั้นแผนของหวดเจ้งก็กลายเป็นพิมพ์เขียวของการทำศึกต่อวุยก๊ก จูกัดเหลียงพยายามบุกดินแดนวุยก๊กผ่านเขากิสานในการบุกครั้งแรกแต่ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นตันฉอง (陳倉 เฉินชาง; อยู่ทางตะวันออกของนครเป่าจี มณฑลฉ่านซี) ซึ่งเป็นป้อมปราการปากทางที่ป้องกันนครเตียงฮัน แต่หลังจากความล้มเหลวในการยึดตันฉอง จูกัดเกลียงก็เปลี่ยนเส้นทางโจมตีอีกครั้งไปทางตะวันตก ในต้นปี ค.ศ. 231 จูกัดเหลียงรวบรวมกำลังทหารเพื่อพิชิตหล่งโย่ว (隴右) โดยตั้งให้เขากิสานเป็นเป้าหมายเบื้องต้น ก่อนที่จูกัดเหลียงจะเคลื่อนทัพไปยังเขากิสาน ได้ส่งทูตไปพบชนเผ่าเซียนเปย์และเกี๋ยงเพื่อยุยงให้ชนเผ่าเหล่านั้นก่อความวุ่นวายในวุยก๊ก ในเวลาเดียวกันจูกัดเหลียงยังประดิษฐ์ "โคยนตร์" อุปกรณ์กลไกที่ช่วยในการขนส่งเสบียงอย่างมาก

ยุทธการ[แก้]

เป้าหมายของจ๊กก๊กที่จะยึดหล่งโย่วนั้นไม่อาจทำได้โดยง่าย เพราะฝ่ายวุยก๊กได้เตรียมการรับมือการบุกของจ๊กก๊กโดยการให้เจี่ย ซื่อ (賈嗣) และงุยเป๋ง (魏平 เว่ย์ ผิง) ไปประจำการอยู่ที่เขากิสานและตั้งแนวป้องกันเบื้องต้นสำหรับเมืองเทียนซุย (天水郡 เทียนฉุ่ยจฺวิ้น) ขณะเดียวกันก็ให้ไต้เหลง (戴陵 ไต้ หลิง) และปีเอียว (費曜 เฟ่ย์ เย่า) ไปประจำการกองกำลังแยกในใจกลางของเมืองเทียนซุย จูกัดเหลียงขอความช่วยเหลือของห่อปี (軻比能 เคอปี่เหนิง) ประมุขของชนเผ่าเซียนเปย์ให้ไปที่เมืองเป่ย์ตี้ (北地郡 เป่ย์ตี้จฺวิ้น; อยู่บริเวณใจกลางมณฑลฉ่านซีในปัจจุบัน) เพื่อระดมกำลังคนท้องถิ่นในการสนับสนุนทัพจ๊กก๊ก[4] การบุกเริ่มต้นขึ้นด้วยการปะทะขนาดย่อมที่เขากิสาน ทำให้โจจิ๋นขุนพลวุยก๊กรู้สึกการโจมตีครั้งนี้เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อปกปิดการบุกครั้งใหญ่ผ่านเทือกเขาฉินหลิ่งมุ่งเป้าไปที่เตียงฮัน โจจิ๋นจึงรวบรวมกำลังป้องกันส่วนใหญ่ในเตียงฮันก่อนที่สุมาอี้จะมาแทนที่โจจิ๋นในฐานะแม่ทัพใหญ่ของทัพวุยก๊กในมณฑลยงจิ๋วและเลียงจิ๋ว ขุนพลวุยก๊กเตียวคับ ปีเอียว ไต้เหลง และกุยห้วยทำหน้าที่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของสุมาอี้[5]

