ข้ามไปเนื้อหา

เต่านินจา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Teenage Mutant Ninja Turtles
สร้างโดยKevin Eastman
Peter Laird
งานต้นฉบับTeenage Mutant Ninja Turtles (Mirage Studios)
(1984)
เจ้าของViacomCBS (via Nickelodeon)[1]
สื่อสิ่งพิมพ์
การ์ตูน
การ์ตูนช่องTeenage Mutant Ninja Turtles (comic strip)
(1990–1997)
ภาพยนตร์และโทรทัศน์
ภาพยนตร์Teenage Mutant Ninja Turtles in film
(1990–present)
ละครโทรทัศน์Ninja Turtles: The Next Mutation
(1997–1998)
แอนิเมชันซีรีส์
ภาพยนตร์ลงแผ่นMutant Turtles: Superman Legend
(1996)
เกม
สวมบทบาทTeenage Mutant Ninja Turtles & Other Strangeness
วิดีโอเกมList of video games
เบ็ดเตล็ด
ของเล่นTeenage Mutant Ninja Turtles action figures
CharactersList of characters
ไฟล์:TMNT.jpg
เต่านินจาทั้ง4

เต่านินจา (อังกฤษ: Teenage Mutant Ninja Turtles) เป็นการ์ตูนอเมริกัน เรื่องราวของเต่าที่กลายพันธุ์มาเป็นมนุษย์ และเรียนรู้วิชานินจา โดยอาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำในมหานครนิวยอร์ก ภายหลังได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน เกม และภาพยนตร์คนแสดง หลายภาคด้วยกัน

ประวัติ

[แก้]

จากเต่านินจาในซีรีส์ที่ 1 ในปี 1988 นั้น เมื่อเต่าทั้ง 4 ยังเป็นลูกเต่าตัวเล็กๆอยู่ ลูกเต่าทั้ง 4 ได้โดนสารเคมีที่ชื่อว่า OOZE เข้าจากอุบัติเหตุ และ สปลินเตอร์ ซึ่งขณะนั้นเป็นมนุษย์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ฮามาโตะ โยชิ ก็ได้รับผลกระทบจากสารเคมีนี้ด้วยเช่นกัน โดยสารเคมี OOZE นี้ ทำให้ฮามาโตะ โยชิ กลายร่างเป็นหนู และฮามาโตะ โยชิ ซึ่งตอนนี้กลายร่างเป็นหนูที่ชื่อ สปลินเตอร์ ก็ได้นำลูกเต่าทั้ง 4 มาเลี้ยง จากนั้นเพียงไม่กี่วัน สปลินเตอร์ก็พบว่าลูกเต่าทั้ง 4 ได้เติบโตขึ้นเป็นเต่าวัยรุ่นอย่างรวดเร็วมาก และเมื่อเต่าทั้ง 4 เติบโตเต็มที่แล้ว สปลินเตอร์ก็ได้ฝึกและสอนวิชานินจา รวมทั้งตั้งชื่อให้กับเต่าทั้ง 4 โดยตั้งตามชื่อของศิลปิน ซึ่งเขาได้เปิดดูจากหนังสือศิลปะเล่มโปรดของเขา และมอบผ้าคาดตาทั้ง 4 สีเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของเต่าทั้ง 4 ตัวด้วย ตามแบบอย่างในภาคแอนิเมชั่น ในปี 1988 (ภาคดั้งเดิมที่เป็นออริจินอล คอมมิค โดย เควิน อีสแมน และ ปีเตอร์ แลร์ด นั้น เต่านินจาทั้ง 4 จะมีผ้าคาดตาเป็นสีเดียวกันทั้งหมด คือ สีแดง แต่จะแตกต่างกันที่อาวุธทั้ง 4 ชนิด) เนื้อหาในเรื่องจะเป็นการต่อสู้กับพวกโจร ผู้ร้าย สัตว์ประหลาด และมนุษย์ต่างดาว เป็นต้น

ตัวละคร

[แก้]

