ข้ามไปเนื้อหา

หัวเกรียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
“ฝ่ายรัฐสภา” โดยจอห์น เพ็ตติ (John Pettie)

กลุ่มหัวเกรียน หรือ ฝ่ายรัฐสภา (ภาษาอังกฤษ: Parliamentarians หรือ Roundhead) เป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มพิวริตันผู้สนับสนุนรัฐสภาแห่งอังกฤษระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษ และเป็นผู้สนับสนุนโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ และเป็นปฏิปักษ์ต่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ[1] ครอมเวลล์ได้รับความก้าวหน้าทางการเมือง, เป็นสมาชิกของสภาสามัญชนผู้มีบทบาทสำคัญ และเป็นนายทหารผู้มีความสามารถ และในที่สุดก็แต่งตั้งตนเองเป็นเจ้าผู้พิทักษ์ ในปี ค.ศ. 1653 ฐานะทางการเมืองและทางการศาสนาของ “ฝ่ายรัฐสภา” รวมทั้งกลุ่มเพรสไบทีเรียน (Presbyterians), กลุ่มรีพับลิกันคลาสสิก (Classical republicanism), กลุ่มเลเวลเลอร์ (Levellers) และ กลุ่มอิสระทางศาสนา (Independents) ศัตรูของ “ฝ่ายรัฐสภา” คือ “ฝ่ายกษัตริย์นิยม” ผู้สนับสนุนพระเจ้าชาร์ลส์หรือที่เรียกเล่นๆ ว่า “กลุ่มคาวาเลียร์” (Cavalier)

ที่มาและเบื้องหลัง

[แก้]

ระหว่างสงครามและหลังจากสงคราม “กลุ่มหัวเกรียน” เป็นคำที่เริ่มใช้ราวปลายปี ค.ศ. 1641 เมื่อมีการโต้กันในรัฐสภาเรื่องร่างพระราชบัญญัติยกเว้นบาทหลวง (Bishops Exclusion Bill) ซึ่งเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ห้ามไม่ให้บาทหลวงเป็นสมาชิกรัฐสภาที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในเวสต์มินสเตอร์ กลุ่มเพียวริตันบางคนตัดเริ่มผมเกรียนเพื่อให้แยกตนเองจากอย่างชัดเจนผู้ชายในราชสำนักที่ไว้ผมยาวเป็นหลอด เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพรรณาถึงผู้คนที่มาชุมนุมกันว่า:

“พวกเขาไว้ผมบนหัวพวกตน มีไม่กี่เส้นเท่านั้นที่ยาวเลยหูพวกตน ด้วยเหตุฉะนี้เราจึงเรียกพวกที่มานั่งตะโกนโหวกเหวกในเวสต์มินสเตอร์ด้วยฉายานามว่าพวกราวด์เฮด.”[2]

แต่ที่ขัดกันคือหลังจากที่อัครบาทหลวงวิลเลียม ลอดออกกฎให้นักบวชไว้ผมสั้นในปี ค.ศ. 1636 กลุ่มเพียวริตันก็หันกลับไปไว้ผมยาวตามเดิมและยิ่งยาวกว่าเดิมเพื่อเป็นการประท้วงระบบ[3] แต่ก็ยังรู้จักกันในชื่อ “กลุ่มหัวเกรียน” การไว้ผมยาวมักจะนิยมในกลุ่มอิสระทางศาสนา และ กลุ่มเพียวริตันที่มีตำแหน่งสูงที่รวมทั้งครอมเวลล์เองโดยเฉพาะในปลายสมัยรัฐบาลผู้พิทักษ์ ขณะที่กลุ่มเพรสไบทีเรียนและทหารยังคงต่อต้านการไว้ผมยาว ในปลายสมัยกลุ่มเพียวริตันอินดีเพ็นเดนท์ใช้คำว่า “กลุ่มหัวเกรียน” เป็นทำนองเหยียดกลุ่มเพรสไบทีเรียนเพียวริตัน[4]

นักประวัติศาสตร์จอห์น รัชเวิร์ธ (John Rushworth) ใน “Historical Collections” กล่าวว่าคำนี้เริ่มใช้เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1641 โดยเจ้าหน้าที่ชื่อเดวิด ไฮด์ผู้ที่ระหว่างการจลาจลชักดาบออกมาแล้วตะโกนว่าจะ “เชือดคอไอ้หมาหัวเกรียนตัวไหนที่กล้าเห่ากระโชกบาทหลวง”

เอ็ดเวิร์ด ไฮด์ เอิร์ลแห่งแคลเร็นดอนที่ 1ที่ปรึกษาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 (“History of the Rebellion”, เล่ม 4. หน้า 121) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า: “ผู้ที่เห็นว่าเป็นผู้รับใช้พระเจ้าแผ่นดินถูกเรียกว่า “กลุ่มคาวาเลียร์” และผู้ที่ต่อต้านเรียกว่า “กลุ่มหัวเกรียน””

ประวัติ

[แก้]

“กลุ่มหัวเกรียน” ในที่สุดก็ได้รับชัยชนะในสงครามกลางเมืองอังกฤษครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1648 ที่เป็นผลให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ถูกปลงพระชนม์ในปี ค.ศ. 1649 แต่การต่อสู้ก็ยังคงมีอยู่ต่อไปในไอร์แลนด์ และสกอตแลนด์ ในที่สุดครอมเวลล์ก็ได้รับชัยชนะต่อการรุกรานของสกอตแลนด์ที่ยุทธการวูสเตอร์ ในปี ค.ศ. 1651 เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทรงพ่ายแพ้

อ้างอิง

[แก้]
  1. Chris Roberts, Heavy Words Lightly Thrown: The Reason Behind Rhyme, Thorndike Press,2006 (ISBN 0-7862-8517-6)
  2. ภัทรพล สมเหมาะ THE ENGLISH CIVIL WAR สงครามกลางเมืองอังกฤษ. —กรุงเทพ: ยิปซี กรุ๊ป, 2561 หน้า 68-70
  3. John Hunt, Religious Thought in England Vol II p. 5.
  4. Benjamin Hanbury, Historical Memorials Relating to the Independents Or Congregationalists: From Their Rise to the Restoration of the Monarchy (1844) Vol III, p. 118, 635.

ดูเพิ่ม

[แก้]