เหตุโจมตีสถานีรถไฟชาปลือแน
| เหตุโจมตีสถานีรถไฟชาปลือแน | |
|---|---|
| ส่วนหนึ่งของ การทัพยูเครนตะวันออก | |
 .jpg) บน: รถไฟและรถยนต์ที่เสียหายจากการถูกโจมตี ล่าง: บ้านเรือนที่เสียหายจากการถูกโจมตี | |
.svg)  ตำแหน่งที่ตั้งนิคมชาปลือแนในยูเครน | |
| ชนิด | การโจมตีด้วยขีปนาวุธ |
| ตำแหน่ง | ชาปลือแน ยูเครน 48°07′37″N 36°14′02″E / 48.127°N 36.234°E |
| วันที่ | 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 (UTC+3) |
| ผู้ลงมือ |  กองทัพรัสเซีย |
| ผู้สูญเสีย | 25 คน[1] |
ในวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นวันฉลองการประกาศเอกราชของประเทศยูเครน สถานีรถไฟและบ้านเรือนข้างเคียงในนิคมชาปลือแน แคว้นดนีปรอแปตร็อวสก์ ถูกกองทัพรัสเซียยิงถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน (รวมถึงเด็กอายุ 6 ปี และ 11 ปี) และมีผู้บาดเจ็บประมาณ 31 คน[2][3]
ภูมิหลัง
[แก้]สถานีรถไฟชาปลือแนตั้งอยู่ในเส้นทางอพยพทางรถไฟของพลเรือนยูเครนจากเมืองปอกร็อวสก์ในแคว้นดอแนตสก์ทางภาคตะวันออก ไปยังเมืองลวิวในแคว้นลวิวทางภาคตะวันตก[4]
การโจมตี
[แก้]ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 กองทัพรัสเซียก่อเหตุยิงโจมตีนิคมชาปลือแนด้วยขีปนาวุธ 5 ลูก[5] ขีปนาวุธลูกแรกพุ่งตกใส่บ้านหลังหนึ่ง ส่งผลให้ผู้หญิงและเด็กชายอายุ 11 และ 13 ปี ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง[5][6] ชาวบ้านช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กชายอายุ 13 ปีออกมาได้ แต่เด็กชายอายุ 11 ปีเสียชีวิต[5] ขีปนาวุธลูกอื่น ๆ พุ่งไปทางสถานีรถไฟชาปลือแน[5] โดยลูกที่สองสร้างความเสียหายแก่ตัวสถานีและอาคารสาธารณูปโภคของการรถไฟ[5] ส่วนลูกที่เหลือพุ่งใส่ตู้รถไฟโดยตรง ส่งผลให้ไฟลุกท่วมตู้รถไฟ 5 ตู้[7][5]
ผู้เสียชีวิต
[แก้]ในเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิต 15 คนและบาดเจ็บอีก 50 คนจากเหตุโจมตี[7] ต่อมาจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 22 คน โดย 5 คนในจำนวนนี้ถูกไฟคลอกในรถยนต์ (มีเด็กอายุ 6 ปีรวมอยู่ด้วย)[5][8] ในคืนวันที่ 25 สิงหาคม หน่วยกู้ภัยยังคงพยายามดับเพลิงและปฏิบัติการค้นหา[5] ในเช้าวันที่ 25 สิงหาคม จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 25 คน[8] ในจำนวนนี้เป็นพนักงานการรถไฟ 3 คน[9]
ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม[10]
ปฏิกิริยา
[แก้]ระหว่างการแถลงผ่านทางวิดีโอในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วอลอดือมือร์ แซแลนสกึย ประธานาธิบดียูเครน ประกาศข่าวการโจมตีที่เกิดขึ้นโดยกล่าวว่า "ตู้รถไฟ 4 ตู้ถูกไฟไหม้ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คนและบาดเจ็บประมาณ 50 คน หน่วยกู้ภัยกำลังทำงาน แต่โชคไม่ดีที่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก นี่คือสิ่งที่พวกเราประสบอยู่ทุกวัน นี่คือวิธีที่รัสเซียเตรียมไว้สำหรับการประชุมครั้งนี้"[11]
แม้จะเป็นที่ปรากฏว่ารัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธมากกว่าหนึ่งลูกในการโจมตี แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซียก็อ้างว่าฝ่ายตนได้พุ่งเป้าไปที่รถไฟทหารขบวนหนึ่งโดยใช้ขีปนาวุธอิสคันเดียร์เพียงลูกเดียว และการโจมตีของฝ่ายตนได้สังหารทหารยูเครนไป 200 นาย[12]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Россия обстреляла поселок Чаплино в Днепропетровской области Минобороны РФ заявило о 200 убитых солдатах. Офис президента Украины — о 25 погибших, среди которых два ребенка
- ↑ "Война Сто восемьдесят второй день" (ภาษารัสเซีย). สืบค้นเมื่อ 2022-10-15.
- ↑ Santora, Marc; Bilefsky, Dan (2022-08-24). "Russian Missile Strike Kills at Least 22 on Independence Day". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2022-10-15.
- ↑ "Цілеспрямований теракт: ворог завдав по Чаплиному удару ракетами С-300 та «Іскандер»". Укрінформ. 2022-08-26.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 5.7 "Росіяни протягом дня випустили по Чаплиному 5 ракет, загинуло 22 особи, ще 22 - поранено, - ОП". Цензор.НЕТ (ภาษายูเครน). 2022-08-25. สืบค้นเมื่อ 2022-08-25.
- ↑ "Унаслідок ворожого удару по Дніпропетровщині загинула 11-річна дитина". Укрінформ. 2022-08-24.
- ↑ 7.0 7.1 "Війська рф завдали удару по вагонах на станції Чаплине — 15 загиблих, півсотні поранених". Укрінформ. 2022-08-24.
- ↑ 8.0 8.1 "У Чаплиному завершено пошукові роботи. Загинуло 25 осіб, двоє з них - діти, - ОП". Цензор.НЕТ (ภาษายูเครน). 2022-08-25. สืบค้นเมื่อ 2022-08-25.
- ↑ "Внаслідок ракетного удару по Чаплиному загинули троє залізничників". Укрінформ. 2022-08-25.
- ↑ "Удар по потягу в Чаплине: пошукові роботи завершилися, кількість жертв збільшилася". РБК-Украина. 2022-08-25.
- ↑ "Росіяни вдарили по залізничній станції на Дніпропетровщині: загинули щонайменше 22 людини– Зеленський". สืบค้นเมื่อ 2022-10-15.
- ↑ "Russia says it struck railway station in Ukraine's Chaplyne". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2022-08-25. สืบค้นเมื่อ 2022-08-25.