ตัวละครหลักในนินจาเต่า 4 ตัว ตั้งชื่อตามศิลปิน ได้แก่

ลีโอนาร์โด
ชื่อเล่นคือ ลีโอ ใช้ดาบคาตานะคู่เป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีฟ้า นิสัยค่อนข้างเหมือนนินจาบ้าปรัชญาและรักสันโดด (ตั้งชื่อตาม ลีโอนาร์โด ดา วินชี)
ราฟาเอล
ชื่อเล่นคือ ราฟ ใช้ไซคู่ อาวุธที่มีลักษณะคล้ายสามง่ามเป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีแดง เป็นคนที่มีนิสัยมุทะลุ วู่วาม แต่โดยเนื้อแท้แล้วเขาเป็นคนที่รักพวกพ้องมากๆ (ตั้งชื่อตาม ราฟาเอล ซันซิโอ)
ไมเคิลแองเจโล หรือ มีเกลันเจโล
ชื่อเล่นคือ ไมกี้ หรือ ไมค์ ใช้กระบองสองท่อนเป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีส้ม ชอบพูดมุขตลกๆ และมีนิสัยขี้เล่นตลอดเวลา (ตั้งชื่อตาม มีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี) ในช่วงหลังของซีรีส์ ได้มีข้อผิดพลาดบางจุด ทำให้ชื่อของตัวละครนี้เปลี่ยนไป จาก Michaelangelo (ไมเคิลแองเจโล) มาเป็น Michelangelo (มีเกลันเจโล) [ตัว a หายไประหว่างตัว h และ e] แต่คนโดยส่วนใหญ่ก็ยังคงเรียก ไมเคิลแองเจโล ตามชื่อเดิมอยู่ แต่เพราะความผิดพลาดนี้ ทำให้ตัวละครตัวนี้ต้องใช้ชื่อผิดไปเป็นเวลา 3 ปี(และอาจส่งผลถึงซีรีส์ปัจจุบัน) (มีเกลันเจโล ศิลปินชาวอิตาลี)
โดนาเทลโล
ชื่อเล่นคือ ดอนนี่ ใช้กระบองยาวเป็นอาวุธ และมีที่คาดตาสีม่วง เป็นนักวิทยาศาสตร์อัฉริยะและมีความเป็นนักประดิษฐ์อยู่ในตัว มักจะชอบประดิษฐ์อาวุธขึ้นมาใช้สู้กับเหล่าร้ายเสมอ (ตั้งชื่อตาม โดนาโต ดิ นิโคโล ดิ เบตโต บาร์ดิ)
อาจารย์สปลินเตอร์
อาจารย์หนูที่สอนวิชานินจาทั้งหมดให้กับเต่านินจาทั้งสี่ ความจริงแล้วเขาไม่ได้เป็นหนูท่ออย่างที่หลายๆคนเข้าใจกัน ในซีรีส์ 1988 เขาเป็นเพียงชาวญี่ปุ่นที่โชคร้ายโดนสารเคมี OOZE จนกลายร่างเป็นหนู แต่ในซีรีส์ปี2003 เขาเป็นหนูเลี้ยงของอาจารย์สอนศิลปะป้องกันตัวผู้หนึ่งซึ่งชื่อฮามาโตะ โยชิ ภายหลัง อาจารย์ผู้นั้นได้ถูกฆ่าตาย หลังจากที่อาจารย์ของเขาตาย เขาก็โดนสารเคมีชื่อ TCRI ที่มนุษย์ต่างดาวอูทรอมผลิดขึ้น และมาอาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำ
เอพริล โอ'นีล
นักข่าวสาวช่อง 6 ในซีรีส์ 2003 เธอเป็นผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ชื่อสตักค์เมน ต่อมาเธอเปิดร้านขายของเก่าหายาก และล่าสุด เธอได้เป็นผู้ค้นคว้าหาของเก่าหายากให้แก่คนรวยผู้มีอำนาจ
เคซี่ โจนส์
เพื่อนสนิทของ ราฟาเอล ใช้ ไม้เบสบอล และ ไม้ฮอกกี้เป็นอาวุธ ทุกครั้งที่ออกไปปราบเหล่าร้าย เขาจะต้องใส่หน้ากากสีขาวตลอด ปัจจุบัน ได้แต่งงานกับเอพริล และย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้ว คำพูดติดปากคือ กูงกาล่า ในปี 2012 เป็นครู่ปรับของดอนนี่เพราะชอบเอพริลเหมือนกัน
อูทรอม
เป็นชื่อเรียกพวกมนุษย์ต่างดาวที่มีขนาดลำตัวเท่ากับหัวของคน ส่วนใหญ่ลำตัวจะเป็นสีชมพู รูปร่างคล้ายปลาหมึก แต่มีความยาวของหนวด(ขา)สั้นกว่ามาก จึงทำให้เคลื่นไหวได้ช้า พวกมันจึงเคลื่อนไหวโดยใช้จานร่อน หรือหุ่นยนตร์รูปร่างมนุษย์ ได้เข้ามาอาศัยในโลกมาเป็นเวลาเกิน100ปี พวกมันได้สร้างสารเคมีที่มีชื่อว่า TCRI เป็นสารเคมีที่เมื่อสัตว์ต่างๆโดนมัน มันจะมีร่างกายและสมองคล้ายมนุษย์
ชเรดเดอร์/โอโรคุ ซากิ
คู่ปรับของเหล่าเต่านินจา และอาจารย์สปลินเตอร์ เป็นผู้ที่ฆ่าอาจารย์ฮามาโตะ โยชิ ความจริงแล้วชเรเดอร์ก็เป็นมนุษย์ต่างดาวอูทรอมเช่นกัน มีลำตัวสีแดง แต่อยู่ในร่างหุ่นยนต์มนุษย์ที่สวมชุดเกราะนักรบญี่ปุ่นโบราณ
คาราอิ
คาราอิ หรือ คาราย เป็นลูกบุญธรรมของชเรเดอร์ ผู้ที่ซื่อตรงต่อชเรเดอร์มากที่สุด
ร๊อคสเตดี้
ลูกน้องของชเรดเดอร์/โอโรคุ ซากิ
บีบ๊อป
ลูกน้องของชเรดเดอร์/โอโรคุ ซากิ