จากนั้นสุมาอี้จึงมอบหมายให้ไต้เหลงและปีเอียวรักษาอำเภอเซียงเท้ง (上邽縣 ช่างกุยเซี่ยน; ปัจจุบันอยู่ในนครเทียนฉุ่ย มณฑลกานซู่) พร้อมด้วยกองกำลังทหารฝีมือดี 4,000 นาย แล้วให้กำลังทหารให้เหลือยกไปทางตะวันตกเพื่อไปช่วยเหลือเจี่ย ซื่อและงุยเป๋ง[6] เตียวคับแนะนำสุมาอี้ให้ส่งกองกำลังแยกไปยังอำเภอยง () และอำเภอไปเซีย ( เหมย์) เพื่อให้เป็นกองกำลังสำรอง แต่สุมาพูดว่า "ข้าเชื่อว่าทัพหน้าสามารถรับศึกไว้ได้ ที่ท่านขุนพลพูดนั้นถูกต้อง หากทัพหน้าไม่อาจรับศึกได้ เราจะแยกเออกเป็นหน้าและหน้า นี่เป็นเป็นวิธีที่หยินโป้ (英布 อิง ปู้) ใช้เอาชนะสามทัพของรัฐฌ้อ (楚 ฉู่)"[7]

จากนั้นทัพวุยก๊กก็รุดหน้าไปยังอำเภอยฺหวีหมี (隃麋縣 ยฺหวีหมีเซี่ยน; อยู่ทางตะวันออกของอำเภอเชียนหยาง มณฑลฉ่านซีในปัจจุบัน) เมื่อจูกัดเหลียงทราบข่าวว่าทัพวุยก๊กมาถึงแล้ว จึงสั่งให้กำลังทหารไปเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในอำเภอเซียงเท้ง[8] เมื่อทัพวุยก๊กมาใกล้มากขึ้น จูกัดเหลียงก็เตรียมกำลังทหารพร้อมเผชิญหน้ากับสุมาอี้ ฝ่ายกุยห้วย ปีเอียว และขุนพลวุยก๊กคนอื่น ๆ เข้าโจมตีจูกัดเหลียงแต่ถูกตีแตกพ่าย หลังจูกัดเหลียงขับไล่ข้าศึกออกไป ก็ให้ทหารออกหาข้าวสาลีแรกแตกรวงซึ่งหาได้ในบริเวณใกล้เคียง[9]

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาของสุมาอี้กลัวว่าจะเสียข้าวสาลีไป แต่สุมาอี้พูดว่า "จูกัดเหลียงคิดมากเกินไปและตัดสินใจไม่เด็ดขาด เขาจะต้องเสริมกำลังป้องกันค่ายก่อนที่จะมาเก็บเกี่ยวข้าวสาลี สองวันก็เพียงพอสำหรับข้าแล้ว (ที่จะไปถึงอำเภอเซียงเท้ง)" จากนั้นสุมาอี้จึงนำกำลังทหารเดินทางตลอดคืนไปยังอำเภอเซียงเท้ง จูกัดเหลียงล่าถอยไปหลังเห็นว่าสุมาอี้มาถึง สุมาอี้แสดงความคิดเห็นว่า "ข้าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทั้งวันทั้งคืน เพราะข้ารู้ว่าอะไรคือความต้องการของนักการทหาร จูกัดเหลียงไม่กล้าจะอยู่ใกล้แม่น้ำอุยโห นี่กลายเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับข้า"[10] เดิมโจยอยจักรพรรดิวุยก๊กต้องการสนับสนุนเสบียงของทัพสุมาอี้ด้วยข้าวสาลีในอำเภอเซียงเท้งและปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้ขนส่งเสบียงจากกวนต๋งไปยังแนวหน้า แต่ความเคลื่อนไหวของจูกัดเหลียงกลับรวดเร็วกกว่าที่โจยอยทรงคาดการณ์ไว้ เหลือข้าวสาลีที่ผลิตในอำเภอเซียงเท้งเพียงส่วนหนึ่งหลังจากทัพจ๊กก๊กได้มาเก็บเกี่ยว กุยห้วยขุนพลวุยก๊กจึงใช้อิทธิพลของตนเหนือชนเผ่าเร่ร่อนท้องถิ่นในการสั่งให้ชนเผ่าเร่ร่อนผลิตเสบียงสำหรับทัพวุยก๊ก[11] ทัพวุยก๊กจึงได้รับเสบียงโดยไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากราชสำนักในลกเอี๋ยง

หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในอำเภอเซียงเท้ง จูกัดเหลียงนำทัพจ๊กก๊กล่าถอยแต่เผชิญหน้ากับทัพวุยก๊กนำโดยสุมาอี้ที่ฮันหยง (漢陽 ฮั่นหยาง) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอำเภอเซียงเท้ง จากนั้นสุมาอี้สั่งให้ทหารจัดกระบวนทัพและส่งงิวขิ้มนายทหารใต้บังคับบัญชาให้นำทหารม้าอาวุธเบาล่อทัพจ๊กก๊กให้เคลื่อนไปยังเขากิสาน หลังจากที่ม้าต้ายนายทัพหน้าของจ๊กก๊กเข้ารบกับงิวขิ้มเป็นเวลาสั้น ๆ จูกัดเหลียงก็สั่งให้ถอยทัพไปยังฝั่งตะวันออกของสันเขากิสาน ทัพจ๊กก๊กไปตั้งค่ายอยู่ที่โลเสีย (鹵城 หลู่เฉิง) จูกัดเหลียงใช้แม่น้ำเป็นแนวป้องกันธรรมชาติและสั่งให้กำลังทหารประจำตำแหน่งบนเนินเขาสองลูกที่ขนาบโลเสียอยู่ และตั้ง "ค่ายกำบัง" ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำเพื่อควบคุมเส้นทางน้ำไว้[12][13]

ผู้ใต้บังคับบัญชาของสุมาอี้เสนอให้สุมาอี้โจมตีทัพจ๊กก๊กหลายครั้ง แต่สุมาอี้รีรอที่จะโจมตีเมื่อเห็นการเตรียมการของจูกัดเหลียง อย่างไรก็ตามเมื่อสุมาอี้ถูกวิพากย์วิจารณ์และเยาะเย้ยอย่างหนักจากทั้งฝ่ายข้าศึกและผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง ในที่สุดสุมาอี้จึงยอมทำตามที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอ ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 231 สุมาอี้ส่งเตียวคับไปโจมตีค่ายทางใต้ของทัพจ๊กก๊กที่มีอองเป๋งรักษา ส่วนตัวสุมาอี้เองนำกองกำลังด้วยตนเองเข้าโจมตีโลเสียจากเส้นทางกลาง[14] จูกัดเหลียงสั่งให้อุยเอี๋ยน งอปั้น และโกเสียงให้ต้านทานข้าศึกอยู่นอกโลเสีย ทัพวุยก๊กประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่อย่างคาดไม่ถึง ทหารวุยก๊กถูกสังหาร 3,000 นาย ชุดเกราะ 5,000 ชุดและหน้าไม้ 3,100 อันถูกทัพจ๊กก๊กยึดไปได้[15] แม้ว่าความเสียหายจะหนักหน่วง แต่สุมาอี้ยังคงมีกำลังทหารจำนวนมากซึ่งนำกลับไปยังค่ายของตน

แม้ว่าจูกัดเหลียงจะได้ชัยชนะ แต่ก็ไม่สามารถใช้ความได้เปรียบนี้ในการบุกต่อไปเพราะเสบียงที่เหลือน้อย สภาพอากาศที่เลวร้ายทำให้การขนส่งเสบียงของจ๊กก๊กไม่สามารถทำได้ตามกำหนด ลิเงียมขุนพลจ๊กก๊กผู้รับผิดชอบดูแลการขนส่งเสบียงไปยังแนวหน้า จึงแจ้งความเท็จไปถึงจูกัดเหลียงว่าจักรพรรดิเล่าเสี้ยนมีรับสั่งถอยทัพ จดหมายเหตุจิ้นชูอ้างว่าสุมาอี้เปิดฉากการโจมตีกำลังทหารรักษาของจ๊กก๊กในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้และยึด "ค่ายกำบัง" ของจ๊กก๊กสำเร็จ จูกัดเหลียงทิ้งโลเสียและล่าถอยไปในเวลากลางคืน แต่สุมาอี้ไล่ตามตีทำให้ทัพจ๊กก๊กเสียทหารไปประมาณ 10,000 นาย[16] เรื่องราวนี้ในจิ้นชูถูกโต้แย้งโดยนักประวัติศาสตร์[17][18] และไม่ถูกรวมอยู่ในจือจื้อทงเจี้ยนซึ่งเป็นหนังสือประวัติศาสตร์ตามลำดับเวลาที่โดดเด่นในศตวรรษที่ 11[1]