ภาพยนตร์

[แก้]

ในปัจจุบันมีออกมา 4 ภาค

โดย 3 ภาคแรกเป็นการใช้คนแสดง และในปี 2010 เป็นการใช้ CG ในการสร้างทั้งหมด

ปี 2014 เต่านินจา (2014) จะเป็นการใช้คนแสดงร่วมกับ CG และมีเนื้อหาที่ตึงเครียดขึ้น แต่ยังรักษาเอกลักษณ์และเพิ่มความทันสมัยด้วย ซึ่งเวอร์ชันนี้ได้ Michael Bay มาอำนวยการสร้าง และได้ โจนาธาน ลีเบสแมน มากำกับ พร้อมด้วยนักแสดงจากทรานฟอร์เมอร์ 2 อย่าง เมแกน ฟ๊อก ที่รับบทเป็น April นักข่าวจอมแสบที่ล้มเหลวจากการทำข่าวนับไม่ถ้วน และได้เพื่อนสนิทอย่าง Vernon (Will Arnett นักพากย์ชื่อดัง) เป็นเพื่อนร่วมการเดินทาง จนวันหนึ่ง April ได้ผลัดหลงในเหตุการณ์การก่อการร้ายในท่าเรื่อขนส่งและรถไฟใต้ดิน จน April ตัดสินใจเก็บหลักฐาน จนมาพบแก็งเต่าทันตาที่ด่านฟ้าแห่งหนึ่ง April จำความได้ว่าพ่อของเขาทดลองกับสัตว์ซึ่งมีแก็งเต่า และหนู (อาจารย์ของแก็งเต่า) แต่พ่อของเขายอมสละชีวิตเพื่อจะไม่ให้ Eric (William Fichtner) ทำแผนชั่วได้สำเร็จ จนให้เขารู้ว่าพวกเต่าควรจะเติบโตเข้าสู่โลกภายนอก จน Eric แผนชั่วร่วมกับ Shredder โดยการปล่อยสารเคมี แต่ทำไม่สำเร็จ เต่านินจา (2014) เริ่มฉายในเมืองไทย 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557 (ฉายในเวลา 20.00 น. ขึ้นไป) ฉายจริง 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557[2] และทำรายได้เกือบ 5 ล้านบาท (เมืองไทย 12-20 ส.ค. พ.ศ. 2557)[3]

การ์ตูน

[แก้]

ของปี 1987

[แก้]

เป็นการ์ตูนเต่านินจาอันแรกและทำออกไปในรูปแบบที่ต่างกับหนังสือการ์ตูนแทบทั้งหมด เช่น สปลินเตอร์คือฮามาโตะ โยชิ และมีหลายอย่างถูกใส่เพิ่มขึ้นด้วย เช่น ตัวละครอย่าง แคร้ง,บีบอบและร็อกสเตดี้ รวมถึงอาวุธอย่าง เทคโนโดรม และมิติที่เรียกว่า มิติ เอ็กซ์

ของปี 2003

[แก้]

เป็นการ์ตูนที่ทำและออกแบบให้เหมือนกับในหนังสือการ์ตูนดั้งเดิมเป็นส่วนใหญ่ แต่จะเปลี่ยนเนื้อเรื่องในส่วนจุดเริ่มต้นคือ นั้นสปลินเตอร์เป็นหนูเลี้ยงของอาจารย์ยามาโตะ โยชิ ที่ได้รับสารเคมีและวิวัฒนาการเช่นเดียวกับเต่าทั้ง4 หลังจากนั้นก็ได้ตั้งชื่อให้พวกเขาจากหนังสือศิลปะที่เขาเก็บได้ และฝึกฝนเต่าทั้ง 4 ด้วยตำรานินจิทสุ

ของปี 2012

[แก้]

เป็นการ์ตูนเต่านินจาที่ผสมผสานระหว่างแบบการ์ตูนของปี 2003 และของปี 1987 รวมกัน เป็นการ์ตูนที่ใช้CGIทั้งเรื่อง เต่าทั้ง4ตัวในเรื่องมีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งในเรื่อง สีผิว,ลายกระดอง,ความสูง,ฯลฯ ทำให้สามารถแยกได้ง่ายขึ้น ในเวอร์ชันนี้ อาจารณ์สปลินเตอร์คือฮามาโตะโยชิเหมือนของปี1987 ซึ่งเรื่องราวมีอยู่ว่า ฮามาโตะ โยชิ ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์ก เขาซื้อลูกเต่ามา4ตัวจากร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่ง ระหว่างทางกลับได้พบกลุ่มคนปริศนา เขาแอบตามเข้าไป คนพวกนั้นจับได้จึงจะจับตัวไว้ เพื่อไม่ให้เรื่องนี้หลุดออกไป ฮามาโตะ โยชิ ได้ต่อสู้ ในตอนนั้น หนึ่งในชายกลุ่มนั้นได้ถือขวดแก้วสารบางอย่าง เขาบังเอิญเตะไปโดนมันทำให้มันแตกใส่เขาและลูกเต่า4ตัว ทำให้เขากลายร่างเป็นหนู และลูกเต่าเจริญเติบโตขึ้น เขาได้ฝึกมันจนกลายเป็นเต่านินจาทุกวันนี้ ในเวอร์ชันนี้ เอพริล โอนีล เป็นเพียง นักเรียนสาวอายุ 16 ปี ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่เธอมีพลังพิเศษบางอย่าง...ซึ่งทางทีมงานยังไม่เปิดเผยว่ามันคืออะไร

อ้างอิง

[แก้]
  1. Siegel, Tatiana (October 21, 2009). "Ninja Turtles move to Nickelodeon". Variety. Penske Media Corporation.
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2014-08-20.
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2014-08-20.