ทั้งจดหมายเหตุสามก๊กและจือจื้อทงเจี้ยนระบุว่าจูกัดเหลียงถอยทัพกลับจ๊กก๊กเพราะเสบียงขาดแคลน ไม่ใช่เพราะความพ่ายแพ้[19][20] แล้วทัพวุยก๊กก็ไล่ตามตี แต่การไล่ตามตีไม่ได้ราบรื่นสำหรับวุยก๊ก สุมาอี้สั่งให้เตียวคับไล่ตามตีข้าศึกเพื่อพยายามฉวยโอกาสจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้ บันทึกเว่ย์เลฺว่ระบุว่าเตียวคับปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งของสุมาอี้และแย้งว่าตามหลักการทางการทหารควรหลีกเลี่ยงการไล่ตามตีข้าศึกที่ล่าถอยกลับไปอาณาเขตของตน แต่สุมาอี้ไม่ฟังคำและบังคับให้เตียวคับปฏิบัติตามคำสั่ง เตียวคับจึงถูกทัพจ๊กก๊กซุ่มโจมตีที่เส้นทางบอกบุ๋น (木門道 มู่เหมินเต้า; ใกล้กับหมู่บ้านมู่เหมิน เมืองหมู่ตาน เขตฉินโจว นครเทียนฉุ่ย มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) ที่ซึ่งจูกัดเหลียงสั่งให้ทหารมือเกาทัณฑ์ซ่อนตัวบนที่สูงและยิงไปที่กองกำลังของข้าศึกที่เข้ามาใกล้และเข้ามาในทางแคบ เตียวคับเสียชีวิตหลังถูกลูกเกาทัณฑ์ยิงเข้าที่ต้นขา กองกำลังของวุยก๊กได้รับความเสียหายอย่างมากจากการโจมตีของทหารจ๊กก๊กซึ่งกำลังล่าถอย แตกต่างจากบันทึกที่ระบุไว้ในจิ้นชู[21]

ผลสืบเนื่อง[แก้]

เมื่อจูกัดเหลียงกลับมาถึงเมืองฮันต๋ง ก็ได้รับจดหมายจากลิเงียมที่แจ้งว่าเสบียงอาหารเตรียมพร้อมแล้วและถามว่าทำไมจึงถอยทัพ เวลาเดียวกันลิเงียมถวายฎีกาแก่จักรพรรดิเล่าเสี้ยนทูลว่า "ทัพแสร้งทำเป็นล่าถอยเพื่อลงข้าศึกให้มาทำศึก" ด้วยความหวังว่าจูกัดเหลียงจะกลับไปทำศึกต่อ ความล้มเหลวในการขนส่งเสบียงของตัวลิเงียมก็จะไม่เป็นที่สังเกต แต่จูกัดเหลียงตัดสินใจกลับไปยังเซงโต๋นครหลวงของจ๊กก๊ก และถวายจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของลิเงียมให้เล่าเสี้ยนทอดพระเนตร ลิเงียมจึงไม่อาจปฏิเสธความผิดของตนได้ ที่เซงโต๋จูกัดเหลียงทูลเสนอให้จักรพรรดิเล่าเสี้ยนปลดลิเงียมจากทุกตำแหน่งราชการและเนรเทศไปอยู่เมืองจื่อถง (梓潼)

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 จือจื้อทงเจี้ยน เล่มที่ 72.
  2. (亮慮糧運不繼,設三策告都護李平曰:上計斷其後道。中計與之持久。下計還住黃土。) พงศาวดารหฺวาหยาง เล่มที่ 7.
  3. (〔克漢中〕之日,廣農積谷,觀釁伺隙,上可以傾覆寇敵,尊獎王室,中可以蠶食雍、涼,廣拓境土 ...) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 37.
  4. (漢晉春秋曰:亮圍祁山,招鮮卑軻比能,比能等至故北地石城以應亮。) อรรถาธิบายจากฮั่นจิ้นชุนชิวในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35.
  5. (乃使帝西屯長安,都督雍、梁二州諸軍事,統車騎將軍張郃、後將軍費曜、征蜀護軍戴淩、雍州刺史郭淮等討亮。) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  6. (漢晉春秋曰:"宣王使曜、陵留精兵四千守上邽,餘眾悉出,西救祁山。) อรรถาธิบายจากฮั่นจิ้นชุนชิวในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35.
  7. (張郃勸帝分軍住雍、郿為後鎮,帝曰:「料前軍獨能當之者,將軍言是也。若不能當,而分為前後,此楚之三軍所以為黥布擒也。」) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  8. (遂進軍隃麋。亮聞大軍且至,乃自帥衆將芟上邽之麥。) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  9. (亮分兵留攻,自逆宣王於上邽。郭淮費耀等徼亮,亮破之,因大芟刈其麥,與宣王遇於上邽之東,斂兵依險,軍不得交,亮引兵而還,宣王尋亮至於鹵城。) ฮั่นจิ้นชุนชิว เล่มที่ 02.
  10. (諸將皆懼,帝曰:「亮慮多決少,必安營自固,然後芟麥,吾得二日兼行足矣。」於是卷甲晨夜赴之,亮望塵而遁。帝曰:「吾倍道疲勞,此曉兵者之所貪也。亮不敢據渭水,此易與耳。」) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  11. (是時,隴右無谷,議欲關中大運,淮以威恩撫循羌、胡,家使出谷,平其輸調,軍食用足,轉揚武將軍。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 26.
  12. (漢晉春秋曰:"亮屯鹵城,據南北二山,斷水為重圍。) อรรถาธิบายจากฮั่นจิ้นชุนชิวในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35.
  13. (進次漢陽,與亮相遇,帝列陣以待之。使將牛金輕騎餌之,兵才接而亮退,追至祁山。亮屯鹵城,據南北二山,斷水為重圍。) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  14. (漢晉春秋曰:"使張郃攻無當監何平於南圍,自案中道向亮。) อรรถาธิบายจากฮั่นจิ้นชุนชิวในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35.
  15. (漢晉春秋曰:亮使魏延、高翔、吳班赴拒,大破之,獲甲首三千級,玄鎧五千領,角弩三千一百張,宣王還保營。) อรรถาธิบายจากฮั่นจิ้นชุนชิวในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35.
  16. (帝攻拔其圍,亮宵遁,追擊破之,俘斬萬計。天子使使者勞軍,增封邑。) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  17. (縱其後出,不復攻城,當求野戰,必在隴東,不在西也。) จิ้นชู เล่มที่ 1.
  18. (時宣王等糧亦盡) หฺวาหยางกั๋วจื้อ เล่มที่ 7.
  19. (糧盡退軍) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35.
  20. (六月,亮以糧盡退軍) จือจื้อทงเจี้ยน เล่มที่ 72.
  21. (魏略曰:亮軍退,司馬宣王使郃追之,郃曰:「軍法,圍城必開出路,歸軍勿追。」宣王不聽。郃不得已,遂進。蜀軍乘高布伏,弓弩亂發,矢中郃髀。) อรรถาธิบายจากเว่ย์เลฺว่ในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 17.

บรรณานุกรม[แก้]